โย่ว! สวัสดีครับทุกคนนี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว หลาย ๆ คนคงมีแพลนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองกันบ้าง ไม่มากก็น้อย และในกระทู้นี้ผมจะมาตอบคำถามสำหรับคนที่อยากฝึกกีตาร์จีบสาว หรือ
อยากเริ่มเปิดตำนานของตนในสายนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำตอบสั้น ๆ เลยคือ เริ่มที่ตัวไหนก็ได้ครับ
คนหลาย ๆ คนที่เบ่นกีตาร์มักแนะนำมือใหม่ให้เริ่มเล่นกีตาร์โปร่ง ก่อนเนื่องจากว่าจะได้เล่นไฟฟ้าได้คล่องใช่ นั่นก็ไม่ผิด แต่
ถ้าเล่นไฟฟ้าได้จะเล่นโปร่งไม่ได้เหรอ?
คำตอบคือได้เช่นกันครับ ถึงผมจะไม่ค่อยมีประสบการณ์กับกีตาร์ไฟฟ้ามากนักแต่ มือกีตาร์หลายคนที่ผมรู้จักเช่น อาจารย์ผมก็เริ่มที่ไฟฟ้า เช่นกัน ซึ่งถ้าคุณเล่นกีตาร์ไปนาน ๆ อยู่กับมันไป หลายเดือน คุณก็จะเล่นมันได้ทั้ง โปร่ง และ ไฟฟ้าเองครับ
ซึ่งเมื่อมาถึงจุดนี้บางคนที่ได้หา
ข้อมูลมาระดับนึง หรือเล่นกีตาร์เป็น
คงคิดว่าแล้วเรื่อง
คอ กีตาร์ละ
นั่นคืออีกหนึ่งปัญหาเลยละนะ เพราะว่า!
คอของกีตาร์ไฟฟ้ามันบางมากจนเล่นง่าย
สุด ๆ เลยละนะ

แต่ถ้าคุณเล่นไฟฟ้าจนคล่องได้แล้วเปลี่ยนเป็น กีตาร์ โปร่งเช่น อคูสติค หรือ คลาสสิค
ผมมั่นใจว่าใช้เวลาไม่นานกว่าคุณจะเริ่มเคยชินกับมัน
หัวข้อต่อมาคือ
เสียง และ ราคา
เอาตรง ๆ
สมัยนี้ปี 2024 มียี่ห้อกีตาร์ถูก ๆ
สำหรับมือใหม่ ที่เสียงพอรับได้มากขึ้น
ทั้งไฟฟ้า และ อคูสติค
บางคนที่บอกว่าเสียงไฟฟ้าฟังยากไฟฟ้าดัง
เหตุผลมันอยู่ที่ การตั้งค่า, Amp หรือแม้แต่ ตัวกีตาร์เอง ด้วย จากประสบการณ์ส่วนตัวไม่ใช่กีตาร์ไฟฟ้าทุกตัวจะมีเสียงแบบนั้น
เผิน ๆ ทางกีตาร์ไฟฟ้า
เสียงใสสะอาดกว่า ตัวกีตาร์โปร่งอีกนะ
แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ที่ต้องการเล่นด้วย
ถ้าอยากเล่นเพลง อคูสติค
เพราะ ๆ กับ เกาสาย Fingerstyle
คงต้องโปร่ง ละนะ
ส่วนถ้าไฟฟ้า จริง ๆ มันเล่นได้ทุกแนวเลยนะ
ทั้ง Pop, Rock, Metal ไปยัน Blue
ถ้าต้องการความอิสระ แล้วยังไม่มีแพลนที่จะฝึกแนวไหนเป็นพิเศษ ก็ลุยเลยครับ
แถมไฟฟ้าบางตัวที่เสียงพอรับได้ขายเป็นเซ็ต ครับทั้ง
- เครื่องขยายเสียง (Amplifier)
- สายแจ็ค
และบางทีก็มีทั้ง Strap(สายคาด) กับ
Tuner(เครื่องสำหรับตั้ง[เสียง]สาย)
มาด้วย
เรามาพูดถึง
อุปกรณ์
สำหรับเล่นกีตาร์กัน
ก่อนจะมาทำสรุป
อุปกรณ์ที่จำเป็น
จริง ๆ
ไม่ได้มีมากขนาดนั้นอย่างที่ทุกคนคิด
ผมจะนำเสนอมา สองสามอย่างละกัน
1.
Tuner
ไอ้ตัวหนีบ ๆ นี่แหละเอาไว้ตั้งโน๊ตสายให้ถูกต้องเล่นไปจะได้ไม่เพี้ยน
บางคนคงคิดว่า
ทำไมต้องซื้อทั้ง ๆ ที่ App ก็มี ?
เพราะ ตัว Tuner นั้นจะจับการสั่นของสายเพื่อบอกโน๊ต ทำให้แม้จะมีเสียงรบกวนมากแค่ไหนมันก็จะยังจับและบอกแต่โน๊ตกีตาร์เราอยู่
ทางกลับกันทางตัว App จะจับเสียงจากไมโครโฟน ถ้ามีเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาแทรก เช่นเสียงรถยนต์ การก่อสร้าง
เสียงคนในบ้าน
หรือ แม้แต่เสียงแมวร้องขออาหารก็ตาม
จะทำให้มีการคลาดเคลื่อนได้ เพราะงั้น จ่ายเงินเพิ่มสักหน่อยเพื่อ Tuner ก็ดีครับ
2.
คาโป้ (Capo)
ใช่ครับตัวหนีบ ๆ อีกแล้วแต่หน้าที่ต่างกันนะ
ตัวคาโป้จะช่วยเพิ่มคีย์โน๊ต หรือง่าย ๆ คือทำให้เสียงกีตาร์สูงขึ้น นั่นแหละ
มีประโยชน์สุด ๆ ยิ่งสำหรับเหล่ามือใหม่ที่พึ่งเริ่มฝคก คุณจะค้นพบเลยว่าเพลงที่ต้อง
ใช้คาโป้มันเยอะ มว๊าก
และ อย่างสุดท้ายและท้ายสุด คือ!!
3.
ปิ๊ก (Plectrum/Pick)
(Optinal)
คงไม่มีใครไม่เคยเห็นน่าเห็นตามันหรอกนะ
ผมอย่างจะบอกว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นครับ นอกจากจะเล่นกีตาร์สายเหล็กแข็ง ๆ
สำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยอาจจะเจ็บนิ้ว
ระหว่างตีได้ แต่ถ้าเริ่มฝึกด้วยมันจริง ๆ
จะรู้ว่ามันใช้ง่ายกว่านิ้วอีก !!
ผมผู้เริ่มฝึกด้วยนิ้วยังต้องขอชมเชยมัน
แต่ว่าเวลาซื้อให้ลอง หลาย ๆ ขนาด
หลาย ๆ วัสดุ เพราะแต่ละอันเวลาดีด
มันให้เสียงที่ต่างกันน้อย ไปจนถึง มากสุด ๆ
เลยละ เลยอยากให้คุณลองใช้เเละ
หาแบบที่ถูกใจมากที่สุดมาใช้
แล้วก็ระวังมันหายหรือตกลงรูเสียง นะ
(ถ้าหายก็เช็คกระเป๋ากางเกงหรือเสื้อดูนะ)
>ถ้าไฟฟ้าให้ซื้ตัวขยายเสียง กับ
สายเเจ็คด้วยนะ
มาสรุปกันดีกว่า!!
กีตาร์โปร่ง ทั้ง อคูสติค และ คลาสสิค
แนวการเล่น:
โปร่ง:
-อคูสติค
-Fingerstyle
-Pop
ความยาก:
อคูสติค:
กลาง คอจะกว้างกลาง ๆ ไม่ได้ยากเกินไป
คลาสสิค:
คอใหญ่...ยาก อาจจะจับไม่ถนัดมือสำหรับมือใหม่แต่ถ้าเริ่มด้วยมันคุณเล่นได้ทึกตัวแน่แต่ไม่แนะนำ!! มันเหมาะสำหรับเพลงคลาสสิค เกาสาย
>ระวังสำหรับ คนที่จะซื้อคาโป้ถ้ามีกีตาร์คลาสสิคให้ ซื้อคาโป้ ของกีตาร์คลาสสิคโดยเฉพาะ เพราะคอมันใหญ่เกินกว่าจะใช้คาโป้ปกติ
โปร่งไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่ม
ก็สามารถเล่นได้ตราบใดที่ตั้งสายแล้ว
ไฟฟ้า:
-Pop
-Rock
-Metal
-อื่น ๆ
ความยาก:
ง่าย ตัวสายจะมีความอ่อนกว่าอคูสติคสายเหล็ก คอจะบางกว่า
และ ความห่างของสายกับคอกีตาร์จะน้อยกว่าทำให้กดง่าย Newbie Friendly มั๊ก ๆ
อย่างที่บอกคือกีตาร์ไฟฟ้าสามาถเล่นได้แทบจะทุกแนว แต่ทางอุปกรณ์จะเยอะกว่า
เช่น ตัวขยายเสียง(Amplifier) กับ สายแจ็ค
แต่ถ้าคุณหาซื้อเครื่องที่ทำให้ต่อกับหูฟังได้คุณจะฝึกได้แบบไม่ต้องเกรงใจข้างบ้สนเลยยังไงละ!!!
แล้วเสริมหน่อยนะ บางคนอาจสนใจ
โปร่งไฟฟ้า โปร่งไฟฟ้า จะไปสุดเหมือน
โปร่งธรรมดา แต่จะไปไม่สุดทางไฟฟ้า
เหมาะสำหรับคนที่เล่นโปร่งแล้วอยากได้เสียงที่ดังขึ้นอีก
>นี่คือสรุปจากประสบการณ์ และความเห็นส่วนตัวของผมถ้ามีข้อโต้แย้ง หรือ เรื่องที่ไม่เห็น ลองทิ้งข้อความคุยกันไว้อย่างสุภาพนะครับ
และนี่คือสรุปที่ผมเขียนขึ้นอาจอ่านไม่ลื่นไหลก็ขออภัย
เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเขียนอีก
เริ่มเล่นกีตาร์ควรเริ่มด้วย กีตาร์โปร่ง หรือ ไฟฟ้า ?
อยากเริ่มเปิดตำนานของตนในสายนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คนหลาย ๆ คนที่เบ่นกีตาร์มักแนะนำมือใหม่ให้เริ่มเล่นกีตาร์โปร่ง ก่อนเนื่องจากว่าจะได้เล่นไฟฟ้าได้คล่องใช่ นั่นก็ไม่ผิด แต่ถ้าเล่นไฟฟ้าได้จะเล่นโปร่งไม่ได้เหรอ?
คำตอบคือได้เช่นกันครับ ถึงผมจะไม่ค่อยมีประสบการณ์กับกีตาร์ไฟฟ้ามากนักแต่ มือกีตาร์หลายคนที่ผมรู้จักเช่น อาจารย์ผมก็เริ่มที่ไฟฟ้า เช่นกัน ซึ่งถ้าคุณเล่นกีตาร์ไปนาน ๆ อยู่กับมันไป หลายเดือน คุณก็จะเล่นมันได้ทั้ง โปร่ง และ ไฟฟ้าเองครับ
ซึ่งเมื่อมาถึงจุดนี้บางคนที่ได้หา
ข้อมูลมาระดับนึง หรือเล่นกีตาร์เป็น
คงคิดว่าแล้วเรื่อง คอ กีตาร์ละ
นั่นคืออีกหนึ่งปัญหาเลยละนะ เพราะว่า!
คอของกีตาร์ไฟฟ้ามันบางมากจนเล่นง่าย
สุด ๆ เลยละนะ
แต่ถ้าคุณเล่นไฟฟ้าจนคล่องได้แล้วเปลี่ยนเป็น กีตาร์ โปร่งเช่น อคูสติค หรือ คลาสสิค
ผมมั่นใจว่าใช้เวลาไม่นานกว่าคุณจะเริ่มเคยชินกับมัน
หัวข้อต่อมาคือ เสียง และ ราคา
เอาตรง ๆ
สมัยนี้ปี 2024 มียี่ห้อกีตาร์ถูก ๆ
สำหรับมือใหม่ ที่เสียงพอรับได้มากขึ้น
ทั้งไฟฟ้า และ อคูสติค
บางคนที่บอกว่าเสียงไฟฟ้าฟังยากไฟฟ้าดัง
เหตุผลมันอยู่ที่ การตั้งค่า, Amp หรือแม้แต่ ตัวกีตาร์เอง ด้วย จากประสบการณ์ส่วนตัวไม่ใช่กีตาร์ไฟฟ้าทุกตัวจะมีเสียงแบบนั้น
เผิน ๆ ทางกีตาร์ไฟฟ้า
เสียงใสสะอาดกว่า ตัวกีตาร์โปร่งอีกนะ
แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ที่ต้องการเล่นด้วย
ถ้าอยากเล่นเพลง อคูสติค
เพราะ ๆ กับ เกาสาย Fingerstyle
คงต้องโปร่ง ละนะ
ส่วนถ้าไฟฟ้า จริง ๆ มันเล่นได้ทุกแนวเลยนะ
ทั้ง Pop, Rock, Metal ไปยัน Blue
ถ้าต้องการความอิสระ แล้วยังไม่มีแพลนที่จะฝึกแนวไหนเป็นพิเศษ ก็ลุยเลยครับ
แถมไฟฟ้าบางตัวที่เสียงพอรับได้ขายเป็นเซ็ต ครับทั้ง
- เครื่องขยายเสียง (Amplifier)
- สายแจ็ค
และบางทีก็มีทั้ง Strap(สายคาด) กับ
Tuner(เครื่องสำหรับตั้ง[เสียง]สาย)
มาด้วย
เรามาพูดถึงอุปกรณ์
สำหรับเล่นกีตาร์กัน
ก่อนจะมาทำสรุป
อุปกรณ์ที่จำเป็น จริง ๆ
ไม่ได้มีมากขนาดนั้นอย่างที่ทุกคนคิด
ผมจะนำเสนอมา สองสามอย่างละกัน
1. Tuner
ไอ้ตัวหนีบ ๆ นี่แหละเอาไว้ตั้งโน๊ตสายให้ถูกต้องเล่นไปจะได้ไม่เพี้ยน
บางคนคงคิดว่า
ทำไมต้องซื้อทั้ง ๆ ที่ App ก็มี ?
เพราะ ตัว Tuner นั้นจะจับการสั่นของสายเพื่อบอกโน๊ต ทำให้แม้จะมีเสียงรบกวนมากแค่ไหนมันก็จะยังจับและบอกแต่โน๊ตกีตาร์เราอยู่
ทางกลับกันทางตัว App จะจับเสียงจากไมโครโฟน ถ้ามีเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาแทรก เช่นเสียงรถยนต์ การก่อสร้าง
เสียงคนในบ้าน
หรือ แม้แต่เสียงแมวร้องขออาหารก็ตาม
จะทำให้มีการคลาดเคลื่อนได้ เพราะงั้น จ่ายเงินเพิ่มสักหน่อยเพื่อ Tuner ก็ดีครับ
2. คาโป้ (Capo)
ใช่ครับตัวหนีบ ๆ อีกแล้วแต่หน้าที่ต่างกันนะ
ตัวคาโป้จะช่วยเพิ่มคีย์โน๊ต หรือง่าย ๆ คือทำให้เสียงกีตาร์สูงขึ้น นั่นแหละ
มีประโยชน์สุด ๆ ยิ่งสำหรับเหล่ามือใหม่ที่พึ่งเริ่มฝคก คุณจะค้นพบเลยว่าเพลงที่ต้อง
ใช้คาโป้มันเยอะ มว๊าก
และ อย่างสุดท้ายและท้ายสุด คือ!!
3. ปิ๊ก (Plectrum/Pick)
(Optinal)
คงไม่มีใครไม่เคยเห็นน่าเห็นตามันหรอกนะ
ผมอย่างจะบอกว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นครับ นอกจากจะเล่นกีตาร์สายเหล็กแข็ง ๆ
สำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยอาจจะเจ็บนิ้ว
ระหว่างตีได้ แต่ถ้าเริ่มฝึกด้วยมันจริง ๆ
จะรู้ว่ามันใช้ง่ายกว่านิ้วอีก !!
ผมผู้เริ่มฝึกด้วยนิ้วยังต้องขอชมเชยมัน
แต่ว่าเวลาซื้อให้ลอง หลาย ๆ ขนาด
หลาย ๆ วัสดุ เพราะแต่ละอันเวลาดีด
มันให้เสียงที่ต่างกันน้อย ไปจนถึง มากสุด ๆ
เลยละ เลยอยากให้คุณลองใช้เเละ
หาแบบที่ถูกใจมากที่สุดมาใช้
แล้วก็ระวังมันหายหรือตกลงรูเสียง นะ
(ถ้าหายก็เช็คกระเป๋ากางเกงหรือเสื้อดูนะ)
>ถ้าไฟฟ้าให้ซื้ตัวขยายเสียง กับ
สายเเจ็คด้วยนะ
มาสรุปกันดีกว่า!!
กีตาร์โปร่ง ทั้ง อคูสติค และ คลาสสิค
แนวการเล่น:
โปร่ง:
-อคูสติค
-Fingerstyle
-Pop
ความยาก:
อคูสติค: กลาง คอจะกว้างกลาง ๆ ไม่ได้ยากเกินไป
คลาสสิค: คอใหญ่...ยาก อาจจะจับไม่ถนัดมือสำหรับมือใหม่แต่ถ้าเริ่มด้วยมันคุณเล่นได้ทึกตัวแน่แต่ไม่แนะนำ!! มันเหมาะสำหรับเพลงคลาสสิค เกาสาย
>ระวังสำหรับ คนที่จะซื้อคาโป้ถ้ามีกีตาร์คลาสสิคให้ ซื้อคาโป้ ของกีตาร์คลาสสิคโดยเฉพาะ เพราะคอมันใหญ่เกินกว่าจะใช้คาโป้ปกติ
โปร่งไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์อะไรเพิ่ม
ก็สามารถเล่นได้ตราบใดที่ตั้งสายแล้ว
ไฟฟ้า:
-Pop
-Rock
-Metal
-อื่น ๆ
ความยาก: ง่าย ตัวสายจะมีความอ่อนกว่าอคูสติคสายเหล็ก คอจะบางกว่า
และ ความห่างของสายกับคอกีตาร์จะน้อยกว่าทำให้กดง่าย Newbie Friendly มั๊ก ๆ
อย่างที่บอกคือกีตาร์ไฟฟ้าสามาถเล่นได้แทบจะทุกแนว แต่ทางอุปกรณ์จะเยอะกว่า
เช่น ตัวขยายเสียง(Amplifier) กับ สายแจ็ค
แต่ถ้าคุณหาซื้อเครื่องที่ทำให้ต่อกับหูฟังได้คุณจะฝึกได้แบบไม่ต้องเกรงใจข้างบ้สนเลยยังไงละ!!!
แล้วเสริมหน่อยนะ บางคนอาจสนใจ
โปร่งไฟฟ้า โปร่งไฟฟ้า จะไปสุดเหมือน
โปร่งธรรมดา แต่จะไปไม่สุดทางไฟฟ้า
เหมาะสำหรับคนที่เล่นโปร่งแล้วอยากได้เสียงที่ดังขึ้นอีก
>นี่คือสรุปจากประสบการณ์ และความเห็นส่วนตัวของผมถ้ามีข้อโต้แย้ง หรือ เรื่องที่ไม่เห็น ลองทิ้งข้อความคุยกันไว้อย่างสุภาพนะครับ
และนี่คือสรุปที่ผมเขียนขึ้นอาจอ่านไม่ลื่นไหลก็ขออภัย
เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเขียนอีก