สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
เรากลับมองว่า จขกท.ผิดตั้งแต่แรก
คุณอยากไปเที่ยวกับเพื่อน แต่คุณเอาแฟนคุณไป(ตรงนี้คุณอาจจะอยากไปแบบ 2 คู่)
2.จากข้อความตรงนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในเมื่อคุณเป็นคนชวนเพื่อนไป คุณจองกันครึ่งปี แต่คุณกลับไม่บอกให้เพื่อนคุณจัดการจองพร้อมคุณให้จบ(เหมือนว่าก็แค่อยากชวนไป แต่ที่เหลือจัดการเอาเอง จริงๆในเมื่อคุณชวนเพื่อนไป ก็ควรนั่งทำทุกอย่างด้วยกัน เตรียมการด้วยกัน แต่ถ้าคุณบอกว่าเพื่อนมีปัญหา เรื่องแฟนจะล้มเลิกนั่นนี่ แทนที่คุณจะปล่อยให้เค้าล้มเลิกไป คุณกลับผลักดันให้เพื่อนคุณไป ซึ่งคุณเอาแต่ใจตัวเองนะคะ จุดนี้ คุณควรปล่อยให่เพื่อนตัดสินใจเอง แล้วก็ควรคิดว่า ถ้าเค้าไปแล้วกลายเป็น คนละคู่ คุณจะเหมือนไปกับเพื่อนหรอ? คุณก็แค่ไปกับแฟน แต่แค่มีเพื่อนร่วมทริป จะได้ไม่โหรงเหรงแค่นั้น)
ที่เหลือตลอดทริปคือ ผลกรรม ที่คุณผลักดันให้เพื่อนคุณไปค่ะ ทั้งๆที่คุณควรปล่อยให้เค้าล้มเลิกไปตั้งแต่แรกก็จบ เพราะคุณไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการปัญหาอะไรทั้งสิ้น แต่คุณกลับอยากให้คนที่เค้ากำลังมีปัญหาไปกับคุณ อันนี้คุณผิดค่ะ ผิดที่เอาแต่ใจ และผิดพลาดที่ชวนผิดคน
..ทริปเที่ยวกับเพื่อน ก็ควรเที่ยวกับเพื่อนไปเลย ยกเว้นแฟนคุณกับแฟนเพื่อนจะเป็นเพื่อนกัน กลุ่มเดียวกัน
ที่สำคัญไปกันแบบนี้ ไม่ควรแยกที่พักกัน ถ้ามันมีปัญหาตอนจอง เพื่อนจองไม่ทันเพราะมีปัญหา ทำไมคุณไม่เสียสละล่ะคะ ยอมไปจองที่ใหม่พร้อมเพื่อน ไหนๆก็ยังไม่ต้องจ่ายเงินนี่ ตอนจองอ่ะ คุณก็เอาตนเองเป็นที่ตั้งเช่นเคย ตั้งแต่ตอนที่ผลักดันให้เพื่อนไปเที่ยวด้วยละ..
สุดท้าย ทำใจค่ะ ปัญหามันก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่จะเลิกคบกันขนาดนั้น มันไม่ใช่การหักหลัง คดโกง แย่งผู้ชาย อะไรทำนองนี้ เรื่องแบบนี้มานั่งคุยกัน ลดทิฐิ ลดอคติต่อกัน ขอโทษกันทั้ง 2 ฝ่ายก็จบละค่ะ
คุณอยากไปเที่ยวกับเพื่อน แต่คุณเอาแฟนคุณไป(ตรงนี้คุณอาจจะอยากไปแบบ 2 คู่)
2.จากข้อความตรงนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในเมื่อคุณเป็นคนชวนเพื่อนไป คุณจองกันครึ่งปี แต่คุณกลับไม่บอกให้เพื่อนคุณจัดการจองพร้อมคุณให้จบ(เหมือนว่าก็แค่อยากชวนไป แต่ที่เหลือจัดการเอาเอง จริงๆในเมื่อคุณชวนเพื่อนไป ก็ควรนั่งทำทุกอย่างด้วยกัน เตรียมการด้วยกัน แต่ถ้าคุณบอกว่าเพื่อนมีปัญหา เรื่องแฟนจะล้มเลิกนั่นนี่ แทนที่คุณจะปล่อยให้เค้าล้มเลิกไป คุณกลับผลักดันให้เพื่อนคุณไป ซึ่งคุณเอาแต่ใจตัวเองนะคะ จุดนี้ คุณควรปล่อยให่เพื่อนตัดสินใจเอง แล้วก็ควรคิดว่า ถ้าเค้าไปแล้วกลายเป็น คนละคู่ คุณจะเหมือนไปกับเพื่อนหรอ? คุณก็แค่ไปกับแฟน แต่แค่มีเพื่อนร่วมทริป จะได้ไม่โหรงเหรงแค่นั้น)
ที่เหลือตลอดทริปคือ ผลกรรม ที่คุณผลักดันให้เพื่อนคุณไปค่ะ ทั้งๆที่คุณควรปล่อยให้เค้าล้มเลิกไปตั้งแต่แรกก็จบ เพราะคุณไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการปัญหาอะไรทั้งสิ้น แต่คุณกลับอยากให้คนที่เค้ากำลังมีปัญหาไปกับคุณ อันนี้คุณผิดค่ะ ผิดที่เอาแต่ใจ และผิดพลาดที่ชวนผิดคน
..ทริปเที่ยวกับเพื่อน ก็ควรเที่ยวกับเพื่อนไปเลย ยกเว้นแฟนคุณกับแฟนเพื่อนจะเป็นเพื่อนกัน กลุ่มเดียวกัน
ที่สำคัญไปกันแบบนี้ ไม่ควรแยกที่พักกัน ถ้ามันมีปัญหาตอนจอง เพื่อนจองไม่ทันเพราะมีปัญหา ทำไมคุณไม่เสียสละล่ะคะ ยอมไปจองที่ใหม่พร้อมเพื่อน ไหนๆก็ยังไม่ต้องจ่ายเงินนี่ ตอนจองอ่ะ คุณก็เอาตนเองเป็นที่ตั้งเช่นเคย ตั้งแต่ตอนที่ผลักดันให้เพื่อนไปเที่ยวด้วยละ..
สุดท้าย ทำใจค่ะ ปัญหามันก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่จะเลิกคบกันขนาดนั้น มันไม่ใช่การหักหลัง คดโกง แย่งผู้ชาย อะไรทำนองนี้ เรื่องแบบนี้มานั่งคุยกัน ลดทิฐิ ลดอคติต่อกัน ขอโทษกันทั้ง 2 ฝ่ายก็จบละค่ะ
ความคิดเห็นที่ 45
อ่านแล้วพอเข้าใจเลยทำไมเพื่อนกะคนในกลุ่มเลิกคบคุณ
จากมุมมองคนนอกนะ คุนชวนเพื่อนไปตอนแรกเค้าก็จะไม่ไปแล้วเหมือนมีช่วงทะเลาะกับแฟน คงไม่มีเวลาไม่มีอารมย์มานั่งวางแพลนเที่ยวหรอก แต่คุนชวนหนักๆเค้าก็เลยยอมไป ก็คงคิดว่าจะตามๆคุนไปไม่ต้องวางแพลนอะไรมาก
ปรากฏเอาเข้าจริงต้องแยกที่นอน เซ็งอันดับแรก แล้วคุณก้อยังเกิดเลือกที่เที่ยวไม่เหมือนชาวบ้านอีก เซงอันดับสอง วันที่นัดเค้าก็เลยเซงๆงอแงไปเลทพอคุนทิ้งไม่สนคราวนี้ก็ไปกันใหญ่เลย แล้วจะบอกว่าให้แยกกันเดินทางง่ายๆสอนดูหาจาก google คือคนไม่ได้เตรียมวางแผนมาให้ทำวันนั้นเลยมันงงนะ ก็ไม่แปลกที่เค้าเซงหนัก จะจบการ รร หรืออะไรก็เถอะ
แต่ประเด็นที่แย่สุด คือ คุนไม่ยอมเข้าใจเห็นใจเพื่อนเลยเอาแต่พูดว่าใครถูกใครผิด ถึงตอนนี้ก็ยังอธิบายมาซะยืดยาวว่าคุนถูกต้องยังไงเพื่อนคุนผิดยังไง แก็งเพื่อนคุนคงแบบ...เอาเลยจ้า เธอถูกยอมๆแต่ชั้นขอเลิกคบละกันนะ
อันนี้ไม่ได้ว่าคุนผิดนะ แค่เล่าให้ฟังว่ามุมมองกลุ่มเพื่อนคุนที่เค้าเลิกคบคุนน่าจะคิดยังไง
จากมุมมองคนนอกนะ คุนชวนเพื่อนไปตอนแรกเค้าก็จะไม่ไปแล้วเหมือนมีช่วงทะเลาะกับแฟน คงไม่มีเวลาไม่มีอารมย์มานั่งวางแพลนเที่ยวหรอก แต่คุนชวนหนักๆเค้าก็เลยยอมไป ก็คงคิดว่าจะตามๆคุนไปไม่ต้องวางแพลนอะไรมาก
ปรากฏเอาเข้าจริงต้องแยกที่นอน เซ็งอันดับแรก แล้วคุณก้อยังเกิดเลือกที่เที่ยวไม่เหมือนชาวบ้านอีก เซงอันดับสอง วันที่นัดเค้าก็เลยเซงๆงอแงไปเลทพอคุนทิ้งไม่สนคราวนี้ก็ไปกันใหญ่เลย แล้วจะบอกว่าให้แยกกันเดินทางง่ายๆสอนดูหาจาก google คือคนไม่ได้เตรียมวางแผนมาให้ทำวันนั้นเลยมันงงนะ ก็ไม่แปลกที่เค้าเซงหนัก จะจบการ รร หรืออะไรก็เถอะ
แต่ประเด็นที่แย่สุด คือ คุนไม่ยอมเข้าใจเห็นใจเพื่อนเลยเอาแต่พูดว่าใครถูกใครผิด ถึงตอนนี้ก็ยังอธิบายมาซะยืดยาวว่าคุนถูกต้องยังไงเพื่อนคุนผิดยังไง แก็งเพื่อนคุนคงแบบ...เอาเลยจ้า เธอถูกยอมๆแต่ชั้นขอเลิกคบละกันนะ
อันนี้ไม่ได้ว่าคุนผิดนะ แค่เล่าให้ฟังว่ามุมมองกลุ่มเพื่อนคุนที่เค้าเลิกคบคุนน่าจะคิดยังไง
ความคิดเห็นที่ 15
ที่รัก ...
ตื่นค่ะ โตได้แล้ว ตีกันอย่างกับเด็กห้าหกขวบทะเลาะกันตอนเล่นไล่จับ
ถ้าชีวิตจะรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ จัดการปัญหาไม่ได้ปล่อยให้มันบานปลาย พะวงกับความรู้สึกกันจนเหมือนกระดิกตัวไม่ได้ ไม่กล้าพูดกันตรง ๆ ว่าไม่โอเคยังไง
เลิกคบค่ะ แล้วเดินหน้าต่อไปนะคะ
ไม่ให้ความเห็นค่ะว่า นี่เป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ หรือว่า เพื่อนผิดอะไรตรงไหน
แต่จะตอบคำถาม จขกท ว่าผิดค่ะ
ผิดตรงที่ทักษะการจัดการต่ำ ทักษะการแก้ปัญหาและประเมินความเสียหายต่ำ
ทริปตัวเองแต่ไม่จัดการอะไรให้จบ
- เรื่องโรงแรม
ก็ปล่อยจนตัวเองเดือดร้อน ไม่มีแผนสำรองหรือขั้นตอนการจัดการแก้ปัญหาก่อนบานปลาย แล้วก็มาพูดว่า รู้งั้น รู้งี้
ที่รัก ชีวิตเราไม่ได้มีโอกาสมากมายนะ ชีวิตต้องพูดคำว่า รู้งี้ รู้งั้น อีกกี่ครั้ง
- เรื่องการคอนเฟิร์มและนัดแนะเวลา
ก็ไม่ตกลงให้ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่แยกกันนอน คิดว่ามีโทรศัพท์ก็ติดต่อกันได้ นัดเวลาแล้วถือว่าตามนั้น แล้ว ไม่ยืนยัน option ที่ให้ไปว่าจะตกลงจะเอายังไง ปล่อยปลายเปิดจนถึงเวลานัด ไม่ยอมคอนเฟิร์มความคิดเห็นกันให้ชัดเจน มัวแต่ขุ่นหมองในอารมณ์ ขี้เกียจพูดมาก
ที่รัก ณ โมเมนท์นั้นที่มีความโกลาหล การยืนยันสิ่งที่คิดและวิธีการปฏิบัติให้ชัดเจน เข้าใจตรงกัน สำคัญที่สุดนะ
ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำหรับ จขกท เรื่อง การจัดการและการแก้ปัญหา นะ
ตื่นค่ะ โตได้แล้ว ตีกันอย่างกับเด็กห้าหกขวบทะเลาะกันตอนเล่นไล่จับ
ถ้าชีวิตจะรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ จัดการปัญหาไม่ได้ปล่อยให้มันบานปลาย พะวงกับความรู้สึกกันจนเหมือนกระดิกตัวไม่ได้ ไม่กล้าพูดกันตรง ๆ ว่าไม่โอเคยังไง
เลิกคบค่ะ แล้วเดินหน้าต่อไปนะคะ
ไม่ให้ความเห็นค่ะว่า นี่เป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ หรือว่า เพื่อนผิดอะไรตรงไหน
แต่จะตอบคำถาม จขกท ว่าผิดค่ะ
ผิดตรงที่ทักษะการจัดการต่ำ ทักษะการแก้ปัญหาและประเมินความเสียหายต่ำ
ทริปตัวเองแต่ไม่จัดการอะไรให้จบ
- เรื่องโรงแรม
ก็ปล่อยจนตัวเองเดือดร้อน ไม่มีแผนสำรองหรือขั้นตอนการจัดการแก้ปัญหาก่อนบานปลาย แล้วก็มาพูดว่า รู้งั้น รู้งี้
ที่รัก ชีวิตเราไม่ได้มีโอกาสมากมายนะ ชีวิตต้องพูดคำว่า รู้งี้ รู้งั้น อีกกี่ครั้ง
- เรื่องการคอนเฟิร์มและนัดแนะเวลา
ก็ไม่ตกลงให้ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่แยกกันนอน คิดว่ามีโทรศัพท์ก็ติดต่อกันได้ นัดเวลาแล้วถือว่าตามนั้น แล้ว ไม่ยืนยัน option ที่ให้ไปว่าจะตกลงจะเอายังไง ปล่อยปลายเปิดจนถึงเวลานัด ไม่ยอมคอนเฟิร์มความคิดเห็นกันให้ชัดเจน มัวแต่ขุ่นหมองในอารมณ์ ขี้เกียจพูดมาก
ที่รัก ณ โมเมนท์นั้นที่มีความโกลาหล การยืนยันสิ่งที่คิดและวิธีการปฏิบัติให้ชัดเจน เข้าใจตรงกัน สำคัญที่สุดนะ
ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำหรับ จขกท เรื่อง การจัดการและการแก้ปัญหา นะ
ความคิดเห็นที่ 79
ขอเพิ่มเนื้อหาส่วนนี้นะคะ เพราะได้เห็นอีกมุมนึง จากที่ไปอ่านอีกกระทู้นึงมาค่ะ
เราขอโทษจขกท.นี้ด้วยนะคะ ที่ด่วนตัดสินคุณเร็วไปหน่อย ที่บอกว่า "คุณคิดถึงแต่ตัวเองมากไปนิดนึง" พอได้อ่านอีกกระทู้ของเพื่อนคุณแล้ว เราว่าคุณทำสิ่งที่เหมาะสมแล้วล่ะ คุณออกจะกระตือรือร้นแทนเพื่อนคุณเสียอีก ทั้งที่บางอย่างไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าหากจขกท.จะมีส่วนผิดอยู่บ้าง ก็คงผิดที่ชวนคนที่มีไลฟ์สไตล์และอุปนิสัยที่ต่างกัน ไปทริปเดียวกันนี่ล่ะค่ะ
ส่วนที่จั่วหัวว่าทิ้งเพื่อน จากที่อ่านอีกกระทู้ เราเห็นเป็นอีกอย่าง ว่าเพื่อนต่างหาก ที่ปฏิเสธจขกท. ทั้งเหตุผลของการไม่รับสาย การขาดการติดต่อ ฯลฯ
----------------------------------
อ่านแล้ว ไม่ทราบว่าใครผิดใครถูก แต่ไม่เห็นความจำเป็นต้องไปด้วยกันเลยสักนิด จะบินไฟลท์เดียวกันเพื่ออะไร ในเมื่อต่างคนต่างพักคนละที่ แล้วจะพักโรงแรมเดียวกันเพื่ออะไร ในเมื่อต่างคนต่างเที่ยว การไปเป็นกลุ่ม คือมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน อาจไม่เสมอไป แต่กรณีนี้อ่านแล้วเหมือนโนสนโนแคร์ ไม่ใช่เรื่องของชั้น จัดการตัวเองสิ
ทุกอย่าง จขกท.คิดเองหมดเลย ว่าเพื่อนรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ อย่างที่เพื่อนบอกว่า อยากไปเที่ยวอีกที่ จขกท.ก็บอกว่า"เพื่อนเสนอมาเลยคิดว่าเพื่อนคงไปเองได้" แต่เรากลับมองว่าเพื่อนแชร์สิ่งที่อยากทำ ก็เพราะว่ามาด้วยกัน เผื่อว่าอาจจะไปด้วยกัน
ขอโทษนะคะ เรารู้สึกว่าจขกท.คิดถึงแต่ตัวเองมากไปหน่อย อ่านดู เหมือนว่าการชวนเพื่อนไปด้วย แค่เผื่อว่าตัวเองอาจจะสนุกขึ้น ชวนไปงั้นๆเอง สำหรับจขกท.แล้ว เพื่อนจะไปหรือไม่ไป ก็คงไม่ต่างกัน
คราวหน้า ถ้าอยากจะบินเดี่ยว (เที่ยวแบบตามใจตัวเอง ไม่ต้องมีใครมาทำให้รู้สึกเป็นภาระ ไม่พร้อมปรับแพลน ปรับเวลาเที่ยว ไม่พร้อมยืดหยุ่น) แนะนำว่าไม่ควรชวนคนอื่นไปด้วยค่ะ หรือไม่ก็ก่อนไป ควรจะคุยกันให้เรียบร้อยก่อน ว่าไปถึงแล้ว ตัวใครตัวมันนะ
เราขอโทษจขกท.นี้ด้วยนะคะ ที่ด่วนตัดสินคุณเร็วไปหน่อย ที่บอกว่า "คุณคิดถึงแต่ตัวเองมากไปนิดนึง" พอได้อ่านอีกกระทู้ของเพื่อนคุณแล้ว เราว่าคุณทำสิ่งที่เหมาะสมแล้วล่ะ คุณออกจะกระตือรือร้นแทนเพื่อนคุณเสียอีก ทั้งที่บางอย่างไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าหากจขกท.จะมีส่วนผิดอยู่บ้าง ก็คงผิดที่ชวนคนที่มีไลฟ์สไตล์และอุปนิสัยที่ต่างกัน ไปทริปเดียวกันนี่ล่ะค่ะ
ส่วนที่จั่วหัวว่าทิ้งเพื่อน จากที่อ่านอีกกระทู้ เราเห็นเป็นอีกอย่าง ว่าเพื่อนต่างหาก ที่ปฏิเสธจขกท. ทั้งเหตุผลของการไม่รับสาย การขาดการติดต่อ ฯลฯ
----------------------------------
อ่านแล้ว ไม่ทราบว่าใครผิดใครถูก แต่ไม่เห็นความจำเป็นต้องไปด้วยกันเลยสักนิด จะบินไฟลท์เดียวกันเพื่ออะไร ในเมื่อต่างคนต่างพักคนละที่ แล้วจะพักโรงแรมเดียวกันเพื่ออะไร ในเมื่อต่างคนต่างเที่ยว การไปเป็นกลุ่ม คือมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน อาจไม่เสมอไป แต่กรณีนี้อ่านแล้วเหมือนโนสนโนแคร์ ไม่ใช่เรื่องของชั้น จัดการตัวเองสิ
ทุกอย่าง จขกท.คิดเองหมดเลย ว่าเพื่อนรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ อย่างที่เพื่อนบอกว่า อยากไปเที่ยวอีกที่ จขกท.ก็บอกว่า"เพื่อนเสนอมาเลยคิดว่าเพื่อนคงไปเองได้" แต่เรากลับมองว่าเพื่อนแชร์สิ่งที่อยากทำ ก็เพราะว่ามาด้วยกัน เผื่อว่าอาจจะไปด้วยกัน
ขอโทษนะคะ เรารู้สึกว่าจขกท.คิดถึงแต่ตัวเองมากไปหน่อย อ่านดู เหมือนว่าการชวนเพื่อนไปด้วย แค่เผื่อว่าตัวเองอาจจะสนุกขึ้น ชวนไปงั้นๆเอง สำหรับจขกท.แล้ว เพื่อนจะไปหรือไม่ไป ก็คงไม่ต่างกัน
คราวหน้า ถ้าอยากจะบินเดี่ยว (เที่ยวแบบตามใจตัวเอง ไม่ต้องมีใครมาทำให้รู้สึกเป็นภาระ ไม่พร้อมปรับแพลน ปรับเวลาเที่ยว ไม่พร้อมยืดหยุ่น) แนะนำว่าไม่ควรชวนคนอื่นไปด้วยค่ะ หรือไม่ก็ก่อนไป ควรจะคุยกันให้เรียบร้อยก่อน ว่าไปถึงแล้ว ตัวใครตัวมันนะ
ความคิดเห็นที่ 77
ทำไมหลาย คห บอกจขกทผิด
เราว่าคือจขกทพยายามให้เพื่อนไปทั้งๆที่ทะเลาะกับแฟน คือมันก้ปกติป่ะ
มันไม่เกี่ยวกันทะเลาะ=ไม่อยากไป
คือนางยังไม่ได้เลิกกันนะ หลายๆคู่ทะเลาะกันแต่ก้คืนดีกันทุกวันก็มี
ละจขกทก้ไม่อยากให้เสียค่าตั๋วฟรี
ยิ่งตอนนั้นยังไม่ได้ทะเลาะกันด้วย
ใครจะไปรู้ว่าไปเที่ยวด้วยกันแล้วจะเกิดเรื่องแบบนี้
ส่วนเรื่องนัดไม่เป็นเวลา เที่ยวคนละที่
ไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อนเที่ยว
อันนี้คือจขกทก้ไม่จำเป็นต้องไปเทคแคร์ดูแล รอเค้ามา ปลุกเค้าให้ตื่นป่ะ
งงกับหลายๆคห ว่าบอกว่าเพื่อนดูไม่ชำนาญเลยเราต้องนั่งรถไปหา ไปปลุก คือวอททท
นี่มาเที่ยวนะ ตปทด้วย ทุกวินาทีเราก้อยากเอาไปเที่ยวป่ะ ละการไม่ตรงต่อเวลาไม่ศึกษาข้อมูลก่อนมาเที่ยวเอง คือเป็นความผิดของคนที่ไปเที่ยวด้วยละไม่ได้ดูแลงี้หรอ
ละบอกว่าจขกทไม่ยืดหยุ่น มาเที่ยวกับเพื่อนก้ต้องตามเพื่อนบ้าง คือเอาจริงๆๆๆ ถ้าเป็นคุณจะยอมรอแฟนเพื่อนตื่นแล้วล่มทริปตัวเองไหม ถามจริง?
งงกับหลายๆคหมากๆๆ
เราว่าคือจขกทพยายามให้เพื่อนไปทั้งๆที่ทะเลาะกับแฟน คือมันก้ปกติป่ะ
มันไม่เกี่ยวกันทะเลาะ=ไม่อยากไป
คือนางยังไม่ได้เลิกกันนะ หลายๆคู่ทะเลาะกันแต่ก้คืนดีกันทุกวันก็มี
ละจขกทก้ไม่อยากให้เสียค่าตั๋วฟรี
ยิ่งตอนนั้นยังไม่ได้ทะเลาะกันด้วย
ใครจะไปรู้ว่าไปเที่ยวด้วยกันแล้วจะเกิดเรื่องแบบนี้
ส่วนเรื่องนัดไม่เป็นเวลา เที่ยวคนละที่
ไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อนเที่ยว
อันนี้คือจขกทก้ไม่จำเป็นต้องไปเทคแคร์ดูแล รอเค้ามา ปลุกเค้าให้ตื่นป่ะ
งงกับหลายๆคห ว่าบอกว่าเพื่อนดูไม่ชำนาญเลยเราต้องนั่งรถไปหา ไปปลุก คือวอททท
นี่มาเที่ยวนะ ตปทด้วย ทุกวินาทีเราก้อยากเอาไปเที่ยวป่ะ ละการไม่ตรงต่อเวลาไม่ศึกษาข้อมูลก่อนมาเที่ยวเอง คือเป็นความผิดของคนที่ไปเที่ยวด้วยละไม่ได้ดูแลงี้หรอ
ละบอกว่าจขกทไม่ยืดหยุ่น มาเที่ยวกับเพื่อนก้ต้องตามเพื่อนบ้าง คือเอาจริงๆๆๆ ถ้าเป็นคุณจะยอมรอแฟนเพื่อนตื่นแล้วล่มทริปตัวเองไหม ถามจริง?
งงกับหลายๆคหมากๆๆ
แสดงความคิดเห็น
ทริปเสียเพื่อน🙄เราผิดใช่มั้ยคะ
เราและแฟนจึงตัดสินใจจะไปเที่ยวกัน
โดยคิดว่าการเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้จะชวนเพื่อนสนิทไปด้วย เพราะส่วนตัวคิดว่าอยากเที่ยวกับเพื่อนบ้าง น่าจะสนุกเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจชวน
สรุปคือเพื่อนตกลงไปด้วยกันโดยมีแฟนเพื่อนไปด้วย
ซึ่งระหว่างช่วงเวลาที่จะบินพวกเราจองกันเป็นครึ่งปี (จองตั๋วพร้อมกันกับเพื่อน ซึ่งตอนจองเพื่อนก็อยากไปแฮปปี้ตั้งใจลุ้นจองตั๋วไปด้วยกัน)
เราและแฟนก็จองตั๋วเครื่องบินนู้นนี่เรียบร้อย
เพื่อนก็มีทะเลาะกับแฟนบ้างบ่นว่าจะไม่ไปนู้นนี่จะล้มเลิก (คือเพื่อนชอบทะเลาะกะแฟนแล้วแปบเดียวก็ดีกันเป็นแบบนี้บ่อยพอสมควร ทะเลาะกันทีไรพอคืนดีกันเราเป็นหมาทุกที)
เราก็พยายามพูดให้คิดว่าเอาหน่าไปสนุกกันพักผ่อน เพราะเพื่อนทะเลาะกะแฟนจะให้พูดเมิงเลิก ๆ ไปเลย แล้วแต่เมิงละกัน
แต่เพราะจ่ายตังค่าตั๋วไปแล้วไง (่จะให้ทิ้งตั๋วก็เสียดายแทนพูดเพราะเสียดายตั๋ว)
เราก็ต้องเป็นคนมาคอยกระตุ้นอีก ว่าจองโรงแรมรึยัง เพราะอยากให้ได้พักที่เดียวกัน
จะไปไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
(เรื่องจองโรงแรมแรกๆเพื่อนเราถามมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
พอหาได้ก็กลายเป็นเรามาต้องมาถามกลับต่อว่าจองตามกันมายัง)
แต่เนื่องจากการจองโรงแรมมันต้องใช้บัตรเคดิตเพื่อยืนยันแต่ยังไม่ต้องจ่าย (คือถ้าให้เราจ่ายให้ก่อน วงเงินเราก็จะเต็มจึงไม่สามารถจองให้ได้ในจุดนี้ ก็อธิบายให้ฟังเพื่อนก็ดูเข้าใจแล้ว)
เราก็เข้าใจเพื่อนถึงว่าคงยังไม่พร้อมเลยคอยเช็คคอยดูให้ว่าโรงแรมจะเต็มรึยัง
แต่ สรุปก็รอจนที่พักเดียวกันเต็ม ซึ่งเรากับแฟนก็เซ็งว่า ถ้ารู้ว่าจะต้องจองแยกกันงี้ไม่เหมือนตอนมาเร่งถามโรงแรม
เราก็จองที่พักดี ๆ บางที่ ที่เหลือไม่กี่ห้องไปแล้ว
พอถึงวันที่ต้องแยกที่พักกัน ซึ่งวันนั้นมันก็เย็นมากแล้วเกือบจะทุ่ม
เรากับแฟนเลยตัดสินใจคุยกับเพื่อนว่าเราต้องแยกกันไปที่พัก
เพื่อนแค่นั่งเลยไปอีกป้ายนึง เรากับแฟนก็บอกทางสอนดูแมพ
แล้วไปเช็คอินแล้วนัดเจอกันตรงแลนมาร์คกึ่งกลางระยะทางของแต่ละคน
เราก็หวังคงไม่ยากเพราะเพื่อนเราก็เรียนการท่องเที่ยวการโรงแรมมา
แต่ก็ยังลุ้นแอบเป็นห่วงว่า จะถึงที่พักรึยังไลน์หาเป็นระยะ จนเราออกไปตามที่นัดพบ
สรุปแฟนนาง งอแงไม่ออกมาจะพัก เราก็โอเคไม่ออกงั้นพวกเราก็จะเดินเล่นหาอะไรทานกัน
แต่ไม่ทันตามคาดร้านปิดหมด
[ ถ้าคิดว่าเราไม่แยกเลือกที่จะไปส่งเพื่อนถึงโรงแรมชีวิตการเที่ยวเราก็คงไม่แฮปปี้กว่านี้อีกมั้ง(คิดในใจ) ]
แล้วคืนวันนั้นเราก็บอกแพลนของเราว่าพรุ่งนี้เราจะไปไหน ๆ บ้าง กะว่านัดกันเรียบร้อย
ถ้าแผลนเราเพื่อนอยากไปด้วยกันก็นัดเวลาออกพร้อมกัน
แต่ถ้าไม่ ก็คิดว่าแยกกันเที่ยว
เพราะเรารู้สึกว่าตรงจุดที่เพื่อนอยากไปเสนอมา น่าจะมีพวกทัวร์ลงเยอะเราไม่ชอบคนเยอะ
และถ้าเพื่อนอยากไปไหนเราก็คิดว่าเพื่อนคงเที่ยวเองได้
จนเช้าเวลานัดเราโทรไปไม่รับสาย
จนเรากับแฟนไปถึงสถานที่เที่ยวจนจะกลับอยู่แล้ว
แล้วก็โทรมาหาว่าเราทิ้ง เราก็เอ๋อเลยโมโหด้วย โทรไปไม่รับแล้วไม่โทรกลับจนเวลาผ่านมาขนาดนี้แล้วโทรมาหาว่าเราทิ้ง ๆ แล้วที่ไม่โทรกลับ เพราะกำลังวางแผนการเที่ยวของตัวเองอยู่และแฟนของตัวเองเพิ่งตื่น
คือยังไง?? ต้องไปให้ไปรอรับถึงหน้าโรงแรมพวกนางเลยรึป่าวแล้วถ้าไปไวก็ต้องรอจนกว่าแฟนเพื่อนจะตื่นซึ่งเที่ยงงี้หรอ คือเราเสียเงินมาเที่ยวไม่ได้เป็นไกด์หรือคนคอยบริการอะไรขนาดนั้นมั้ยง่ะ
เราก็ปรับความเข้าใจกันนัดเจอกันตอนเย็น แต่ความรู้สึกมันก็ยังไม่โอเค
เพราะในคืนวันที่จะย้ายที่พักก่อนกลับ ซึ่งได้พักที่เดียวกันเพื่อนก็พูดว่า"นัดกันเดียวพวกเราทิ้งพวกเค้าอีก" (โมโห..เลยพูดไปว่าทิ้งอะไร??)
เรากับแฟนก็ช่วยกันดูแผนที่ให้เพื่อนและส่งโลเคชั่นไปให้ว่าโรมแรมอยู่ตรงนี้ซึ่งมันสามารถนัดเจอกัน กลางทางได้แล้วไปพร้อมกัน
แต่เพื่อนกับพูดมาว่าเปลืองถ้ามาลงสถานีเดียวกับเรา
ซึ่งมันเป็นสายเดียวกันสถานนีเราแค่ทางผ่าน คือมันไม่ได้เสียเงินอะไรเพิ่มเลยแค่ลงมารอหรือเราไปรอกระโดดขึ้นก็ได้
แต่เพื่อนก็ยังไม่โอเค อยู่ดีแล้วบอกงั้นเจอกันที่โอซาก้าเลย
เราก็โอเคได้
แล้วพอพวกเราถึงโรงแรมแล้วเรียบร้อย
ก็โทรมาหาว่าพวกเราทิ้งอีก บอกว่าไหนจะไปโรงแรมพร้อมกัน คือโรงแรมมันอยู่โอซาก้า แต่ที่เพื่อนเข้าใจ คือมันนัดพวกเราที่สถานนี โอซาก้า
คือแบบ...พวกเราจะไปสถานนีโอซาก้าเพื่อ ไปทำไมซึ่งมันไม่ใช่ทางเราเลยไม่ได้ผ่านด้วยซ้ำ
เพื่อนไปทางนั้นได้ไง ตั้งแต่ที่เพื่อนบอกงั้นเจอกันโอซาก้าเลย
ที่เราเข้าใจคือนัดเจอที่โอซาก้าเลยก็คือโรงแรมไงอยู่โอซ้าก้า
ถ้าโรงแรมอยู่กรุงเทพ แต่ไม่ได้อยู่ตรงสถานนีกรุงเทพก็จะเข้าใจว่า ลงสถานีกรุงเทพหรอ ??
โลเคชั่นก็ส่งให้ เพราะอะไรไม่เปิดดู เราถึงขนาดอัดคลิปสอนใช้กูเกิลแมพ
ตั้งแต่วันที่แยกโรงแรมจนหลังกลับมาเราก็เสียความรู้สึกไปแล้ว คิดว่าจะเป็นทริปที่จะมีความสุข เสียความรู้สึกแบบสุดๆ และ
มาประชดว่าพวกกูผิดเองที่ไม่มีบัตรจองโรงแรมไม่ทันพวกเมิง
เอ้าประเด็นสำหรับเรามันคือ
เวลาต้องเป็นเวลารึป่าว นัดเช้าตื่นเที่ยง
เราเสียเงินไปเที่ยวนะ จะให้ทำอะไรให้ทุกอย่างเลยหรอ ไกด์ก็ไม่ใช่ อะไรที่น่าจะช่วยตัวเองได้ก็ควรทำไม่ใช่หรอ
ไม่รู้สึกถึงคำว่าเกรงใจ มารยาท
จนตอนนี้เราก็ยังไม่โอเค เราทำอะไรพลาดไปรึป่าว ที่ทำให้เซ็นเซอร์ทีฟกับคำว่า ทิ้ง ไปเลย
สุดท้ายมันทำให้รู้สึกว่า เพื่อนคบกันมาเป็นสิบปีก็เลิกคบกันได้เพราะเรื่องเที่ยวแทนที่จะเป็นการสร้างความรู้สึกดีๆ / ยิ่งสนิทยิ่งต้องมีความเกรงใจ / การที่เราจะเจอคนที่สนิทและชอบอะไรเหมือนๆกันที่ไปเที่ยวด้วยกันได้มันยากนะ