เราขอแชร์ประสบการณ์ของเราเพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ

เรากับแฟนอายุเท่ากัน เมื่อก่อนตอนคบกัน แฟนทำงานเงินเดือน 13,000 บาทเป็นลูกจ้างราชการ
เค้าบอกเราว่า  อาชีพนี้มันก็ดีนะ  ข้าราชการอ่ะ ถ้าบรรจุได้ ถึงแม้เงินเดือนไม่มาก แต่มันมั่นคงเวลาเจ็บป่วย ลูกเมีย พ่อแม่เบิกได้หมด

แต่.....  ก่อนที่แกจะมีเมียอ่ะ ...  แกต้องหาเงินมาขอเมีย ... ก่อนที่พ่อแม่แกจะเจ็บป่วย ... พ่อแม่แกต้องมีกินก่อนนะคะ

ราชการมันดี  แต่ด้วยที่จนเป็นทุนเดิม  และแฟนเราเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่โกงกิน  ไม่มีทางรวยหรอกคะ

เราเลยพิจารณาก่อนเลยว่า  ผู้ชายคนนี้   มีดีตรงไหน  ดียังไง  ข้อเสียอะไรบ้าง ด้วยเราโตแล้วเราพิจารณาโดยใช้ความรัก 50  สมอง 50  รักอย่างเดียวกินไม่ได้คะ  

เมื่อพิจารณาแล้ว ข้อดีที่สุดของแฟนเรา คือเค้าเป็นคนเก่ง  และเราอยากได้สามีเป็นคนเก่งและซื่อสัตย์
เราเลยส่งเสริม  กระตุ้น พยายามหางานที่ดีกว่าข้าราชการ .... เรามุ่งเป้าาไปที่ รัฐวิสาหกิจ  เงินดี  สวัสดิการดี มีโบนัส เราชอบบบ
เราช่วยหาข่าวการสอบ   เราช่วยติวข้อสอบ   เรากระตุ้นให้แฟนอ่านหนังสือ  ในที่สุดก็สอบได้บรรจุทำงานรัฐวิสาหกิจ

ตอนแรกเป็นลูกจ้างราชการ เราก็คิดเรื่องแต่งงาน แต่แฟนบอกขอบรรจุก่อนนะ จะได้เก็บเงิน  คือตอนนั้น เราก็เข้าใจนะ เพราะเงินเดือนเค้าก็น้อยจริงๆ  แต่พอตอนนี้ทำงานรัฐวิสาหกิจ เงินเดือนเพิ่มขึ้น + ค่าเสี่ยงภัยใน 3 จ.ชายแดนใต้ด้วยก็พอจะเก็บได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร  รายจ่ายดูแลพ่อแม่ก็เยอะ  กยศ ก็ต้องจ่าย  แต่เค้าก็จริงจังกับการเก็บเงินแต่งงานมาก  เค้าบริหารจัดการเรื่องเงินดีมาก  ดีกว่าเราอีก  เพราะเป้าหมายของเค้า คือ อยากแต่งงานแล้ว .....

ประเด็นที่จะบอก  คือ  ถ้าแฟนเงินไม่พอ  ก็บอกให้เปลี่ยนงาน  ถ้าเราจะใช้ชีวิตร่วมกับเค้า เราก็ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เค้า และพยายามให้เค้าได้ในสิ่งนั้น  ปัญหามีไว้แก้นะคุณ .... ถ้าถึงขั้นจะแต่งงานปัญหาของเค้า ก็คือปัญหาของเรา  เราควรมีสิทธิ์ช่วยเค้าแก้ปัญหาได้



ถ้าคุณจะเลือกคนนี้   คุณควร คนนั่ง list ข้อดี  ไว้เพื่อเป็นความรัก ไว้หล่อเลี้ยงจิตใจคุณ และจงรักในข้อดีของเค้า
จากนั้น ก็ list ข้อเสีย แล้วพิจารณาว่า เราจะยอมรับข้อเสียต่างๆนี้ได้ไหม ถ้าไม่ได้ตรงไหน ลองคุยกับเค้าก่อน ว่าปรับหน่อย หรือ อย่างเช่นเราเป็นคนพูดตรงๆ  ตรงไหนไม่โอเค  ก็บอกไป  ต้องปรับหรือมีปัญหาก็ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้  เค้ายอมปรับได้มากน้อยแค่ไหน ต้องคุยกัน ..  แต่ไม่มีใครปรับทุกอย่างได้ตามใจเราหรอก  บางอย่างเราก็ต้องเลือกที่จะยอมรับ แล้วก็ปล่อยให้มันเป็นไป  ถ้าคุณรับไม่ได้ ก็เดินออกมาจากชีวิตเค้าเหอะคะ  เพราะอยู่ไปก็ไม่มีความสุข

(เราคิดว่า ถ้าถึงขั้นจะแต่งงานกัน เราควรมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการเรื่องเงินของเค้าได้นะ  แต่ถ้าพูดไม่ได้เลย ..... ทุกอย่างเป็นเรื่องของเค้าหมด .... ก็ไม่โอเคนะ ...เพราะถึงขั้นจะใช้ชีวิตด้วยกัน ช่วยกันคิดไม่ได้  พูดอะไรไม่ได้ แล้วแต่งไปจะเป็นยังไง )

ปล. คุณเคยถามเค้า หรือ คุณเคยพิจารณาดูแฟนคุณหรือยัง  ว่าเค้าพร้อมจะแต่งงานกับคุณจริงหรือเปล่า เพราะแฟนเราบอกว่า ถ้าคนมันตั้งใจอยากแต่งงาน เค้าจะพยามทุกอย่าง ... เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตกับคนที่เค้ารัก