เรื่องที่จะพูดถึงนี้เป็นแบบและตัวอย่างสำหรับใครที่กำลังเป็นมะเร็งหรือคนที่สนใจติดตามการรักษานะครับ เรื่องตามหัวข้อเลย
ขอเริ่มเล่าตั้งแต่ต้น คุณพ่ออายุ56 ปีแล้ว ในช่วงแรกที่อายุ56ปีเริ่มมีอาการไอผิดปกติ ไอแบบไอไม่หยุดไม่ว่าจะด้วยยาอะไร ไอเหมือนเป็นวัณโรคไปตรวจปอดก็ปกติทุกอย่าง ได้รับยาแก้ไอมาเหมือนเดิมไม่ว่าจะไปกี่ครั้ง อาการไอก็เป็นมาเกือบปี อาการต่อมาที่พบคือเริ่มมีอาการจุกแน่นหน้าอกเป็นเหมือนกรดใหลย้อน ไปพบหมอก็ได้ยาลดกรดมา เป็นแบบนี้ประจำ สรุปตอนนั้นมีสองอาการแสดงแล้วคือไอไม่หยุด กับอาการเหมือนกรดใหลย้อน ต่อมาเมื่อกลางปี 61 เริ่มมีอาหารไม่ย่อยท้องอึดอย่างบอกสาเหตุไม่ได้เลย ก็เลยแนะนำให้คุณพ่อพบหมอด่วน CT ดูว่าเป็นอะไร แต่แล้ว!!!!ช่วงต้นเดือนกันยายน 61 วันที่ทุกคนไม่อยากเจอไม่อยากได้ยินจากหมอก็มาถึง ผลที่ตรวจ พบว่ามีก้อนเนื้อขนาด 4.0x3.2 cm ที่ตับอ่อนและยังพบมีจุดดำๆที่ตับอีกหลายจุด ขนาด0.9 cm ซึ่งวันแรกที่พบหมอบอกเลยน่าจะเป็นมะเร็งแต่ไม่รู้ชนิดใหนและอยู่ระยะที่เท่าไหร่ ให้ทำการนัดมาส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ให้ทำการงดน้ำงดอาหารก่อนเข้าห้องผ่าตัด เมื่อถึงวันนัดคุณพ่อก็ได้เข้าไปส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อที่ตับอ่อน ตอนกลับออกมาจากห้องผ่าตัดมีแผลสามจุดที่ท้อง และกลับมารอฟังผลอีก7วัน ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอว่าผลที่ออกมาอย่ารุนแรงเลย และแล้ววันที่มาฟังผลก็มาถึงคุณพ่อและคุณแม่เข้าไปฟังผล คำถามแรกที่หมอถามคือ รับได้ไหมถ้าหมอจะพูด คุณพ่อบอกว่ารับได้ หมอเลยแจ้งว่าก้อนเนื้อเป็นเนื้อร้าย ชนิด Adenocarcinoma ที่ตับอ่อนอยู่ในระยะสุดท้ายและมีการลุกลามไปที่ตับ มีชีวิตอยู่ได้อีก 8 เดือน ถ้ารับการรักษาด้วยคีโม อาจอยู่ได้นานขึ้น แต่ที่ตับอ่อนการให้คีโมจะไม่ค่อยตอบสนอง นั้นแหละครับจากคำที่พ่อกับแม่เล่ามา คำถามแรกเลยที่ผมคิดได้ คีโมคือการหยุดการเติบโตของเซลล์ถ้าให้ทุกอย่างต้องหยุด ที่เห็นชัดคือผมจะร่วง และผลการรักษายังไม่ชี้แน่ชัดว่าจะหายเพราะคีโมให้กับตับอ่อนและตับไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ ไม่ยอมครับไม่ยอมบอกเลยต้องมีทางอื่นอีกสิ เอาละลางานมาค้นหางานวิจัยต่างๆ มาหาสถานที่รักษา หาไปๆ มาๆ พบว่ามีการรักษาแบบใหม่เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่ให้แต่คีโมอย่างเดียวและยังรักษามะเร็งในระยะสุดท้ายได้อีกด้วย สนใจๆ เลยตัดสินใจไปฟังแนวทางกันรักษากับแพทย์ ถามว่าทำไมตัดสินใจไป เพราะจากการดูหลายๆ เคสที่ได้รับการรักษาผลที่ออกมาดีมากและมากกว่านั้นหายจากมะเร็ง ขอพูดถึงโรงพยาบาลที่พบเจอและได้รับการชี้นำแนวทางนะครับคือ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เลยไปพบแพทย์ที่เป็นคนจีนเลยเข้าไปปรึกษาหาแนวทางกับแพทย์แถวดินแดง แพทย์ใจดีมากพูดคุยกันพักใหญ่จึงได้แนวทางคือ ก้อนที่ตับอ่อนนั้นจะรักษาแบบฉีดคีโมเฉพาะจุดโดยไม่เหมือนการให้แบบดั้งเดิมและที่ตับนั้นจะใช้ความเย็นในการรักษา ผมไม่รีรออะไรแล้วครับรีบกลับมาแจ้งข่าวดีให้ทางบ้านและหางบที่จะไปรักษาที่ประเทศจีนซึ่งงบก็เลยครึ่งล้านครับ เครียดครับตอนนี้จะหาจากใหน ยังโชคดีหน่อยหน่วยงานที่คุณพ่อทำงานอยู่สามารถเบิกค่ารักษาได้และที่ดีกว่านั้นเบิกได้เท่ากับค่ารักษาเลย ตอนนี้แผนต่อไปครับการขอวีซ่าการเตรียมตัวต่างๆ เพื่อไปยังโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ผมย่อๆเอานะครับเดียวถ้าถึงวันแรกที่จะเข้ารักษาจะมาเล่าต่อนะครับ ตอนนี้ขอไปหาทุนเพื่อเป็นส่วนต่างในการใช้จ่ายนอกจากค่ารักษาครับ
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
เมื่อคุณพ่อเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
ขอเริ่มเล่าตั้งแต่ต้น คุณพ่ออายุ56 ปีแล้ว ในช่วงแรกที่อายุ56ปีเริ่มมีอาการไอผิดปกติ ไอแบบไอไม่หยุดไม่ว่าจะด้วยยาอะไร ไอเหมือนเป็นวัณโรคไปตรวจปอดก็ปกติทุกอย่าง ได้รับยาแก้ไอมาเหมือนเดิมไม่ว่าจะไปกี่ครั้ง อาการไอก็เป็นมาเกือบปี อาการต่อมาที่พบคือเริ่มมีอาการจุกแน่นหน้าอกเป็นเหมือนกรดใหลย้อน ไปพบหมอก็ได้ยาลดกรดมา เป็นแบบนี้ประจำ สรุปตอนนั้นมีสองอาการแสดงแล้วคือไอไม่หยุด กับอาการเหมือนกรดใหลย้อน ต่อมาเมื่อกลางปี 61 เริ่มมีอาหารไม่ย่อยท้องอึดอย่างบอกสาเหตุไม่ได้เลย ก็เลยแนะนำให้คุณพ่อพบหมอด่วน CT ดูว่าเป็นอะไร แต่แล้ว!!!!ช่วงต้นเดือนกันยายน 61 วันที่ทุกคนไม่อยากเจอไม่อยากได้ยินจากหมอก็มาถึง ผลที่ตรวจ พบว่ามีก้อนเนื้อขนาด 4.0x3.2 cm ที่ตับอ่อนและยังพบมีจุดดำๆที่ตับอีกหลายจุด ขนาด0.9 cm ซึ่งวันแรกที่พบหมอบอกเลยน่าจะเป็นมะเร็งแต่ไม่รู้ชนิดใหนและอยู่ระยะที่เท่าไหร่ ให้ทำการนัดมาส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ให้ทำการงดน้ำงดอาหารก่อนเข้าห้องผ่าตัด เมื่อถึงวันนัดคุณพ่อก็ได้เข้าไปส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อที่ตับอ่อน ตอนกลับออกมาจากห้องผ่าตัดมีแผลสามจุดที่ท้อง และกลับมารอฟังผลอีก7วัน ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอว่าผลที่ออกมาอย่ารุนแรงเลย และแล้ววันที่มาฟังผลก็มาถึงคุณพ่อและคุณแม่เข้าไปฟังผล คำถามแรกที่หมอถามคือ รับได้ไหมถ้าหมอจะพูด คุณพ่อบอกว่ารับได้ หมอเลยแจ้งว่าก้อนเนื้อเป็นเนื้อร้าย ชนิด Adenocarcinoma ที่ตับอ่อนอยู่ในระยะสุดท้ายและมีการลุกลามไปที่ตับ มีชีวิตอยู่ได้อีก 8 เดือน ถ้ารับการรักษาด้วยคีโม อาจอยู่ได้นานขึ้น แต่ที่ตับอ่อนการให้คีโมจะไม่ค่อยตอบสนอง นั้นแหละครับจากคำที่พ่อกับแม่เล่ามา คำถามแรกเลยที่ผมคิดได้ คีโมคือการหยุดการเติบโตของเซลล์ถ้าให้ทุกอย่างต้องหยุด ที่เห็นชัดคือผมจะร่วง และผลการรักษายังไม่ชี้แน่ชัดว่าจะหายเพราะคีโมให้กับตับอ่อนและตับไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ ไม่ยอมครับไม่ยอมบอกเลยต้องมีทางอื่นอีกสิ เอาละลางานมาค้นหางานวิจัยต่างๆ มาหาสถานที่รักษา หาไปๆ มาๆ พบว่ามีการรักษาแบบใหม่เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่ให้แต่คีโมอย่างเดียวและยังรักษามะเร็งในระยะสุดท้ายได้อีกด้วย สนใจๆ เลยตัดสินใจไปฟังแนวทางกันรักษากับแพทย์ ถามว่าทำไมตัดสินใจไป เพราะจากการดูหลายๆ เคสที่ได้รับการรักษาผลที่ออกมาดีมากและมากกว่านั้นหายจากมะเร็ง ขอพูดถึงโรงพยาบาลที่พบเจอและได้รับการชี้นำแนวทางนะครับคือ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เลยไปพบแพทย์ที่เป็นคนจีนเลยเข้าไปปรึกษาหาแนวทางกับแพทย์แถวดินแดง แพทย์ใจดีมากพูดคุยกันพักใหญ่จึงได้แนวทางคือ ก้อนที่ตับอ่อนนั้นจะรักษาแบบฉีดคีโมเฉพาะจุดโดยไม่เหมือนการให้แบบดั้งเดิมและที่ตับนั้นจะใช้ความเย็นในการรักษา ผมไม่รีรออะไรแล้วครับรีบกลับมาแจ้งข่าวดีให้ทางบ้านและหางบที่จะไปรักษาที่ประเทศจีนซึ่งงบก็เลยครึ่งล้านครับ เครียดครับตอนนี้จะหาจากใหน ยังโชคดีหน่อยหน่วยงานที่คุณพ่อทำงานอยู่สามารถเบิกค่ารักษาได้และที่ดีกว่านั้นเบิกได้เท่ากับค่ารักษาเลย ตอนนี้แผนต่อไปครับการขอวีซ่าการเตรียมตัวต่างๆ เพื่อไปยังโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ผมย่อๆเอานะครับเดียวถ้าถึงวันแรกที่จะเข้ารักษาจะมาเล่าต่อนะครับ ตอนนี้ขอไปหาทุนเพื่อเป็นส่วนต่างในการใช้จ่ายนอกจากค่ารักษาครับ