น่าอิจฉาเพราะอะไร เพราะคุณมีทั้งงานให้ทำหลายคนหางานยังไม่ได้เลย
ทั้งมีรถให้ขับ หลายคนไม่มีรถขับ ต้องเดิน ขึ้นรถเมล์
ทั้งมีบ้านให้อยู่ มีที่อยู่อาศัยให้พักผ่อน นอน หลายคนไม่มีทั้งบ้าน หลายคนไม่มีแม้แต่ที่นอน นอนใต้สะพาน นอนข้างทาง เป็นคนเร่ร่อน
นี่มีทั้งงาน รถ บ้าน หลายคนไม่มีอะไรเลย แบบนี้แหละถึงเรียกว่าน่าอิจฉา มีหลายอย่างได้แบบนี้ก็เรียกว่าต้องมีความสามารถ คิดแก้ปัญหา ทำงานได้ แต่ทำไมถึงบ่นเบื่องาน เบื่อชีวิต นกตอนเช้าออกไปหากินแต่เช้าร้องจิ๊บๆไปทุกวันแต่เช้ายังไม่เห็นมันบ่นเลย พระอาทิตย์ขึ้น ตกซ้ำๆแบบนี้ทุกวันก็ไม่บ่นเลย อาชีพไหนๆต่างก็มีองค์ประกอบของงานรูทีนซ้ำทั้งนั้น แม้แต่อาชีพหมอ ก็ต้องมาสอนคนไข้ทานยาซ้ำๆ อาจารย์มหาวิทยาลัยก็ต้องมาสอนวิชาซ้ำๆ นักดนตรีกว่าจะขึ้นคอนเสริตก็ต้องฝึกซ้ำๆ การทำซ้ำเป็นการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญผลมาจาก division of labor
มีหลายสิ่งที่คนจำนวนมากไม่มี และบ่นในสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นธรรมชาติเรื่องปรกติของการทำงาน
คนที่บ่นว่าเบื่องาน ชีวิตซ้ำๆในแต่ละวัน ไปทำงาน ขับรถกลับ นอนอยู่บ้าน วนอยู่แบบนี้ คือคนที่น่าอิจฉาที่สุด
ทั้งมีรถให้ขับ หลายคนไม่มีรถขับ ต้องเดิน ขึ้นรถเมล์
ทั้งมีบ้านให้อยู่ มีที่อยู่อาศัยให้พักผ่อน นอน หลายคนไม่มีทั้งบ้าน หลายคนไม่มีแม้แต่ที่นอน นอนใต้สะพาน นอนข้างทาง เป็นคนเร่ร่อน
นี่มีทั้งงาน รถ บ้าน หลายคนไม่มีอะไรเลย แบบนี้แหละถึงเรียกว่าน่าอิจฉา มีหลายอย่างได้แบบนี้ก็เรียกว่าต้องมีความสามารถ คิดแก้ปัญหา ทำงานได้ แต่ทำไมถึงบ่นเบื่องาน เบื่อชีวิต นกตอนเช้าออกไปหากินแต่เช้าร้องจิ๊บๆไปทุกวันแต่เช้ายังไม่เห็นมันบ่นเลย พระอาทิตย์ขึ้น ตกซ้ำๆแบบนี้ทุกวันก็ไม่บ่นเลย อาชีพไหนๆต่างก็มีองค์ประกอบของงานรูทีนซ้ำทั้งนั้น แม้แต่อาชีพหมอ ก็ต้องมาสอนคนไข้ทานยาซ้ำๆ อาจารย์มหาวิทยาลัยก็ต้องมาสอนวิชาซ้ำๆ นักดนตรีกว่าจะขึ้นคอนเสริตก็ต้องฝึกซ้ำๆ การทำซ้ำเป็นการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญผลมาจาก division of labor
มีหลายสิ่งที่คนจำนวนมากไม่มี และบ่นในสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นธรรมชาติเรื่องปรกติของการทำงาน