เกริ่นหน่อย ก่อนผมจะได้คันนี้มา มันก็เกิดมาจากความ "อยากได้" รถกระบะสี่ประตูยกสูงขับสอง "เกียร์ออโต้" สักคัน ก็ลิสตัวเลือกที่สนใจมา ซึ่งคันแรกที่สนใจเลยก็คือ
Isuzu Dmax Z-Prestige 1.9 6AT ในค่าตัว 1 ล้าน ทอน 1 หมื่น
กับอีกเจ้าคือ
Ford Ranger Limited 2.0 10 AT ที่ถูกกว่าไป 5 หมื่น
แต่ด้วยความที่มี Isuzu Dmax Z-DVD 2012 2.5VGS MT อยู่แล้ว ถ้าจะซื้อ Isuzu อีกคันหน้าหน้าตาเดิมๆ ภายในก็ทรงเดิม เบื่อน่าดู อีกแบบก็คือรอให้ออก Model ใหม่ดีกว่า กว่าจะได้ขับก็คงจะอีก 2-3 ปี ก็เลยตัดสินใจ วัดดวงกับ Ford Ranger สักครั้งแล้วครับ หวังว่าดวงจะแข็งพอ ไม่เจอรถที่มีปัญหาหนัก ๆ ก็เลยตัดสินใจจองไปแบบลุ้น ๆ
เรื่องอื่นๆ ผมคงไม่ต้องพูดมาก เจ็บคอ เพราะมันไม่ได้ต่างอะไรกับรุ่น MY 2017 เท่าไหร่ ออพชั่นอยากรู้อะไร หาดูได้ในเว็บ Ford เลย
พอมีรถที่เปิดตัวมาแบบที่ใส่เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่ คงมีคำถามแน่ ๆ เลย 1 อย่าง ว่า รถคึนนี้มันกินน้ำมันเท่าไหร่ ซึ่งพอหาข้อมูลดูแล้ว ก็ไม่ค่อยมีใครแชร์ ก็เลยคิดว่าถ้าได้รถมาแล้ว จะแชร์ข้อมูลให้ชาวบ้านได้รับรู้หน่อยว่า มันประมาณไหน แต่อย่าถามหาปัจจัยควบคุม มาตรฐานอะไร ผมว่าไปตามความรู้สึกและสไตล์ของผม และเทียบกับรถคันอื่นๆ ที่ผมเคยใช้เอง ขับเอง
ในรุ่นย่อยตัวนี้ ไม่มี Navi มาด้วย แต่หน้าจอในรถคันนี้มาพร้อมกับ Sync 3 รองรับ Android Auto ด้วย งั้นเราก็เชื่อมกับมือถือเพื่อดึง Google Map มาใช้ได้ด้วยครับ
หลักๆ เลยก็จะรีวิวอัตราการสิ้นเปลือง เอาแบบขับจริง เหยียบจริง แล้วเติมน้ำมันจริงๆ ไม่ใช่ดูแต่จอ มันเปลืองเท่าไหร่ ไม่เว่อ ไม่อวย เส้นทาง กทม-นครศรีธรรมราช ซึ่งเติมน้ำมันดีเซลธรรมดาของบางจากนี่แหละครับ ไม่ต้องไปเติมพรีเมี่ยมดีเซลอะไรให้เปลืองเงินเปล่าๆ
เริ่มจากออกจากศูนย์ฟอร์ดพระราม 2 วิ่งลงใต้เส้นพระราม 2 มาแวะเติมเต็มถังตรงบางจากปั้มสุดท้ายบนเส้นพระราม 2 ก่อนขึ้นสายเพชรเกษมลงใต้ odo ตอนนั้น 50 ก.ม.
ขับลงมาแวะเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน วนแถวนั้นอยู่หลายเที่ยว นอนพักที่แก่งกระจาน 1 คืน ก่อนออกมาเมื่อเช้ายาวลงใต้ ขับยาวๆ ลงมา ทางโล่งๆ ก็เปิด Cruise 120 kph ยาวๆ ไป บางช่วงก็ครื้นเครง กระแทกคันเร่งหนักๆ ลงไปบ้าง ภายใต้สภาพถนนที่ไม่แออัด และไม่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตชาวบ้าน อย่าเพิ่งด่าว่าขับเร็ว อ่านให้จบก่อนค่อยด่านะ
เครื่อง 2.0L EcoBlue เทอร์โบเดี่ยว 180 แรงม้า กับแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ก็รอดูกันไปว่าจะมีปัญหาอะไรเหมือน Puma 2.2 ไหม ยังไม่มีใครตอบได้
พูดถึงเรื่องเกียร์ 10AT รหัส 10R80 ในรถคันนี้ ทดเกียร์ 1 มาที่ 4.696 กับเกียร์ 2 ที่ 2.985 ด้วยระยะทดที่ห่างกันแบบนี้ สำหรับผม รำคานมันมาก เพราะถ้าตอนขับช้าๆ หรือออกตัว หรือขับๆจอดๆ เกียร์ 1 จะลากไปรอบสูงมาก กว่าจะขึ้นเกียร์ 2 มันทำให้เปลืองน้ำมันมาก ส่วนอัตราทด 1:1 อยู่ในตำแหน่งเกียร์ 7 ส่วน 8 9 10 คือ Overdrive ซึ่งในเกียร์สุดท้าย ทดไว้ที่ 0.636 จับคู่เฟืองท้าย 3.740 ทำให้วิ่งทางไกลเกียร์ 10 ได้ในรอบต่ำๆ วิ่ง 120 นี่รอบเครื่องอยู่แถวๆ 1500 RPM เองครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่ารอบต่ำแล้วจะประหยัดเสมอไปนะครับ แล้วก็มีโหมด S ให้เล่นโดยการกดปุ่ม + - ตรงหัวคันเกียร์ ขับแล้วไร้อารมสิ้นดี แต่เอาไว้ใช้แก้ขัดได้เวลาต้องการคุมรอบเครื่องด้วยตนเองเวลาขึ้น-ลงดอย ไว้ถ้าได้ขึ้นเหนือ เที่ยวป่า เที่ยวดอย ค่อยมารีวิวให้ฟังอีกครั้งว่าการควบคุมรถมันเป็นอย่างไร
ช่วงล่างมันวัดยาก พูดกับความรู้สึกล้วนๆ คือเทียบกับรถเดิม ๆ นะ ไม่ต้องมาคุยว่าเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี้มาบอกว่าของติดรถไม่ว่ายี่ห้อไหนห่วยหมด แบบนั้นไปคุยที่บ้านคุณนู่น เจ้า Ranger คันนี้ไม่มีนิ่มแบบ Isuzu ที่ผมชอบนะ เจ้านั้นช่วงหน้านิ่มมาก แต่ท้ายจะดีดๆ ส่วน Ranger คันนี้ หน้าจะไม่นิ่มเท่า Isuzu แต่ท้ายไม่ดีด ไม่เด้ง เก็บอาการได้ดีกว่า Isuzu เยอะเลย การเข้าโค้งบนผิวถนนไม่เรียบ มันเก็บอาการท้ายดิ้นได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นนิ่งสนิทหรอกนะ การยุบตัวของช็อคขณะเข้าโค้งกำลังดี ไม่เอียงจนน่ากลัวเหมือน Isuzu อันนี้ผมลองเทียบกับโค้งเดิม ๆ ที่ผมขับอยู่บ่อยๆ และสามารถเข้าได้เร็วกว่า Isuzu ครับ ขับรถแต่ละคันก็ต้องรู้นิสัยเขาเนาะ
มาถึงแถวๆ อ. ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ก่อนแยกเข้าบ้าน แวะจัดเต็มถัง โดนไป 1850 บาท 61.04 ลิตร กับระยะทางที่วิ่งไป 755 ก.ม. คิดเลขออกมาได้ 12.37 ก.ม./ลิตร บนจอโชว์ 12.6 ก.ม./ลิตร ถือว่าเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง รถเดิมๆ ล้อเดิมๆ ลมยางหน้า 35 หลัง 38 รถเปล่า นั่ง 2 คน
ถ้าจะให้เทียบ ก็คงเทียบกับรถที่ผมเคยขับ
ถ้าเทียบกับ Dmax Hi-lander 2.5 VGS MT เจ้าคันนี้สู้ไม่ได้เรื่องความประหยัด เพราะ Dmax คันนี้ผมขับเส้นทางนี้ วิ่งความเร็วพอๆ กัน สไตล์การขับเหมือน ๆ กัน ตัวเลขจะอยู่ที่ 14.2 ก.ม./ลิตร แต่อืดกว่าแน่นอน เพราะเจ้า Ranger นี่ กดแล้วพุ่งกว่าชัดเจนไม่ว่าจะรอบต้นหรือรอบปลาย แต่ก็แน่แหละ ถ้าดูตัวเลขแรงม้า 136 กับ 180 แรงบิด 320 กับ 420 แล้ว มันคงละเรื่องกันเลย
ถ้าเทียบกับ Vigo ตัวเตี้ย 2.5 IC MT ในเส้นทางนี้ วิ่งความเร็วพอๆ กัน สไตล์การขับเหมือน ๆ กัน ตัวเลขจะอยู่ที่ 12.5 ก.ม./ลิตร ตอนออกตัวช่วง 0-40 ตอนผมขับ ผมว่า Vigo ตัวนี้พุ่งกว่าอาจจะเป็นเพราเกียร์ MT ด้วย แต่ถ้าดูตัวเลขการกินน้ำมันแล้ว คันหนึ่งตัวเตี้ย คันหนึ่งยกสูง แต่กินน้ำมันพอๆ กัน ก็จะพอสรุปได้ว่า Ranger ประหยัดกว่าครับ
ถึงตอนนี้ขับมาแล้ว 1,2xx ก.ม. ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ ปกติดีทุกอย่าง หวังว่าคงไม่ต้องใช้บริการยานแม่หรอกนะ ขับเองดีกว่าครับ
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ก็ลองขับมาทำงานอยู่ 3 วัน วันหนึ่งจะใช้รถประมาณ 100 ก.ม. มันซดน้ำมันน่าใจหาย สุดท้ายกลับไปขับ Swift MT มาทำงานเหมือนเดิม มันประหยัดเงินค่าน้ำมันกว่ากันเกือบครึ่ง
สรุป มันเป็นรถที่ไม่เน้นความประหยัด แต่ทำมาให้ขับแบบสนุก กดแล้วพุ่งๆ แล้วก็ซดฮวบๆๆ จบการรายงาน
[CR] รีวิวแบบสั้นๆ เล่าให้ฟัง Ford Ranger Limited 2.0L 10AT
Isuzu Dmax Z-Prestige 1.9 6AT ในค่าตัว 1 ล้าน ทอน 1 หมื่น
กับอีกเจ้าคือ
Ford Ranger Limited 2.0 10 AT ที่ถูกกว่าไป 5 หมื่น
แต่ด้วยความที่มี Isuzu Dmax Z-DVD 2012 2.5VGS MT อยู่แล้ว ถ้าจะซื้อ Isuzu อีกคันหน้าหน้าตาเดิมๆ ภายในก็ทรงเดิม เบื่อน่าดู อีกแบบก็คือรอให้ออก Model ใหม่ดีกว่า กว่าจะได้ขับก็คงจะอีก 2-3 ปี ก็เลยตัดสินใจ วัดดวงกับ Ford Ranger สักครั้งแล้วครับ หวังว่าดวงจะแข็งพอ ไม่เจอรถที่มีปัญหาหนัก ๆ ก็เลยตัดสินใจจองไปแบบลุ้น ๆ
เรื่องอื่นๆ ผมคงไม่ต้องพูดมาก เจ็บคอ เพราะมันไม่ได้ต่างอะไรกับรุ่น MY 2017 เท่าไหร่ ออพชั่นอยากรู้อะไร หาดูได้ในเว็บ Ford เลย
พอมีรถที่เปิดตัวมาแบบที่ใส่เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่ คงมีคำถามแน่ ๆ เลย 1 อย่าง ว่า รถคึนนี้มันกินน้ำมันเท่าไหร่ ซึ่งพอหาข้อมูลดูแล้ว ก็ไม่ค่อยมีใครแชร์ ก็เลยคิดว่าถ้าได้รถมาแล้ว จะแชร์ข้อมูลให้ชาวบ้านได้รับรู้หน่อยว่า มันประมาณไหน แต่อย่าถามหาปัจจัยควบคุม มาตรฐานอะไร ผมว่าไปตามความรู้สึกและสไตล์ของผม และเทียบกับรถคันอื่นๆ ที่ผมเคยใช้เอง ขับเอง
ในรุ่นย่อยตัวนี้ ไม่มี Navi มาด้วย แต่หน้าจอในรถคันนี้มาพร้อมกับ Sync 3 รองรับ Android Auto ด้วย งั้นเราก็เชื่อมกับมือถือเพื่อดึง Google Map มาใช้ได้ด้วยครับ
หลักๆ เลยก็จะรีวิวอัตราการสิ้นเปลือง เอาแบบขับจริง เหยียบจริง แล้วเติมน้ำมันจริงๆ ไม่ใช่ดูแต่จอ มันเปลืองเท่าไหร่ ไม่เว่อ ไม่อวย เส้นทาง กทม-นครศรีธรรมราช ซึ่งเติมน้ำมันดีเซลธรรมดาของบางจากนี่แหละครับ ไม่ต้องไปเติมพรีเมี่ยมดีเซลอะไรให้เปลืองเงินเปล่าๆ
เริ่มจากออกจากศูนย์ฟอร์ดพระราม 2 วิ่งลงใต้เส้นพระราม 2 มาแวะเติมเต็มถังตรงบางจากปั้มสุดท้ายบนเส้นพระราม 2 ก่อนขึ้นสายเพชรเกษมลงใต้ odo ตอนนั้น 50 ก.ม.
ขับลงมาแวะเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน วนแถวนั้นอยู่หลายเที่ยว นอนพักที่แก่งกระจาน 1 คืน ก่อนออกมาเมื่อเช้ายาวลงใต้ ขับยาวๆ ลงมา ทางโล่งๆ ก็เปิด Cruise 120 kph ยาวๆ ไป บางช่วงก็ครื้นเครง กระแทกคันเร่งหนักๆ ลงไปบ้าง ภายใต้สภาพถนนที่ไม่แออัด และไม่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตชาวบ้าน อย่าเพิ่งด่าว่าขับเร็ว อ่านให้จบก่อนค่อยด่านะ
เครื่อง 2.0L EcoBlue เทอร์โบเดี่ยว 180 แรงม้า กับแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ก็รอดูกันไปว่าจะมีปัญหาอะไรเหมือน Puma 2.2 ไหม ยังไม่มีใครตอบได้
พูดถึงเรื่องเกียร์ 10AT รหัส 10R80 ในรถคันนี้ ทดเกียร์ 1 มาที่ 4.696 กับเกียร์ 2 ที่ 2.985 ด้วยระยะทดที่ห่างกันแบบนี้ สำหรับผม รำคานมันมาก เพราะถ้าตอนขับช้าๆ หรือออกตัว หรือขับๆจอดๆ เกียร์ 1 จะลากไปรอบสูงมาก กว่าจะขึ้นเกียร์ 2 มันทำให้เปลืองน้ำมันมาก ส่วนอัตราทด 1:1 อยู่ในตำแหน่งเกียร์ 7 ส่วน 8 9 10 คือ Overdrive ซึ่งในเกียร์สุดท้าย ทดไว้ที่ 0.636 จับคู่เฟืองท้าย 3.740 ทำให้วิ่งทางไกลเกียร์ 10 ได้ในรอบต่ำๆ วิ่ง 120 นี่รอบเครื่องอยู่แถวๆ 1500 RPM เองครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่ารอบต่ำแล้วจะประหยัดเสมอไปนะครับ แล้วก็มีโหมด S ให้เล่นโดยการกดปุ่ม + - ตรงหัวคันเกียร์ ขับแล้วไร้อารมสิ้นดี แต่เอาไว้ใช้แก้ขัดได้เวลาต้องการคุมรอบเครื่องด้วยตนเองเวลาขึ้น-ลงดอย ไว้ถ้าได้ขึ้นเหนือ เที่ยวป่า เที่ยวดอย ค่อยมารีวิวให้ฟังอีกครั้งว่าการควบคุมรถมันเป็นอย่างไร
ช่วงล่างมันวัดยาก พูดกับความรู้สึกล้วนๆ คือเทียบกับรถเดิม ๆ นะ ไม่ต้องมาคุยว่าเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี้มาบอกว่าของติดรถไม่ว่ายี่ห้อไหนห่วยหมด แบบนั้นไปคุยที่บ้านคุณนู่น เจ้า Ranger คันนี้ไม่มีนิ่มแบบ Isuzu ที่ผมชอบนะ เจ้านั้นช่วงหน้านิ่มมาก แต่ท้ายจะดีดๆ ส่วน Ranger คันนี้ หน้าจะไม่นิ่มเท่า Isuzu แต่ท้ายไม่ดีด ไม่เด้ง เก็บอาการได้ดีกว่า Isuzu เยอะเลย การเข้าโค้งบนผิวถนนไม่เรียบ มันเก็บอาการท้ายดิ้นได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นนิ่งสนิทหรอกนะ การยุบตัวของช็อคขณะเข้าโค้งกำลังดี ไม่เอียงจนน่ากลัวเหมือน Isuzu อันนี้ผมลองเทียบกับโค้งเดิม ๆ ที่ผมขับอยู่บ่อยๆ และสามารถเข้าได้เร็วกว่า Isuzu ครับ ขับรถแต่ละคันก็ต้องรู้นิสัยเขาเนาะ
มาถึงแถวๆ อ. ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ก่อนแยกเข้าบ้าน แวะจัดเต็มถัง โดนไป 1850 บาท 61.04 ลิตร กับระยะทางที่วิ่งไป 755 ก.ม. คิดเลขออกมาได้ 12.37 ก.ม./ลิตร บนจอโชว์ 12.6 ก.ม./ลิตร ถือว่าเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง รถเดิมๆ ล้อเดิมๆ ลมยางหน้า 35 หลัง 38 รถเปล่า นั่ง 2 คน
ถ้าจะให้เทียบ ก็คงเทียบกับรถที่ผมเคยขับ
ถ้าเทียบกับ Dmax Hi-lander 2.5 VGS MT เจ้าคันนี้สู้ไม่ได้เรื่องความประหยัด เพราะ Dmax คันนี้ผมขับเส้นทางนี้ วิ่งความเร็วพอๆ กัน สไตล์การขับเหมือน ๆ กัน ตัวเลขจะอยู่ที่ 14.2 ก.ม./ลิตร แต่อืดกว่าแน่นอน เพราะเจ้า Ranger นี่ กดแล้วพุ่งกว่าชัดเจนไม่ว่าจะรอบต้นหรือรอบปลาย แต่ก็แน่แหละ ถ้าดูตัวเลขแรงม้า 136 กับ 180 แรงบิด 320 กับ 420 แล้ว มันคงละเรื่องกันเลย
ถ้าเทียบกับ Vigo ตัวเตี้ย 2.5 IC MT ในเส้นทางนี้ วิ่งความเร็วพอๆ กัน สไตล์การขับเหมือน ๆ กัน ตัวเลขจะอยู่ที่ 12.5 ก.ม./ลิตร ตอนออกตัวช่วง 0-40 ตอนผมขับ ผมว่า Vigo ตัวนี้พุ่งกว่าอาจจะเป็นเพราเกียร์ MT ด้วย แต่ถ้าดูตัวเลขการกินน้ำมันแล้ว คันหนึ่งตัวเตี้ย คันหนึ่งยกสูง แต่กินน้ำมันพอๆ กัน ก็จะพอสรุปได้ว่า Ranger ประหยัดกว่าครับ
ถึงตอนนี้ขับมาแล้ว 1,2xx ก.ม. ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ ปกติดีทุกอย่าง หวังว่าคงไม่ต้องใช้บริการยานแม่หรอกนะ ขับเองดีกว่าครับ
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ก็ลองขับมาทำงานอยู่ 3 วัน วันหนึ่งจะใช้รถประมาณ 100 ก.ม. มันซดน้ำมันน่าใจหาย สุดท้ายกลับไปขับ Swift MT มาทำงานเหมือนเดิม มันประหยัดเงินค่าน้ำมันกว่ากันเกือบครึ่ง
สรุป มันเป็นรถที่ไม่เน้นความประหยัด แต่ทำมาให้ขับแบบสนุก กดแล้วพุ่งๆ แล้วก็ซดฮวบๆๆ จบการรายงาน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้