โดยปกติแล้วเดือนกันยายนคือช่วงเวลาที่เงียบเหงาที่สุดของตาราง Box Office อเมริกาเหนือในแต่ละปี หลังจากนักเรียนนักศึกษาปิดเทือมกันเต็มคราบไปแล้วในช่วง Summer รวมทั้งคนทำงานก็ลาพักร้อนพักผ่อนกันเป็นทิวแถว พอชีวิตต้องกลับเข้าสู่รูปแบบปกติคือนักเรียนก็ไปเรียน คนทำงานก็กลับไปทำงาน บรรยากาศช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงก็เหงาหงอย เทศกาลรื่นเริงอะไรก็ไม่มี ทำให้บรรดาค่ายหนังยักษ์ใหญ่ที่เพิ่งจะส่งหนังเต็งของตัวเองลงฟาดฟันกันในช่วง Summer ก็จะปล่อยเกียร์ว่างส่งแต่หนังกลางๆเล็กๆเข้าฉายแก้ขัดกันในเดือนกันยายน ก่อนจะไปเริ่มสงครามกันอีกครั้งกับหนังสยองขวัญรับเทศกาล Halloween ในเดือนตุลาคม ทำให้ตารางฉายโดยทั่วไปของเดือนกันยายนมักจะว่าง แม้กระทั่งวันหยุดยาว Labor Weekend ซึ่งตรงกับสุดสัปดาห์แรกของเดือนยังไม่เคยมีหนังใหญ่ๆฟอร์มยักษ์เข้าฉายเลยซักครั้ง ต่างจากวันหยุดยาวสัปดาห์อื่นๆราวฟ้ากับเหว
เพิ่งจะมีในช่วง 7-8 ปีหลังมานี้ เมื่อ Warner Bros. ประสบความสำเร็จกับการนำเอาหนังสยองขวัญมาฉายเร็วขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยาแทนที่จะเป็นตุลาคมตามธรรมเนียมเดิม และโกยรายได้ไปมหาศาลไม่ว่าจะเป็น Conjuring Universe หรือ It ทั้ง 2 ภาค พร้อมทั้งจับจองกำหนดการช่วง Post-Labor Day Weekend ไว้ฉายหนังสยองตัวเต็งของค่ายเป้นประจำทุกปี (ปีนี้คือ The Nun II) ทำให้ค่ายหนังคู่แข่งเริ่มชายตามามองมามองตารางฉายเดือนกันยาบ้าง แต่มันก็ยังเป็นเดือนที่หนังทำรายได้น้อยที่สุดของปีอยู่ดี
นั่นจึงทำให้เกิดการนำหนังที่ฉายอยู่มาเพิ่มโรงฉายหรือนำหนังเคยฉายและอออกจากโรงไปแล้วกลับมาฉายใหม่ตั้งแต่สุดสัปดาห์ Labor Day เป็นต้นไปหรือที่เรียกว่า Labor Day Expansion เพื่อเพิ่มรายได้ของหนัง จึงเป็นที่นิยมทำกันในอเมริกาของค่ายหนัง Hollywood ต่างๆ เช่น
ปี 2018 Disney ทำ Labor Day Expansion ให้กับ Incredibles 2 (1,060 -> 2,890 Locations)
ปี 2019 Sony ทำ Labor Day Expansion ให้กับ Spider-Man: Far From Home (1,008 -> 3,162 Locations)
ปี 2022 Sony เอา Spider-Man: No Way Home กลับมา Re-release ในช่วง Labor Day Weekend (3,945 Locations) และ Universal เอา Jaws กลัมมา Re-release ในระบบ IMAX (1,296 Locations)
สำหรับปีนี้ไม่มีการทำ Labor Day Expansion ในสุดปสัปดาห์วันแรงงานโดยตรง แต่ก็มีหนังอย่างน้อย 2 เรื่องที่จะใช้โอกาสที่โรงหนังเดือนกันยายนว่างมาเพิ่มโรงฉายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง นั่นก็คือ
The Little Mermaid ที่เพิ่งจะปล่อย Sing-Along version เมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคมในอเมริกา จะขยายโรงฉายจาก 40 เป็น 1,600+ Locations ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เพื่อใช้ประโยชน์จาก National Cinema Day 2023 (วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม) ซึ่งค่าตั๋วในโรงหนังบางส่วนทั่วอเมริกาจะลดราคาลงเหลือ 4 เหรียญทุกที่นั่ง รวมทั้งยาวไปถึง Labor Day Weekend ที่ไม่มีหนังใหญ่เข้าฉายและยังไม่มีโปรแกรมขยายโรงฉายจากเรื่องอื่นๆด้วย เป้าหมายของ Disney คือลาก The Little Mermaid ให้ทำเงินได้บ้านได้เกิน 300 ล้านเหรียญ (ปัจจุบัน 297.2 ล้านเหรียญ) ซึ่งก็น่าจะสำเร็จได้ตามเป้า
อีกเรื่องหนึ่งที่มีโปรแกรมขยายโรงฉายในเดือนกันยายนก็คือ Barbie ภาพยนตร์ที่ทำเงินสุงที่สุดในอเมริกาเหนือประจำปี 2023 จนถึงขณะนี้ และว่าที่ภาพยนตร์ทำเงินสูงที่สุดทั่วโลกประจำปี 2023 ก็กำลังจะได้โอกาสเข้าฉายในระบบ IMAX เป็นครั้งแรกหลังจากเข้าโรงมาแล้ว 2 เดือน โดย WB วางกำหนดการฉาย IMAX ไว้วันที่ 22 กันยายน ซึ่งในการเปิดตัวฉายครั้งแรกนั้น Barbie ไม่ได้ฉายในระบบ IMAX เลยแม้แต่โรงเดียวทั่วโลกเพราะเปิดตัวชนกั Oppenheimer ของโนแลนเจ้าพ่อ IMAX อย่างจัง ทั้งยังมี Mission: Impossible – Dead Reckoning Part I เพิ่งเข้าฉายไปสุดสัปดาห์ก่อนหน้าอีกต่างหาก ทำให้ Barbie ไม่ต้องการไปทำสงครามแย่งชิงโรง IMAX กับเค้าจึงไม่มีการถ่ายทำในระบบ IMAX มาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่ Barbie ฮอตฮิตติดตลาดทำเงินกระจุยจายเตรียมขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดในโลกประจำปีนี้ ทำให้ WB ตัดสินใจ Convert มันลงสู่ระบบ IMAX เพื่อเข้าฉายในวันที่ 22 กันยายนนี้ พร้อมกับมีลุ้นว่าจะมีฟุตเตจใหม่ๆใส่เข้ามาให้แฟนๆได้ฮือฮาด้วยหรือเปล่า
ซึ่งจากการที่ได้เข้าฉายในระบบ IMAX เพิ่มเข้ามาทำให้รายได้รวมในอเมริกาเหนือที่เดิมคาดไว้ว่าจะทำได้ขั้นต่ำ 660 ล้าน เพิ่มขึ้นไปอีก 10-15 ล้านเป็นอย่างน้อย ส่วนรายได้รวมขั้นต่ำทั่วโลก 1,400 ล้านก็อาจจะเพิ่มเป็น 1,410-1,420 ล้านขึ้นอยู่กับว่าจะได้เข้าฉายในโรง IMAX ที่ประเทศอื่นด้วยหรือไม่
สำหรับกำหนดการฉายของทั้ง The Little Mermaid Sing-Along version และ Barbie IMAX ในประเทศไทยนั้น ก็ต้องรอความคืบหน้าและการยืนยันจากตัวแทนจำหน่ายต่อไปครับ
ได้เวลาขยาย!!! Barbie ลงจอ IMAX / The Little Mermaid Sing-Along เตรียมเพิ่มโรงฉายรับเดือนกันยายน
เพิ่งจะมีในช่วง 7-8 ปีหลังมานี้ เมื่อ Warner Bros. ประสบความสำเร็จกับการนำเอาหนังสยองขวัญมาฉายเร็วขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยาแทนที่จะเป็นตุลาคมตามธรรมเนียมเดิม และโกยรายได้ไปมหาศาลไม่ว่าจะเป็น Conjuring Universe หรือ It ทั้ง 2 ภาค พร้อมทั้งจับจองกำหนดการช่วง Post-Labor Day Weekend ไว้ฉายหนังสยองตัวเต็งของค่ายเป้นประจำทุกปี (ปีนี้คือ The Nun II) ทำให้ค่ายหนังคู่แข่งเริ่มชายตามามองมามองตารางฉายเดือนกันยาบ้าง แต่มันก็ยังเป็นเดือนที่หนังทำรายได้น้อยที่สุดของปีอยู่ดี
นั่นจึงทำให้เกิดการนำหนังที่ฉายอยู่มาเพิ่มโรงฉายหรือนำหนังเคยฉายและอออกจากโรงไปแล้วกลับมาฉายใหม่ตั้งแต่สุดสัปดาห์ Labor Day เป็นต้นไปหรือที่เรียกว่า Labor Day Expansion เพื่อเพิ่มรายได้ของหนัง จึงเป็นที่นิยมทำกันในอเมริกาของค่ายหนัง Hollywood ต่างๆ เช่น
ปี 2018 Disney ทำ Labor Day Expansion ให้กับ Incredibles 2 (1,060 -> 2,890 Locations)
ปี 2019 Sony ทำ Labor Day Expansion ให้กับ Spider-Man: Far From Home (1,008 -> 3,162 Locations)
ปี 2022 Sony เอา Spider-Man: No Way Home กลับมา Re-release ในช่วง Labor Day Weekend (3,945 Locations) และ Universal เอา Jaws กลัมมา Re-release ในระบบ IMAX (1,296 Locations)
สำหรับปีนี้ไม่มีการทำ Labor Day Expansion ในสุดปสัปดาห์วันแรงงานโดยตรง แต่ก็มีหนังอย่างน้อย 2 เรื่องที่จะใช้โอกาสที่โรงหนังเดือนกันยายนว่างมาเพิ่มโรงฉายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง นั่นก็คือ
The Little Mermaid ที่เพิ่งจะปล่อย Sing-Along version เมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคมในอเมริกา จะขยายโรงฉายจาก 40 เป็น 1,600+ Locations ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เพื่อใช้ประโยชน์จาก National Cinema Day 2023 (วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม) ซึ่งค่าตั๋วในโรงหนังบางส่วนทั่วอเมริกาจะลดราคาลงเหลือ 4 เหรียญทุกที่นั่ง รวมทั้งยาวไปถึง Labor Day Weekend ที่ไม่มีหนังใหญ่เข้าฉายและยังไม่มีโปรแกรมขยายโรงฉายจากเรื่องอื่นๆด้วย เป้าหมายของ Disney คือลาก The Little Mermaid ให้ทำเงินได้บ้านได้เกิน 300 ล้านเหรียญ (ปัจจุบัน 297.2 ล้านเหรียญ) ซึ่งก็น่าจะสำเร็จได้ตามเป้า
อีกเรื่องหนึ่งที่มีโปรแกรมขยายโรงฉายในเดือนกันยายนก็คือ Barbie ภาพยนตร์ที่ทำเงินสุงที่สุดในอเมริกาเหนือประจำปี 2023 จนถึงขณะนี้ และว่าที่ภาพยนตร์ทำเงินสูงที่สุดทั่วโลกประจำปี 2023 ก็กำลังจะได้โอกาสเข้าฉายในระบบ IMAX เป็นครั้งแรกหลังจากเข้าโรงมาแล้ว 2 เดือน โดย WB วางกำหนดการฉาย IMAX ไว้วันที่ 22 กันยายน ซึ่งในการเปิดตัวฉายครั้งแรกนั้น Barbie ไม่ได้ฉายในระบบ IMAX เลยแม้แต่โรงเดียวทั่วโลกเพราะเปิดตัวชนกั Oppenheimer ของโนแลนเจ้าพ่อ IMAX อย่างจัง ทั้งยังมี Mission: Impossible – Dead Reckoning Part I เพิ่งเข้าฉายไปสุดสัปดาห์ก่อนหน้าอีกต่างหาก ทำให้ Barbie ไม่ต้องการไปทำสงครามแย่งชิงโรง IMAX กับเค้าจึงไม่มีการถ่ายทำในระบบ IMAX มาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่ Barbie ฮอตฮิตติดตลาดทำเงินกระจุยจายเตรียมขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดในโลกประจำปีนี้ ทำให้ WB ตัดสินใจ Convert มันลงสู่ระบบ IMAX เพื่อเข้าฉายในวันที่ 22 กันยายนนี้ พร้อมกับมีลุ้นว่าจะมีฟุตเตจใหม่ๆใส่เข้ามาให้แฟนๆได้ฮือฮาด้วยหรือเปล่า
ซึ่งจากการที่ได้เข้าฉายในระบบ IMAX เพิ่มเข้ามาทำให้รายได้รวมในอเมริกาเหนือที่เดิมคาดไว้ว่าจะทำได้ขั้นต่ำ 660 ล้าน เพิ่มขึ้นไปอีก 10-15 ล้านเป็นอย่างน้อย ส่วนรายได้รวมขั้นต่ำทั่วโลก 1,400 ล้านก็อาจจะเพิ่มเป็น 1,410-1,420 ล้านขึ้นอยู่กับว่าจะได้เข้าฉายในโรง IMAX ที่ประเทศอื่นด้วยหรือไม่
สำหรับกำหนดการฉายของทั้ง The Little Mermaid Sing-Along version และ Barbie IMAX ในประเทศไทยนั้น ก็ต้องรอความคืบหน้าและการยืนยันจากตัวแทนจำหน่ายต่อไปครับ