การเริ่มต้นถ่ายภาพของผมแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย เร่ิมจากการที่ผมไปเรียนดำน้ำลึกที่เรียกว่า Scuba ในปี 2003 หลังจากนั้นได้ไม่กี่เดือนผมก็เริ่มการถ่ายภาพใต้น้ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเป็นช่วงที่กล้องดิจิตอลกำลังเข้ามามีบทบาทในการถ่ายภาพ จากคอมแพคฝากเพื่อนแอร์ไปซื้อให้ที่ญี่ปุ่นแต่วีดีโอคุณภาพก็ยังไม่ได้ดีหรอกครับ ค่อยขยับขึ้นเป็น DSLR แบบตัวคูณและเป็น Fullframe ตอนนั้นเน้นการถ่ายภาพนิ่ง หวังใจว่าวันนึงวีดีโอในกล้องจะดีขึ้น ปัจจุปันกล้องถ่ายวีดีโอได้ดีมากเลยหันมาเน้นเรื่องวีดีโอเป็นส่วนใหญ่แทน
ครั้งแรกที่เอากล้อง Panasonic Lumix GH5 ลงน้ำ เอาลงสระก่อนเพื่อทดสอบปุ่มของเคสกันน้ำรวมถึงสร้างความคุ้นเคยเลยเอามาถ่ายการฝึกFree Diveในสระ ถ่ายตอนกลางวันในโหมด 4K Photo
Lumix GH5 + Panasonic Lumix G Fisheye 8mm f/3.5 เลือกจังหวะที่ชอบexport ในตัวกล้องได้เป็นภาพน่ิงขนาด 8 MP
การถ่ายภาพใต้น้ำเริ่มต้นง่ายๆด้วยอุปกรณ์สองอย่างแรกคือ กล้อง และเคสกันน้ำหรือที่เรียกกันว่าHousing ซี่งเจ้า Housingนี่แหละที่จะกันไม่ให้น้ำเข้าไปผสมกับกล้องจนเป็นน้ำข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ555 จริงๆแล้วยังมีอุปกรณ์ต่างๆอีกมากมายที่ต้องนำมาใช้คู่กันเพื่อแก้ไขข้อจำกัดต่างๆในการถ่ายภาพใต้น้ำ
แล้วประเภทของภาพถ่ายใต้น้ำแบ่งได้ออกเป็นกี่ประเภทบ้าง? ทั่วๆไปคือ ภาพมุมกว้างภูมิทัศน์ หรือภาพถ่ายสัตว์ใต้น้ำขนาดใหญ่ ประเภทที่สองคือมาโครสำหรับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆใต้น้ำ
ภาพลูกปลาวัววัยเด็กถ่ายด้วยเลนส์มาโคร Panasonic Leica DG Macro-Elmarit 45mm f/2.8
ข้อจำกัดของการถ่ายภาพใต้น้ำนั้นมีมากมาย เช่น ในแต่ละครั้งที่ลงดำน้ำเรามีเวลาอยู่ใต้น้ำในนานประมาณ 45 นาที เนื่องจากข้อจำกัดด้านถังอากาศ และเรื่องฟิสิกส์ของก๊าซที่เราหายใจซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายเมื่ออยู่ใต้น้ำเป็นต้น
ภาพถ่ายที่ความลึกราว 30 เมตรโดยใช้แสงธรรมชาติ และการใช้ Manual White Balance ในการถ่ายภาพ ซึ่งผมว่าตัวกล้อง WB ใต้น้ำได้ดี
ข้อจำกัดของการถ่ายภาพใต้น้ำที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องสี และแสง ที่ความลึกไม่เกินสามเมตรจากผิวน้ำสีแดงจะยังคงอยู่และค่อยๆหายไปเรื่อยๆ สีถัดมาคือสีส้มไล่เรียงตามสเปคตรัมของแสง ณ ความลึก 10 เมตรจะเห็นได้ว่าสีแดงหายไปทั้งหมด (ภาพประกอบspectrumใต้น้ำจากอินเตอร์เน็ต) เราจึงต้องคืนสีให้กับภาพถ่ายใต้น้ำด้วยการนำเอาไฟวีดีโอ หรือไฟแฟลชใต้น้ำลงไป วัตถุประสงค์หลักไม่ใช่แค่การให้ความสว่างกับภาพแต่อย่างเดียวแต่คือการคืนสีที่ถูกต้องให้กับวัตถุที่เราถ่ายด้วย
ภาพนี้ใช้ไฟวีดีโอใต้น้ำสองดวงซ้าย และขวาเพื่อคืนสีให้กับปะการังอ่อนในด้านหน้า ในขณะที่ปะการังอ่อนระยะที่แสงไฟไปไม่ถึงจะโดนสีของสภาพน้ำสีฟ้ากลบสีที่แท้จริงไป Panasonic Lumix G Fisheye 8mm f/3.5. F6.3 1/60 ISO400
ถึงแม้ว่าอากาศด้านบนจะขมุกขมัว แต่ใต้น้ำก็ยังได้รับแสงมากพอที่จะถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องใช้ไฟวีดีโอ หรือแฟลช วิธีการนี้เหมาะกับที่ๆมีแสงธรรมชาติบ้างโดยการใช้การตั้งค่า Manual White Balanceใต้น้ำที่ระดับความลึกนั้นๆ ทำให้ฉากหน้าที่ได้มีสีสันสมจริงคือสีแดงใต้น้ำกลับมาในส่วนที่น้ำไม่ลึกจนสีแดงหายไปหมด
ซากโครงกระดูกวาฬที่คาดว่าจะเป็นวาฬโอมูระ ที่ชาวประมงพบและลากมาจมลงบนพื้นทรายความลึก30 เมตรบริเวณเกาะห้า อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี Panasonic Lumix G Fisheye 8mm f/3.5 1/60 ISO200
ส่วนตัวอยากได้อารมณ์ของแสงไฟเหมือนการสำรวจของของพวกสารคดีชีวิตสัตว์โลกเลยดำลงไปถ่ายตอนกลางคืน
มุมกว้างอีกภาพหนึ่งก่อนที่จะเปลี่ยนบรรยากาศพาไปชมสีสันของตัวเล็กๆน้อยๆจากมุมมองมาโครกันบ้างครับ เลนส์ ฟิชอาย 8 mm. F6.3 1/80 ISO200 ไฟแฟลชสองดวง ภาพนี้ถ่ายที่โลซิน เราอาจไม่คุ้นชื่อกับ เกาะโลซินเท่าไหร่นัก โลซินจัดได้ว่าเป็นจุดดำน้ำที่เด็ดดวงอีกจุดหนึ่งทางใต้สุดของฝั่งอ่าวไทย ทั่วๆไปโลซินไม่มีอะไรไปมากกว่าประภาคารกลางทะเลลึกแต่ทว่าใต้น้ำมีความใสพอๆกับทางฝั่งอันดามัน และมีดงปะการังเขากวางที่กว้างใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเราเลยทีเดียว
เข้าสู่โหมดมาโครแล้วนะครับ ผมเหินฟ้ามายังประเทศอินโดนีเซียเพื่อมาดำน้ำดูสิ่งมีชีวิตตัวน้อยใต้น้ำโดยเดินทางไปประเทศสิงค์โปร์ก่อน แล้วจึงต่อเครื่องของสายการบิน Silk Air มายังเกาะมานาโด หลังจากรอตัวแทนของรีสอร์ทดำน้ำที่พาเรานั่งรถสองชั่วโมงกว่าๆเราก็มาถึงช่องแคบเลมเบห์อันมีชื่อเสียงของการดำน้ำแบบMuck Diveแปลเป็นไทยคือดำน้ำกับขยะนั่นเอง อืม ฟังดูช่างไม่โสภาเท่าไหร่แต่ว่าจริงๆแล้วของเด็ดๆใต้น้ำที่นี่เพียบแน่นอน
ขอแนะนำตัวประหลาดสายพันธุ์แรกก่อนที่คุณจะสามารถใช้เวลาถ่ายรูปได้เป็นชั่วโมงอย่างเจ้าปลาหมึก บอกได้เลยว่าเจอได้หลายชนิด และแต่ละชนิดมีความพิเศษที่ไม่ซ้ำกัน
เลนส์มาโคร 45 mm. F8 1/160 ISO200 ไฟแฟลชสองดวงเพื่อลบเงา และเปิดรายละเอียด กล้องโฟกัสได้โอเคแม้ในกลางคืนส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราต้องมีไฟฉายช่วยในการดำน้ำกลางคืนอยู่แล้วแต่เอามาช่วยโฟกัสด้วยอีกที
นี่คือเจ้า Long Arm Octopus เป็นหมึกสายแขนยาว ไม่ใช่สิ หมึกสายหนวดยาว ยิ่งแปลยิ่งเพี้ยนชื่ออังกฤษก็บอกตรงตัวแบบนี้เลยล่ะครับดูแล้วหนวดหมึกยาวจริงๆ ความสามารถไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากในใต้น้ำแต่ผมว่ามันดูเหมือนคนแก่ๆเครายาวๆเท่านั้นแหละ อ้อ อาจจะมีวิธีหลบหนีศัตรูหรือซุ่มโจมตีเหยื่อโดยการมุดทรายดังภาพที่สอง
เลนส์มาโคร 45 mm. F8 1/200 ISO200 ไฟแฟลชสองดวง
ความชอบส่วนตัวที่เลือกมาดำน้ำที่นี่คือการได้เจอหมึกหลากหลายชนิดทั้งกลางวันหรือเวลากลางคืน หมึกที่เจอก็จะแตกต่างไม่เหมือนกัน
หมึกกระดองขนาดประมาณหนึ่งข้อน้ิวก้อย เลนส์มาโคร 45 mm. f11 1/200 ISO200 ไฟแฟลชสองดวง
Coconut Octopus ใช้กะลามะพร้าวหรือเอาเปลือกหอยมาบังปิดป้องกันตัว เลนส์มาโคร 45 mm. f13 1/125 ISO200 หากไม่มีอะไรป้องกันก็จะแผ่กางหนวดทั้งหมดออกให้ดูตัวใหญ่เป็นที่เกรงขามของศัตรู ในเวลาหากินหมึกก็จะแผ่หนวดเพื่อคลุมเหยื่อเช่นกัน
เลนส์มาโคร 45 mm. f16 1/125 ISO200
หมึกนอกจากมีพฤติกรรมไม่เหมือนใครแล้วยังมีเทคนิคการเอาตัวรอดแบบน่าพิศวงด้วยก็น่าจะเป็นหมึกสาย Mimic Octopus หรือหมึกจำแลง มันจำแลงแปลงร่างได้หลายแบบเช่น ว่ายตัวลีบทำรูปร่างคล้ายปลาลิ้นหมา หรือฝังๆตัวในทรายเหลือเพียงหนวดยื่นออกมาสองข้างลวดลายขาวสลับดำเป็นงูทะเลเป็นต้น บ้างก็ว่าว่ายน้ำเหมือนปลาสิงโตทะเล ดีว่าได้เลนส์มาโคร 45 mm.(ระยะเทียบเท่า 90 mm.) มาใช้ จึงสามารถถ่ายภาพสัตว์น้ำได้ทั้งที่มีขนาดพอประมาณ หรือแม้กระทั่งเล็กๆได้
โฉมหน้าหมึกจำแลงแปลงร่างด้านข้าง และด้านบน เลนส์มาโคร 45 mm. f16 1/125 ISO200 นอกจากเปลี่ยนรูปแล้วยังเปลี่ยนสีด้วย
เลนส์มาโคร 45 mm. f16 1/125 ISO200
ปลาการ์ตูนมีนิสัยดุ๊กดิ๊กไฮเปอร์ไม่อยู่น่ิงแต่การถ่ายภาพถ้าจะต้องไล่ตามหันกล้องซ้ายขวาทีก็จะทำให้พลาดจังหวะสำคัญ เสียเวลาเพื่อโฟกัสตามให้ทันด้วย ผมเลยปรับจากโหมดออโต้โฟกัสจากปุ่มด้านหลังตัวกล้องเลือกปุ่มใช้แมนนวลโฟกัส หน้าจอlive view แสดงภาพขยายให้เห็นกอดอกไม้ทะเลมือหมุนปรับให้ชัดแล้วรอ พฤติกรรมของปลาการ์ตูนแม้ว่าจะอยู่ไม่สุกยังไงก็ต้องกลับมาที่ดอกไม้ทะเลเสมอ ผมเลือกหน้ากล้อง f14 เพราะคิดว่าน่าจะครอบคลุมระยะชัดของปลาการ์ตูนได้แน่ๆ เมื่อมีจังหวะปลาเข้าเฟรมที่ตั้งไว้ก็กดชัตเตอร์ได้อย่างทันท่วงทีโดยที่ไม่ต้องเสียจังหวะไปกับการให้กล้องโฟกัสภาพ
เลนส์มาโคร 45 mm. F16 1/100 ISO200
ถ้าถามว่าใต้น้ำใช้โหมดโฟกัสอะไรถ่ายมากที่สุดคงเป็น AF – Custom Multi เพราะว่าสามารถปรับขนาดของจุดโฟกัส และบริเวณที่จะโฟกัสได้
เลือกโหมดออโต้โฟกัส แบบ Custom Multi บริเวณจุดตัดเก้าช่องมุมบนขวา เพื่อการโฟกัสลูกปลาวัวที่มีขนาดเล็กกว่าหนึ่งเซนติเมตรแถมว่ายไปมาตลอดเวลาให้อยู่ในโฟกัส
เลนส์มาโคร 45 mm. F13 1/125 ISO200
ในสภาพแสงน้อยหลังจากตะวันลับฟ้าไปแล้วปราศจากแสงธรรมชาติใดๆใต้น้ำเป็นเวลาที่ปลาแมนดารินตัวผู้(ตัวใหญ่กว่า)จะจับคู่ผลมพันธุ์กับตัวเมียหลายๆตัว ไกด์ใต้น้ำเพียงแสงไฟฉายเบาๆลอดนิ้วมือออกมาเพื่อให้การโฟกัสเป็นไปได้ กล้องก็ทำออกมาได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เลนส์มาโคร 45 mm. F20 1/160 ISO400 เพื่อชดเชยหน้ากล้องที่แคบลงจึงชดเชยแสงด้วยการเพิ่มISO และเพิ่มลดภาระของแฟลชในการชาร์จจะได้ยิงได้ไวขึ้น
ค้นพบว่าโหมดออโต้โฟกัส แบบ Pinpoint ผมว่ามันเหมาะมากสำหรับตัวที่เล็กจิ๋วมากๆ
ม้าน้ำแคระสายพันธุ์ Hippocampus bargibantiเป็นม้าน้ำขนาดเล็ก ตัวเต็มวัยมีความยาวไม่เกิน 2.4 cm.รวมหาง ตัวที่ผมถ่ายคิดว่ามีขนาดเล็กมากคิดว่าส่วนหัวและตัวที่โผล่ออกมาจากกอกัลปังหาไม่น่าจะเกิน 1 เซนติเมตรผมจึงต้องใช้ Diopter ซึ่งเป็นเลนส์ขยายสำหรับถ่ายมาโครใส่ด้านหน้าพอร์ตอีกที หลังจากที่ใช้กล้องถ่ายมาโครใต้น้ำมาสักพักผมคิดว่าการถ่ายมาโครด้วย AF Mode – Pinpoint ให้ผลดีมากและรวดเร็ว สามารถเลือกโฟกัสให้ตาเป็นจุดโฟกัสได้ดีกว่าการใช้โหมดโฟกัสแบบอื่น
หนึ่งในตัวประหลาดเพื่อทดสอบความสามารถในการโฟกัสตัวที่เล็กมากอย่าง Lembeh Sea Dragon ความยาวหัวถึงหางไม่เกิน 3 cm. และตัวบอบบางอย่าบอกใครเชียว
สรุปสั้นๆกล้องดีมากในแง่ของวีดีโอ 4K (กำลังจะนำเสนอในลำดับต่อไปครับ) ภาพนิ่งให้คุณภาพดีเนื่องจากไม่มี low pass filter ภาพจึงคมและสามารถเอาไปพิมพ์งานได้อย่างสบาย กล้อง+Housingมีขนาดเล็กลงจากที่ผมเคยใช้ทำให้สบายมือไม่มีปัญหาปวดมือเหมือนแต่ก่อน รวมถึงค่าน้ำหนักเวลาเดินทางด้วย 555 โอกาสหน้าจะนำเสนอภาพบนบกและวีดีโอ 4K ครับ โปรดติดตามได้ในนี้หรือเพจ Noom Nautilus Photography สวัสดีครับ
[SR] วันหนึ่งเมื่อฉันถือกล้อง Lumix GH5 ลงน้ำ
ครั้งแรกที่เอากล้อง Panasonic Lumix GH5 ลงน้ำ เอาลงสระก่อนเพื่อทดสอบปุ่มของเคสกันน้ำรวมถึงสร้างความคุ้นเคยเลยเอามาถ่ายการฝึกFree Diveในสระ ถ่ายตอนกลางวันในโหมด 4K Photo
Lumix GH5 + Panasonic Lumix G Fisheye 8mm f/3.5 เลือกจังหวะที่ชอบexport ในตัวกล้องได้เป็นภาพน่ิงขนาด 8 MP
การถ่ายภาพใต้น้ำเริ่มต้นง่ายๆด้วยอุปกรณ์สองอย่างแรกคือ กล้อง และเคสกันน้ำหรือที่เรียกกันว่าHousing ซี่งเจ้า Housingนี่แหละที่จะกันไม่ให้น้ำเข้าไปผสมกับกล้องจนเป็นน้ำข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ555 จริงๆแล้วยังมีอุปกรณ์ต่างๆอีกมากมายที่ต้องนำมาใช้คู่กันเพื่อแก้ไขข้อจำกัดต่างๆในการถ่ายภาพใต้น้ำ
แล้วประเภทของภาพถ่ายใต้น้ำแบ่งได้ออกเป็นกี่ประเภทบ้าง? ทั่วๆไปคือ ภาพมุมกว้างภูมิทัศน์ หรือภาพถ่ายสัตว์ใต้น้ำขนาดใหญ่ ประเภทที่สองคือมาโครสำหรับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆใต้น้ำ
ภาพลูกปลาวัววัยเด็กถ่ายด้วยเลนส์มาโคร Panasonic Leica DG Macro-Elmarit 45mm f/2.8
ข้อจำกัดของการถ่ายภาพใต้น้ำนั้นมีมากมาย เช่น ในแต่ละครั้งที่ลงดำน้ำเรามีเวลาอยู่ใต้น้ำในนานประมาณ 45 นาที เนื่องจากข้อจำกัดด้านถังอากาศ และเรื่องฟิสิกส์ของก๊าซที่เราหายใจซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายเมื่ออยู่ใต้น้ำเป็นต้น
ภาพถ่ายที่ความลึกราว 30 เมตรโดยใช้แสงธรรมชาติ และการใช้ Manual White Balance ในการถ่ายภาพ ซึ่งผมว่าตัวกล้อง WB ใต้น้ำได้ดี
ข้อจำกัดของการถ่ายภาพใต้น้ำที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องสี และแสง ที่ความลึกไม่เกินสามเมตรจากผิวน้ำสีแดงจะยังคงอยู่และค่อยๆหายไปเรื่อยๆ สีถัดมาคือสีส้มไล่เรียงตามสเปคตรัมของแสง ณ ความลึก 10 เมตรจะเห็นได้ว่าสีแดงหายไปทั้งหมด (ภาพประกอบspectrumใต้น้ำจากอินเตอร์เน็ต) เราจึงต้องคืนสีให้กับภาพถ่ายใต้น้ำด้วยการนำเอาไฟวีดีโอ หรือไฟแฟลชใต้น้ำลงไป วัตถุประสงค์หลักไม่ใช่แค่การให้ความสว่างกับภาพแต่อย่างเดียวแต่คือการคืนสีที่ถูกต้องให้กับวัตถุที่เราถ่ายด้วย
ภาพนี้ใช้ไฟวีดีโอใต้น้ำสองดวงซ้าย และขวาเพื่อคืนสีให้กับปะการังอ่อนในด้านหน้า ในขณะที่ปะการังอ่อนระยะที่แสงไฟไปไม่ถึงจะโดนสีของสภาพน้ำสีฟ้ากลบสีที่แท้จริงไป Panasonic Lumix G Fisheye 8mm f/3.5. F6.3 1/60 ISO400
ถึงแม้ว่าอากาศด้านบนจะขมุกขมัว แต่ใต้น้ำก็ยังได้รับแสงมากพอที่จะถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องใช้ไฟวีดีโอ หรือแฟลช วิธีการนี้เหมาะกับที่ๆมีแสงธรรมชาติบ้างโดยการใช้การตั้งค่า Manual White Balanceใต้น้ำที่ระดับความลึกนั้นๆ ทำให้ฉากหน้าที่ได้มีสีสันสมจริงคือสีแดงใต้น้ำกลับมาในส่วนที่น้ำไม่ลึกจนสีแดงหายไปหมด
ซากโครงกระดูกวาฬที่คาดว่าจะเป็นวาฬโอมูระ ที่ชาวประมงพบและลากมาจมลงบนพื้นทรายความลึก30 เมตรบริเวณเกาะห้า อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี Panasonic Lumix G Fisheye 8mm f/3.5 1/60 ISO200
ส่วนตัวอยากได้อารมณ์ของแสงไฟเหมือนการสำรวจของของพวกสารคดีชีวิตสัตว์โลกเลยดำลงไปถ่ายตอนกลางคืน
มุมกว้างอีกภาพหนึ่งก่อนที่จะเปลี่ยนบรรยากาศพาไปชมสีสันของตัวเล็กๆน้อยๆจากมุมมองมาโครกันบ้างครับ เลนส์ ฟิชอาย 8 mm. F6.3 1/80 ISO200 ไฟแฟลชสองดวง ภาพนี้ถ่ายที่โลซิน เราอาจไม่คุ้นชื่อกับ เกาะโลซินเท่าไหร่นัก โลซินจัดได้ว่าเป็นจุดดำน้ำที่เด็ดดวงอีกจุดหนึ่งทางใต้สุดของฝั่งอ่าวไทย ทั่วๆไปโลซินไม่มีอะไรไปมากกว่าประภาคารกลางทะเลลึกแต่ทว่าใต้น้ำมีความใสพอๆกับทางฝั่งอันดามัน และมีดงปะการังเขากวางที่กว้างใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเราเลยทีเดียว
เข้าสู่โหมดมาโครแล้วนะครับ ผมเหินฟ้ามายังประเทศอินโดนีเซียเพื่อมาดำน้ำดูสิ่งมีชีวิตตัวน้อยใต้น้ำโดยเดินทางไปประเทศสิงค์โปร์ก่อน แล้วจึงต่อเครื่องของสายการบิน Silk Air มายังเกาะมานาโด หลังจากรอตัวแทนของรีสอร์ทดำน้ำที่พาเรานั่งรถสองชั่วโมงกว่าๆเราก็มาถึงช่องแคบเลมเบห์อันมีชื่อเสียงของการดำน้ำแบบMuck Diveแปลเป็นไทยคือดำน้ำกับขยะนั่นเอง อืม ฟังดูช่างไม่โสภาเท่าไหร่แต่ว่าจริงๆแล้วของเด็ดๆใต้น้ำที่นี่เพียบแน่นอน
ขอแนะนำตัวประหลาดสายพันธุ์แรกก่อนที่คุณจะสามารถใช้เวลาถ่ายรูปได้เป็นชั่วโมงอย่างเจ้าปลาหมึก บอกได้เลยว่าเจอได้หลายชนิด และแต่ละชนิดมีความพิเศษที่ไม่ซ้ำกัน
เลนส์มาโคร 45 mm. F8 1/160 ISO200 ไฟแฟลชสองดวงเพื่อลบเงา และเปิดรายละเอียด กล้องโฟกัสได้โอเคแม้ในกลางคืนส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราต้องมีไฟฉายช่วยในการดำน้ำกลางคืนอยู่แล้วแต่เอามาช่วยโฟกัสด้วยอีกที
นี่คือเจ้า Long Arm Octopus เป็นหมึกสายแขนยาว ไม่ใช่สิ หมึกสายหนวดยาว ยิ่งแปลยิ่งเพี้ยนชื่ออังกฤษก็บอกตรงตัวแบบนี้เลยล่ะครับดูแล้วหนวดหมึกยาวจริงๆ ความสามารถไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากในใต้น้ำแต่ผมว่ามันดูเหมือนคนแก่ๆเครายาวๆเท่านั้นแหละ อ้อ อาจจะมีวิธีหลบหนีศัตรูหรือซุ่มโจมตีเหยื่อโดยการมุดทรายดังภาพที่สอง
เลนส์มาโคร 45 mm. F8 1/200 ISO200 ไฟแฟลชสองดวง
ความชอบส่วนตัวที่เลือกมาดำน้ำที่นี่คือการได้เจอหมึกหลากหลายชนิดทั้งกลางวันหรือเวลากลางคืน หมึกที่เจอก็จะแตกต่างไม่เหมือนกัน
หมึกกระดองขนาดประมาณหนึ่งข้อน้ิวก้อย เลนส์มาโคร 45 mm. f11 1/200 ISO200 ไฟแฟลชสองดวง
Coconut Octopus ใช้กะลามะพร้าวหรือเอาเปลือกหอยมาบังปิดป้องกันตัว เลนส์มาโคร 45 mm. f13 1/125 ISO200 หากไม่มีอะไรป้องกันก็จะแผ่กางหนวดทั้งหมดออกให้ดูตัวใหญ่เป็นที่เกรงขามของศัตรู ในเวลาหากินหมึกก็จะแผ่หนวดเพื่อคลุมเหยื่อเช่นกัน
เลนส์มาโคร 45 mm. f16 1/125 ISO200
หมึกนอกจากมีพฤติกรรมไม่เหมือนใครแล้วยังมีเทคนิคการเอาตัวรอดแบบน่าพิศวงด้วยก็น่าจะเป็นหมึกสาย Mimic Octopus หรือหมึกจำแลง มันจำแลงแปลงร่างได้หลายแบบเช่น ว่ายตัวลีบทำรูปร่างคล้ายปลาลิ้นหมา หรือฝังๆตัวในทรายเหลือเพียงหนวดยื่นออกมาสองข้างลวดลายขาวสลับดำเป็นงูทะเลเป็นต้น บ้างก็ว่าว่ายน้ำเหมือนปลาสิงโตทะเล ดีว่าได้เลนส์มาโคร 45 mm.(ระยะเทียบเท่า 90 mm.) มาใช้ จึงสามารถถ่ายภาพสัตว์น้ำได้ทั้งที่มีขนาดพอประมาณ หรือแม้กระทั่งเล็กๆได้
โฉมหน้าหมึกจำแลงแปลงร่างด้านข้าง และด้านบน เลนส์มาโคร 45 mm. f16 1/125 ISO200 นอกจากเปลี่ยนรูปแล้วยังเปลี่ยนสีด้วย
เลนส์มาโคร 45 mm. f16 1/125 ISO200
ปลาการ์ตูนมีนิสัยดุ๊กดิ๊กไฮเปอร์ไม่อยู่น่ิงแต่การถ่ายภาพถ้าจะต้องไล่ตามหันกล้องซ้ายขวาทีก็จะทำให้พลาดจังหวะสำคัญ เสียเวลาเพื่อโฟกัสตามให้ทันด้วย ผมเลยปรับจากโหมดออโต้โฟกัสจากปุ่มด้านหลังตัวกล้องเลือกปุ่มใช้แมนนวลโฟกัส หน้าจอlive view แสดงภาพขยายให้เห็นกอดอกไม้ทะเลมือหมุนปรับให้ชัดแล้วรอ พฤติกรรมของปลาการ์ตูนแม้ว่าจะอยู่ไม่สุกยังไงก็ต้องกลับมาที่ดอกไม้ทะเลเสมอ ผมเลือกหน้ากล้อง f14 เพราะคิดว่าน่าจะครอบคลุมระยะชัดของปลาการ์ตูนได้แน่ๆ เมื่อมีจังหวะปลาเข้าเฟรมที่ตั้งไว้ก็กดชัตเตอร์ได้อย่างทันท่วงทีโดยที่ไม่ต้องเสียจังหวะไปกับการให้กล้องโฟกัสภาพ
เลนส์มาโคร 45 mm. F16 1/100 ISO200
ถ้าถามว่าใต้น้ำใช้โหมดโฟกัสอะไรถ่ายมากที่สุดคงเป็น AF – Custom Multi เพราะว่าสามารถปรับขนาดของจุดโฟกัส และบริเวณที่จะโฟกัสได้
เลือกโหมดออโต้โฟกัส แบบ Custom Multi บริเวณจุดตัดเก้าช่องมุมบนขวา เพื่อการโฟกัสลูกปลาวัวที่มีขนาดเล็กกว่าหนึ่งเซนติเมตรแถมว่ายไปมาตลอดเวลาให้อยู่ในโฟกัส
เลนส์มาโคร 45 mm. F13 1/125 ISO200
ในสภาพแสงน้อยหลังจากตะวันลับฟ้าไปแล้วปราศจากแสงธรรมชาติใดๆใต้น้ำเป็นเวลาที่ปลาแมนดารินตัวผู้(ตัวใหญ่กว่า)จะจับคู่ผลมพันธุ์กับตัวเมียหลายๆตัว ไกด์ใต้น้ำเพียงแสงไฟฉายเบาๆลอดนิ้วมือออกมาเพื่อให้การโฟกัสเป็นไปได้ กล้องก็ทำออกมาได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เลนส์มาโคร 45 mm. F20 1/160 ISO400 เพื่อชดเชยหน้ากล้องที่แคบลงจึงชดเชยแสงด้วยการเพิ่มISO และเพิ่มลดภาระของแฟลชในการชาร์จจะได้ยิงได้ไวขึ้น
ค้นพบว่าโหมดออโต้โฟกัส แบบ Pinpoint ผมว่ามันเหมาะมากสำหรับตัวที่เล็กจิ๋วมากๆ
ม้าน้ำแคระสายพันธุ์ Hippocampus bargibantiเป็นม้าน้ำขนาดเล็ก ตัวเต็มวัยมีความยาวไม่เกิน 2.4 cm.รวมหาง ตัวที่ผมถ่ายคิดว่ามีขนาดเล็กมากคิดว่าส่วนหัวและตัวที่โผล่ออกมาจากกอกัลปังหาไม่น่าจะเกิน 1 เซนติเมตรผมจึงต้องใช้ Diopter ซึ่งเป็นเลนส์ขยายสำหรับถ่ายมาโครใส่ด้านหน้าพอร์ตอีกที หลังจากที่ใช้กล้องถ่ายมาโครใต้น้ำมาสักพักผมคิดว่าการถ่ายมาโครด้วย AF Mode – Pinpoint ให้ผลดีมากและรวดเร็ว สามารถเลือกโฟกัสให้ตาเป็นจุดโฟกัสได้ดีกว่าการใช้โหมดโฟกัสแบบอื่น
หนึ่งในตัวประหลาดเพื่อทดสอบความสามารถในการโฟกัสตัวที่เล็กมากอย่าง Lembeh Sea Dragon ความยาวหัวถึงหางไม่เกิน 3 cm. และตัวบอบบางอย่าบอกใครเชียว
สรุปสั้นๆกล้องดีมากในแง่ของวีดีโอ 4K (กำลังจะนำเสนอในลำดับต่อไปครับ) ภาพนิ่งให้คุณภาพดีเนื่องจากไม่มี low pass filter ภาพจึงคมและสามารถเอาไปพิมพ์งานได้อย่างสบาย กล้อง+Housingมีขนาดเล็กลงจากที่ผมเคยใช้ทำให้สบายมือไม่มีปัญหาปวดมือเหมือนแต่ก่อน รวมถึงค่าน้ำหนักเวลาเดินทางด้วย 555 โอกาสหน้าจะนำเสนอภาพบนบกและวีดีโอ 4K ครับ โปรดติดตามได้ในนี้หรือเพจ Noom Nautilus Photography สวัสดีครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้