ทุนทำวิจัย สำหรับนักวิจัยอิสระ ขอจากหน่วยงานไหนได้บ้างคะ? (เล่าประวัติชีวิตนิดหน่อย)

หนูเป็นนักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ หนูเป็นเด็กที่เรียนค่อนข้างดี แต่การที่เรียนดี เกรดสวย มันไม่ได้ทำให้หนูมีความสุขกับมัน มันกลับทำให้รู้สึกว่าต้องรักษาสิ่งนั้นต่อไปด้วยการอ่านหนังสืออย่างหนัก
ตอนหนูอยู่ชั้น ม.4 หนูลองทำหลายๆอย่างที่นอกเหนือจากการเรียน หนูได้รับเลือกจากเพื่อนๆให้เป็นประธานรุ่น ได้ลองเขียนเรียงความเล่นๆส่งเข้าประกวดก็ได้ชนะเลิศระดับประเทศ และสุดท้ายหนูก็เจอความฝันและสิ่งที่ต้องการทั้งหมดของชีวิต หนูได้สมัครเข้าโครงการหนึ่งของ สวทช. เป็นโครงการที่ให้ทุนมาทำวิจัย ซึ่งหนูก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเรียนในโครงการดังกล่าว หนูได้ลองทำวิจัย รู้สึกสนุก และชอบทุกครั้งเวลาอยู่กับงานถึงแม้มันจะมีปัญหา สถานการณ์ที่กดดันกว่าตอนเรียนในห้องเรียนมาก แต่มันเป็นสิ่งที่หนูคิดว่าได้เอาความรู้ในห้องเรียนมาใช้จริงๆ ตอนนี้หนูก็กำลังทำงานวิจัยนี้อยู่ค่ะ เรื่องราวก็ดูเป็นปกติเรียบร้อยดี แต่....

เมื่อประมาณสามเดือนก่อน หนูได้ไปเจอโครงการหนึ่ง เป็นโครงการที่เปิดรับข้อเสนอโครงงานวิจัย โครงการนี้เป็นโครงการที่พิเศษมากๆ(ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อนะคะ) หนูเห็นโครงการนี้แล้วไม่รอช้าหาเพื่อนร่วมทีมอีกหนึ่งคน เขียน proposal ส่งทันที โดยไม่รู้เลยว่าโครงการนี้มีแต่อาจารย์มหาลัยเขาทำส่งกันและทำงานร่วมเป็นทีมกับหลายๆหน่วยงาน

ระหว่างรอผลการคัดเลือกก็ไม่ได้กดดันมาก ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถือเป็นประสบการณ์ แต่เมื่อผลการคัดเลือกออกมาเกินคาดค่ะ งานวิจัยของหนูผ่านการพิจารณารอบแรก และต้องไปนำเสนอรอบสองต่อหน้าคณะกรรมการ พอรู้ผลแล้วเครียดเลยค่ะเพราะรู้ว่าหนทางข้างหน้ามันจะเจอเรื่องที่กดดันมากๆโปรเจ็กนี้ยากเกินความสามารถเด็กม.ปลาย แต่มาถึงตรงนี้แล้ว ไม่ถอยแล้วค่ะ จะเดินหน้าโปรเจ็กต่อไป เลยเข้าไปปรึกษาคุณครูที่โรงเรียน ครูบอกว่ามันยากนะ คงต้องไปถามอาจารย์ในมหาลัย ฟังดูแล้วก็ท้อนิดหน่อย คิดในใจ ไม่เป็นไรทำเท่าที่ทำได้แล้วกัน... ทันใดนั้นมีเสียงคุณครูคนหนึ่งถามมาว่า เธอทำเรื่องอะไรนะ หนูก็เล่าเรื่องโปรเจ็กของหนูทั้งหมดให้คุณครูคนนั้นฟัง ครูคนนั้นพูดออกมาว่า (หนูจำได้แม่น) "มันยาก มันเป็นไปไม่ได้ เธอดูหนัง sci-fi เยอะไปรึเปล่า"  วันนั้นหนูรู้สึกท้อ ไม่มีแรง ไม่อยากทำอะไรต่อ แต่โชคดีที่หนูเป็นคนฟื้นตัวเร็ว555 คำพูดของคนๆหนึ่งเองอย่าไปสนใจ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนละในจุดนี้ เลยจัดการค้นหาข้อมูลทั้งหมดที่จะเอาไปนำเสนอต่อหน้ากรรมการด้วยตัวเองกับเพื่อนร่วมทีม เป็นไงเป็นกัน

พอถึงวันนำเสนอ ก่อนที่จะเข้าห้องนำเสนอ เท้าชา มือชา สมองแบล็งก์ อาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นและเป็นผลจากการไม่ได้นอนมาหลายคืนด้วยแหละค่ะ
แต่ก็ไม่เป็นไรปลอบใจตัวเองว่ามันเป็นบททดสอบของชีวิต เดี๋ยวมันก็ผ่านไป... เข้าไปในห้องนำเสนอ หนูเปลี่ยนเป็นคนละคนกับที่อยู่หน้าห้องเลย งงอยู่เหมือนกันว่าตัวเองทำได้อย่างไร พูดเป็นต่อยหอย ความรู้สึกกลัว ประหม่า หายไปหมดเลย พอผลการคัดเลือกรอบสุดท้ายออกมา ปรากฏว่าโปรเจ็กหนูได้เป็นสำรองอันดับที่ 1...นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดค่ะ

การเป็นโปรเจ็กที่ได้เป็นสำรองอันดับที่ 1 หมายความว่าหนูและทีม(เพื่อนอีกคน)จะต้องพัฒนาโปรเจ็กนี้ต่อไป แต่ว่าจะไม่ได้รับงบประมาณจากทางโครงการ และเมื่อโปรเจ็กของหนูพัฒนาจนพร้อมเมื่อใดแล้วจึงจะยื่นกับทางโครงการนี้อีกรอบ และจะได้งบจากทางโครงการเพื่อนำไปวิจัยจริง (โครงการนี้เป็นโครงการที่นำงานวิจัยที่เสร็จ หรือเกือบเสร็จแล้ว ไปทำการวิจัยในอีกสภาวะหนึ่ง หนูบอกไม่ได้ว่าคือโครงการอะไรแต่ถ้าใครเป็นคนในวงการวิทยาศาตร์ก็น่าจะรู้แล้วนะคะ)
ซึ่งตอนนี้หนูก็กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนางานวิจัยอยู่ค่ะ หนูเริ่มหาเครือข่าย จากมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานอื่นมาช่วยให้คำปรึกษาบ้าง แต่เรื่องที่เป็นปัญหาอย่างมากในตอนนี้คือ เรื่องงบประมาณในการพัฒนางานวิจัยค่ะ งานวิจัยหนูมีเรื่องค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โรงเรียนให้งบไม่ได้แน่ๆ งบจากมหาวิทยาลัยก็ไม่น่าจะขอได้เนื่องจากไม่ใช่หน่วยงานที่สังกัด

จึงอยากสอบถามผู้รู้เรื่องการขอทุนงานวิจัยที่หัวหน้างานวิจัยเป็นนักเรียนขอได้หน่อยค่ะ หรือใครที่มีข้อเสนอแนะอื่นๆเชิญให้คำแนะนำได้เลยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ และขออภัยอย่างสูงที่เล่าเรื่องตัวเองเยอะไปหน่อย^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่