12 ก.ย. 61 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง "ทำไมประชาธิปัตย์
แพ้การเลือกตั้ง?"ลงในเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่า "ระยะ 10 ปีที่ผ่านมานี้เรา(พรรคประชาธิปัตย์) ถูกตั้ง
คำถามอย่างเย้ยหยันอยู่เสมอจากคนในคุกและคนเสี่ยงคุกว่า เราแพ้ซ้ำซาก และจะแพ้อีก คนขวัญอ่อนบางคนก็
หนีเราไปเพราะไม่อดทนต่อความพ่ายแพ้ เรามองท่าทีเย้ยหยันนั้นอย่างสงบ
ผมว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คนส่วนใหญ่แยกออกระหว่าง "ประชาธิปไตย กับ เสรีนิยมประชาธิปไตย" อย่างถ่องแท้
เราก็จะกลับมาชนะอย่างถล่มทลายได้เหมือนกัน
เมื่อประชาธิปไตยเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาในโลก ประชาธิปไตย ก็เคร่งครัดเพียงว่าอำนาจอธิปไตยมี 3 อำนาจ
คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ และอำนาจทั้ง 3 ต้องถ่วงดุลย์กันอย่างอิสระระบอบประชาธิปไตยจึงจะเดินไป
ได้อย่างมั่นคง แต่หลังจากประชาธิปไตยเดินมาได้ระยะหนึ่ง มันก็เกิดปรากฎการณ์ขึ้นว่า "ประชาธิปไตยมีแนว
โน้มที่จะกลายเป็นเผด็จการ" เราจึงเห็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในหลายประเทศกลายเป็นเผด็จการรัฐสภา
เพราะเมื่อรัฐบาลมีอำนาจท่วมท้นและรัฐบาลมีท่าทีจะครองอำนาจต่อไปอีกหน่วยงานของรัฐก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
คำสั่งรัฐบาล ไม่ว่าคำสั่งนั้นจะผิดหรือถูก การตรวจสอบถ่วงดุลย์ระหว่างอำนาจก็สูญเสียไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย
ไปทั่วโลก ประชาธิปไตยจึงพัฒนาตัวเองขึ้นมาป้องกันความล้มเหลวโดยสร้างระบบอีกระบบหนึ่งขึ้นมาเพื่อ
1.ตรวจสอบการใช้อำนาจอธิปไตย
2.ปกป้องอิสระชนหรือปกป้องเสียงข้างน้อย
ระบบที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้เรียกว่า"องค์กรอิสระ" องค์กรอิสระจะเข้ามาเสริมการตรวจสอบถ่วงดุลย์ระหว่างอำนาจอธิปไตย
ทั้ง 3 อำนาจให้มีประสิทธิภาพจริง รวมทั้งคุ้มครองอิสระชนเสียงข้างน้อยให้ปลอดภัยจากเสียงข้างมากที่มีแนวโน้มเป็น
เผด็จการ เราจึงเห็นนักการเมืองจากรัฐบาลที่มีเสียงท่วมท้นถูกจำคุกกันมากมาย ปรากฎการณ์นี้ก็เริ่มเกิดขึ้นทั่วโลก
ประชาธิปไตยที่มีองค์กรอิสระเข้ามาเสริม เราเรียกว่า"เสรีนิยมประชาธิปไตย" ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่อยู่ใน
กลุ่มเสรีนิยมประชาธิปไตย กลุ่มนี้อาจถูกมองอย่างเย้ยหยันว่า ล่าช้า ไม่ทันใจ ล้าหลัง ไม่ก้าวหน้า แต่กลุ่มเสรีนิยม
ประชาธิปไตยมีหลักประกันให้ว่า บ้านเมืองไม่เสียหายรุนแรง ไม่มีความขัดแย้ง เสียงข้างน้อยได้รับการปกป้อง
ประเทศไทย เดินมาถึงจุดที่ประชาธิปไตยเสียงข้างมากที่มีแนวโน้มเป็นเผด็จการ กำลังต่อสู้กับ เสรีนิยมประชาธิปไตย
อย่างเอาเป็นเอาตาย ผมว่า ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของประชาธิปไตยทั้ง 2 แบบนี้ ประชาธิปัตย์ ก็มีโอกาสกลับมาชนะ
ถล่มทลายได้เหมือนกัน"
สวัสดียามดึก ...'นิพิฏฐ์' เฉลย!อะไรถึงจะทำให้ 'ปชป.' กลับมาชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ...ไทยโพสต์ออนไลน์../sao..เหลือ..noi
แพ้การเลือกตั้ง?"ลงในเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่า "ระยะ 10 ปีที่ผ่านมานี้เรา(พรรคประชาธิปัตย์) ถูกตั้ง
คำถามอย่างเย้ยหยันอยู่เสมอจากคนในคุกและคนเสี่ยงคุกว่า เราแพ้ซ้ำซาก และจะแพ้อีก คนขวัญอ่อนบางคนก็
หนีเราไปเพราะไม่อดทนต่อความพ่ายแพ้ เรามองท่าทีเย้ยหยันนั้นอย่างสงบ
ผมว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คนส่วนใหญ่แยกออกระหว่าง "ประชาธิปไตย กับ เสรีนิยมประชาธิปไตย" อย่างถ่องแท้
เราก็จะกลับมาชนะอย่างถล่มทลายได้เหมือนกัน
เมื่อประชาธิปไตยเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาในโลก ประชาธิปไตย ก็เคร่งครัดเพียงว่าอำนาจอธิปไตยมี 3 อำนาจ
คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ และอำนาจทั้ง 3 ต้องถ่วงดุลย์กันอย่างอิสระระบอบประชาธิปไตยจึงจะเดินไป
ได้อย่างมั่นคง แต่หลังจากประชาธิปไตยเดินมาได้ระยะหนึ่ง มันก็เกิดปรากฎการณ์ขึ้นว่า "ประชาธิปไตยมีแนว
โน้มที่จะกลายเป็นเผด็จการ" เราจึงเห็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในหลายประเทศกลายเป็นเผด็จการรัฐสภา
เพราะเมื่อรัฐบาลมีอำนาจท่วมท้นและรัฐบาลมีท่าทีจะครองอำนาจต่อไปอีกหน่วยงานของรัฐก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
คำสั่งรัฐบาล ไม่ว่าคำสั่งนั้นจะผิดหรือถูก การตรวจสอบถ่วงดุลย์ระหว่างอำนาจก็สูญเสียไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย
ไปทั่วโลก ประชาธิปไตยจึงพัฒนาตัวเองขึ้นมาป้องกันความล้มเหลวโดยสร้างระบบอีกระบบหนึ่งขึ้นมาเพื่อ
1.ตรวจสอบการใช้อำนาจอธิปไตย
2.ปกป้องอิสระชนหรือปกป้องเสียงข้างน้อย
ระบบที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้เรียกว่า"องค์กรอิสระ" องค์กรอิสระจะเข้ามาเสริมการตรวจสอบถ่วงดุลย์ระหว่างอำนาจอธิปไตย
ทั้ง 3 อำนาจให้มีประสิทธิภาพจริง รวมทั้งคุ้มครองอิสระชนเสียงข้างน้อยให้ปลอดภัยจากเสียงข้างมากที่มีแนวโน้มเป็น
เผด็จการ เราจึงเห็นนักการเมืองจากรัฐบาลที่มีเสียงท่วมท้นถูกจำคุกกันมากมาย ปรากฎการณ์นี้ก็เริ่มเกิดขึ้นทั่วโลก
ประชาธิปไตยที่มีองค์กรอิสระเข้ามาเสริม เราเรียกว่า"เสรีนิยมประชาธิปไตย" ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่อยู่ใน
กลุ่มเสรีนิยมประชาธิปไตย กลุ่มนี้อาจถูกมองอย่างเย้ยหยันว่า ล่าช้า ไม่ทันใจ ล้าหลัง ไม่ก้าวหน้า แต่กลุ่มเสรีนิยม
ประชาธิปไตยมีหลักประกันให้ว่า บ้านเมืองไม่เสียหายรุนแรง ไม่มีความขัดแย้ง เสียงข้างน้อยได้รับการปกป้อง
ประเทศไทย เดินมาถึงจุดที่ประชาธิปไตยเสียงข้างมากที่มีแนวโน้มเป็นเผด็จการ กำลังต่อสู้กับ เสรีนิยมประชาธิปไตย
อย่างเอาเป็นเอาตาย ผมว่า ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของประชาธิปไตยทั้ง 2 แบบนี้ ประชาธิปัตย์ ก็มีโอกาสกลับมาชนะ
ถล่มทลายได้เหมือนกัน"