ในเกมระหว่างโบรุสเซียมันเช่นกลัดบัค กับชาลเก้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผลจบด้วยสกอร์ 2-1 เป็นกลัดบัคที่คว้าชัยในบ้านได้สำเร็จ
ซึ่งว่ากันตามจริง นอกจากเป็นเกมของทีมที่ขับเคี่ยวชิงพื้นที่ไปเล่นบอลยุโรป มันก็ดูเป็นเกมธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
แต่สำหรับแฟนกลัดบัคหลายๆ คน รวมทั้งเรา เชื่อว่านัดนี้เป็นเกมที่มีความหมายมากๆ เกมหนึ่งเลยค่ะ
อย่างแรก...นี่เป็นการเจอกับราชันย์สีน้ำเงิน ชาลเก้ หนึ่งในทีมหัวแถวของลีก
สำหรับกลัดบัคที่มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย ฤดูกาลนี้ไม่มีเวสเตอร์การ์ท และยังขาดกัปตันทีมอย่างชตินเดิ้ล
นิโค่ เอลเวดี้ กองหลังดาวรุ่งคนสำคัญ ก็เพิ่งกลับมาจากการหายเจ็บ สามแต้มในนัดนี้เลยเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ
และสำหรับแฟนกลัดบัคหลายๆ คนความสำคัญที่มากกว่าในความรู้สึกส่วนตัว
คือเกมนี้เป็นเกมที่มีผู้เล่นจากอคาเดมี่ จากปีเพลย์ออฟกับโบคุ่มสองคนอยู่ในสนามพร้อมกัน
สองคนนั้นคือโทนี่ ยานช์เค่อ กับพาทริก แฮร์มันน์ หรือฟลาโก้ของแฟนๆ
หมายเหตุ: หารูปยานช์เค่อ จากเกมนัดเมื่อวานไม่ได้เลยค่ะ ขออภัย
ยานช์เค่เดบิวท์กับกลัดบัคในปี 2008 เขากลายเป็นกำลังหลักในตำแหน่ง CB คู่กับอัลบาโร โดมิงเกวซ (แขวนสตั๊ดแล้ว) ในชุดที่คว้าที่อันดับ 4 ของตารางบุนเดสลีกา และทำให้ทีมได้โควต้าไปเล่น UCL ก่อนที่เขาจะประสบปัญหาบาดเจ็บยาว จนถูกผู้เล่นใหม่ๆ มาแทนที่ และกลายเป็นตัวสำรองในที่สุด
ฤดูกาลนี้ยานช์เค่กลับมาเป็นตัวเลือกหลักในตำแหน่ง CB อีกครั้ง หลังการย้ายไปเซาธ์แทมป์ตันของ ยานนิค เวสเตอร์การ์ท
อีกคนคือพาทริก แฮร์มันน์ หรือฟลาโก้ของแฟนๆ เป็นดาวรุ่งคนสำคัญจากอคาเดมี่ เคยเป็นตัวความหวังของทีม เคยติดทีมชาติเยอรมัน ก่อนจะได้รับบาดเจ็บ ACL จนหายไปปีกว่า ด้วยเวลาที่ห่างหายไปนาน ทำให้เขาถูกผู้เล่นใหม่ๆ มาแทนที่ และกลายเป็นตัวเลือกในลำดับรองลงมา
นัดนี้ฟลาโก้ยิงได้ และเป็นประตูแรกของเขาในฤดูกาล เป็นประตูแรกของฟลาโก้ในรอบ 588 วัน หรือเกือบ 19 เดือน
ปัจจุบัน ฟลาโก้ลงให้กลัดบัคแล้วทุกราวการรวม 274 นัด มากที่สุดในบรรดานักเตะที่ยังไม่แขวนสตั๊ด
และเป็นลำดับที่ 21 ของประวัติศาสตร์สโมสร
(ถ้านับเฉพาะบุนเดสลีกา จะลงเล่น 223 นัด เป็นลำดับที่ 19 ของสโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้ง)
เป็นผู้เล่นคนเดียวที่เกิดหลังปี 1970 ที่ลงเล่นให้กลัดบัค ในบุนเดสลีกาเกิน 200 นัดไปแล้ว
ส่วนตัวนี่เริ่มติดตามกลัดบัคมาตอนที่ฟลาโก้กำลังเป็นดาวรุ่งพอดี แล้วก็เป็นดาวรุ่งคนที่เลือกเชียร์เป็นพิเศษด้วย ในกลุ่มดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของทีมยุคนั้น ถ้าไม่นับยานช์เค่ที่เดบิวท์ไปก่อน ก็เหลือแค่ฟลาโก้คนเดียวแล้ว (จากแก๊งค์ผมทรงหัวตั้ง) ที่ยังอยู่กับกลัดบัค
ย้อนกลับไปตอนปิดตลาด มีข่าวด้วยซ้ำว่าฟลาโก้จะย้ายทีม เจ้าตัวก็ยอมรับว่ากำลังตัดสินใจ
เจ้าตัวว่าจริงๆ ไม่อยากย้าย แต่ก็อยากลงเล่นมากขึ้น สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการอยู่ต่อ
สำหรับแฟนที่ตามมาตั้งแต่ปี 2010 อย่างเรา มันมีความหมายมากจริงๆ นะ
ถ้าใครเคยคุยด้วยจะรู้ดีว่าปกตินี่เป็นพวกโอ๋นักเตะมากๆ รักนักเตะทุกคนในทีมเลย
แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะมีบางคนที่พิเศษกว่าคนอื่น และหนึ่งในนั้นก็คือฟลาโก้นี่แหละ
.
.
.
ดีใจมากๆ ที่ทีมชนะ และดีใจจริงๆ ที่ฟลาโก้ได้ลงสนาม มีส่วนร่วมกับเกม ทำประตูได้
รู้สึกเหมือนไม่ได้เห็นภาพตอนฟลาโก้ดีใจสุดเหวี่ยงแบบนี้มานานมากแล้ว
ยินดีด้วย กับประตูแรกในบุนเดสลีกาของฟลาโก้ในรอบ 588 วัน มันนานมากจริงๆ
หวังว่าจากนี้ไปจะได้เห็นบ่อยๆ ในชุดกลัดบัคแบบนี้นะ
Glad To Have You Back, Flaco!
==== Glad To Have You Back: เรื่องเล็กๆ ที่มีความหมายมากมายในคืนวันเสาร์ ====
ซึ่งว่ากันตามจริง นอกจากเป็นเกมของทีมที่ขับเคี่ยวชิงพื้นที่ไปเล่นบอลยุโรป มันก็ดูเป็นเกมธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
แต่สำหรับแฟนกลัดบัคหลายๆ คน รวมทั้งเรา เชื่อว่านัดนี้เป็นเกมที่มีความหมายมากๆ เกมหนึ่งเลยค่ะ
อย่างแรก...นี่เป็นการเจอกับราชันย์สีน้ำเงิน ชาลเก้ หนึ่งในทีมหัวแถวของลีก
สำหรับกลัดบัคที่มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย ฤดูกาลนี้ไม่มีเวสเตอร์การ์ท และยังขาดกัปตันทีมอย่างชตินเดิ้ล
นิโค่ เอลเวดี้ กองหลังดาวรุ่งคนสำคัญ ก็เพิ่งกลับมาจากการหายเจ็บ สามแต้มในนัดนี้เลยเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ
และสำหรับแฟนกลัดบัคหลายๆ คนความสำคัญที่มากกว่าในความรู้สึกส่วนตัว
คือเกมนี้เป็นเกมที่มีผู้เล่นจากอคาเดมี่ จากปีเพลย์ออฟกับโบคุ่มสองคนอยู่ในสนามพร้อมกัน
สองคนนั้นคือโทนี่ ยานช์เค่อ กับพาทริก แฮร์มันน์ หรือฟลาโก้ของแฟนๆ
หมายเหตุ: หารูปยานช์เค่อ จากเกมนัดเมื่อวานไม่ได้เลยค่ะ ขออภัย
ยานช์เค่เดบิวท์กับกลัดบัคในปี 2008 เขากลายเป็นกำลังหลักในตำแหน่ง CB คู่กับอัลบาโร โดมิงเกวซ (แขวนสตั๊ดแล้ว) ในชุดที่คว้าที่อันดับ 4 ของตารางบุนเดสลีกา และทำให้ทีมได้โควต้าไปเล่น UCL ก่อนที่เขาจะประสบปัญหาบาดเจ็บยาว จนถูกผู้เล่นใหม่ๆ มาแทนที่ และกลายเป็นตัวสำรองในที่สุด
ฤดูกาลนี้ยานช์เค่กลับมาเป็นตัวเลือกหลักในตำแหน่ง CB อีกครั้ง หลังการย้ายไปเซาธ์แทมป์ตันของ ยานนิค เวสเตอร์การ์ท
อีกคนคือพาทริก แฮร์มันน์ หรือฟลาโก้ของแฟนๆ เป็นดาวรุ่งคนสำคัญจากอคาเดมี่ เคยเป็นตัวความหวังของทีม เคยติดทีมชาติเยอรมัน ก่อนจะได้รับบาดเจ็บ ACL จนหายไปปีกว่า ด้วยเวลาที่ห่างหายไปนาน ทำให้เขาถูกผู้เล่นใหม่ๆ มาแทนที่ และกลายเป็นตัวเลือกในลำดับรองลงมา
นัดนี้ฟลาโก้ยิงได้ และเป็นประตูแรกของเขาในฤดูกาล เป็นประตูแรกของฟลาโก้ในรอบ 588 วัน หรือเกือบ 19 เดือน
ปัจจุบัน ฟลาโก้ลงให้กลัดบัคแล้วทุกราวการรวม 274 นัด มากที่สุดในบรรดานักเตะที่ยังไม่แขวนสตั๊ด
และเป็นลำดับที่ 21 ของประวัติศาสตร์สโมสร
(ถ้านับเฉพาะบุนเดสลีกา จะลงเล่น 223 นัด เป็นลำดับที่ 19 ของสโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้ง)
เป็นผู้เล่นคนเดียวที่เกิดหลังปี 1970 ที่ลงเล่นให้กลัดบัค ในบุนเดสลีกาเกิน 200 นัดไปแล้ว
ส่วนตัวนี่เริ่มติดตามกลัดบัคมาตอนที่ฟลาโก้กำลังเป็นดาวรุ่งพอดี แล้วก็เป็นดาวรุ่งคนที่เลือกเชียร์เป็นพิเศษด้วย ในกลุ่มดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของทีมยุคนั้น ถ้าไม่นับยานช์เค่ที่เดบิวท์ไปก่อน ก็เหลือแค่ฟลาโก้คนเดียวแล้ว (จากแก๊งค์ผมทรงหัวตั้ง) ที่ยังอยู่กับกลัดบัค
ย้อนกลับไปตอนปิดตลาด มีข่าวด้วยซ้ำว่าฟลาโก้จะย้ายทีม เจ้าตัวก็ยอมรับว่ากำลังตัดสินใจ
เจ้าตัวว่าจริงๆ ไม่อยากย้าย แต่ก็อยากลงเล่นมากขึ้น สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการอยู่ต่อ
สำหรับแฟนที่ตามมาตั้งแต่ปี 2010 อย่างเรา มันมีความหมายมากจริงๆ นะ
ถ้าใครเคยคุยด้วยจะรู้ดีว่าปกตินี่เป็นพวกโอ๋นักเตะมากๆ รักนักเตะทุกคนในทีมเลย
แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะมีบางคนที่พิเศษกว่าคนอื่น และหนึ่งในนั้นก็คือฟลาโก้นี่แหละ
.
.
.
ดีใจมากๆ ที่ทีมชนะ และดีใจจริงๆ ที่ฟลาโก้ได้ลงสนาม มีส่วนร่วมกับเกม ทำประตูได้
รู้สึกเหมือนไม่ได้เห็นภาพตอนฟลาโก้ดีใจสุดเหวี่ยงแบบนี้มานานมากแล้ว
ยินดีด้วย กับประตูแรกในบุนเดสลีกาของฟลาโก้ในรอบ 588 วัน มันนานมากจริงๆ
หวังว่าจากนี้ไปจะได้เห็นบ่อยๆ ในชุดกลัดบัคแบบนี้นะ
Glad To Have You Back, Flaco!