เมื่อชวนคนสนิทไปดูนา คำตอบตกลงมาพร้อมกับคำถามว่า ไม่เคยเห็นนาเหรอ
เหม่..โตมาจนป่านนี้ นาก็เคยเห็น บันไดก็ผ่านมาไม่น้อย ตกลงว่าจะไปดูนาขั้นบันไดด้วยกันแล้วก็อย่ามีคำถามมากได้มั้ย อ่ะ ตกลงใจไปกันเถอะ
นาขั้นบันได ณ หมู่บ้านแม่กลางหลวง เชียงใหม่ พักที่คีรีมายา อินทนนท์ 1 คืน สภาพบันไดนาข้าว ณ วันที่ 20 กันยายน 2561 หลังคุณพายุมังคุด ก็ช่างเขียวเข้มข้นกระชากใจเสียนี่กระไร

จากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เราไปแม่กลางหลวงโดยเช่ารถยนต์ขับไปเอง (ไม่มีซะล่ะรีวิวประเภท แบงค์พันใบเดียวเอาอยู่ สองใบเอาอยู่ สามใบมีทอน 555+ ไม่ๆๆ มันจะไม่เกิดขึ้นในทริปนี้ สายเปย์ค่ะบ่องตง) ขับรถในตัวเมืองเชียงใหม่ก็เหมือนขับในกทม.เลย ปรับอารมณ์เสมือนอยู่บ้าน ไม่มีอะไรต้องเกร็งค่ะ ใช้เส้นทางรอบนอก (เลี่ยงเมือง) สาย3035 ถนนเส้นนี้จะไปบรรจบกับทางหลวงสาย 108 เพื่อไปจอมทอง ดอยอินทนนท์ ซึ่งหมู่บ้านแม่กลางหลวงก็อยู่ระหว่างทางก่อนขึ้นไปถึงอินทนนท์นั่นล่ะเจ้า ไม่เอานะ ไม่พิมพ์เยอะ เจ็บมือ ไปดูภาพกันค่ะ (ถ่ายก็ใช่ว่าจะสวยแต่อยากจะอวยน่ะ ว่าของเค้าเขียวจริงไรจริง)

ผ่านด่านอุทยาน ชำระค่าธรรมเนียม

ตื่นตะลึงในความเขียวข้นหวานมัน (หวานมันไม่เกี่ยว)



บ้านพักที่จองไว้ใหญ่โตมโหฬาร นอนกันได้ 5-6 คน สบายๆ แถมมีระเบียงชานไว้นั่งฉลาดๆชมวิวเพลินๆ

ตื่นมายามเช้าเพื่ออะไร เพื่อนา นา น๊าาาา..




และที่นี่ค่ะ สภากาแฟ ณ โรงคั่วของพี่สมศักดิ์คนดังประจำหมูบ้าน ชายผู้มีน้ำใจและหน้าที่อันยิ่งใหญ่ต้มกาแฟให้กับคนในหมู่บ้านได้มานั่งจิบนั่งเม้าท์ได้ในทุกเช้า และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนให้มาดื่มด่ำกับกาแฟทำเองของแก อบอุ่นและอิ่มเอมมากๆเลย





กาแฟที่พ่อหลวงบอกให้ปลูกแทนฝิ่น ยังคงเสด็จประทับอยู่ในใจทุกคน

หมู่บ้านแม่กลางหลวง ยังคงความสงบและบริสุทธิ์อยู่มาก ถึงแม้จะเริ่มมีบ้านพักหน้าตาดีมีน้ำอุ่นผุดขึ้นประปราย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปอีกสองสามปีจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน ณ เวลานี้ เราว่ากำลังพอดีค่ะ น่าไป น่าเที่ยว ทั้งนา ทั้งบันได ชาวบ้านและหมาแมว น่ารักขะหนาดน่ะเจ้า

จบรีวิวละค่ะ ไม่พิมพ์เยอะ คอนเซปต์คือเจ็บมือ 5555+ ให้ภาพสื่อความรู้สึกค่ะ
ขอบคุณที่หลงกดเข้ามาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ฝากอะไรนะคะ จบแล้วจบเลย ปิดหน้าต่างได้เลยค่ะ