ในเกมยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ วันที่โบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัคต้องเผชิญหน้ากับบาร์เซโลน่า ปราการหลังฝั่งซ้ายเบอร์ 30 ของสิงห์หนุ่มที่คอยรับมือกับกองหน้าอันตรายอย่างหลุยส์ ซัวเรส นั้นไม่ใช่กองหลังมากประสบการณ์คนไหน แต่เป็น Nico Elvedi เซ็นเตอร์แบ็คดาวรุ่งซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 19 ปี

และในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 20 ปีหมาดๆ ของเด็กหนุ่มจากสวิสคนนี้ค่ะ



Nico Elvedi เป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของ FC Zurich ทีมบ้านเกิดของเขา พ่อของ Nico เป็นโค้ชเยาวชนของ FC Zurich และเขามีพี่น้องฝาแฝดคือ Jan Elvedi ปัจจุบันเล่นให้ทีมในลีกาสามของสวิส

Nico ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการใน Swiss Super League เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2014 แมทช์นั้นทีมของเขาชนะ FC Lausanne 1-0 ปีนั้น Nico ลงเล่นในลีกสูงสุดของสวิตเซอร์แลนด์ทั้งหมด 18 นัดและเกมยูโรป้าอีก 5 นัด

ก่อนจะย้ายมาเล่นในบุนเดสลีกา กับโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัคด้วยสัญญา 4 ปี ในซัมเมอร์ 2015 และได้ลงสนามเป็นครั้งแรกในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2015 ในเกมที่เสมอกับอิงโกลสตั๊ด

นั่นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชาวสวิสที่เดบิวท์ในบุนเดสลีกาด้วยอายุน้อยที่สุดในทันที

"ผมได้ลงมาตัวสำรองในนัดที่เจอกับอิงโกลสตั๊ด ต่อหน้าแฟนๆ 54,000 คน ฝันของผมเป็นจริงแล้ว แต่ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นคือนัดที่ผมลงเป็นตัวจริงครั้งแรกคือเกมที่เราเจอกับทีมอย่างบาเยิร์น มิวนิช และชนะ 3-1 ช่วง 20 นาทีแรกมันค่อนข้างลำบากทีเดียวเมื่อคนที่ผมต้องรับมือคือคิงส์ลีย์ โคมอง แต่หลังจากนั้นมันก็ดีขึ้น แล้วผมก็ยัง assist ได้ด้วย"

เจ้าตัวเล่าเพิ่มเติมว่า ในวันเดบิวท์กับกลัดบัค มีการรับน้องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาต้องร้องเพลงต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยเขาเลือกเพลงฮิต Dieser Wag ของ Xavier Nadoo

"สำหรับผมมันเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการดวลตัวต่อตัวกับคิงส์ลีย์ โคมอง ซะอีก"

Nico Elvedi แจ้งเกิดกับทีมชาติเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2016 ที่ผ่านมา และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของทีมชาติสวิส



สไตล์การเล่นของ Nico

เนื่องจากต้นฤดูกาลที่แล้วของโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัคนั้นถือเป็นช่วงดวงตกของทีมก็ว่าได้ นอกจากการเสียผู้เล่นตัวหลักในฤดูกาลก่อนอย่างคราเมอร์และครูเซ่ ทีมยังต้องเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักหลายคน ไม่ว่าจะเป็นแฮร์มันน์, ยานเฆ่, โดมิงเกวซ หรือแม้แต่ดาวรุ่งอย่างมาร์วิน ชูลซ์ และนิโก้ ชูลซ์ ก็พากันเข้าโรงหมอไปหมด

ทางเดียวที่เหลืออยู่นั้นมีไม่มาก หนึ่งคือการเสี่ยงวัดดวงกับดาวรุ่งที่ยังเหลืออยู่

หนึ่งในนั้นคือ Nico ซึ่งได้ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และในเวลาไม่นานเขาก็กลายเป็นหนึ่งในตัวหลักของทีมไปโดยปริยาย (ก็ตอนนั้นมันไม่เหลือใครแล้วอะนะ 55555)

นอกจากการเคลียร์บอลในจังหวะสุดท้าย จุดน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ Nico ซึ่งกลายเป็นกุญแจสำหรับในเกมเคาท์เตอร์แอทแท็กของกลัดบัค นั่นคือการผ่านบอลสู่แดนกลางเพื่อเคลื่อนเกม



รูปข้างบนนี้เป็นสถิติของนัดที่เจอบาร์เซโลน่า จาก statzone การเข้าแท็กเกิ้ลของ Nico ไม่ค่อยพลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีคนช่วยซ้อนอย่างเกมนี้

และก็จะเห็นว่านอกจากการส่งบอลคืนหลังทั่วๆ ไป ก็มีการผ่านบอลยาวอยู่หลายจังหวะ และถ้าตามดูบ่อยๆ ก็จะเห็นว่าการผ่านบอลเพื่อเคลื่อนเกมของ Nico นั้นมักจะทำให้ทีมได้เปรียบเวลาสวนกลับอยู่บ่อยครั้งทีเดียว แต่บางทีก็วืดแล้วโดนตัดบอล (ฮา)

ส่วนสถิติต่างๆ ในการดวลของ Nico ก็เรียกได้ว่ามีแนวโน้มไปในทางที่ดี หลายอย่างพัฒนาขึ้นจากปีที่แล้วมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแท็คเกิ้ลหรือลูกกลางอากาศ เช่นเดียวกับความนิ่ง

จากปีก่อนที่เคยผิดพลาดจนทำให้เสียประตูอยู่เรื่อยๆ ก็แทบไม่เห็นในปีนี้แล้ว



หลังจากนี้ก็ขอให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกนะ

Alles Gute zum Geburtstag, Nico!


------------

สถิติต่างๆ รวบรวมจาก statzone, squawka
ส่วนบทสัมภาษณ์จาก Insights & Stories Interview with Nico Elvedi

-------------

สุดท้ายนี้ ขอฝากเพจ Borussia Mönchengladbach Thailand เอาไว้สักหน่อยเน้อ

ขอบคุณค่ะ