คราวที่แล้วคุยกันไปแล้วถึงการถ่ายภาพใต้น้ำกับกล้อง Lumix GH5 หากใครพลาดไปก็เชิญไปติดตามชมได้ในกระทู้เก่าอันนี้ครับ.
https://ppantip.com/topic/37837266 วันนี้พากล้องที่ไปไหนก็เอาไปด้วยทุกที่ ครั้งนี้พาข้ามโลกเหินฟ้ามาท่องเที่ยวแถบยุโรปบ้าง ส่วนตัววางแผนขึ้นรถไฟเรือเมล์ท่องยุโรปสักพักอยากจะพกกล้องเบาๆเลนส์เอาไปได้หลายตัวหน่อย
ทริปเริ่มต้นในเดือน พฤษภาคม แลกไมล์ที่สะสมมาทั้งชีวิตเอาไว้เพื่อการนี้แหละแต่ว่าตั๋วจะหมดอายุแล้วเลยต้องรีบไปด่วน...ฮา จำไม่ได้ว่าทำไมถึงแลกตั๋วไปลงเมืองโคเปนฮาเกน เดนมาร์กไว้ นั่งเครื่องสบายๆสิบกว่าชั่วโมงมาถึงสนามบินก็สามารถต่อรถไฟเข้าไปในเมืองหาที่พักได้เลย ส่วนที่พักที่เลือกไว้น่ะเหรอ ผมเลือกไว้ใกล้ๆสถานีรถไฟ Copenhagen Central Station เลย ลงจากรถลากกระเป๋าเดินไม่ถึงสิบนาที...สบาย ของกินมากมาย ที่ Copenhagen Central Station รวมถึง 7-11 ด้วย
วันแรกก็ถ่ายรูปง่ายๆเลยไปที่ใกล้ๆก่อนขึ้นรถไฟใต้ดินไป 15 นาทีถึง เราได้มาเยือนแล้ว ทหารเปลี่ยนเวร ที่ AMALIENBORG PALACE, COPENHAGEN เดนมาร์ก เราจะได้เห็นทหารฝรั่งหน้าตาผิวพรรณดึงดูดสาวๆ รูปนี้อยากโชว์ให้เห็นดีเทลของกล้องและเลนส์ที่สามารถดึงรายละเอียดของขนที่อยู่บนหมวกทั้งความคมชัด และความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดในสีดำของตัวกล้อง F11 ISO320 1/100 ISO500 เลนส์ LEICA DG 100-400/F4.0-6.3 ที่ระยะ 350 mm
เมื่อถ่ายด้วยเลนส์ 15 mm ดีเทลของป้ายรถเมล์ในเมืองโคเปนฮาเก้น ผมมีเลนส์ตัวนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะมี Lumix GH5 เพราะใช้กับโดรนแล้วชอบ พอเอามาใส่กล้องเวลาเดินในเมืองเพราะเบาสบายไม่สะดุดตาคน f8 1/320 ISO200 เลนส์
Panasonic Leica DG Summilux 15mm f/1.7
ภาพนี้ตั้งถ่ายจากค่าแสงสองภาพที่ต่างกัน ตอนนั้นคงหมุนปุ่มอะไรพลาดสักอย่างไปที่ f22 f22 ISO200 0.50 s ภาพนี้ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง Lumix G Vario 7-14mm F4.0 mm ในขณะนั้นเลนส์ 8-18 ยังไม่เข้ามา มาดูไฟล์ภาพอืมจริงๆเลนส์ตัวนี้ก็คมพอสมควรเลย ในเมือง Copenhagen มีที่เดินถ่ายภาพมากมายทั้งมุมสูง มุมต่างๆในเมือง เดินก็ง่าย ขึ้นรถไฟก็สบาย มีอยู่วันนึงเช่าจักรยานจากโรงแรมออกไปเที่ยวเล่นก็ง่าย
กำหนดการต่อไปจากเมืองโคเปนเฮเกน เราก็เดินทางต่อมาที่ปารีส กำหนดการท่องเที่ยวไม่ได้มีอะไรมาก หมั่นเช็คพยากรณ์อากาศอากาศแย่มีฝนก็เลือกที่จะเข้าพิพิธภัณฑ์ และเดินเล่นแถวหอไอเฟล หรือแวะเยี่ยมชมมหาวิหารน็อทร์-ดาม โพสต์นี้ก็เน้นภาพนิ่ง แต่เวลาถ่ายจริงๆโดยมากก็สลับถ่ายทั้งวีดีโอไปด้วยกัน
นักดนตรีอิสระเล่นในสวนของมหานครกรุงปารีส f6.3 ISO400 1/100. เลนส์ LEICA DG 100-400/F4.0-6.3 แต่ซูมสุดกระบอกเลย ลองกันสั่นในตัวกล้องและเลนส์แบบ extreme. ด้วยการซูมไปช่วงเทเลที่สุดของเลนส์ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง กันสั่นใช้งานได้ดีเลย
โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย Palais Garnier. f6.3 ISO100 1.30 s. เลนส์ LUMIX G VARIO 7-14/F4.0 ลองดูไฟล์ภาพแล้วจริงๆภาพเดียวก็สามากรถเก็บแสงได้หมด แต่ผมชอบรวมไฟล์เพราะข้อมูลของไฟล์จะมีมากกว่าน๊อยส์ก็จะสามารถลดได้ง่ายกว่า โรงละครโอเปร่าไม่สามารถตั้งขาตั้งกล้องได้ต้องใช้การวางกล้องบนสันที่นั่งแล้วถ่าย ถ่ายเผื่อไว้กันภาพสั่นไหวเนื่องจากสปีดต่ำหลายๆภาพ อีกประเด็นข้อดีคือการที่จอพับได้ทำให้เล็งมุมในการถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นมาก
f5 ISO100 0.40 s. ถ่ายที่ 8 mm. เลนส์ LUMIX G VARIO 7-14/F4.0 โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย อีกซักภาพ
ถ้าใครชอบพิพิธภัณฑ์บอกได้เลยว่าปารีสคือสวรรค์ Musée d'Orsay พิพิธภัณฑ์ดอร์แซ เป็นที่จัดแสดงงานศิลปะที่ผมว่ามีขนาดกำลังพอดีในการไปเดินเล่นแบบใช้เวลาทั้งวันได้สบายๆ ไม่เหนื่อยมาก ครั้งแรกที่มาติดใจกับพวกประติมากรรมหลายๆชิ้น นอกจากนี้ภาพเขียนต่างๆก็ดูตื่นตาตื่นใจ ก่อนมาต้องการหาเลนส์ที่พกง่ายสะดวกสว่างๆเพื่อเอาไปถ่ายภาพวาด เช่นภาพนี้มีขนาดใหญ่ประมาณสองเมตรกว่าน่าจะได้ผมลองยืนถ่ายด้วยค่าหลายๆค่า F3.5 ISO320 1/20 ถ่ายที่ 17 mm. เลนส์ LUMIX G VARIO 12-35/F2.8 กลับมาดูไฟล์ภาพที่ได้กันสั่นของกล้อง Lumix GH5 รวมกับกันสั่นของเลนส์สามารถถ่ายภาพเทพเทวดาในที่แสงน้อยได้สบาย การถ่ายในพิพิธภัณฑ์คุณจะใช้ขาตั้งกล้องไม่ได้และมีแสงน้อยเพื่อป้องกันแสงจะไปทำลายภาพเขียน เวลาถ่ายขอให้เลือกเลนส์ที่มีกันสั่น หรือเปิดกันสั่นตัวกล้องและเปิดหน้ากล้องให้กว้าง
The Circus : Le Cirque ภาพเขียนสีน้ำมันของ Georges Seurat ในปี ค.ศ.1890-1891 เป็นภาพสไตล์ นีโออิมเพรสชั่นนิสต์ ผมมักจะถ่ายภาพมาให้ติดอันเดอร์นิดๆแล้วมาดึงแสงในโปรแกรมอีกนิดหน่อย แต่เลือกเอาชัตเตอร์สปีดที่จะทำให้ถ่ายแล้วไม่เบลอก่อนเป็นหลัก. F3.5 ISO500 1/50 ถ่ายที่ 17 mm. เลนส์ LUMIX G VARIO 12-35/F2.8
ภาพล่างคือภาพขยายให้เห็นรายละเอียดฝีแปรงการแต้มสีของศิลปิน ครอปที่ 100% รายละเอียดภาพยังดีอยู่มากๆ ขนาดของภาพจริง 185 cm × 152 cm (72.8 in × 59.8 in)
หลังจากที่ตะลุยเที่ยวถ่ายเมืองโคเปนเฮเกน และปารีสช่วงเดือนพฤษภาคมอีกไม่กี่เดือนถัดมาคือในเดือนสิงหาคมได้กลับไปเมืองโคเปนเฮเกนอีกครั้งเพื่อต่อเครื่องไปยัง หมู่เกาะแฟโร หมู่เกาะทางเหนือยุโรปใกล้ๆกับประเทศไอซ์แลนด์ คิดแผนไว้สักสองปีแล้วครับว่าอยากจะหาประเทศแปลกๆ น้องที่รู้จักกันเลยชวนไปที่นี่ โดยที่ต้องบินไปเดนมาร์คเหมือนเคย แล้วต่อเครื่องบินจากที่นั่น เราอยากได้ภูมิประเทศที่แปลกตาพยายามหาข้อมูว่ามีที่ไหนบ้างปรากฎว่าเป็นประเทศที่ขับรถได้สบายสะดวกเดินทางไปที่ไหนรัศมีไม่เกินสองชั่วโมงสำหรับการขับรถรอบเกาะมีเทรคกิ้งบ้างไม่ลำบากจนเกินไป เนื่องจากหมู่เกาะแฟโรเป็นเกาะอากาศแปรปรวนอยู่ไม่น้อยอาศัยว่าดูกล้องผ่านเว็บเช็คสภาพอากากาศก่อนที่จะไปจุดถ่ายรูปได้ที่ไหนอากาศดีก็ไปที่นั่นแทน
ในทุกๆที่มักจะมีตำนานพื้นบ้านหมู่เกาะแฟโรก็เช่นกัน เหนือสุดบนเกาะใหญ่ Eysturoy มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจุดหนึ่ง จุดที่ชอบจุดนี้มีตำนานเล่าว่า ยักษ์และแม่มดจาก Iceland ต้องการเอาเกาะ Eiðiskollur กลับไปบ้านเกิดเมืองนอนตัวเอง แม่มดเอาเชือกขึ้นไปผูกให้ยักษ์ฉุดลากบนยอดเขาEiðiskollur แต่ไม่สำเร็จได้แต่เพียงทำให้ยอดแหว่งเท่านั้น พยายามอยู่นานทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสางยักษ์และแม่มดต้องแสงอาทิตย์แรกและกลายเป็นหินเคียงคู่ภูผาแห่งEiðiskollur (ที่แหว่งด้านบนซ้ายมือบนยอดเขานั่นแหละครับ)
ปล. ระยะทางระหว่างจุดนี้ไปไอซ์แลนด์ประมาณ 450 กิโลเมตร
F6.3 1/125. ISO: 100 Lens. LEICA DG NOCTICRON 42.5/F1.2. เลนส์ที่ปกติผมชอบพกไว้อีกหนึ่งตัวด้วยความที่เป็นเลนส์เอฟกว้างถึง 1.2 ถ่าย protrait ละลายฉากหลังได้ดีอีก ครั้งนี้ลองเอามาถ่าย Landscape ยังแจ่ม
เมื่อมีเลนส์สุดโปรด LEICA DG NOCTICRON 42.5/F1.2 มีโอกาสเป็นต้องใช้ถ่าย อีกตำนานเรื่องเล่าหลอนๆ อา ไม่ใช่ละ KÓPAKONAN – THE SEAL WOMAN ตำนานเรื่องเล่าสนุกๆแห่งหมู่บ้าน Mikladalur บนเกาะ Kalsoy ที่ต้องขับรถขึ้นเฟอร์รี่ข้ามฟากมาตรงจุดนี้ ตำนานเล่าว่าจะมีหนึ่งวันในหนึ่งปี แมวน้ำจำแลงจะถอดหนังของตัวเองออกกลายร่างเป็นคนเพื่อฉลองและปาร์ตี้เต้นรำกันแบบนั้นแหละ แต่มีชายในหมู่บ้านแอบขโมยหนังที่ถอดรูปของแมวน้ำสาวจำแลงตนหนึ่งเอาไปซ่อนไว้จนแมวน้ำสาวตนนั้นไม่สามารถกลับลงสู่ทะเลได้ในตอนเช้า...เข้าตำราพากลับบ้านไปเป็นภรรยา แต่เรื่องก็ยังมีต่ออีกเยอะสามารถหาอ่านได้ในเว็บต่างได้ครับอันนี้ขอเขียนแบบสั้นๆละกันครับ
กาะแฟโรเหมาะสำหรับการดูนกแอตแลนติคพัพฟินอีกที่หนึ่ง ใกล้ๆกันที่ Iceland ก็เป็นที่นิยมสำหรับดูนกพัพฟินได้ง่าย การทำการประมงเกินขนาด มลภาวะ การล่าจากมนุษย์ ทำให้ประชาการของนกแอตแลนติคพัพฟินลดลงอย่างมากมาก แต่ปัจจัยหลักที่นกมีจำนวนลดลงเกิดจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง อันนี้นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าแท้ ปัจจุบันนกแอตแลนติคพัพฟินจัดอยู่ในสถานะ สิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU - Vulnerable species) f5.9 ISO320 1/1000 ISO320 เลนส์ LEICA DG 100-400/F4.0-6.3 ที่ระยะ 350 mm
ถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่ได้มาจุดนี้ไม่น่าจะถือว่ามาถึงหมู่เกาะแฟโร ผมนี่มาจุดนี้หลายรอบมากเพราะอยากได้ท้องฟ้าดีๆ ขับรถมาง่ายมากลอดอุโมงค์Gásadalurออกมาก็จะเจอหมู่บ้านGásadalur และเดินลงมานิดเดียวก็ถึงน้ำตกMulafossur พระอาทิตย์ตกด้านหลังจุดนี้ถ้าอยากได้ฟ้าตอนเย็นๆ. f9 1/10 ISO100 Panasonic Leica DG Vario-Elmarit 8-18mm f/2.8-4 ASPH บนขาตั้งกล้อง
ปิดท้ายด้วยภาพประภาคาร Kallur Lighthouse บนเกาะ Kulsoy ที่มีประชากรไม่ถึงสองร้อยคน กว่าจะได้ภาพต้องไปที่นี่สามครั้งถึงจะมีแสงแดดออก hike ขึ้นเขาไปทุกครั้งพร้อมกล้องสองตัวและขาตั้งกล้อง เดินไต่เขาเป็นระยะทางสามไมล์ เป็นความสูงที่ปีนขึ้นกว่าห้าร้อยฟิต F11 1/30 ISO100 LEICA DG 8-18/F2.8-4.0 ใช้ห้าภาพต่อกันเป็นพานอรามา ใช้ฟิลเตอร์ PL ตัดแสง
สรุปหลักๆที่ใช้มาทั้งใต้น้ำและบก ขนาดกล้องพกพาง่ายไม่สะดุดตาคน น้ำหนักเบาเดินทางสบาย ใช้ร่วมกับ Housing เถ่ายรูปใต้น้ำมีขนาดเล็กลง ประหยัดค่านวดมือแขนหลังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งประหยัดค่าน้ำหนักสัมภาระเครื่องบินด้วย ฟังค์ชั่นของกล้องทั้งภาพนิ่งและวีดีโอบอกตรงๆเลยมันเยอะมากยังใช้ไม่หมดยังต้อเรียนรู้อีกมากมาย ในส่วนวีดีโอผมยังคงยกให้ LumixGH5 ครบเครื่องในการใช้ในงานของผมทั้งใต้น้ำและบนบก วีดีโอนั้นไว้หาโอกาสตัดเป็นวีดีโอให้ชมจะได้เห็นตัวอย่างได้ชัดเจนกว่า ส่วนตัวแล้วคนถ่ายภาพเรามักเน้นไปที่กล้องแต่จากการใช้งานหลายๆครั้งผมว่า เลนส์ที่เลือกใช้สำคัญไม่น้อยไปกว่ากล้อง. เลนส์ในระบบของพานาโซนิคมีขนาดเล็กและเบาแม้กระทั่งเลนส์เทเลโฟโต้เอง ทำให้สามารถพกเลนส์นำไปเดินทางได้มากกว่าและสามารถเลือกใช้เข้ากับสถาณะการณ์ได้หลากหลายมากยิ่งขี้น เลนส์พานาโซนิคมีแคแรคเตอร์พิเศษในแบบที่ผมชอบคือ คอนทราส และสีสันไม่จัดจ้านจนเกินไป มีความละมุนในแบบของตัวเองสม่ำเสมอในทุกๆเลนส์อันนี้ต้องขอบคุณคนดีไซน์หรือวิศวกรในการประดิษฐ์เลนส์ที่มีแคแรกเตอร์เป็นเอกลักษณ์ได้สม่ำเสมอ ส่วนภาพนิ่งเองด้วยการที่กล้องไม่มี Low Pass Sensor ทำให้ภาพมีความคม โฟกัสไม่วืดวาดแม้แสงน้อย กว่า 50%ของการงานที่ทำเป็นภาพนิ่ง สเปคกล้องที่ผมเลือกเป็นอันดับแรกคือกล้องที่มีกันสั่นในตัวอย่าง Lumix GH5 จะมีจุดที่ไม่ชอบคือเรื่องนอยส์เวลาถ่ายภาพนิ่งในแสงน้อยเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติด้วยขนาดของเซนเซอร์ แต่ผมมักจะแก้ไขด้วยการเลือกเลนส์ที่สามารถเปิดรูรับแสงได้กว้าง หรือใช้วิธีการถ่ายภาพหลายๆค่า Exposure แล้วนำมารวมโปรเสสภาพเพื่อข้อมูลและสัญญาณภาพที่ดีกว่าเดิม...
พบกันใหม่ เมื่อผมไปเอากล้อง Lumix จาก Panasonic มาลองนะครับ ติดตาม FB: noom nautilus photography
[SR] ท่องโลกไปกับ Lumix GH5: My Journey with Lumix GH5
คราวที่แล้วคุยกันไปแล้วถึงการถ่ายภาพใต้น้ำกับกล้อง Lumix GH5 หากใครพลาดไปก็เชิญไปติดตามชมได้ในกระทู้เก่าอันนี้ครับ. https://ppantip.com/topic/37837266 วันนี้พากล้องที่ไปไหนก็เอาไปด้วยทุกที่ ครั้งนี้พาข้ามโลกเหินฟ้ามาท่องเที่ยวแถบยุโรปบ้าง ส่วนตัววางแผนขึ้นรถไฟเรือเมล์ท่องยุโรปสักพักอยากจะพกกล้องเบาๆเลนส์เอาไปได้หลายตัวหน่อย
ทริปเริ่มต้นในเดือน พฤษภาคม แลกไมล์ที่สะสมมาทั้งชีวิตเอาไว้เพื่อการนี้แหละแต่ว่าตั๋วจะหมดอายุแล้วเลยต้องรีบไปด่วน...ฮา จำไม่ได้ว่าทำไมถึงแลกตั๋วไปลงเมืองโคเปนฮาเกน เดนมาร์กไว้ นั่งเครื่องสบายๆสิบกว่าชั่วโมงมาถึงสนามบินก็สามารถต่อรถไฟเข้าไปในเมืองหาที่พักได้เลย ส่วนที่พักที่เลือกไว้น่ะเหรอ ผมเลือกไว้ใกล้ๆสถานีรถไฟ Copenhagen Central Station เลย ลงจากรถลากกระเป๋าเดินไม่ถึงสิบนาที...สบาย ของกินมากมาย ที่ Copenhagen Central Station รวมถึง 7-11 ด้วย
วันแรกก็ถ่ายรูปง่ายๆเลยไปที่ใกล้ๆก่อนขึ้นรถไฟใต้ดินไป 15 นาทีถึง เราได้มาเยือนแล้ว ทหารเปลี่ยนเวร ที่ AMALIENBORG PALACE, COPENHAGEN เดนมาร์ก เราจะได้เห็นทหารฝรั่งหน้าตาผิวพรรณดึงดูดสาวๆ รูปนี้อยากโชว์ให้เห็นดีเทลของกล้องและเลนส์ที่สามารถดึงรายละเอียดของขนที่อยู่บนหมวกทั้งความคมชัด และความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดในสีดำของตัวกล้อง F11 ISO320 1/100 ISO500 เลนส์ LEICA DG 100-400/F4.0-6.3 ที่ระยะ 350 mm
เมื่อถ่ายด้วยเลนส์ 15 mm ดีเทลของป้ายรถเมล์ในเมืองโคเปนฮาเก้น ผมมีเลนส์ตัวนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะมี Lumix GH5 เพราะใช้กับโดรนแล้วชอบ พอเอามาใส่กล้องเวลาเดินในเมืองเพราะเบาสบายไม่สะดุดตาคน f8 1/320 ISO200 เลนส์
Panasonic Leica DG Summilux 15mm f/1.7
ภาพนี้ตั้งถ่ายจากค่าแสงสองภาพที่ต่างกัน ตอนนั้นคงหมุนปุ่มอะไรพลาดสักอย่างไปที่ f22 f22 ISO200 0.50 s ภาพนี้ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง Lumix G Vario 7-14mm F4.0 mm ในขณะนั้นเลนส์ 8-18 ยังไม่เข้ามา มาดูไฟล์ภาพอืมจริงๆเลนส์ตัวนี้ก็คมพอสมควรเลย ในเมือง Copenhagen มีที่เดินถ่ายภาพมากมายทั้งมุมสูง มุมต่างๆในเมือง เดินก็ง่าย ขึ้นรถไฟก็สบาย มีอยู่วันนึงเช่าจักรยานจากโรงแรมออกไปเที่ยวเล่นก็ง่าย
กำหนดการต่อไปจากเมืองโคเปนเฮเกน เราก็เดินทางต่อมาที่ปารีส กำหนดการท่องเที่ยวไม่ได้มีอะไรมาก หมั่นเช็คพยากรณ์อากาศอากาศแย่มีฝนก็เลือกที่จะเข้าพิพิธภัณฑ์ และเดินเล่นแถวหอไอเฟล หรือแวะเยี่ยมชมมหาวิหารน็อทร์-ดาม โพสต์นี้ก็เน้นภาพนิ่ง แต่เวลาถ่ายจริงๆโดยมากก็สลับถ่ายทั้งวีดีโอไปด้วยกัน
นักดนตรีอิสระเล่นในสวนของมหานครกรุงปารีส f6.3 ISO400 1/100. เลนส์ LEICA DG 100-400/F4.0-6.3 แต่ซูมสุดกระบอกเลย ลองกันสั่นในตัวกล้องและเลนส์แบบ extreme. ด้วยการซูมไปช่วงเทเลที่สุดของเลนส์ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง กันสั่นใช้งานได้ดีเลย
โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย Palais Garnier. f6.3 ISO100 1.30 s. เลนส์ LUMIX G VARIO 7-14/F4.0 ลองดูไฟล์ภาพแล้วจริงๆภาพเดียวก็สามากรถเก็บแสงได้หมด แต่ผมชอบรวมไฟล์เพราะข้อมูลของไฟล์จะมีมากกว่าน๊อยส์ก็จะสามารถลดได้ง่ายกว่า โรงละครโอเปร่าไม่สามารถตั้งขาตั้งกล้องได้ต้องใช้การวางกล้องบนสันที่นั่งแล้วถ่าย ถ่ายเผื่อไว้กันภาพสั่นไหวเนื่องจากสปีดต่ำหลายๆภาพ อีกประเด็นข้อดีคือการที่จอพับได้ทำให้เล็งมุมในการถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นมาก
f5 ISO100 0.40 s. ถ่ายที่ 8 mm. เลนส์ LUMIX G VARIO 7-14/F4.0 โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย อีกซักภาพ
ถ้าใครชอบพิพิธภัณฑ์บอกได้เลยว่าปารีสคือสวรรค์ Musée d'Orsay พิพิธภัณฑ์ดอร์แซ เป็นที่จัดแสดงงานศิลปะที่ผมว่ามีขนาดกำลังพอดีในการไปเดินเล่นแบบใช้เวลาทั้งวันได้สบายๆ ไม่เหนื่อยมาก ครั้งแรกที่มาติดใจกับพวกประติมากรรมหลายๆชิ้น นอกจากนี้ภาพเขียนต่างๆก็ดูตื่นตาตื่นใจ ก่อนมาต้องการหาเลนส์ที่พกง่ายสะดวกสว่างๆเพื่อเอาไปถ่ายภาพวาด เช่นภาพนี้มีขนาดใหญ่ประมาณสองเมตรกว่าน่าจะได้ผมลองยืนถ่ายด้วยค่าหลายๆค่า F3.5 ISO320 1/20 ถ่ายที่ 17 mm. เลนส์ LUMIX G VARIO 12-35/F2.8 กลับมาดูไฟล์ภาพที่ได้กันสั่นของกล้อง Lumix GH5 รวมกับกันสั่นของเลนส์สามารถถ่ายภาพเทพเทวดาในที่แสงน้อยได้สบาย การถ่ายในพิพิธภัณฑ์คุณจะใช้ขาตั้งกล้องไม่ได้และมีแสงน้อยเพื่อป้องกันแสงจะไปทำลายภาพเขียน เวลาถ่ายขอให้เลือกเลนส์ที่มีกันสั่น หรือเปิดกันสั่นตัวกล้องและเปิดหน้ากล้องให้กว้าง
The Circus : Le Cirque ภาพเขียนสีน้ำมันของ Georges Seurat ในปี ค.ศ.1890-1891 เป็นภาพสไตล์ นีโออิมเพรสชั่นนิสต์ ผมมักจะถ่ายภาพมาให้ติดอันเดอร์นิดๆแล้วมาดึงแสงในโปรแกรมอีกนิดหน่อย แต่เลือกเอาชัตเตอร์สปีดที่จะทำให้ถ่ายแล้วไม่เบลอก่อนเป็นหลัก. F3.5 ISO500 1/50 ถ่ายที่ 17 mm. เลนส์ LUMIX G VARIO 12-35/F2.8
ภาพล่างคือภาพขยายให้เห็นรายละเอียดฝีแปรงการแต้มสีของศิลปิน ครอปที่ 100% รายละเอียดภาพยังดีอยู่มากๆ ขนาดของภาพจริง 185 cm × 152 cm (72.8 in × 59.8 in)
หลังจากที่ตะลุยเที่ยวถ่ายเมืองโคเปนเฮเกน และปารีสช่วงเดือนพฤษภาคมอีกไม่กี่เดือนถัดมาคือในเดือนสิงหาคมได้กลับไปเมืองโคเปนเฮเกนอีกครั้งเพื่อต่อเครื่องไปยัง หมู่เกาะแฟโร หมู่เกาะทางเหนือยุโรปใกล้ๆกับประเทศไอซ์แลนด์ คิดแผนไว้สักสองปีแล้วครับว่าอยากจะหาประเทศแปลกๆ น้องที่รู้จักกันเลยชวนไปที่นี่ โดยที่ต้องบินไปเดนมาร์คเหมือนเคย แล้วต่อเครื่องบินจากที่นั่น เราอยากได้ภูมิประเทศที่แปลกตาพยายามหาข้อมูว่ามีที่ไหนบ้างปรากฎว่าเป็นประเทศที่ขับรถได้สบายสะดวกเดินทางไปที่ไหนรัศมีไม่เกินสองชั่วโมงสำหรับการขับรถรอบเกาะมีเทรคกิ้งบ้างไม่ลำบากจนเกินไป เนื่องจากหมู่เกาะแฟโรเป็นเกาะอากาศแปรปรวนอยู่ไม่น้อยอาศัยว่าดูกล้องผ่านเว็บเช็คสภาพอากากาศก่อนที่จะไปจุดถ่ายรูปได้ที่ไหนอากาศดีก็ไปที่นั่นแทน
ในทุกๆที่มักจะมีตำนานพื้นบ้านหมู่เกาะแฟโรก็เช่นกัน เหนือสุดบนเกาะใหญ่ Eysturoy มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจุดหนึ่ง จุดที่ชอบจุดนี้มีตำนานเล่าว่า ยักษ์และแม่มดจาก Iceland ต้องการเอาเกาะ Eiðiskollur กลับไปบ้านเกิดเมืองนอนตัวเอง แม่มดเอาเชือกขึ้นไปผูกให้ยักษ์ฉุดลากบนยอดเขาEiðiskollur แต่ไม่สำเร็จได้แต่เพียงทำให้ยอดแหว่งเท่านั้น พยายามอยู่นานทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสางยักษ์และแม่มดต้องแสงอาทิตย์แรกและกลายเป็นหินเคียงคู่ภูผาแห่งEiðiskollur (ที่แหว่งด้านบนซ้ายมือบนยอดเขานั่นแหละครับ)
ปล. ระยะทางระหว่างจุดนี้ไปไอซ์แลนด์ประมาณ 450 กิโลเมตร
F6.3 1/125. ISO: 100 Lens. LEICA DG NOCTICRON 42.5/F1.2. เลนส์ที่ปกติผมชอบพกไว้อีกหนึ่งตัวด้วยความที่เป็นเลนส์เอฟกว้างถึง 1.2 ถ่าย protrait ละลายฉากหลังได้ดีอีก ครั้งนี้ลองเอามาถ่าย Landscape ยังแจ่ม
เมื่อมีเลนส์สุดโปรด LEICA DG NOCTICRON 42.5/F1.2 มีโอกาสเป็นต้องใช้ถ่าย อีกตำนานเรื่องเล่าหลอนๆ อา ไม่ใช่ละ KÓPAKONAN – THE SEAL WOMAN ตำนานเรื่องเล่าสนุกๆแห่งหมู่บ้าน Mikladalur บนเกาะ Kalsoy ที่ต้องขับรถขึ้นเฟอร์รี่ข้ามฟากมาตรงจุดนี้ ตำนานเล่าว่าจะมีหนึ่งวันในหนึ่งปี แมวน้ำจำแลงจะถอดหนังของตัวเองออกกลายร่างเป็นคนเพื่อฉลองและปาร์ตี้เต้นรำกันแบบนั้นแหละ แต่มีชายในหมู่บ้านแอบขโมยหนังที่ถอดรูปของแมวน้ำสาวจำแลงตนหนึ่งเอาไปซ่อนไว้จนแมวน้ำสาวตนนั้นไม่สามารถกลับลงสู่ทะเลได้ในตอนเช้า...เข้าตำราพากลับบ้านไปเป็นภรรยา แต่เรื่องก็ยังมีต่ออีกเยอะสามารถหาอ่านได้ในเว็บต่างได้ครับอันนี้ขอเขียนแบบสั้นๆละกันครับ
กาะแฟโรเหมาะสำหรับการดูนกแอตแลนติคพัพฟินอีกที่หนึ่ง ใกล้ๆกันที่ Iceland ก็เป็นที่นิยมสำหรับดูนกพัพฟินได้ง่าย การทำการประมงเกินขนาด มลภาวะ การล่าจากมนุษย์ ทำให้ประชาการของนกแอตแลนติคพัพฟินลดลงอย่างมากมาก แต่ปัจจัยหลักที่นกมีจำนวนลดลงเกิดจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง อันนี้นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าแท้ ปัจจุบันนกแอตแลนติคพัพฟินจัดอยู่ในสถานะ สิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU - Vulnerable species) f5.9 ISO320 1/1000 ISO320 เลนส์ LEICA DG 100-400/F4.0-6.3 ที่ระยะ 350 mm
ถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่ได้มาจุดนี้ไม่น่าจะถือว่ามาถึงหมู่เกาะแฟโร ผมนี่มาจุดนี้หลายรอบมากเพราะอยากได้ท้องฟ้าดีๆ ขับรถมาง่ายมากลอดอุโมงค์Gásadalurออกมาก็จะเจอหมู่บ้านGásadalur และเดินลงมานิดเดียวก็ถึงน้ำตกMulafossur พระอาทิตย์ตกด้านหลังจุดนี้ถ้าอยากได้ฟ้าตอนเย็นๆ. f9 1/10 ISO100 Panasonic Leica DG Vario-Elmarit 8-18mm f/2.8-4 ASPH บนขาตั้งกล้อง
ปิดท้ายด้วยภาพประภาคาร Kallur Lighthouse บนเกาะ Kulsoy ที่มีประชากรไม่ถึงสองร้อยคน กว่าจะได้ภาพต้องไปที่นี่สามครั้งถึงจะมีแสงแดดออก hike ขึ้นเขาไปทุกครั้งพร้อมกล้องสองตัวและขาตั้งกล้อง เดินไต่เขาเป็นระยะทางสามไมล์ เป็นความสูงที่ปีนขึ้นกว่าห้าร้อยฟิต F11 1/30 ISO100 LEICA DG 8-18/F2.8-4.0 ใช้ห้าภาพต่อกันเป็นพานอรามา ใช้ฟิลเตอร์ PL ตัดแสง
สรุปหลักๆที่ใช้มาทั้งใต้น้ำและบก ขนาดกล้องพกพาง่ายไม่สะดุดตาคน น้ำหนักเบาเดินทางสบาย ใช้ร่วมกับ Housing เถ่ายรูปใต้น้ำมีขนาดเล็กลง ประหยัดค่านวดมือแขนหลังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งประหยัดค่าน้ำหนักสัมภาระเครื่องบินด้วย ฟังค์ชั่นของกล้องทั้งภาพนิ่งและวีดีโอบอกตรงๆเลยมันเยอะมากยังใช้ไม่หมดยังต้อเรียนรู้อีกมากมาย ในส่วนวีดีโอผมยังคงยกให้ LumixGH5 ครบเครื่องในการใช้ในงานของผมทั้งใต้น้ำและบนบก วีดีโอนั้นไว้หาโอกาสตัดเป็นวีดีโอให้ชมจะได้เห็นตัวอย่างได้ชัดเจนกว่า ส่วนตัวแล้วคนถ่ายภาพเรามักเน้นไปที่กล้องแต่จากการใช้งานหลายๆครั้งผมว่า เลนส์ที่เลือกใช้สำคัญไม่น้อยไปกว่ากล้อง. เลนส์ในระบบของพานาโซนิคมีขนาดเล็กและเบาแม้กระทั่งเลนส์เทเลโฟโต้เอง ทำให้สามารถพกเลนส์นำไปเดินทางได้มากกว่าและสามารถเลือกใช้เข้ากับสถาณะการณ์ได้หลากหลายมากยิ่งขี้น เลนส์พานาโซนิคมีแคแรคเตอร์พิเศษในแบบที่ผมชอบคือ คอนทราส และสีสันไม่จัดจ้านจนเกินไป มีความละมุนในแบบของตัวเองสม่ำเสมอในทุกๆเลนส์อันนี้ต้องขอบคุณคนดีไซน์หรือวิศวกรในการประดิษฐ์เลนส์ที่มีแคแรกเตอร์เป็นเอกลักษณ์ได้สม่ำเสมอ ส่วนภาพนิ่งเองด้วยการที่กล้องไม่มี Low Pass Sensor ทำให้ภาพมีความคม โฟกัสไม่วืดวาดแม้แสงน้อย กว่า 50%ของการงานที่ทำเป็นภาพนิ่ง สเปคกล้องที่ผมเลือกเป็นอันดับแรกคือกล้องที่มีกันสั่นในตัวอย่าง Lumix GH5 จะมีจุดที่ไม่ชอบคือเรื่องนอยส์เวลาถ่ายภาพนิ่งในแสงน้อยเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติด้วยขนาดของเซนเซอร์ แต่ผมมักจะแก้ไขด้วยการเลือกเลนส์ที่สามารถเปิดรูรับแสงได้กว้าง หรือใช้วิธีการถ่ายภาพหลายๆค่า Exposure แล้วนำมารวมโปรเสสภาพเพื่อข้อมูลและสัญญาณภาพที่ดีกว่าเดิม...
พบกันใหม่ เมื่อผมไปเอากล้อง Lumix จาก Panasonic มาลองนะครับ ติดตาม FB: noom nautilus photography
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้