นาขั้นบันได


เมื่อปีที่แล้วช่วงฤดูฝน “วิน” ชายหนุ่มโสดที่มีอายุประมาณ 30กลางๆ เป็นคนชื่นชอบการท่องเที่ยวในวันหยุด คือเป็นคนอยู่ไม่ติดบ้าน วันหยุดปุ๊บต้องออกไปท่องเที่ยวทันที เพราะด้วยความที่เป็นคนโสดแล้วไม่คิดจะหาคู่ครองซะด้วย อยู่บ้านมันก็เลยเบื่อ วินจึงหาข้อมูลการท่องเที่ยวตามเวปต่างๆ แล้วก็ไปสะดุดตรงหัวข้อ “นาขั้นบันได” ที่ จ.เชียงใหม่ อ่านๆดูรีวิวแล้ววินสนใจมาก เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน คนก็จะไม่ค่อยมาเที่ยวเพราะมันค่อนข้างลำบาก ราคาที่พักก็จะถูกลง วินตัดสินใจจองห้องพักทันที

รุ่งเช้าวันถัดมา วิน ออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มุ่งหน้าไปเชียงใหม่ ไปถึงช่วงบ่ายๆ ก็ไปติดต่อเช็คอินแล้วเก็บของเข้าบ้านพัก บ้านพักที่วินจองไว้จะเป็นกระท่อมซะมากกว่า คล้ายๆกับเถียงนานั่นแหละ ขนาดเล็กๆ หลังคามุงด้วยหญ้าคา ตัวกระท่อมทำจากไม้ไผ่ รอบๆกระท่อมจะรายล้อมไปด้วยนาข้าวแบบขั้นบันได ที่ปลูกกันในภาคเหนือ

เป็นไปตามที่วินคาดการณ์เอาไว้ มีลูกค้ามาพักแค่ 2-3 หลังเอง แต่ละหลังอยู่ห่างกันประมาณ 40 เมตร หลังจากวินเก็บของเข้าที่พักเสร็จก็ล้มตัวลงนอนบนที่นอน พร้อมกับชมวิวภูเขา นาข้าว จากหน้าต่างที่อยู่ปลายเตียง ลมเย็นๆพัดอยู่ตลอดเวลา วินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและปลดปล่อยออกมาอย่างสบายใจ แล้วก็เริ่มเคลิ้ม แล้วเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการขับรถ

1 ช.ม.ต่อมาวินก็สะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงฝนตกเบาๆ เม็ดฝนกระทบกับหญ้าคาซึ่งไม่คุ้นหู วินจึงตื่นทันที พร้อมกับนั่งมองฝนตกอยู่ริมหน้าต่าง

“อะไรจะฟินขนาดนี้” วินพูดกับตัวเอง

สักพักฝนก็หยุดตก วินจึงออกไปเดินเล่น เพื่อจะถ่ายรูปลงเฟซอวดเพื่อนๆที่ไม่ได้มา เพราะมัวทำแต่งาน วินก็เดินเลาะๆไปตามคันนาที่ออกจะเดินลำบากหน่อย ถ้าเดินไม่ดีก็หน้าขม่ำได้ง่ายๆ เดินเที่ยวไป ถ่ายรูปไป วินก็หยุดชะงักเพราะสายตาไปสะดุดกับบางอย่างเข้า

“น้อง! คืนนี้ฝนจะตกทั้งคืน ไม่จำเป็นอย่าออกจะที่พักล่ะ” ลุงปริศนาแต่งตัวเหมือนชาวนา

“ครับ” วินตอบ

แล้วลุงแกก็แบกจอบเดินลงเขาไป ส่วนวินก็เที่ยวถ่ายรูปไปเรื่อยจนเริ่มมืด ก็เดินกลับกระท่อม พอถึงกระท่อมวินก็เห็นสำรับข้าววางอยู่หน้าประตูพร้อมตะเกียงเทียนวางอยู่ข้างๆ เจ้าของที่พักคงยกมาให้แต่ไม่เจอวินเลยวางไว้ตรงนี้แทน วินก็เลยจัดการนั่งกินข้าวตรงนี้ซะเลย เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำแล้วมานั่งชมดาวอยู่ตรงบันได ชมดาวไปสักพักวินก็เกิดความคิดว่าน่าจะมีที่ๆเห็นดาวชัดกว่านี้ จะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ จึงกวาดสายตาไปรอบๆก็ไปเจอกระท่อมนึงเข้า อยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตรได้ มีแสงไฟริบรี่

ตอนนี้เวลาประมาณ 4 ทุ่มฝนไม่ตกจึงไม่ได้สนใจคำที่ลุงปริศนาพูดเมื่อตอนเยน วินก็เดินเลาะคันนาไปจนถึงกระท่อมที่ว่า แต่สังเกตดูว่ากระท่อมนี้มันร้างๆเหมือนไม่ใช่ที่พัก แล้วข้างในมืดมาก แปลกที่เมื่อกี้ยังเห็นแสงไฟอยู่เลย วินมองส่องๆเข้าไปในกระท่อม เห็นหลังคาเป็นรูขนาดใหญ่ วินก็เดินขึ้นไปบนกระท่อมมีเก้าอี้เก่าอยู่ตัวนึง วินก็ขึ้นยืนบนเก้าอี้แล้วส่องกล้องผ่านรูหลังคา แล้วถ่ายรูปรัวๆ ถ่ายหลายๆมุม จนพอใจแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ขึ้นไปยืนเมื่อกี้ นั่งดูรูปที่ถ่ายจากกล้อง

ถ่ายรูปมาเยอะมาก วินก็เลื่อนๆดูไปเรื่อยๆ สักพักวินก็รู้สึกเย็นๆรอบๆตัว แล้วลมก็เริ่มพัดผ่านมา วินรู้สึกวูปไปดื้อๆ รู้สึกตัวอีกทีคือตัวเองลงไปนอนอยู่หน้าประตู แล้วได้ยินเสียงกุกๆกักๆ วินจึงค่อยๆหันหน้าไปมอง ก็เห็นชายสูงอายุคนนึงนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังหยิบกล้องของวินมาเปิดเล่นแล้วกดถ่ายภาพไปรัวๆในห้อง วินได้แต่นอนนิ่งเพราะขยับตัวไม่ได้ รู้เลยว่าไม่ใช่คนแน่ๆ วินจึงตั้งสติแล้วสวดมนต์ในใจ สวดไปสักพักวินลืมตาขึ้น เห็นชายสูงอายุยืนถือกล้องทำหน้าโกรธใส่

“เข้ามาในที่ของกูไม่พอ ยังจะมาไล่กูอีก” ชายสูงอายุตะคอกใส่วิน

วินหลับตาปี๋ สวดมนต์ต่อในใจแล้วพยายามดิ้นๆๆๆ แล้วก็หลุด วินลุกขึ้นนั่งเหงื่อไหลเต็มตัว หันไปมองที่เก้าอี้ไม่เจอชายสูงอายุแล้ว จึงหยิบกล้องแล้วรีบเดินออกกระท่อมไป เดินลิ่วๆไปที่กระท่อมตัวเอง ไปถึงก็เข้าห้องนอนปิดประตูหน้าต่าง แล้วนอนคลุมโปง ในใจก็ยังกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จะทำอะไรได้ต้องรอให้เช้าเสียก่อนเท่านั้น

ตกดึกเวลาประมาณ ตี 2 กว่าๆ วินสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเหมือนมีคนมานอนกลิ้งไปมาๆอยู่หน้าประตู วินก็ไม่กล้าลุกออกไปดู คิดว่าคงไม่ใช่คนอีกแน่ๆ เสียงการลงน้ำหนักไปที่แผ่นไม้ไผ่หน้ากระท่อมดังเปรี๊ยะๆ ดังมาเป็นระยะๆ แล้วก็มีเสียงคนเดินมาไกลๆเดินตรงมาที่กระท่อมของวิน เสียงเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งเข้ามาใกล้วินก็เห็นแสงตะเกียงจากนอกกระท่อมส่องแสงนำทางมาด้วย พอเสียงมาถึงกระท่อมก็หยุดพร้อมกับเสียงตะเกียงยังส่องผ่านรูเล็กๆของกระท่อม

“ไอ้คำ! ตรงนี้เขตที่ของกูเด้อ อย่าล้ำเข้ามาเด้อ กลับไปอยู่ที่ของไป” เสียงเจ้าของที่พักดังขึ้นข้างๆกระท่อม วินจำเสียงได้

สิ้นเสียงเจ้าของที่พัก เสียงที่อยู่หน้าประตูของวินก็ค่อยๆจางหายไป วินจึงค่อยๆลุกขึ้นส่องดูตรงช่องว่างไม้ไผ่ เห็นลุงเจ้าของกำลังเดินถือตะเกียงส่องทางกลับไปแล้ว วินถอนหายใจชุดใหญ่ เสียงหน้าประตูเมื่อกี้คงเป็นเสียงผีที่กระท่อมร้างนั่นแน่ๆ

“ตามกูมาทำไมวะ” วินคิดในใจ แล้วกลับไปนอนต่อ

ปังๆๆๆ (เสียงเคาะประตู)

“อาหารเช้ามาส่งแล้วครับ”

วินรีบลุกไปเปิดประตู ก็เจอเจ้าของที่พักเอาสำรับข้าวมาส่งให้

“ลุงลืมบอกไปว่าพ้นคันนาด้านนี้ไปไม่ใช่ที่ของลุงนะ เป็นที่ของตาคำ แกตายไปได้ 4-5ปีแล้ว”

วินบอกรูปร่างของลุงที่เจอเมื่อตอนเย็นเมื่อวาน ลุงเจ้าของก็บอกว่า ใช่แล้วชัดเจนเลย

หลังจากวินกินข้าวเสร็จก็ไปเช็คเอ้ากลับบ้าน

“วิน! ถ่ายรูปอะไรของนิ ในกระท่อม”

“ แล้วไปนอนทำไรตรงนั้น”

“แล้วรูปในกระท่อมนี้ใครถ่ายให้วะ ถ่ายติดตอนนอนหน้าประตูมืดๆนิ” พ่อยิงคำถามใส่วินเมื่อเปิดกล้องของวิน

พ่อจะไปรู้อะไรว่าผมเจออะไรมาบ้าง นอก จากรูปนาขั้นบันไดสวยๆ กับกลุ่มดาวสวยๆ หึหึ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่