ดูเงื่อนไขประมูล 900 คิดว่าคงไม่มีใครเอา กสทช.ขายของไม่ออกอีกตามเคย
การสร้างเสาเพิ่ม คุ้มกว่าประมูล 850/900 แน่นอน เพราะ 4G 1800 5 mhz + เสาที่เพิ่มขึ้น มีประสิทธิภาพดีพอในการรักษา coverage แต่ถ้าพื้นที่ชนบทห่างไกล คงต้องเปิด 4G 1800 3 mhz 2G 2 mhz เอาไว้แทน voice 850 มั้ง เนื่องจากระยะส่งสัญญาณ 2G 1800 กับ 3G 850 ก็ใกล้เคียงกัน
หลายคนมองว่า การตั้งเสามากๆ ระยะยาวอาจไม่คุ้ม โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ป่าเขา ตามชนบทห่างไกล เพราะมันต้องมีค่าเช่าที่ ค่าอะไรอีก และผู้คนตามชนบทห่างไกลส่วนมากใช้แค่ voice ขอให้คุยได้ก็พอ
ตรงนี้มองว่า ที่คนหลายคนมองว่าไม่คุ้ม แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป อาจจะเป็นสิ่งคุ้มมากก็ได้
เพราะด้วยทิศทางนโยบายจากภาครัฐที่ให้ประชาชนตามพื้นที่ห่างไกลได้มีเน็ตใช้ จึงได้มีนโยบายเน็ตชายขอบ เน็ตประชารัฐให้คนตามชนบทได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ทำให้พฤติกรรมผู้ใช้บริการตามชนบทจะมาใช้ data กันมากขึ้นไปอีก
ซึ่งอนาคตที่ 5G จะมา ใครมีเสามาก ก็ได้เปรียบ เป็นฝ่ายดึงลูกค้า กุมลูกค้าไว้ได้ ส่วนค่ายไหนเสาน้อย ศักยภาพโครงข่ายไม่ดี ลูกค้าก็ย้ายหนี ต่อไปคลื่น 2600,3500 mhz ก็จะมีบทบาทในพื้นที่ชนบทห่างไกล ทำให้การมีเสามากๆเป็นสิ่งสำคัญ ให้ลูกค้าไม่ย้ายหนีและเลือกใช้บริการ
หรือถ้ากังวลว่า อนาคตคลื่น 2600,3500 mhz อาจจะไม่มีความสำคัญตามชนบทอย่างที่บอก ก็ให้ทำสัญญาการตั้งเสาระยะสั้นก็ได้ ซัก 5 ปี ระหว่างนั้นก็ประมูลคลื่น 700 มา เพื่อมาขยาย coverage
หากถึงปีที่ 4-5 ของสัญญาตั้งเสา ดูทิศทางแล้วว่า คลื่น 2600,3500 mhz ไม่มีความสำคัญตามพื้นที่ชนบทห่างไกล ก็ลดจำนวนเสาลง ใช้คลื่น 700 คอยรักษา coverage 4G/5G ไว้ก็คงเพียงพอ
แต่หากคลื่น 2600,3500 mhz เป็นคลื่นที่มีบทบาทสำคัญกับพื้นที่ชนบทห่างไกล ก็ต่อสัญญาการตั้งเสาที่ติดตั้งอุปกรณ์ 2600/3500 mhz ไปยาวๆ
แต่โดยส่วนตัวคิดว่า คลื่น 700/3500/28 Ghz ภายใน 4-5 ปีขึ้นไป จะมีความสำคัญต่อพื้นที่ชนบทห่างไกลทั้งหมด เตรียมตั้งเสาระยะยาวได้เลย
ต่อไปแต่ละค่ายน่าจะมีเสาประมาณ 35,000 เสา ยืนพื้นขั้นต่ำ เพื่อให้บริการ 5G ที่มีคุณภาพ ใครมีก็ได้เปรียบดึงลูกค้า รักษาลูกค้าไว้ได้ ใครมีเสาน้อยๆ ลูกค้าก็ย้ายหนี
เพราะฉะนั้น ถ้ามี 2 ช้อยส์ให้เลือก ระหว่าง
1.ประมูล 850+ตั้งเสาถี่+ประมูล 700
2.ตั้งเสาถี่+ประมูล 700
ขอเลือกช้อยส์ที่ 2 ลดต้นทุนดีกว่า เพียงแต่ถ้ากลัวว่าตั้งเสาถี่อาจไม่คุ้ม ก็เซ็นต์ตั้งเสาระยะเวลาสั้นๆไปก่อน เมื่อรู้สึกว่าคุ้มค่อยต่อสัญญาระยะยาว แต่เชื่อว่าระยะยาวคุ้มแน่นอน และประหยัดเงินกว่าไปเอา 850/900 ตอนนี้
แต่ในระยะสั้น หากตั้งเสาหากตั้งเสาไม่ทัน ก็ไปขอโรมมิ่งกับค่ายใดค่ายหนึ่งก่อนเป็นการชั่วคราว ตั้งเสาเพิ่มเสร็จ ก็เลิกโรมมิ่งไป
การให้ราคาหุ้น dtac 46-47 บาท ในช่วงนี้ ถือว่าต่ำไป น่าจะ 50 บาทขึ้น และถ้าอนาคตขยายโครงข่ายครอบคลุมเกินกว่า 850 เดิมแล้ว น่าจะ 70 บาทขึ้น
ส่วนคลื่นที่มีอยู่ DTAC น่าจะจัดสรรการใช้คลื่นความถี่ 1800/2100/2300 ให้ดีไปเลยนะ เปิด 4G 1800 5 mhz/4G 2100 10 mhz/4G 2300 60 mhz/3G 2100 5 mhz
หากเป็นชนบทห่างไกล 4G 1800 3 mhz 2G 2 mhz
ที่บอกเปิด 4G 2100 เต็ม 10 mhz 3G 2100 5 mhz อนาคตอันใกล้นี้ ยังไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่านะ เพราะนั่นจะทำให้ 3G 2100 มีประสิทธิภาพลดลง รองรับการเล่นเน็ตและ voice ลดลง อาจจะทำได้ก็ได้ เพราะลูกค้าที่ถือเครื่องรองรับ 4G มีเยอะพอสมควรแล้ว
ถ้า 3G 2100 5 mhz ใช้แค่รองรับ voice เฉพาะการพูดคุยอย่างเดียวคงพอ แต่นั่นคงต้องรอให้ ลูกค้า data ของ dtac มาใช้ 4G กันเกิน 80% ก่อน และเสา dtac 2100 มากพอ ถึงเปิด 3G 2100 5 mhz รองรับ voice ได้
DTAC 1800/2100 น่าจะทำ 256/64qam mimo 2×2 ทั้ง 2 คลื่นนะ
4G 1800 ได้ความเร็วสูงสุดที่ 48/18 mbps
พื้นที่ชนบท 29/11 mbps
4G 2100 ได้ความเร็วสูงสุดที่ 97/37 mbps
โดยมี 1800 เป็นตัวรักษา coverage
ส่วน 4G 2300 ก็ตามแผนเดิม ความเร็วสูงสุดช่วง 300+/10+ mbps
อย่างนี้น่าจะ work มาก
การประมูล 900 คงจบแล้ว dtac จะสร้างเสาและจัดสรรคลื่นความถี่ยังไงต่อนะ
การสร้างเสาเพิ่ม คุ้มกว่าประมูล 850/900 แน่นอน เพราะ 4G 1800 5 mhz + เสาที่เพิ่มขึ้น มีประสิทธิภาพดีพอในการรักษา coverage แต่ถ้าพื้นที่ชนบทห่างไกล คงต้องเปิด 4G 1800 3 mhz 2G 2 mhz เอาไว้แทน voice 850 มั้ง เนื่องจากระยะส่งสัญญาณ 2G 1800 กับ 3G 850 ก็ใกล้เคียงกัน
หลายคนมองว่า การตั้งเสามากๆ ระยะยาวอาจไม่คุ้ม โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ป่าเขา ตามชนบทห่างไกล เพราะมันต้องมีค่าเช่าที่ ค่าอะไรอีก และผู้คนตามชนบทห่างไกลส่วนมากใช้แค่ voice ขอให้คุยได้ก็พอ
ตรงนี้มองว่า ที่คนหลายคนมองว่าไม่คุ้ม แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป อาจจะเป็นสิ่งคุ้มมากก็ได้
เพราะด้วยทิศทางนโยบายจากภาครัฐที่ให้ประชาชนตามพื้นที่ห่างไกลได้มีเน็ตใช้ จึงได้มีนโยบายเน็ตชายขอบ เน็ตประชารัฐให้คนตามชนบทได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ทำให้พฤติกรรมผู้ใช้บริการตามชนบทจะมาใช้ data กันมากขึ้นไปอีก
ซึ่งอนาคตที่ 5G จะมา ใครมีเสามาก ก็ได้เปรียบ เป็นฝ่ายดึงลูกค้า กุมลูกค้าไว้ได้ ส่วนค่ายไหนเสาน้อย ศักยภาพโครงข่ายไม่ดี ลูกค้าก็ย้ายหนี ต่อไปคลื่น 2600,3500 mhz ก็จะมีบทบาทในพื้นที่ชนบทห่างไกล ทำให้การมีเสามากๆเป็นสิ่งสำคัญ ให้ลูกค้าไม่ย้ายหนีและเลือกใช้บริการ
หรือถ้ากังวลว่า อนาคตคลื่น 2600,3500 mhz อาจจะไม่มีความสำคัญตามชนบทอย่างที่บอก ก็ให้ทำสัญญาการตั้งเสาระยะสั้นก็ได้ ซัก 5 ปี ระหว่างนั้นก็ประมูลคลื่น 700 มา เพื่อมาขยาย coverage
หากถึงปีที่ 4-5 ของสัญญาตั้งเสา ดูทิศทางแล้วว่า คลื่น 2600,3500 mhz ไม่มีความสำคัญตามพื้นที่ชนบทห่างไกล ก็ลดจำนวนเสาลง ใช้คลื่น 700 คอยรักษา coverage 4G/5G ไว้ก็คงเพียงพอ
แต่หากคลื่น 2600,3500 mhz เป็นคลื่นที่มีบทบาทสำคัญกับพื้นที่ชนบทห่างไกล ก็ต่อสัญญาการตั้งเสาที่ติดตั้งอุปกรณ์ 2600/3500 mhz ไปยาวๆ
แต่โดยส่วนตัวคิดว่า คลื่น 700/3500/28 Ghz ภายใน 4-5 ปีขึ้นไป จะมีความสำคัญต่อพื้นที่ชนบทห่างไกลทั้งหมด เตรียมตั้งเสาระยะยาวได้เลย
ต่อไปแต่ละค่ายน่าจะมีเสาประมาณ 35,000 เสา ยืนพื้นขั้นต่ำ เพื่อให้บริการ 5G ที่มีคุณภาพ ใครมีก็ได้เปรียบดึงลูกค้า รักษาลูกค้าไว้ได้ ใครมีเสาน้อยๆ ลูกค้าก็ย้ายหนี
เพราะฉะนั้น ถ้ามี 2 ช้อยส์ให้เลือก ระหว่าง
1.ประมูล 850+ตั้งเสาถี่+ประมูล 700
2.ตั้งเสาถี่+ประมูล 700
ขอเลือกช้อยส์ที่ 2 ลดต้นทุนดีกว่า เพียงแต่ถ้ากลัวว่าตั้งเสาถี่อาจไม่คุ้ม ก็เซ็นต์ตั้งเสาระยะเวลาสั้นๆไปก่อน เมื่อรู้สึกว่าคุ้มค่อยต่อสัญญาระยะยาว แต่เชื่อว่าระยะยาวคุ้มแน่นอน และประหยัดเงินกว่าไปเอา 850/900 ตอนนี้
แต่ในระยะสั้น หากตั้งเสาหากตั้งเสาไม่ทัน ก็ไปขอโรมมิ่งกับค่ายใดค่ายหนึ่งก่อนเป็นการชั่วคราว ตั้งเสาเพิ่มเสร็จ ก็เลิกโรมมิ่งไป
การให้ราคาหุ้น dtac 46-47 บาท ในช่วงนี้ ถือว่าต่ำไป น่าจะ 50 บาทขึ้น และถ้าอนาคตขยายโครงข่ายครอบคลุมเกินกว่า 850 เดิมแล้ว น่าจะ 70 บาทขึ้น
ส่วนคลื่นที่มีอยู่ DTAC น่าจะจัดสรรการใช้คลื่นความถี่ 1800/2100/2300 ให้ดีไปเลยนะ เปิด 4G 1800 5 mhz/4G 2100 10 mhz/4G 2300 60 mhz/3G 2100 5 mhz
หากเป็นชนบทห่างไกล 4G 1800 3 mhz 2G 2 mhz
ที่บอกเปิด 4G 2100 เต็ม 10 mhz 3G 2100 5 mhz อนาคตอันใกล้นี้ ยังไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่านะ เพราะนั่นจะทำให้ 3G 2100 มีประสิทธิภาพลดลง รองรับการเล่นเน็ตและ voice ลดลง อาจจะทำได้ก็ได้ เพราะลูกค้าที่ถือเครื่องรองรับ 4G มีเยอะพอสมควรแล้ว
ถ้า 3G 2100 5 mhz ใช้แค่รองรับ voice เฉพาะการพูดคุยอย่างเดียวคงพอ แต่นั่นคงต้องรอให้ ลูกค้า data ของ dtac มาใช้ 4G กันเกิน 80% ก่อน และเสา dtac 2100 มากพอ ถึงเปิด 3G 2100 5 mhz รองรับ voice ได้
DTAC 1800/2100 น่าจะทำ 256/64qam mimo 2×2 ทั้ง 2 คลื่นนะ
4G 1800 ได้ความเร็วสูงสุดที่ 48/18 mbps
พื้นที่ชนบท 29/11 mbps
4G 2100 ได้ความเร็วสูงสุดที่ 97/37 mbps
โดยมี 1800 เป็นตัวรักษา coverage
ส่วน 4G 2300 ก็ตามแผนเดิม ความเร็วสูงสุดช่วง 300+/10+ mbps
อย่างนี้น่าจะ work มาก