The Nutcracker and the Four Realms กำลังจะเข้า โอกาสทองช่วยให้ลูกรักเพลงคลาสสิคมาแล้วนะ

ตอนนี้ผมมีลูก 2 คน คนแรก 6 ขวบ อีกคน 2 ขวบ
ผมชอบฟังเพลงบรรเลงมาก (มันมาจาก Batman 1989 งานของ Danny Elfman ที่ทำให้ชอบเพลงบรรเลงไปเลย)
ไม่ว่าจะคลาสสิค เพลงจากหนัง หรือเพลงจากเกม (Final Fantasy, Dragon Quest)
ผมก็ฟังมาตลอดแล้วลูกก็ฟังด้วย (จงใจให้ฟัง) ผลก็คือลูกมีจินตนาการดีมาก อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์
เรียนเก่ง เพลงที่ไม่มีคำร้องมัน ดีตรงที่สมองจะใช้จินตนาการสร้างเป็นภาพเป็นเรื่องเอง แต่เพลงที่มีเนื้อร้อง
จะบังคับให้เราคิดตามคนที่ร้อง ซึ่งเนื้อร้องบางทีก็ไม่สร้างสรรค์เท่าไหร่ ส่วนเนื้อร้องที่สร้างสรรค์ก็ดันไม่ค่อยเพราะอีก

นอกจากเรื่องศิลปะแล้วการฟังเพลงบรรเลงจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาสมองลูก
ไม่เจาะจงว่าจะต้องเป็นเพลงคลาสสิค แต่เคยอ่านหนังสือพัฒนาการลูก ก็คือควรให้ลูกฟังเพลง
บรรเลงตั้งแต่อยู่ในท้อง แล้วก็ฟังได้เรื่อยๆ ถึง 2, 3, 4 ขวบ หรือจะฟังไปเรื่อยๆ ก็ได้

ส่วนตัวผมไม่ได้เป็นแฟน The Nutcracker แต่พอรู้ว่ามีหนังจะมา เราก็เริ่มวางแผน
แล้วเพราะ The Nutcracker เป็นหนังจากเรื่องที่แต่งขึ้นเป็นบัลเลต์ความยาว 2 องก์โดย ปิออตร์ อิลิช ไชคอฟสกี
โดยดัดแปลงมาจากเรื่อง The Nutcracker and the Mouse King ของ อี. ที. เอ. ฮอฟมานน์
เพลงทั้งหมดประพันธ์โดยไชคอฟสกี มีเพลงที่โดดเด่นและดังที่สุดโดยเฉพาะท่อนโซโลส่วนหนึ่งขององก์ที่สอง
ใช้ชื่อว่า "Dance of the Sugar Plum Fairy" แต่จริงๆ มีหลายเพลงมากที่สุดยอดอยู่ในเรื่องนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
โอกาสทองในการช่วยให้ลูกรักชอบเพลงคลาสสิคของผมคือ
(แต่ผมต้องบอกก่อนว่า ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกผมชอบเพลงคลาสสิคอยู่แล้วรึเปล่านะครับ
เพราะผมให้ฟังเพลงบรรเลงหลากหลาย ดังนั้นเขาก็อาจจะไม่ได้ชอบแนวคลาสสิค)
ใน youtube เราก็จะเจอ The Nutcracker ในเวอร์ชั่นต่างๆ มากมาย
เป็นสิบๆ ซึ่งผมค่อยๆ ให้เขาดูทุกวันๆ ตอนนี้ก็ฮัมเพลงไชคอฟสกีกันใหญ่ทั้ง
พี่ทั้งน้องครับ ส่วนคนพี่บ่นอยากได้ตุ๊กตา Nutcracker ด้วย

แต่ว่าที่ผมให้ลูกดูใน youtube เป็นภาษาอังกฤษ (เพราะผมเลี้ยงที่บ้านเป็นไบลิงกัว)
แต่ถ้าเป็นภาคไทยก็น่าจะพอมี

ในมุมมองของผม ผมคิดว่าเด็กไทยจริงๆ ขาดอยู่สองอย่าง 1) จินตนาการ กับ 2) ภาษาอังกฤษ
อย่างจินตนาการผมเห็นเยอะมากคือเลี้ยงลูกแบบตัดจินตนาการทิ้งไปเลย แล้วเน้นวิชาการทำมาหากิน
จริงๆ แล้วการมีจินตนาการก็ช่วยเรื่องการทำมาหากินได้ดีนะ เอามาช่วยทำให้สมองไวขึ้น คิดกว้างขึ้น
เป็นผู้นำทางความคิด ความคิดสร้างสรรค์จะช่วยด้านธุรกิจได้ สร้างผลิตภัณฑ์ได้ เปลี่ยนโลกได้ แน่นอนคือ
ไอคิวก็จะดีด้วย ส่วนภาษาอังกฤษ อันนี้วัดจากเด็กส่วนใหญ่ จริงๆ มีคนเก่งอังกฤษเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน
แต่สัดส่วนยังน้อยเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ อย่างลูกผมป่วยเป็นโรคเรื้อรังโรคหนึ่ง ที่หมอยังหาวิธีรักษาไม่ได้
มีคนป่วยโรคนี้ยาวนานเป็นสิบปีแล้วก็ไม่หาย ผมเสิร์ชหาข้อมูลก็ไม่เจอเพราะใช้ภาษาไทย แต่พอใช้อังกฤษ
เสิร์ชบวกจินตนาการเชื่อมโยงว่าน่าจะเป็นเพราะอะไร เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง ก็เจอข้อมูลได้จริงๆ แล้ว
ก็รักษาหายได้ในเวลาไม่กี่อาทิตย์เอง (เคยมาลงในพันทิพย์ https://ppantip.com/topic/37877616)
ดังนั้นจินตนาการ แล้วก็ภาษานั้นจำเป็นมาก ที่จะทำให้เราช่วยเหลือตัวเองได้

การวาดภาพ การฟังเพลงบรรเลง และให้เขาหัดแต่งเล่านิทานให้พ่อแม่ฟัง
จะเป็นการเสริมด้านจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ได้มากๆ ซึ่งด้านวิชาการ
มันสามารถไปเพิ่มได้ทีหลัง แต่ว่าด้านจินตนาการ ถ้าเด็กคนไหนถูกตัดขาดส่วนนั้นไปแล้ว
มันกลับมายากมากๆ ครับ ก็ลองดูครับกับ The Nutcracker and the Four Realms
คนไทยไม่ฟังเพลงบรรเลงกัน อันนี้แหล่ะที่น่าเป็นห่วง เพราะดนตรีบรรเลงล้วนๆ บังคับให้เรา
สร้างจินตนาการได้สุดๆ ให้หัดแต่เด็กจะดีเพราะตัวเขานั้นเต็มไปด้วยจินตนาการอยู่แล้ว แต่ถ้า
แก่แล้วจะยากครับ เพราะเราจะขี้เกียจจินตนาการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่