ว่าด้วยความอึดอัดในการทำงานกับคนแค่คนๆเดียว

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ เราคือมนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆ ในที่ทำงาน  เราทำงานที่นี่มาสักพักใหญ่ๆ คนอื่นๆ ก็จะมาๆ ไปๆ ตามภาระหน้าที่ เราไม่ได้มีปัญาหากับใครที่นี่เลย เราคิดว่ามันโอเคสำหรับเรา  จนวันหนึ่งมีคนๆ หนึ่งย้ายมา  ด้วยความอาวุโสทีอายุเกือบๆจะเท่าพ่อเรา  เราคิดว่าเขาน่าจะโอเคในระดับหนึ่งล่ะ  ทั้งที่ได้ยินข่าวไม่ดีของเขามาบ้างแล้วก็ตาม  แต่พอมาจริงๆ แล้วทุกอย่างเลวร้ายมาก  เขาไม่ใช่แค่เป็นตามข่าวลือ แต่ยิ่งกว่าข่าวลือ   ปกติของคนทำงานก็จะทำงานของตัวเองไป ไม่มีงานก็อยู่นิ่งๆ อ่านโน้นอ่านนี่อยู่ที่โต๊ะตัวเอง แต่นี่ไม่ใช่แบบนั้นเลย  พอมาถึงที่ทำงานตอนสายๆ อยู่สักพักก็เดินหายไปกินข้าวกลับมาก็9โมงกว่าจะ10โมง พอมาถึงก็พูดนู้นพูดนี่ไม่หยุด เสียงดังลั่นห้อง นินทาหัวหน้าคนโน้นคนนี้ที พูดให้ร้ายคนโน้นคนนี้ ไม่หยุด งานตัวเองไม่ทำแล้วก็มาชวนคนอื่นคุยไม่หยุดทั้งที่คนอื่นนั่งทำงานกันอยู่ ถ้าไม่มีใครสนใจก็เรียกคนโน้นทีคนนี้ที  ทำให้คนอื่นไม่มีสมาธิทำงาน  งานที่กองเต็มโต๊ะเอกสารที่ต้องส่งเบิกก็ไม่ดู ไม่ทำ  พอโดนเร่งก็บอกว่าตัวเองงานเยอะไม่มีเวลาทำ ไท่มีเวลาดู  อ้างแต่ว่าไม่ว่างงานเยอะ  ทั้งที่เอกสารไม่ต้องพิมพ์เลย สั่งๆๆๆๆให้น้องในที่ทำงานทำ แค่ตรวจดูความเรียบร้อยก็ยังไม่ดู. เวลามีอบรมประชุม ก็ไม่คิดจะศึกษา ให้คนอื่นพิมพ์ๆ แล้วก็จะโยนงานให้หัวหน้าฝ่ายพรีเซนต์ให้แทน ทั้งที่งานตัวเอง เงินโปรเจ็คก็ตัวเองเป็นคนเบิกไป  เวลาเดินทางไปงานในกรุงเทพ ครั้งแรกเบิกค่าแท็กซี่จากหมอชิตไปบางแคเหนือ 300 แต่พอรู้ว่าได้สูงสุด600 ก็อยากได้600 จนทะเลาะกับบัญชี ทั้งที่ไม่เคยนั่งแท็กซี่เลย (เพราะตอนมาใหม่ๆ บอกว่าตอนไปไหนมาไหนในกรุงเทพนั่งรถเมล์ตลอดไม่เคยนั่งแท็กซี่)  ชอบซื้อของมาฝากคนในที่ทำงานแล้วก็เอาไปพูดว่ากับคนอื่นว่า ตัวเองซื้อของให้คนนั้นคนนี้ หอบมาไกล หนักก็หนัก ไกลแค่ไหนก็ไปหามาให้  พูดคำหยาบในที่ทำงาน ทั้งที่เป็นหน่วยงานบริการประชาชน ประมาณว่านินทาคนอื่นอยู่นินทาหัวหน้าคนอื่นก็จะพูด "มันทำห่าอะไรไม่เป็น" "เอามาทำห่าเหวอะไร" "เอามาทำแป๊ะอะไร" "ทำ ยิ้มอะไร"  ไม่มองว่าตัวเองอยู่ในงานอะไร ควรทำตัวแบบไหน  เวลามีคนมาหาก็พาเขาไปเที่ยวผู้หญิงหากิน  ไปนั่งดริ๊ง  แล้วก็เอาเขามานินทาในที่ทำงานว่าเขาไปเที่ยวผู้หญิง เขามีเด็ก เขามีกิ๊ก ทั้งที่ตัวเองก็ทำ  แล้วอะไรไม่พอใจก็จะอ้างว่าตัวเองมีอาชีพสูงส่ง  ทำงานมาหลายสิบปี จะเอาบัตรที่มีไปอ้างเขา  คนที่ทำงานเคยเอาหลานมาเอาลูกมาก็ไปแกล้งตัดผมหลานเขา ไปว่าลูกเขาเป็นโรคไฮเปอร์ ทั้งที่เด็กก็อยู่ดีๆ ไม่ได้ไปกวน ไปเล่นด้วย เวลาเห็นผู้หญิงคนไหนเดินผ่านสวยๆ ก็จะรีบเข้าไปทักเขา ทำความรู้จัก แล้วก็เอามาพูดว่ารู้จักเขาอย่างงั้นอย่างงี้ ถ้าตามไปไม่ทันก็จะถามคนในที่ทำงานว่าเขาเป็นใครมีผัวหรือยัง แล้วที่พีคกว่านั้นคือ เขาแต่งงานแล้วแต่ชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่แวะมาสำนักงานบ่อยๆ ซื้อของช่วยเขาฃวนไปกินข้าว หวังจะฟันเขา แต่เขาไม่สนใจ  เพราะคุยกับอีกคนอยู่ จู่ๆ ก็โกรธเขาบล็อกไลน์ บล็อกเฟสเขา แล้วก็ถามผู้ชายว่านอนด้วยกันแล้วหรอ มีอะไรกันแล้วหรอ  ทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัว  แล้วพอเห็นเขา2คนไปส่งกันที่บขส ก็แอบดู แล้วพอผู้หญิงไปก็ขึ้นไปถามผู้ชายบนรถว่า ถ้าไม่จริงจังกับเขาก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าให้ความหวังเขา พอออกมาห่างๆ ก็แอบถ่ายรูปเขาบอกว่าเขาคบกันแบบชู้สาว ส่งไลน์ไปหาคนในที่ทำงานเกือบทุกคน ทั้งที่เขาทั้งคู่โสดแล้วกำลังดูใจกันคุยกันอยู่ แล้วก็บอกคนในที่ทำงานบอกเราว่าให้เราจีบผู้ชายให้ติด อย่าให้หมาคาบไป- ทั้งที่เราไม่ได้คิดอะไรกับผู้ชายเลย เราคิดว่าเป็นพี่เป็นน้องกันเฉยๆ วีรกรรมในแต่ละวันของแกคือสร้างความวุ่นวายให้คนในที่ทำงานด้วยการไปชวนเขาคุย  เสียงดังลั่นห้อง งานไม่ทำ  อยากได้เงินเยอะๆ ทั้งที่มันไม่ถูกต้องตามระเบียบ
เราไม่เข้าใจว่าทำไมคนแบบนี้ ถึงมาอยู่ในที่ทำงานของเรา ทำไมเขาไม่ส่งคนเก่งมาสนับสนุนหน่วยงาน แย่ทำไมส่งคนแย่ๆ แบบนี้มา  ถ้าเราทนไม่ไหว เราจะต้องวีนในที่ทำงานแน่นอน. เราพยายามไม่ยุ่งไม่วุ่นวายด้วย แต่ก็เอางานที่ต้องเบิกเงินมาให้เราพิมพ์ ซึ่งปกติบัญชีจะทำให้แต่เพราะทะเลาะกับบัญชีขนาดชี้หน้าเขาว่ามันไม่ใช่เงินเธอ เธอจะหวงไว้ทำไม  ทั้งที่มันก็เบิกไม่ได้อย่างที่บัญชีบอก หลังนั้นก็ไม่พูดกับบัญชีอีกเลย
ตอนนี้เอกสารอยู่ในเมือเราค่ารถแท็กซี่ไปกลับ1200
ซึ้งเท่ากับจังหวัดไกลๆ ไปกทมไปกลับได้เลย
ทำไมคนๆนี้น่าเบื่อ เห็นแก่ได้แบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่