สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีภาพยนตร์เปิดตัวมากมายหลายเรื่อง แต่ที่สามารถทำรายได้ดีในวงกว้างนั้นมีเพียง The House with a Clock in Its Walls เท่านั้น ในขณะที่ Predator รายได้ตกเกินกว่า -60% ทั้งในและนอกบ้าน ส่วน A Simple Favor ที่เข้าฉายเป็นสัปดาห์ที่สองเช่นกันกลับไปได้สวยบนตาราง Box Office อเมริกาเหนือ ปิดท้ายด้วย The Nun ที่ยังทำรายได้ลอยละลิ่วสู่สวรรค์กับสุดสัปดาห์ที่สามในตลาดโลก
The House with a Clock in Its Walls ($35.5 ล้านเหรียญ)
ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมเรื่องนี้นับเป็นผลงานการกำกับหนังเรต PG เรื่องแรกของ Eli Roth (Hostel, The Green Inferno) ตัวภาพยนตร์เองได้รับการคาดหมายว่าจะเปิดตัวได้สวยในตลาดอเมริกาเหนือ และก็เป็นไปตามคาดโดยสามารถครองแชมป์ทำเงินเปิดตัวในบ้านไปได้ที่ประมาณ $26.9 ล้านเหรียญ มากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ $20-25 ล้านนิดหน่อย บวกกับตลาดต่างประเทศที่นำโดย Australia, Brazil, Spain, UK และ Germany อีก $8.6 ล้าน รวมแล้ว The House with a Clock in Its Walls กวาดเงินรวมทั่วโลกในสัปดาห์แรกไป $35.5 ล้านเหรียญ ก่อนที่จะทยอยเข้าฉายใน France (26 กันยายน) Russia (27 กันยายน) Japan (12 ตุลาคม) Mexico (26 ตุลาคม) และ Italy (31 ตุลาคม) ในลำดับถัดไป Eli Roth และ The House ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมทั่วไปและนักวิจารณ์ว่าสามารถผสมผสานความสนุกสนานและความตื่นเต้นลึกลับได้อย่างลงตัว และนับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของ Jack Black กับการแสดงหนังประเภทเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีต่อจาก Goosebumps และ Jumanji
The Predator ($95.0 ล้านเหรียญ)
นักล่าจากต่างดาวยังคงเดินหน้าเก็บรายได้ต่อไปแต่สถานการณ์นับว่าเลวร้ายเพราะรายได้ในบ้านสุดสัปดาห์นี้ลดลงถึง -65% ทำเงินไป $8.7 ล้าน รวม $40.4 ล้านเหรียญ ในขณะที่ตลาดต่างประเทศก็ดิ่งลงอย่างรวดเร็วสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเงินไปเพียง $15.3 ล้าน รวมทั่วโลก $95 ล้านเหรียญเท่านั้น โดยสัปดาห์นี้ทำเงินเปิดตัวใน Mexico ไปอีก $3.2 ล้าน ทั้งนี้ Predator เปิดฉายไปเกือบทั่วโลกแล้ว ตลาดใหญ่ๆเหลือเพียง France, Italy ในเดือนตุลาคม และจีนที่ยังลูกผีลูกคนเพราะจนถึงบัดนี้ยังไม่มีการยืนยันกำหนดการฉายจากผู้จัดจำหน่ายในดินแดนหลังม่านไม้ไผ่แต่อย่างใด ครั้งสุดท้ายที่แฟรนไชส์นี้ออกลุยตลาดคือในปี 2010 ซึ่ง Predators ทำเงินในบ้านไป $52 ล้านเหรียญและรวมทั่วโลก $127.2 ล้านเหรียญ แม้ Predators จะใช้ทุนสร้างเพียง $40 ล้านแต่แผลจากการขาดทุนครั้งนั้นก็ยังทำให้แฟรนไชส์นี้ชะงักไปเกือบสิบปี ในขณะที่ The Predator (2018) ฟาดทุนสร้างไปถึง $88 ล้านหากทำเงินได้แค่ระดับเดียวกับ Predators (แต่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกไม่รู้กี่ %) อาจส่งผลให้แฟรนไชส์นี้ถึงกับปิดตัวลงไปเลยก็เป็นได้
The Nun ($292.6 ล้านเหรียญ)
สุดสัปดาห์ที่สามของผีแม่ชีกับการลงสนามของตลาดหลักสุดท้ายที่เหลืออยู่ทั้งหมดคือ France, Italy, Japan, Hong Kong, South Korea, Russia ทำเงินไปอีก $35.4 ล้าน ส่วนรายได้ในบ้านไปยังมีแรงหลอนได้อีก $10.2 ล้าน ส่งผลรายได้รวมในอเมริกาเหนือทะลุ $100 ล้านไปเรียบร้อยแล้วและน่าจะจบได้ที่ $110-120 ล้าน ปัจจุบันรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ $292.6 ล้านเหรียญ ตอนนี้ The Nun ลุ้นขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดใน Conjuring Universe โดยสถิติปัจจุบัน ทำไว้โดย The Conjuring 2 ($320.3 ล้านเหรียญ)
จากผลตอบรับที่ดีของ The Nun ทำให้โอกาสต่อยอดของจักรวาล Conjuring สูงมากยิ่งขึ้นไปอีก ทั้ง Annabelle 3 ที่วางวันฉายไว้เดือนกรกฎาคม 2019 ยังมี The Conjuring 3 ที่คาดว่าจะเปิดกล้องได้ช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า รวมไปถึง The Nun 2 ที่จะมาสานต่อเรื่องราวจากจุดกำเนิดความสยองสู่ความเกี่ยวข้องกับตระกูล Warren และ The Crooked Man ที่ล้มลุกคลุกคลานมานานจะได้เดินหน้าต่อไปเสียที
A Simple Favor ($42.5 ล้านเหรียญ)
มาเงียบๆแต่คว้าเงินกลับบ้านได้เต็มกระเป๋าสำหรับ A Simple Favor ซึางรั่งตำแหน่งรองแชมป์หนังทำเงินในบ้านสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา $10.4 ล้าน ตลาดนอก $5.2 ล้าน รวม $10 ล้าน และรวมทั่วโลกแล้ว $42.5 ล้านเหรียญ
โดย Simple Favor เปิดตัวเพิ่มใน UK ($2.1 ล้าน) และ Russia ($0.7 ล้าน) และสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้มีกำหนดเข้าฉายในตลาดสำคัญอื่นๆอีก France (26 กันยายน) Brazil (27 กันยายน) Mexico, Spain (28 กันยาน)
The Meg ($516.4 ล้านเหรียญ)
ฉลามยักษ์ยังคงดุดันต่อไปแม้จะเป็นปลายโปรแกรมแล้วก็ตามแต่ยังทำเงินในบ้านอีก $2.3 ล้านเหรียญ เรียกว่าทำเงินในบ้านเกินล้านมาติดต่อกัน 7 สุดสัปดาห์เข้าให้แล้ว รายได้รวมในบ้านไปอยู่ที่ $140.5 ล้าน รวมทั่วโลก $516.4 ล้าน เป้าหมายสุดท้ายตอนนี้น่าจะอยู่ที่ $525-530 ล้านเหรียญ
Mission: Impossible-Fallout ($777.9 ล้านเหรียญ)
สร้างสถิติกันไปเรียบร้อยสำหรับ MI6 ตอนนี้ก็เดินหน้าสู่ $800 ล้านอย่างเดียว แม้โอกาสจะน้อยแต่ก็ลุ้นให้เข้าไปใกล้ๆมากที่สุด ขณะนี้ตลาดจีนเริ่มจะแผ่วลงแต่ขนาดแผ่วแล้วก็ยังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปอีก $7 ล้าน รวม $174 ล้าน รวมทั่วโลกตอนนี้ Ethan Hunt นำทีมจารกรรมรายได้ไปแล้วทั้งหมด $777.9 ล้านเหรียญ
Johnny English Strikes Again ($22.1 ล้านเหรียญ)
เปลี่ยนแนวกันมาที่สายลับสุดฮา Johnny English กันบ้าง หลังจากที่เปิดตัวเบาๆกันไปในสัปดาห์ที่แล้ว มาอาทิตย์นี้เก็บเงินเพิ่มไปอีก $17.2 ล้านจากการลงสนามใน Spain ($1.4 ล้าน) Russia ($1.7 ล้าน) Australia ($1.9 ล้าน) รวมทั้งตลาดอื่นๆอีกรวมแล้ว 27 ประเทศ ก่อนที่จะเข้าโรงในสองตลาดสำคัญ UK (5 ตุลาคม) และอเมริกาเหนือ (28 ตุลาคม)
อย่าลืมว่ารายได้หลักของ Johnny English นั่นมาจากนอกอเมริกาเหนือ โดยภาคแรก ($160.5 ล้าน) 83% ของรายได้มาจากตลาดต่างประเทศ และภาค Reborn ($160 ล้าน) นั้นรายได้จากตลาดนอกมากถึง 95%
Crazy Rich Asians ($206.4 ล้านเหรียญ)
Crazy Rich กันไปสำหรับ WB ล่าสุด Rom-com เรื่องเยี่ยมนี้ยังยืนหยัดอยู่ใน Top 5 ของตาราง Box Office ในบ้านที่ $6.5 ล้าน รวม $159.4 ล้านเหรียญ ในขณะที่ตบาดต่างประเทศก็ค่อยๆเลาะเก็บเงินไปเรื่อย ล่าสุดเปิดตัวใน Mexico และทำรายได้รวมตลาดนอกไปแล้ว $47 ล้าน รวมทั่วโลก $206.4 ล้านเหรียญ
Incredibles 2 ($1,195.1 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวในตลาดรองสุดท้ายที่ Italy และทำเงินรวมทั่วโลกไปแล้วถึง $1,195.1 ล้านใกล้เคียง $1,200 ล้านเข้าไปทุกที ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากับอีกแค่ $5 ล้านพร้อมกับตลาดสุดท้าย Germany ซึ่งจะเข้าฉายในสุดสัปดาห์นี้จะช่วยดันให้ครอบครัว Incredibles ผ่านหลักชัย $1,200 ล้านได้อย่างแน่นอน ที่เหลือให้ลุ้นก็คือรายได้ต่างประเทศนั้นจะผ่านหลัก $600 ล้านเหรียญได้หรือไม่
[BoxOffice WW] The House with a Clock in Its Walls เดินเข็ม $35 ล้าน Predator ร่วง The Nun รุ่ง Simple Favor โลด
The House with a Clock in Its Walls ($35.5 ล้านเหรียญ)
ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมเรื่องนี้นับเป็นผลงานการกำกับหนังเรต PG เรื่องแรกของ Eli Roth (Hostel, The Green Inferno) ตัวภาพยนตร์เองได้รับการคาดหมายว่าจะเปิดตัวได้สวยในตลาดอเมริกาเหนือ และก็เป็นไปตามคาดโดยสามารถครองแชมป์ทำเงินเปิดตัวในบ้านไปได้ที่ประมาณ $26.9 ล้านเหรียญ มากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ $20-25 ล้านนิดหน่อย บวกกับตลาดต่างประเทศที่นำโดย Australia, Brazil, Spain, UK และ Germany อีก $8.6 ล้าน รวมแล้ว The House with a Clock in Its Walls กวาดเงินรวมทั่วโลกในสัปดาห์แรกไป $35.5 ล้านเหรียญ ก่อนที่จะทยอยเข้าฉายใน France (26 กันยายน) Russia (27 กันยายน) Japan (12 ตุลาคม) Mexico (26 ตุลาคม) และ Italy (31 ตุลาคม) ในลำดับถัดไป Eli Roth และ The House ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมทั่วไปและนักวิจารณ์ว่าสามารถผสมผสานความสนุกสนานและความตื่นเต้นลึกลับได้อย่างลงตัว และนับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของ Jack Black กับการแสดงหนังประเภทเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีต่อจาก Goosebumps และ Jumanji
The Predator ($95.0 ล้านเหรียญ)
นักล่าจากต่างดาวยังคงเดินหน้าเก็บรายได้ต่อไปแต่สถานการณ์นับว่าเลวร้ายเพราะรายได้ในบ้านสุดสัปดาห์นี้ลดลงถึง -65% ทำเงินไป $8.7 ล้าน รวม $40.4 ล้านเหรียญ ในขณะที่ตลาดต่างประเทศก็ดิ่งลงอย่างรวดเร็วสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเงินไปเพียง $15.3 ล้าน รวมทั่วโลก $95 ล้านเหรียญเท่านั้น โดยสัปดาห์นี้ทำเงินเปิดตัวใน Mexico ไปอีก $3.2 ล้าน ทั้งนี้ Predator เปิดฉายไปเกือบทั่วโลกแล้ว ตลาดใหญ่ๆเหลือเพียง France, Italy ในเดือนตุลาคม และจีนที่ยังลูกผีลูกคนเพราะจนถึงบัดนี้ยังไม่มีการยืนยันกำหนดการฉายจากผู้จัดจำหน่ายในดินแดนหลังม่านไม้ไผ่แต่อย่างใด ครั้งสุดท้ายที่แฟรนไชส์นี้ออกลุยตลาดคือในปี 2010 ซึ่ง Predators ทำเงินในบ้านไป $52 ล้านเหรียญและรวมทั่วโลก $127.2 ล้านเหรียญ แม้ Predators จะใช้ทุนสร้างเพียง $40 ล้านแต่แผลจากการขาดทุนครั้งนั้นก็ยังทำให้แฟรนไชส์นี้ชะงักไปเกือบสิบปี ในขณะที่ The Predator (2018) ฟาดทุนสร้างไปถึง $88 ล้านหากทำเงินได้แค่ระดับเดียวกับ Predators (แต่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกไม่รู้กี่ %) อาจส่งผลให้แฟรนไชส์นี้ถึงกับปิดตัวลงไปเลยก็เป็นได้
The Nun ($292.6 ล้านเหรียญ)
สุดสัปดาห์ที่สามของผีแม่ชีกับการลงสนามของตลาดหลักสุดท้ายที่เหลืออยู่ทั้งหมดคือ France, Italy, Japan, Hong Kong, South Korea, Russia ทำเงินไปอีก $35.4 ล้าน ส่วนรายได้ในบ้านไปยังมีแรงหลอนได้อีก $10.2 ล้าน ส่งผลรายได้รวมในอเมริกาเหนือทะลุ $100 ล้านไปเรียบร้อยแล้วและน่าจะจบได้ที่ $110-120 ล้าน ปัจจุบันรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ $292.6 ล้านเหรียญ ตอนนี้ The Nun ลุ้นขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดใน Conjuring Universe โดยสถิติปัจจุบัน ทำไว้โดย The Conjuring 2 ($320.3 ล้านเหรียญ)
จากผลตอบรับที่ดีของ The Nun ทำให้โอกาสต่อยอดของจักรวาล Conjuring สูงมากยิ่งขึ้นไปอีก ทั้ง Annabelle 3 ที่วางวันฉายไว้เดือนกรกฎาคม 2019 ยังมี The Conjuring 3 ที่คาดว่าจะเปิดกล้องได้ช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า รวมไปถึง The Nun 2 ที่จะมาสานต่อเรื่องราวจากจุดกำเนิดความสยองสู่ความเกี่ยวข้องกับตระกูล Warren และ The Crooked Man ที่ล้มลุกคลุกคลานมานานจะได้เดินหน้าต่อไปเสียที
A Simple Favor ($42.5 ล้านเหรียญ)
มาเงียบๆแต่คว้าเงินกลับบ้านได้เต็มกระเป๋าสำหรับ A Simple Favor ซึางรั่งตำแหน่งรองแชมป์หนังทำเงินในบ้านสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา $10.4 ล้าน ตลาดนอก $5.2 ล้าน รวม $10 ล้าน และรวมทั่วโลกแล้ว $42.5 ล้านเหรียญ
โดย Simple Favor เปิดตัวเพิ่มใน UK ($2.1 ล้าน) และ Russia ($0.7 ล้าน) และสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้มีกำหนดเข้าฉายในตลาดสำคัญอื่นๆอีก France (26 กันยายน) Brazil (27 กันยายน) Mexico, Spain (28 กันยาน)
The Meg ($516.4 ล้านเหรียญ)
ฉลามยักษ์ยังคงดุดันต่อไปแม้จะเป็นปลายโปรแกรมแล้วก็ตามแต่ยังทำเงินในบ้านอีก $2.3 ล้านเหรียญ เรียกว่าทำเงินในบ้านเกินล้านมาติดต่อกัน 7 สุดสัปดาห์เข้าให้แล้ว รายได้รวมในบ้านไปอยู่ที่ $140.5 ล้าน รวมทั่วโลก $516.4 ล้าน เป้าหมายสุดท้ายตอนนี้น่าจะอยู่ที่ $525-530 ล้านเหรียญ
Mission: Impossible-Fallout ($777.9 ล้านเหรียญ)
สร้างสถิติกันไปเรียบร้อยสำหรับ MI6 ตอนนี้ก็เดินหน้าสู่ $800 ล้านอย่างเดียว แม้โอกาสจะน้อยแต่ก็ลุ้นให้เข้าไปใกล้ๆมากที่สุด ขณะนี้ตลาดจีนเริ่มจะแผ่วลงแต่ขนาดแผ่วแล้วก็ยังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปอีก $7 ล้าน รวม $174 ล้าน รวมทั่วโลกตอนนี้ Ethan Hunt นำทีมจารกรรมรายได้ไปแล้วทั้งหมด $777.9 ล้านเหรียญ
Johnny English Strikes Again ($22.1 ล้านเหรียญ)
เปลี่ยนแนวกันมาที่สายลับสุดฮา Johnny English กันบ้าง หลังจากที่เปิดตัวเบาๆกันไปในสัปดาห์ที่แล้ว มาอาทิตย์นี้เก็บเงินเพิ่มไปอีก $17.2 ล้านจากการลงสนามใน Spain ($1.4 ล้าน) Russia ($1.7 ล้าน) Australia ($1.9 ล้าน) รวมทั้งตลาดอื่นๆอีกรวมแล้ว 27 ประเทศ ก่อนที่จะเข้าโรงในสองตลาดสำคัญ UK (5 ตุลาคม) และอเมริกาเหนือ (28 ตุลาคม)
อย่าลืมว่ารายได้หลักของ Johnny English นั่นมาจากนอกอเมริกาเหนือ โดยภาคแรก ($160.5 ล้าน) 83% ของรายได้มาจากตลาดต่างประเทศ และภาค Reborn ($160 ล้าน) นั้นรายได้จากตลาดนอกมากถึง 95%
Crazy Rich Asians ($206.4 ล้านเหรียญ)
Crazy Rich กันไปสำหรับ WB ล่าสุด Rom-com เรื่องเยี่ยมนี้ยังยืนหยัดอยู่ใน Top 5 ของตาราง Box Office ในบ้านที่ $6.5 ล้าน รวม $159.4 ล้านเหรียญ ในขณะที่ตบาดต่างประเทศก็ค่อยๆเลาะเก็บเงินไปเรื่อย ล่าสุดเปิดตัวใน Mexico และทำรายได้รวมตลาดนอกไปแล้ว $47 ล้าน รวมทั่วโลก $206.4 ล้านเหรียญ
Incredibles 2 ($1,195.1 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวในตลาดรองสุดท้ายที่ Italy และทำเงินรวมทั่วโลกไปแล้วถึง $1,195.1 ล้านใกล้เคียง $1,200 ล้านเข้าไปทุกที ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากับอีกแค่ $5 ล้านพร้อมกับตลาดสุดท้าย Germany ซึ่งจะเข้าฉายในสุดสัปดาห์นี้จะช่วยดันให้ครอบครัว Incredibles ผ่านหลักชัย $1,200 ล้านได้อย่างแน่นอน ที่เหลือให้ลุ้นก็คือรายได้ต่างประเทศนั้นจะผ่านหลัก $600 ล้านเหรียญได้หรือไม่