คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขอตอบจากประสบการณ์ตรงนะคะ อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ ถือว่าแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
ที่เราเคยทำคือเป็นพิสูจน์อักษรประจำ สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งค่ะ (ซึ่งแต่ละสำนักพิมพ์อาจไม่เหมือนกันนะคะ)
และถูกของคุณความเห็นที่ 1 คือเราไม่ได้ตรวจดูแค่การพิมพ์ผิดหรือถูก
เอาที่เราเคยทำนะคะคือ บางทีเราต้องตรวจดูประโยค รูปประโยค ความถูกต้องของเนื้อหาด้วยค่ะ
บางที จขกท. อาจเคยอ่านหนังสือบางเล่มที่อ่านแล้วรู้สึกว่า มีบางเล่มประโยคบางประโยค ทำไมมันขัดๆ ไม่ลื่น รู้สึกอ่านแล้วแปลกๆ..?
ส่วนนี้เราก็จะตรวจดูด้วยค่ะ (แต่ไม่ใช่ว่าแก้ไขได้เลยนะคะ เราต้องปรึกษากัน เสนอต่อไปให้...ข้อใช้คำว่า"ลูกพี่" ในทีมละกัน และต้องพูดคุยกับนักเขียนเจ้าของผลงานด้วย นักเขียนบางท่านก็เห็นด้วย บางท่านอาจจะไม่ให้แก้เลย เพราะถือเป็นสำนวนของตัวเขา)
เหมือนคัดกรองอีกรอบ เพราะด่านเราจะเป็นด่านสุดท้ายแล้วก่อนส่งแก้ไข และสุดท้ายก็ส่งยิงฟิล์ม ตีพิมพ์ (อันนี้เป็นขั้นตอนของแผนกอื่น)
และด้วยว่าสำนักพิมพ์ที่เคยทำเป็นสำนักพิมพ์ที่ไม่ใหญ่มาก พนักงานน้อย เราจึงได้งานอีก 1 หน้าที่ คือ พิจารณาต้นฉบับที่นักเขียนส่งเข้ามา (นิยาย)
ถ้ารักการอ่านมากจริงๆ แล้วอยากทำด้านนี้จริงๆ ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบนะคะ ตัวเราเองชอบอ่านหนังสือ (ทุกประเภท) นิยาย วรรณกรม ประวัติศาสตร์ การ์ตูน ทั้งไทย แปล ตอนเรียนจบใหม่ๆ เลยสมัครไปขายหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแล้วมีโอกาสได้เข้าไปทำกับสำนักพิมพ์นั้นเลย
แต่... อันว่าการทำงาน... ไม่มีอะไรสนุกค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ) มันจะไม่เหมือนกับการที่เรานั่งอ่านหนังสือที่เราเลือกซื้อมาอ่าน เพราะตลอดเวลาที่เราอ่านพิจสูจน์อักษรงานนั้น เราต้องตั้งสติสูงมาก ใช้สมาธิ ใช้ความรับผิดชอบสูง ใช้เวลา 8 ชม. ในเวลางาน อ่านงานตลอดเวลา (ไม่รวมช่วงเร่งรีบ ทำโอ(ฟรี) ต่ออีก และยังไม่รวมหน้าที่พิเศษคือ ต้องเอาต้นฉบับมาอ่านพิจารณาที่บ้านอีก)
สำหรับเราที่ชอบอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก เป็นการผ่อนคลาย กลายเป็นงานที่ต้องแข่งกับเวลาและ(ค่อนข้างกดดัน) ทำให้รู้ตัวว่า การที่เราทำงานหนังสือนั้นคงไม่เหมาะกับเราจริงๆ เพราะช่วงที่เป็นนักพิสูจน์อักษรอยู่ เราไม่มีเวลาได้อ่านหนังสืออื่นๆที่อยากอ่านเลย (อ่านแต่งาน) ปัจจุบันทำงานด้านอื่นแล้วค่ะ แต่ยังอ่านหนังสือทุกวัน (ตอนนี้อ่านนิยายจีนแปลอย่างบ้าคลั่ง{นอกเรื่อง})
แต่...มันชื่นใจนะคะ เวลาเห็นผลงานที่เรามีส่วนร่วม (ทั้งพิสูจน์อักษร และผลงานที่เราพิจารณา) ได้ตีพิมพ์และออกวางจำหน่ายในที่สุด ทุกวันนี้ถึงจะไม่ได้ทำงานด้านนี้แล้ว แต่หนังสือทุกเล่มที่มีชื่อของเราอยู่ในหน้าเครดิต เรายังเก็บไว้ทุกเล่มค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ และความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้า จขกท. สนใจ จริงๆ ลองดูนะคะ อาจจะเหมาะกับ จขกท. ก็ได้ ^_^
ที่เราเคยทำคือเป็นพิสูจน์อักษรประจำ สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งค่ะ (ซึ่งแต่ละสำนักพิมพ์อาจไม่เหมือนกันนะคะ)
และถูกของคุณความเห็นที่ 1 คือเราไม่ได้ตรวจดูแค่การพิมพ์ผิดหรือถูก
เอาที่เราเคยทำนะคะคือ บางทีเราต้องตรวจดูประโยค รูปประโยค ความถูกต้องของเนื้อหาด้วยค่ะ
บางที จขกท. อาจเคยอ่านหนังสือบางเล่มที่อ่านแล้วรู้สึกว่า มีบางเล่มประโยคบางประโยค ทำไมมันขัดๆ ไม่ลื่น รู้สึกอ่านแล้วแปลกๆ..?
ส่วนนี้เราก็จะตรวจดูด้วยค่ะ (แต่ไม่ใช่ว่าแก้ไขได้เลยนะคะ เราต้องปรึกษากัน เสนอต่อไปให้...ข้อใช้คำว่า"ลูกพี่" ในทีมละกัน และต้องพูดคุยกับนักเขียนเจ้าของผลงานด้วย นักเขียนบางท่านก็เห็นด้วย บางท่านอาจจะไม่ให้แก้เลย เพราะถือเป็นสำนวนของตัวเขา)
เหมือนคัดกรองอีกรอบ เพราะด่านเราจะเป็นด่านสุดท้ายแล้วก่อนส่งแก้ไข และสุดท้ายก็ส่งยิงฟิล์ม ตีพิมพ์ (อันนี้เป็นขั้นตอนของแผนกอื่น)
และด้วยว่าสำนักพิมพ์ที่เคยทำเป็นสำนักพิมพ์ที่ไม่ใหญ่มาก พนักงานน้อย เราจึงได้งานอีก 1 หน้าที่ คือ พิจารณาต้นฉบับที่นักเขียนส่งเข้ามา (นิยาย)
ถ้ารักการอ่านมากจริงๆ แล้วอยากทำด้านนี้จริงๆ ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบนะคะ ตัวเราเองชอบอ่านหนังสือ (ทุกประเภท) นิยาย วรรณกรม ประวัติศาสตร์ การ์ตูน ทั้งไทย แปล ตอนเรียนจบใหม่ๆ เลยสมัครไปขายหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแล้วมีโอกาสได้เข้าไปทำกับสำนักพิมพ์นั้นเลย
แต่... อันว่าการทำงาน... ไม่มีอะไรสนุกค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ) มันจะไม่เหมือนกับการที่เรานั่งอ่านหนังสือที่เราเลือกซื้อมาอ่าน เพราะตลอดเวลาที่เราอ่านพิจสูจน์อักษรงานนั้น เราต้องตั้งสติสูงมาก ใช้สมาธิ ใช้ความรับผิดชอบสูง ใช้เวลา 8 ชม. ในเวลางาน อ่านงานตลอดเวลา (ไม่รวมช่วงเร่งรีบ ทำโอ(ฟรี) ต่ออีก และยังไม่รวมหน้าที่พิเศษคือ ต้องเอาต้นฉบับมาอ่านพิจารณาที่บ้านอีก)
สำหรับเราที่ชอบอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก เป็นการผ่อนคลาย กลายเป็นงานที่ต้องแข่งกับเวลาและ(ค่อนข้างกดดัน) ทำให้รู้ตัวว่า การที่เราทำงานหนังสือนั้นคงไม่เหมาะกับเราจริงๆ เพราะช่วงที่เป็นนักพิสูจน์อักษรอยู่ เราไม่มีเวลาได้อ่านหนังสืออื่นๆที่อยากอ่านเลย (อ่านแต่งาน) ปัจจุบันทำงานด้านอื่นแล้วค่ะ แต่ยังอ่านหนังสือทุกวัน (ตอนนี้อ่านนิยายจีนแปลอย่างบ้าคลั่ง{นอกเรื่อง})
แต่...มันชื่นใจนะคะ เวลาเห็นผลงานที่เรามีส่วนร่วม (ทั้งพิสูจน์อักษร และผลงานที่เราพิจารณา) ได้ตีพิมพ์และออกวางจำหน่ายในที่สุด ทุกวันนี้ถึงจะไม่ได้ทำงานด้านนี้แล้ว แต่หนังสือทุกเล่มที่มีชื่อของเราอยู่ในหน้าเครดิต เรายังเก็บไว้ทุกเล่มค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ และความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้า จขกท. สนใจ จริงๆ ลองดูนะคะ อาจจะเหมาะกับ จขกท. ก็ได้ ^_^
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับงานพิสูจน์อักษรหน่อยค่ะ
กำลังสนใจอยากทำฟรีแลนซ์ด้านนี้อยู่เพราะเป็นคนชอบอ่านมาก โดยเฉพาะหนังสือวรรณกรรมค่ะ
เราอยากรู้ว่าปกติงานพิสูจน์อักษรเค้ารับสมัครกันทางไหนคะ ถ้าแบบฟรีแลนซ์ปกติค่าจ้างได้เป็นต่อเล่มรึป่าวคะ แล้วก็งานกดดันมากมั้ยคะ ถ้ามีความเห็นในด้านอื่นๆที่อยากแชร์ แชร์ได้เลยนะคะ อยากฟังประสบการณ์ในมุมอื่นๆด้วยค่ะ (:
ขอบคุณค่าา