*****ในคดียักยอกทรัพย์ มีข้อสังเกต เกี่ยวกับ สถานที่เกิดเหตุ ที่พนักงานสอบสวนมีอำนาจทำการสอบสวน ด้งนี้ครับ*****
1. กรณี ผู้ต้องหาแสดงเจตนาเบียดบังชัดเจน ให้ถือหลักว่า ผู้ต้องหาแสดงเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ที่ใด สถานที่นั้นเป็นที่เกิดเหตุ เช่น ผู้ต้องหานำรถเช่าซื้อไปขาย สถานที่ขายเป็นที่เกิดเหตุ , ผู้ต้องหาบอกว่าไม่คืนทรัพย์ให้ หรืออ้างว่าไม่ได้รับทรัพย์สินของผู้เสียหายมา ขณะผู้ต้องหาพูดนั้น ผู้ต้องหาอยู่ ณ ที่ใด ที่นั่น คือ สถานที่เกิดเหตุ เช่น ผู้เสียหายไปทวงถามเงินที่บ้านผู้ต้องหา แล้วผู้ต้องหาปฏิเสธไม่คืนเงิน บ้านผู้ต้องหาเป็นที่เกิดเหตุ , ผู้เสียหายไปทวงถามที่ทำงานผู้ต้องหา ที่ทำงานเป็นที่เกิดเหตุ , ทวงถามที่ใดแล้วถูกปฏิเสธคืนทรัพย์นั้นที่นั่นเป็นที่เกิดเหตุ
2. กรณีไม่แน่ชัดว่าผู้ต้องหาแสดงเจตนาเบียดบังที่ใด เป็นกรณีที่ผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินแล้วหายสาปสูญไปเลย ติดต่อไม่ได้ ให้ใช้ 2 สถานที่นี้เป็นที่เกิดเหตุได้ครับ
2.1 ต้นทางที่ผู้ต้องหาได้รับมอบทรัพย์สิน เช่น ไปรับสินค้าของผู้เสียหายมาจากบ้านนาย ก.แล้วหายตัวไปติดต่อไม่ได้เชื่อว่าเบียดบังเอาไป บ้านนาย ก.เป็นที่เกิดเหตุ , ผู้เสียหายไปบ้านผู้ต้องหาแล้วนำเงินสดฝากผู้ต้องหาให้ไปจ่ายเบี้ยประกันแต่ผู้ต้องหากลับเบียดบังเอาไป เหตุเกิดที่บ้านผู้ต้องหา , ผู้เสียหายโอนเงินมาให้แล้วเบียดบังเอาไป สถานที่ผู้ต้องหาเปิดบัญชีไว้(กรณียังไม่ถอนเงิน) หรือ สถานที่ผู้ต้องหาถอนเงินไป ย่อมเป็นที่เกิดเหตุ ส่วนสถานที่ที่ผู้เสียหายโอนเงินไม่ใช่ที่เกิดเหตุเนื่องจากขณะโอนเงินไปความผิดยังไม่เกิดขึ้น(ซึ่งต่างจากคดีฉ้อโกง สถานที่โอนเงินของผู้เสียหายถือเป็นสถานที่เกิดเหตุได้เนื่องจากเป็นเหตุต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน)
2.2 ต้นทางและปลายทางต่างเป็นสถานที่เกิดเหตุต่อเนื่องกัน กรณี ผู้ต้องหาต้องนำทรัพย์สินไปส่งมอบตามหน้าที่ เช่น พนักงานเก็บเบี้ยประกันของบริษัท มีหน้าที่เก็บเบี้ยประกันและส่งมอบบริษัท ฯ ตามกำหนด กรณีนี้ที่เกิดเหตุเป็นได้ทั้ง 2 ที่ คือ สถานที่รับเงินสดมา และสถานที่ต้องนำเงินสดไปส่งมอบ คือ บริษัท ผู้เสียหายสามารถร้องทุกข์ที่ใดก็ได้
กรณี ไม่แน่ชัดว่า ขณะผู้ต้องหาแสดงเจตนายักยอกนั้น ผู้ต้องหาอยู่ที่ใด เช่น โทรไปทวงถามผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาบอกว่าไม่คืนทรัพย์สินให้ โดยไม่ทราบว่าขณะนั้นผู้ต้องหาอยู่ที่ใด ให้ใช้ ข้อ 2 แต่ถ้าทราบว่าขณะนั้นผู้ต้องหาอยู่บ้านนาย ก. บ้านนาย ก.เป็นที่เกิดเหตุได้ครับ
####มีคนถามว่า เอาสถานที่ผู้เสียหายขณะโทรไปหาผู้ต้องหา เช่น ขณะผู้เสียหายอยู่บ้านพักได้ใช้มือถือโทรไปทวงถามผู้ต้องหา แล้วผู้ต้องหาปฏิเสธคืนทรัพย์สินให้ เอาบ้านผู้เสียหายเป็นที่เกิดเหตุได้หรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ได้ครับ ต้องใช้สถานที่ของผู้ต้องหาเท่านั้น####
ใครมีความเห็นใด ๆ มาแลกเปลี่ยนหรือแนะนำผม ได้นะครับ เพราะว่าผมก็อาจศึกษากฎหมายพอปู ๆ ปลา ๆ ขอบคุณครับ*******
สถานที่เกิดเหตุในคดี #ยักยอกทรัพย์#
1. กรณี ผู้ต้องหาแสดงเจตนาเบียดบังชัดเจน ให้ถือหลักว่า ผู้ต้องหาแสดงเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ที่ใด สถานที่นั้นเป็นที่เกิดเหตุ เช่น ผู้ต้องหานำรถเช่าซื้อไปขาย สถานที่ขายเป็นที่เกิดเหตุ , ผู้ต้องหาบอกว่าไม่คืนทรัพย์ให้ หรืออ้างว่าไม่ได้รับทรัพย์สินของผู้เสียหายมา ขณะผู้ต้องหาพูดนั้น ผู้ต้องหาอยู่ ณ ที่ใด ที่นั่น คือ สถานที่เกิดเหตุ เช่น ผู้เสียหายไปทวงถามเงินที่บ้านผู้ต้องหา แล้วผู้ต้องหาปฏิเสธไม่คืนเงิน บ้านผู้ต้องหาเป็นที่เกิดเหตุ , ผู้เสียหายไปทวงถามที่ทำงานผู้ต้องหา ที่ทำงานเป็นที่เกิดเหตุ , ทวงถามที่ใดแล้วถูกปฏิเสธคืนทรัพย์นั้นที่นั่นเป็นที่เกิดเหตุ
2. กรณีไม่แน่ชัดว่าผู้ต้องหาแสดงเจตนาเบียดบังที่ใด เป็นกรณีที่ผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินแล้วหายสาปสูญไปเลย ติดต่อไม่ได้ ให้ใช้ 2 สถานที่นี้เป็นที่เกิดเหตุได้ครับ
2.1 ต้นทางที่ผู้ต้องหาได้รับมอบทรัพย์สิน เช่น ไปรับสินค้าของผู้เสียหายมาจากบ้านนาย ก.แล้วหายตัวไปติดต่อไม่ได้เชื่อว่าเบียดบังเอาไป บ้านนาย ก.เป็นที่เกิดเหตุ , ผู้เสียหายไปบ้านผู้ต้องหาแล้วนำเงินสดฝากผู้ต้องหาให้ไปจ่ายเบี้ยประกันแต่ผู้ต้องหากลับเบียดบังเอาไป เหตุเกิดที่บ้านผู้ต้องหา , ผู้เสียหายโอนเงินมาให้แล้วเบียดบังเอาไป สถานที่ผู้ต้องหาเปิดบัญชีไว้(กรณียังไม่ถอนเงิน) หรือ สถานที่ผู้ต้องหาถอนเงินไป ย่อมเป็นที่เกิดเหตุ ส่วนสถานที่ที่ผู้เสียหายโอนเงินไม่ใช่ที่เกิดเหตุเนื่องจากขณะโอนเงินไปความผิดยังไม่เกิดขึ้น(ซึ่งต่างจากคดีฉ้อโกง สถานที่โอนเงินของผู้เสียหายถือเป็นสถานที่เกิดเหตุได้เนื่องจากเป็นเหตุต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน)
2.2 ต้นทางและปลายทางต่างเป็นสถานที่เกิดเหตุต่อเนื่องกัน กรณี ผู้ต้องหาต้องนำทรัพย์สินไปส่งมอบตามหน้าที่ เช่น พนักงานเก็บเบี้ยประกันของบริษัท มีหน้าที่เก็บเบี้ยประกันและส่งมอบบริษัท ฯ ตามกำหนด กรณีนี้ที่เกิดเหตุเป็นได้ทั้ง 2 ที่ คือ สถานที่รับเงินสดมา และสถานที่ต้องนำเงินสดไปส่งมอบ คือ บริษัท ผู้เสียหายสามารถร้องทุกข์ที่ใดก็ได้
กรณี ไม่แน่ชัดว่า ขณะผู้ต้องหาแสดงเจตนายักยอกนั้น ผู้ต้องหาอยู่ที่ใด เช่น โทรไปทวงถามผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาบอกว่าไม่คืนทรัพย์สินให้ โดยไม่ทราบว่าขณะนั้นผู้ต้องหาอยู่ที่ใด ให้ใช้ ข้อ 2 แต่ถ้าทราบว่าขณะนั้นผู้ต้องหาอยู่บ้านนาย ก. บ้านนาย ก.เป็นที่เกิดเหตุได้ครับ
####มีคนถามว่า เอาสถานที่ผู้เสียหายขณะโทรไปหาผู้ต้องหา เช่น ขณะผู้เสียหายอยู่บ้านพักได้ใช้มือถือโทรไปทวงถามผู้ต้องหา แล้วผู้ต้องหาปฏิเสธคืนทรัพย์สินให้ เอาบ้านผู้เสียหายเป็นที่เกิดเหตุได้หรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ได้ครับ ต้องใช้สถานที่ของผู้ต้องหาเท่านั้น####
ใครมีความเห็นใด ๆ มาแลกเปลี่ยนหรือแนะนำผม ได้นะครับ เพราะว่าผมก็อาจศึกษากฎหมายพอปู ๆ ปลา ๆ ขอบคุณครับ*******