ที่มา
http://oknation.nationtv.tv/blog/PeeThong/2013/06/01/entry-2
เรื่องราวที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ฉับพบเจอ จากประสบการณ์จริง เรื่องที่เล่าอาจจะไม่น่ากลัวแต่ฉันคิดว่ามันดูน่าแปลกและน่าประหลาดใจ
ขอย้อนเวลาไปเมื่อปี พ.ศ. 2551 ตอนนั้นฉันอยู่ ปี 2 ช่วงเรียนซัมเมอร์ ฉันพักอยู่หอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หนึ่งห้องอยู่ได้ 3 คน ห้องอาจแคบไปนิดหน่อยแต่รวม ๆ แล้วถือว่าดี หอพักนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ช่วงซัมเมอร์ฉันจองได้ห้องที่ 1 ชั้นที่ 1 หน้าต่างห้องจะติดกับที่จอดกับจักรยานพอดี ฉันก็ชอบนะห้องนี้ไม่ต้องเดินไกลมาถึงก็เข้าห้องได้เลยไม่ต้องขึ้นบันไดอยู่แล้วรู้สึกสบายใจ มีเพื่อนที่สนิทกันอยู่ด้วย 2 คน เพื่อนทั้งสองก็ไม่ค่อยอยู่ห้องเท่าไรนักเพราะ เพื่อนทั้ง 2 เรียนด้วยและทํางานพาทไทม์ด้วย ฉันมักจะได้อยู่ห้องคนเดียวบ่อย ๆ เพื่อน ๆ กลับดึก และกลับบ้านบ่อย ฉันไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะบ้านอยู่ไกล จึงนอนคนเดียวเป็นประจำ และการที่ได้อยู่คนเดียวมันก็ทำให้ฉันได้พบเจอเรื่องราวที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ผ่านไปสองอาทิตย์คืนหนึ่ง เวลา ประมาณ 23.00 น ฉันอ่านหนังสือ พอจะเคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงจักรยาน เป็นลักษณะเสียงจักรยานแม่บ้านตั้งขาตั้งแล้วขึ้นปั่นอยู่กับที่ ตอนแรกก็ปั่นเบาๆ ฉันก็คิดว่าใครมาปั่นจักรยานตอนกลางดึกแบบนี้ สงสัยคงจะออกไปหาหาอะไรกินมั้ง เสียงปั่นอยู่นานหลายนาทีก็หยุดไป สักพักก็ได้ยินเสียงปั่นจักรยานใหม่อีกรอบ รอบสองฉันก็รู้สึกสงสัย และเริ่มจะรำคาญเพราะฉันได้ยินเสียงชัดเจน เพราะหน้าต่างอยู่บนหัวนอนพอดี ก็นึกด่าในใจเล็กน้อย ด้วยความง่วงฉันค่อย ๆ หลับไป
คืนต่อมา ฉันก็ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิมทุกวัน ประมาณสัก 4 - 5 ทุ่มน่าจะได้ ฉันก็ได้ยินเสียงคนปั่นจักรยานอีกแล้ว คืนนี้ปั่นเบา ๆ แต่เรื่อย ๆ และนานกว่าคืนก่อน คืนนี้ดูท่าทางจะพิเศษกว่าทุกคืน คือมีเสียงหมาหอน หอนไล่มาเป็นระยะ ๆ มันดูเย็น ๆ วังเวงกว่าทุกคืนขนาดคืนนี้คนในหอดูคึกคักกว่าทุกวันนะ ฉันหยิบหนังสือมาอ่านแต่ก็อ่านไม่เข้าใจ เพราะไม่มีสมาธิ ได้แต่มองซ้ายมองขวา เสียงหมาหอนเบา ๆ เสียงโต๊ะเก้าอี้ห้องด้านบน ดังกระทบพื้นที ฉันก็สะดุ้งตกใจที เสียงคนปั่นจักรยานก็ดังแบบเบา ๆ ปั่นเรื่อย ๆ ไม่หยุด ฉันสรุปกับตัวเองได้ว่า ฉันนอนดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ จากนั้นฉันก็สะดุ้งโหยงเพราะได้ยินเสียงจักรยานล้ม ล้มแบบล้มหลาย ๆ คันเป็นแถบ ๆ หัวใจจะวาย ฉันอยากจะแหวกผ้าม่านดูเหลือเกินแต่ก็ไม่กล้าดูเพราะเป็นคนจินตนาการล้ำเลิศอยู่ด้วยแล้วจึงขึ้นเตียงแล้วคลุมโปงนอนยันเช้า ในตอนเช้า ฉันแต่งตัวกำลังจะออกไปเรียน คิดยังไม่รู้ ก็เดินอ้อมไปด้านหลังหอ ไปดูว่าจักรยานเป็นอะไรถึงล้ม แต่สิ่งที่ฉันเห็น ไม่มีจักรยานอยู่สักคัน ที่จอดว่างเปล่า ฉันจึงรีบเดินไปถามยามว่าจักรยานที่ลานจอดหายไปไหน น้ายามก็ทำหน้างง ๆ แล้วบอกกับฉันว่า จักรยานเก่า ๆ ของนักศึกษา เขาขนไปจอดไว้ที่อื่น เมื่อนสองเดือนที่แล้ว เพราะไม่มีเจ้าของมาเอานานหลายปีแล้ว ทางหอพักเห็นมันเก่าและใช้ไม่ได้ จึงเอาไปเก็บเอาไว้ข้างกำแพงหอพัก เดี๋ยวช่วงเปิดเทอม 1 จะได้มีที่จอดมอเตอร์ไซด์กับจักรยานของน้องปี 1 และหลังจากนั้นฉันก็ต้องบังคับเพื่อนให้มานอนมาอยู่หอด้วยกัน จนจบช่วงซัมเมอร์เลยทีเดียว
ประสบการณ์ลี้ลับจากเรื่องจริง ตอน เสียงจักยาน
ที่มา http://oknation.nationtv.tv/blog/PeeThong/2013/06/01/entry-2
เรื่องราวที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ฉับพบเจอ จากประสบการณ์จริง เรื่องที่เล่าอาจจะไม่น่ากลัวแต่ฉันคิดว่ามันดูน่าแปลกและน่าประหลาดใจ
ขอย้อนเวลาไปเมื่อปี พ.ศ. 2551 ตอนนั้นฉันอยู่ ปี 2 ช่วงเรียนซัมเมอร์ ฉันพักอยู่หอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หนึ่งห้องอยู่ได้ 3 คน ห้องอาจแคบไปนิดหน่อยแต่รวม ๆ แล้วถือว่าดี หอพักนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ช่วงซัมเมอร์ฉันจองได้ห้องที่ 1 ชั้นที่ 1 หน้าต่างห้องจะติดกับที่จอดกับจักรยานพอดี ฉันก็ชอบนะห้องนี้ไม่ต้องเดินไกลมาถึงก็เข้าห้องได้เลยไม่ต้องขึ้นบันไดอยู่แล้วรู้สึกสบายใจ มีเพื่อนที่สนิทกันอยู่ด้วย 2 คน เพื่อนทั้งสองก็ไม่ค่อยอยู่ห้องเท่าไรนักเพราะ เพื่อนทั้ง 2 เรียนด้วยและทํางานพาทไทม์ด้วย ฉันมักจะได้อยู่ห้องคนเดียวบ่อย ๆ เพื่อน ๆ กลับดึก และกลับบ้านบ่อย ฉันไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะบ้านอยู่ไกล จึงนอนคนเดียวเป็นประจำ และการที่ได้อยู่คนเดียวมันก็ทำให้ฉันได้พบเจอเรื่องราวที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ผ่านไปสองอาทิตย์คืนหนึ่ง เวลา ประมาณ 23.00 น ฉันอ่านหนังสือ พอจะเคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงจักรยาน เป็นลักษณะเสียงจักรยานแม่บ้านตั้งขาตั้งแล้วขึ้นปั่นอยู่กับที่ ตอนแรกก็ปั่นเบาๆ ฉันก็คิดว่าใครมาปั่นจักรยานตอนกลางดึกแบบนี้ สงสัยคงจะออกไปหาหาอะไรกินมั้ง เสียงปั่นอยู่นานหลายนาทีก็หยุดไป สักพักก็ได้ยินเสียงปั่นจักรยานใหม่อีกรอบ รอบสองฉันก็รู้สึกสงสัย และเริ่มจะรำคาญเพราะฉันได้ยินเสียงชัดเจน เพราะหน้าต่างอยู่บนหัวนอนพอดี ก็นึกด่าในใจเล็กน้อย ด้วยความง่วงฉันค่อย ๆ หลับไป
คืนต่อมา ฉันก็ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิมทุกวัน ประมาณสัก 4 - 5 ทุ่มน่าจะได้ ฉันก็ได้ยินเสียงคนปั่นจักรยานอีกแล้ว คืนนี้ปั่นเบา ๆ แต่เรื่อย ๆ และนานกว่าคืนก่อน คืนนี้ดูท่าทางจะพิเศษกว่าทุกคืน คือมีเสียงหมาหอน หอนไล่มาเป็นระยะ ๆ มันดูเย็น ๆ วังเวงกว่าทุกคืนขนาดคืนนี้คนในหอดูคึกคักกว่าทุกวันนะ ฉันหยิบหนังสือมาอ่านแต่ก็อ่านไม่เข้าใจ เพราะไม่มีสมาธิ ได้แต่มองซ้ายมองขวา เสียงหมาหอนเบา ๆ เสียงโต๊ะเก้าอี้ห้องด้านบน ดังกระทบพื้นที ฉันก็สะดุ้งตกใจที เสียงคนปั่นจักรยานก็ดังแบบเบา ๆ ปั่นเรื่อย ๆ ไม่หยุด ฉันสรุปกับตัวเองได้ว่า ฉันนอนดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ จากนั้นฉันก็สะดุ้งโหยงเพราะได้ยินเสียงจักรยานล้ม ล้มแบบล้มหลาย ๆ คันเป็นแถบ ๆ หัวใจจะวาย ฉันอยากจะแหวกผ้าม่านดูเหลือเกินแต่ก็ไม่กล้าดูเพราะเป็นคนจินตนาการล้ำเลิศอยู่ด้วยแล้วจึงขึ้นเตียงแล้วคลุมโปงนอนยันเช้า ในตอนเช้า ฉันแต่งตัวกำลังจะออกไปเรียน คิดยังไม่รู้ ก็เดินอ้อมไปด้านหลังหอ ไปดูว่าจักรยานเป็นอะไรถึงล้ม แต่สิ่งที่ฉันเห็น ไม่มีจักรยานอยู่สักคัน ที่จอดว่างเปล่า ฉันจึงรีบเดินไปถามยามว่าจักรยานที่ลานจอดหายไปไหน น้ายามก็ทำหน้างง ๆ แล้วบอกกับฉันว่า จักรยานเก่า ๆ ของนักศึกษา เขาขนไปจอดไว้ที่อื่น เมื่อนสองเดือนที่แล้ว เพราะไม่มีเจ้าของมาเอานานหลายปีแล้ว ทางหอพักเห็นมันเก่าและใช้ไม่ได้ จึงเอาไปเก็บเอาไว้ข้างกำแพงหอพัก เดี๋ยวช่วงเปิดเทอม 1 จะได้มีที่จอดมอเตอร์ไซด์กับจักรยานของน้องปี 1 และหลังจากนั้นฉันก็ต้องบังคับเพื่อนให้มานอนมาอยู่หอด้วยกัน จนจบช่วงซัมเมอร์เลยทีเดียว