[CR] Work and Travel ไปติดเกาะที่ MAUI,HAWAII 2018 !

A L O H A


        สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การไป WAT 2018 ก่อนอื่นเลยต้องบอกจุดประสงค์ในการไป WAT ของเราก่อน หลายๆคนเลยที่ไปแล้ว ทำงานงกๆ เก็บเงินๆๆ แล้วค่อยเที่ยวหลังจบโครงการ แถมยังมีเงินก้อนกลับไปคืนพ่อแม่อีก แต่สำหรับเรา ไม่ค่ะ ! เราไปแบบทางสายกลาง (จริงๆคือขี้เกียจ) ทำงานตามชั่วโมงที่เค้าให้ ไม่หา second job ใดๆ เที่ยวเล่นเริงระบำในยามว่าง เอ็นจอยกับสิ่งสวยๆงามๆและธรรมชาติคูลๆบนเกาะ ไม่มีการอดมื้อกินมื้อกัดก้อนเกลือกินแต่อย่างใด เรามาแบบสนุกๆใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่าที่ฮาวาย! [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


การเตรียมตัว

        รัฐที่เราอยากไปจริงๆคือ Hawaii อย่างเดียวเลย ซึ่งเกาะที่มีให้ไป WAT มีอยู่ 3 เกาะด้วยกัน คือ Oahu, Maui, Kauai แต่เราอยากไป Maui ที่สุด เพราะอ่านกระทู้รีวิวของพี่เฟิร์น https://ppantip.com/topic/36867696 แล้วอินมากเลยอยากตามพี่เฟินไป ถ้าพี่เฟินมาเห็นก็ขอบคุณด้วยนะคะ 55555555 อีกส่วนนึงคือเพราะเราศึกษามาพอสมควรแล้วรู้สึกว่าเกาะ Oahu ค่อนข้างจะเป็น city ไปนิดแล้วเกาะ Kauai ก็มีความ jungleๆ ทะเลๆ  สายเขียวจ๋าไปหน่อย แต่ว่าเกาะ Maui พอดีสำหรับเราคือไม่ได้เป็น city จ๋าและยังมีความธรรมชาติสวยๆงามๆให้เห็นอยู่ เราเลยตัดสินใจไป Maui การหาเอเจนซี่ก็ง่ายมาก เท่าที่เรานั่งเสิร์ชๆคลำๆเอาจากกูเกิ้ล มี 2 เอเจนซี่ที่มีงานที่ Maui ให้เลือกคือ American learning กับ Acadex

- American learning
        งานของเอเจนซี่นี้คือไปเป็น Housekeeper ที่โรงแรม Westin ซึ่งเราเองก็ไม่ใช่แม่ศรีเรือน ทำอะไรงกๆเงิ่นๆ ทำงานบ้านไม่ค่อยจะเป็น เอเจนซี่นี้เลยปิ๋วไป 5555555
- Acadex
      ของ Acadex คือทำงานในร้าน Fast food ที่ Mcdonald’s สำหรับเรารวมๆแล้วเราชอบมากกว่า Housekeeping เราเลยเออ เอาวะ จริงๆอยู่ไทยก็ไม่ได้ชอบกินแมคเท่าไหร่แต่ลองดูสักหน่อยละกัน

      หลังจากนั้นไม่กี่วันเรากับเพื่อนก็เข้าไปคุยที่เอเจนซี่เลย ไปคุยกับพี่ๆ staff พี่ๆก็ให้คำปรึกษาดีมาก แต่ไปๆมาๆ อ้าววววววววว เพื่อนไม่ไปด้วยจ้า พวกนางดันไปเจองานอื่นที่น่าไปกว่าเลยทิ้งเราไว้กลางทาง แต่ด้วยความที่เราหมกมุ่นกับเกาะ Maui นั่งดูรูปที่เที่ยวที่กินเกี่ยวกับฮาวายมาตั้งนานสองนาน เลยตัดสินใจฉายเดี่ยวไปคนเดียวซะเลย  หลังจากนั้นก็เตรียมตัวจ่ายค่ามัดจำ จ่ายค่าโครงการ ทดสอบระดับภาษา ไปสัมภาษณ์กับนายหน้า (นายจ้างบินมาสัมภาษณ์ที่ไทยเลย เรียกเข้าห้องไปสัมภาษณ์ทีละ 5 คน ถามเรื่อยเปื่อยจิปาถะ ชื่ออะไร? เรียนอยู่ที่ไหน? งานอดิเรกคืออะไร? ทำไมอยากไปฮาวาย? ทำไมอยากทำแมคโดนัล? ไม่ยากค่ะ) แล้วก็มีไปฟังปฐมนิเทศเกี่ยวกับโครงการประมาณ 2 ครั้ง รวมๆแล้ว ค่าใช้จ่าย ค่าโครงการ ค่าจิปาถะ ต่างๆนาๆ ทำวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน ทำนู่นทำนี่ รวมๆเป็นเลขกลมๆ ประมาณ 120,000 บาท ไม่รวม pocket money

      ของที่เราเอาไปก็จะเน้นเป็นอาหารซะส่วนใหญ่ ทั้งมาม่า โจ๊ก โรซ่าพร้อมทาน ผงต้มยำ แบกไปให้หมด ส่วนเสื้อผ้าของใช้เอาไปนิดหน่อย มีของฝากจากไทยไปให้เพื่อนร่วมงานพอหอมปากหอมคอ


ออกเดินทาง



      ครั้งนี้เป็นการบินเดี่ยวครั้งแรกของเราเลย เราจองตั๋วไปกับเอเจนซี่ แล้วไฟล์ทที่ได้เป็นไฟล์ทมหาโหดมากๆเพราะเห็นแก่ตั๋วถูก เราต้อง transit ที่จีนประมาณ 2 รอบ ไปต่อเครื่องบินข้ามเกาะที่ honolulu อีกหนึ่งรอบ  (ไม่กล้าโชว์ itinerary เลย กลัวโดนบูลลี่ว่าจองตั๋วโง่ 55555555) สายการบินที่เลือกสรรคือ China Eastern Airlines ( เพราะถูก ) ขอบอกเป็นวิทยาทาน ณ ที่นี้เลยนะคะ อย่าบินสายการบินนี้! ถูกก็จริง แต่!! ดีเลย์เก่ง พูดจีนกันเก่ง แอร์ก็ไม่ค่อยพูดอังกฤษ อาหารก็เอ๊ออออ เนอะ ไม่พูดถึงนะ เลี่ยงได้เลี่ยงค่า


ถึงเมาวี


        หลังจากไฟล์ทมหาโหดของเราที่ใช้เวลาเดินทางไปเกือบ 1 วันเต็มๆ เราก็มาถึงสะที Maui! คุ้มค่ากะการบินมากๆ! พอไปถึงเราก็โบกแท็กซี่ไปร้านที่นายจ้างนัดไว้หลังจากนั้นนายจ้างก็พาเราไปส่งบ้าน
        แมคที่เกาะเมาวีมีหลายสาขาขึ้นอยู่กับว่านายจ้างจะrandomเราไปสาขาไหน สาขาที่เราได้ทำคือ Town Center, Eha Street [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


       ส่วนบ้านที่เราได้เป็นบ้านที่อยู่กับโฮส ได้อยู่กับเพื่อนคนไทยอีกหนึ่งคน ค่าบ้านเดือนละ $325 ไม่มีมัดจำ ถือว่าค่อนข้างถูกแต่ก็แลกมากับบ้านที่เล็กมากๆ ข้อดีคือบ้านใกล้สาขามากๆเดินแค่ 4 นาทีสวยๆถึงที่ทำงาน


      หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ไปตรวจ TB test (ตรวจวัณโรค) รอผล แล้วรอนายจ้างเรียกไปทำงาน


      นายจ้างจะพาเราไปตรวจ TB test ที่คลีนิค การตรวจเป็นการตรวจแบบ skin test โดยจนท.จะฉีดเชื้อวัณโรค (นิ๊ดดเดียว) ที่ท้องแขนเรา แล้วรอดูผลประมาณ 2-3 วัน ถ้าไม่มีตุ่มขึ้นแขน แผลเรียบเนียนเหมือนในภาพ คือเป็น Negative แปลว่าผ่านจ้า

      ตอนนั้นเราว่างเกือบ 1 อาทิตย์ เลยนั่งรถเล่นสำรวจเมืองไปเรื่อยๆ ย่านที่เราอยู่คือ Wailuku เดินทางค่อนข้างง่าย มีซุปเปอร์มาเก็ตกับห้างให้ซื้อของในระแวกใกล้ๆ Walmart, Ross, Target, Tj Maxx, Foodland, Safeway, Costco รวมๆคือครบ นี่คือรูปบรรยากาศแถวๆบ้านเรา



ทำงาน


        หลักจากมาทำงานจริงๆแล้วพบว่างานแมคโคตรหนัก หนักมาก แต่สนุก 555555555 (กรุณาอ่านด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น) งานแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ Front กับ Back ส่วนมากจะสลับ role ไปเรื่อยๆทุกวัน เพราะฉะนั้นจะได้ทำเกือบทุกอย่างในแมคแน่นอน ในส่วนนี้ขออธิบายละเอียดหน่อยเผื่อมีใครสนใจอยากไปทำแมค อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า

- Front จะมี
     Cashier: คิดเงินตั่งต่าง เหมือนที่เราเห็นตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
     Runner: คนรันออเดอร์ให้ passer ของ drive thru กับ cashier ในร้าน กล่าวคือ เป็นคนหยิบเบอร์เกอร์ ตักเฟรนซ์ฟราย แล้วยัดทั้งหมดใส่ถุงจัดแจงอย่างสวยงามแล้วยื่นให้กับ passer กับ cashier เพื่อให้คนเหล่านั้นส่งของให้ลูกค้า (โดยปกติแล้วร้านแมคในจินตนาการเราควรจะมี runner สัก 2 คนเพื่อรันให้ทั้งทาง drive thru กับทางลูกค้าในร้าน แต่บนพื้นฐานความจริงร้านแมคจะขาดคนทำให้ runner ต้องรันทุกอย่างเองหมด วิกฤตเว่อ ฉะนั้นคนที่ทำ runner ควรเป็นคนที่ทำอะไรไว กระฉับกระเฉงพอสมควร)
     Passer: คนยื่นออเดอร์ (ที่ runner จัดแจงไว้ให้เสร็จสรรพ) ให้กับลูกค้าที่ขับรถผ่านมาตรงหน้าต่าง เอาจริงๆคือแทบไม่ต้องทำไรเล๊ย สบายสุดแล้วชั้นชอบ

- Back หรือทำในครัว อันนี้ขอเขียนคร่าวๆ หนูไม่มีความรู้พอ หนูทำแต่ front 5555555
     คน Grill: ย่างเนื้อ ทอดเบคอน เอาเป็นว่าทำเนื้อสัตว์ทั้งหลายให้สุก เสร็จแล้วเอาเนื้อสัตว์ทั้งหลายไปให้ prep เอาไปทำเบอร์เกอร์ต่อ
     Prep: drop ขนมปัง คีบเนื้อคีบผักมาใส่หนมปังทำเบอร์เกอร์แล้วสไลด์ไปให้ runner จัดใส่ถุง
ทั้งนี้คนในครัวทั้งหลายต้องช่วยๆกันตุนของ แบกเนื้อแบกเฟรนซ์ฟรายจากห้องเย็นมาเก็บไว้ให้ทันใช้งาน

- อื่นๆ
     Take order จาก drive thru: ใส่ headset คุยกับลูกค้าทาง drive thru รับออเดอร์ด้วยทอนเงินด้วย ต้องแยกประสาทดีๆ ถือเป็นอะไรที่โหดหินที่สุด ฟังยากมาก เพราะบางครั้งก็ได้ยินเสียงจาก headset ไม่ชัด แถมบางทีเจอลูกค้าเหวี่ยงใส่อีก หลายๆคนจะเกี่ยงกันไม่ยอมทำงานนี้ แต่ถ้าบอกเมเนเจอร์ว่าไม่อยากทำเค้าก็ไม่ให้ทำนะ

        เวลาทำงานจะไม่ค่อยฟิค เค้าจะเอาเด็กไทยไปเติมในช่วงที่ร้านเค้าขาดคน (อ่านด้วยน้ำเสียงสะอื้นอีกครั้ง) เรทที่เราได้ต่อชั่วโมงคือ $10.10 / overtime $15.50 (ปี2018) ส่วนเวลาที่ทำงานก็จะมี open คือเปิดร้าน เตรียมของ ทำตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนเราเคยได้ทำตี 5 บ้าง 6 โมงบ้าง, เวลาปกติสามัญชน เริ่มงาน 11 โมง เที่ยง ว่ากันไป, closing เริ่มทำบ่าย 2-3 ทำยันปิดร้าน ช่วยเค้าปิดร้าน ล้างจานกวาดพื้นถูพื้น แต่แมคบางสาขาจะมีกะ graveyard คือทำงาน 5 ทุ่ม - 8 โมงเช้าของอีกวัน เหมาะสำหรับคนอึดถึกทนชอบโต้รุ่ง ซึ่งกะนี้จะได้เงินเยอะเป็นพิเศษคือ $11 และลูกค้าก็จะน้อยๆหน่อย ถ้าใครอยาก make money ลองถามดูนะคะว่าที่ร้านมีกะนี้มั้ย ส่วนมากกะนี้จะขาดคนเพราะทุกคนอยากนอน 5555555555555 ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกกะส่วนมากจะได้ทำกันวันละ 8 ชั่วโมงกันไปกรุบๆบวกลบแล้วแต่คน ส่วนเรานั้นมีกรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน ได้ทำแต่ตอนกลางคืนคือ closing กับ graveyard ข้อดีคือได้เงินเยอะกว่าคนอื่นนิดหน่อย ได้ paycheck ครั้งละประมาณ 670-750 เหรียญ (2 วีคออก 1 ครั้ง) เพื่อนรวมงานมีตั้งแต่เด็กเอ๊าะๆยันรุ่นคุณยาย ส่วนมากจะเป็นคนเอเชีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ทุกคนใจดีเฟรนลี่ พยายาม make friend ซึ่งเราชอบมากกกกกกกกกกกก เพราะบางทีเค้าชอบชวนไปเที่ยวตอนวัน day off 555555 เมเนเจอร์ก็มีทั้งดีบ้างไม่ดีบ้างปนๆกันไป คนที่ดีก็ดีไป คนที่ไม่ดีก็ถือว่าเราได้มาฝึกความอดทนทำงานกับคนอื่นละกันเนอะ


      ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการทำแมคโดนัลก็คือเราจะกินได้กินอาหารฟรี 1 มื้อในกะซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมากๆ แถมไม่ต้องทำกินเองอีกต่างหาก แต่กินนานๆเข้าก็เริ่มเบื่อ เอียนเบอร์เกอร์ เอียนแมค เห็นคนถือแก้วแมคเดินผ่านแล้วขนลุก 55555555


       ตามกฎแล้วแมคจะไม่ให้พนง.สั่งอาหารบางอย่างในมื้อ เช่นพวก McCafe หรือเมนูอื่นๆที่เป็น deluxe แต่ถ้าเจอเมเนเจอร์ใจดีก็ลองขอดู


การเดินทาง

        มีบัส (เกือบจะ) ทั่วเกาะแต่จะมาชั่วโมงละคัน ราคาเที่ยวละ $2 ถ้าซื้อ daily pass วันละ $4 หรือถ้าคนที่ต้องใช้บัสบ่อยๆจะซื้อเป็น monthly pass ใช้บัตรนักศึกษาไทยลดได้เหลือ $30 ก็คุ้ม



ชื่อสินค้า:   #Acadexthailand
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่