สุภาพษุรุจสายฟ้า...ยามาฮ่าทัช
สุภาพษุรุจสายฟ้า...ยามาฮ่าทัช เป็นเพียงฉายาที่ ยามาฮ่า ตั้งให้กับรถรุ่น Touch Street Thunder 126cc (ทัช สตรีท ธันเดอร์) ซึ่งถูกเปิดตัวขึ้นในปีพ.ศ 2540 โดยจัดอยู่ในกลุ่มรถประเภท มินิสปอรต์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 130 cc
ยามาฮ่า ทัช นับเป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนารวมกันระหว่างวิศวกรสยามยามาฮ่ากับวิศวกรยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น โดยทำการศึกษาค้นคว้าและสำรวจตลาดรถจักรยานยนต์เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างแท้จริง
การเปิดตัวของยามาฮ่า ทัช ได้ดึงดาราวัยรุ่นชายที่กำลังโด่งดังในขณะนั้นมาช่วยเสริมยอดขายอีกด้วย สำหรับดาราชายที่ทางยามาฮ่าเลือกนำมาเป็นพรีเซนเตอร์ คือ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ซึ่งโด่งดังจากหนังเรื่อง 2499 อันธพานครองเมือง ซึ่งออกฉายในปี 2540 เช่นเดียวกัน
ที่มา 2tspec
สำหรับยามาฮ่า ทัช การที่จะให้ได้เป็นรถมินิสปอรต์อย่างเต็มตัว ยามาฮ่าจึงได้เลือกใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ แคร้งเคสรีดวาล์ว 126 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีระยะชัก 54.0 × 54.7 มม. และมีกำลังอัดอยู่ที่ 6:9 : 1 อีกทั้งยังถูกควบคุมการทำงานด้วยระบบ Y.E.I.S (Yamaha Energy Induction System) และเติมเต็มด้วยระบบเก็บไอดีสำรอง (ปอด) อีกทั้งยังมาพร้อมกับคาบูเรเตอร์มิคูนิ VM 24 SS
ที่มา 2tspec
นอกเหนือไปจากนี้ทางยามาฮ่า ได้พัฒนาออกแบบเสื้อสูบและลูกสูบเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งทำให้การระบายความร้อนดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่สะสมความร้อน เพื่อให้การขับขี่ในเมืองที่มีปัญหารถติดไม่ส่งผลกระทบในเรื่องความร้อน
เฟรมใหม่ที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูง ยามาฮ่าจึงเลือกที่จะใช้เฟรมทรงสี่เหลี่ยมแบบไดมอนด์ไทน์ ซึ่งมีความสามรถในการทนแรงบิดที่สูงสามารถกระจายแรงบิดงอได้ทั่วทั้งเฟรม และยังมีน้ำหนักที่เบาอีกด้วย
ในส่วนระบบกันสะเทือนนุ่มนวล โดยโช๊คหน้าของยามาฮ่าทัชมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 28 มม. ซึ่งเป็นแบบเทเลสโกปิด คอลย์สปริง ออยล์แคมเปอร์ ผสมกับการทำงานของโช๊คหลังแบบโช๊คอัฟเดียวโมโนครอสกับสวิงอาร์มทรงเหลี่ยม ซึ่งโช๊คอัฟเดียวโมโนครอสเป็นรูปแบบเฉพาะของทางยามาฮ่า อีกทั้งยามาฮ่าทัชยังมาพร้อมกับระบบเบรกดิกส์ทั้งหน้าและหลัง โดยดิสก์หน้ามีขนาด 220 มม. และดิสก์หลังขนาด 190 มม. ซึ่งดิสก์เบรกเป็นแบบสองลูกสูบ ทำให้การเบรกมีประสิทธิ์ภาพและนุ่มนวล
ที่มา 2tspec
นอกจากนี้ยังมีความพิเศษในเรื่องยาง โดยทางยามาฮ่าได้สั่งผลิตยางมิชลินหน้าแคบขึ้นมาเอง โดยมีชื่อรุ่นว่า M35 ขนาดยางหน้า
2.25-17 และยางหลัง 2.50-17
สำหรับงานดีไซค์ ถูกออกแบบให้ภายนอกปราดเปรียว รูปทรงเน้นสรีระตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดดเด่นด้วยฟูลแฟริ่ง ที่สามารถถอดแยกให้กลายเป็น ฮาร์ฟแฟริ่ง นอกจากนี้ทางยามาฮ่าเลือกที่จะออกแบบให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุง โดยฝาครอบสามารถแยกออกเป็น 5 ชิ้น ได้แก่ ส่วนบน (ขวาและซ้าย) ส่วนกลาง (ขวาและซ้าย) และส่วนล่าง (ขวาและซ้าย) สำหรับส่วนกลางและส่วนล่างสามารถถอดออกได้ ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับไฟหน้ารูปแบบโคมเพรช
สำหรับแผงหน้าปัดเรือนไมล์ได้ถูกออกแบบใหม่ โดยให้มีเฉดสีที่เด่นตา พร้อมทั้งเข็มบอกระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟเตือนความร้อน และปริมาณน้ำมันเครื่อง (2T) สำหรับถังน้ำมันมีขนาดกระทัดรัด ฝาถังเรียบติดถัง สามารถจุน้ำมันได้ 8 ลิตร
ที่มา 2tspec
--------
ทั้งนี้ยามาฮ่าทัช มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 51,000 โดยประมาณในปี 2540 ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 2 ปีก็ทำการปรับโฉมของยามาฮ่าทัชอีกครั้งหนึ่งในปี 2542 สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางยามาฮ่าได้เปลี่ยนจากล้อซี่ลวดเป็นล้อแม็กแทน และในส่วนที่เหลือมีเพียงสติกเกอร์ลายใหม่เพียงเท่านั้น
ที่มา 2tspec
เหตุไฉน Yamaha Touch ถึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เมื่อมองย้อนหาความสำเร็จของยามาฮ่าทัช อาจพูดได้ว่าเป็นรถรุ่นหนึ่งที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งผู้เขียนวิเคราะห์ไล่เรียงได้ดังนี้
-ยามาฮ่าทัชเปิดตัวช้ากว่าคู่แข่งโดยตรงคือ Honda Ls125 (2539) ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 ปี โดยในช่วงเวลานั้นทาง Honda ได้กลายเป็นเจ้าพ่อรถตลาดรถ 2 จังหวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พื้นที่ส่วนแบ่งก็ถูกบั่นทอนลงไป
- การออกแบบดีไซน์ของยามาฮ่าทัช สำหรับในเรื่องการออกแบบไม่อาจจะชี้ได้แน่ชัด ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่สำหรับผู้เขียนข้อยกเรื่องงานออกแบบให้แก่ Honda Ls125 มากกว่า
-การถดถอยของตลาดรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะ โดยในปี 2540 ที่ทางยามาฮ่าทัชได้ทำการเปิดตัว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับทาง Honda ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ที่มีนามว่า เวฟ 100
-ปีที่เปิดตัวยามาฮ่าทัชเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ประเทศไทยประสบปัญหาฟองสบู่แตก ประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก ธุระกิจ กิจการต่างๆ ปิดตัวกันเป็นจำนวนมาก ในเมื่อเศรษฐกิจมีการติดขัด หยุดฉะงัก ประชาชนก็เริ่มรัดเข็มขัด ซึ่งธุระกิจยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย
ด้วยสาเหตุและปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลทำให้เจ้า ยามาฮ่าทัช ได้กลายเป็นรถที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลทำให้ในปัจจุบันยามาฮ่าทัชได้กลายเป็นรถที่ไม่สามารถจะพบเจอบ่อยเหมือนดัง 2 จังหวะรุ่นอื่นๆ
----------
นอกจากนี้ ในมุมมองของผู้เขียนวิเคราะห์ อาจกล่าวได้ว่ายามาฮ่าทัชอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำตลาดแบบยามาฮ่า โดยการให้จำนวน CC สูงกว่าคู่แข่ง ยกตัวอย่างเช่น
- Yamaha Touch 126 / Honda Ls 125
- Yamaha Nmax 155 / Honda Pcx 150
- Yamaha Aerox 155 / Honda Cick 150
- Yamaha R15 155 / Honda CBR 150
----------------------
ที่มาของรูปภาพและข้อมูล
https://www.facebook.com/groups/2tspec
-------------------------------------------
ขอฝากเพจหน่อยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/ต้นรถเป็นอะไรอะ-451481885345798
สุภาพษุรุจสายฟ้า...ยามาฮ่าทัช 126cc
สุภาพษุรุจสายฟ้า...ยามาฮ่าทัช เป็นเพียงฉายาที่ ยามาฮ่า ตั้งให้กับรถรุ่น Touch Street Thunder 126cc (ทัช สตรีท ธันเดอร์) ซึ่งถูกเปิดตัวขึ้นในปีพ.ศ 2540 โดยจัดอยู่ในกลุ่มรถประเภท มินิสปอรต์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 130 cc
ยามาฮ่า ทัช นับเป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนารวมกันระหว่างวิศวกรสยามยามาฮ่ากับวิศวกรยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น โดยทำการศึกษาค้นคว้าและสำรวจตลาดรถจักรยานยนต์เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างแท้จริง
การเปิดตัวของยามาฮ่า ทัช ได้ดึงดาราวัยรุ่นชายที่กำลังโด่งดังในขณะนั้นมาช่วยเสริมยอดขายอีกด้วย สำหรับดาราชายที่ทางยามาฮ่าเลือกนำมาเป็นพรีเซนเตอร์ คือ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ซึ่งโด่งดังจากหนังเรื่อง 2499 อันธพานครองเมือง ซึ่งออกฉายในปี 2540 เช่นเดียวกัน
สำหรับยามาฮ่า ทัช การที่จะให้ได้เป็นรถมินิสปอรต์อย่างเต็มตัว ยามาฮ่าจึงได้เลือกใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ แคร้งเคสรีดวาล์ว 126 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีระยะชัก 54.0 × 54.7 มม. และมีกำลังอัดอยู่ที่ 6:9 : 1 อีกทั้งยังถูกควบคุมการทำงานด้วยระบบ Y.E.I.S (Yamaha Energy Induction System) และเติมเต็มด้วยระบบเก็บไอดีสำรอง (ปอด) อีกทั้งยังมาพร้อมกับคาบูเรเตอร์มิคูนิ VM 24 SS
นอกเหนือไปจากนี้ทางยามาฮ่า ได้พัฒนาออกแบบเสื้อสูบและลูกสูบเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งทำให้การระบายความร้อนดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่สะสมความร้อน เพื่อให้การขับขี่ในเมืองที่มีปัญหารถติดไม่ส่งผลกระทบในเรื่องความร้อน
เฟรมใหม่ที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูง ยามาฮ่าจึงเลือกที่จะใช้เฟรมทรงสี่เหลี่ยมแบบไดมอนด์ไทน์ ซึ่งมีความสามรถในการทนแรงบิดที่สูงสามารถกระจายแรงบิดงอได้ทั่วทั้งเฟรม และยังมีน้ำหนักที่เบาอีกด้วย
ในส่วนระบบกันสะเทือนนุ่มนวล โดยโช๊คหน้าของยามาฮ่าทัชมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 28 มม. ซึ่งเป็นแบบเทเลสโกปิด คอลย์สปริง ออยล์แคมเปอร์ ผสมกับการทำงานของโช๊คหลังแบบโช๊คอัฟเดียวโมโนครอสกับสวิงอาร์มทรงเหลี่ยม ซึ่งโช๊คอัฟเดียวโมโนครอสเป็นรูปแบบเฉพาะของทางยามาฮ่า อีกทั้งยามาฮ่าทัชยังมาพร้อมกับระบบเบรกดิกส์ทั้งหน้าและหลัง โดยดิสก์หน้ามีขนาด 220 มม. และดิสก์หลังขนาด 190 มม. ซึ่งดิสก์เบรกเป็นแบบสองลูกสูบ ทำให้การเบรกมีประสิทธิ์ภาพและนุ่มนวล
นอกจากนี้ยังมีความพิเศษในเรื่องยาง โดยทางยามาฮ่าได้สั่งผลิตยางมิชลินหน้าแคบขึ้นมาเอง โดยมีชื่อรุ่นว่า M35 ขนาดยางหน้า
2.25-17 และยางหลัง 2.50-17
สำหรับงานดีไซค์ ถูกออกแบบให้ภายนอกปราดเปรียว รูปทรงเน้นสรีระตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดดเด่นด้วยฟูลแฟริ่ง ที่สามารถถอดแยกให้กลายเป็น ฮาร์ฟแฟริ่ง นอกจากนี้ทางยามาฮ่าเลือกที่จะออกแบบให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุง โดยฝาครอบสามารถแยกออกเป็น 5 ชิ้น ได้แก่ ส่วนบน (ขวาและซ้าย) ส่วนกลาง (ขวาและซ้าย) และส่วนล่าง (ขวาและซ้าย) สำหรับส่วนกลางและส่วนล่างสามารถถอดออกได้ ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับไฟหน้ารูปแบบโคมเพรช
สำหรับแผงหน้าปัดเรือนไมล์ได้ถูกออกแบบใหม่ โดยให้มีเฉดสีที่เด่นตา พร้อมทั้งเข็มบอกระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟเตือนความร้อน และปริมาณน้ำมันเครื่อง (2T) สำหรับถังน้ำมันมีขนาดกระทัดรัด ฝาถังเรียบติดถัง สามารถจุน้ำมันได้ 8 ลิตร
--------
ทั้งนี้ยามาฮ่าทัช มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 51,000 โดยประมาณในปี 2540 ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 2 ปีก็ทำการปรับโฉมของยามาฮ่าทัชอีกครั้งหนึ่งในปี 2542 สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางยามาฮ่าได้เปลี่ยนจากล้อซี่ลวดเป็นล้อแม็กแทน และในส่วนที่เหลือมีเพียงสติกเกอร์ลายใหม่เพียงเท่านั้น
เหตุไฉน Yamaha Touch ถึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เมื่อมองย้อนหาความสำเร็จของยามาฮ่าทัช อาจพูดได้ว่าเป็นรถรุ่นหนึ่งที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งผู้เขียนวิเคราะห์ไล่เรียงได้ดังนี้
-ยามาฮ่าทัชเปิดตัวช้ากว่าคู่แข่งโดยตรงคือ Honda Ls125 (2539) ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 ปี โดยในช่วงเวลานั้นทาง Honda ได้กลายเป็นเจ้าพ่อรถตลาดรถ 2 จังหวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พื้นที่ส่วนแบ่งก็ถูกบั่นทอนลงไป
- การออกแบบดีไซน์ของยามาฮ่าทัช สำหรับในเรื่องการออกแบบไม่อาจจะชี้ได้แน่ชัด ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่สำหรับผู้เขียนข้อยกเรื่องงานออกแบบให้แก่ Honda Ls125 มากกว่า
-การถดถอยของตลาดรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะ โดยในปี 2540 ที่ทางยามาฮ่าทัชได้ทำการเปิดตัว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับทาง Honda ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ที่มีนามว่า เวฟ 100
-ปีที่เปิดตัวยามาฮ่าทัชเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ประเทศไทยประสบปัญหาฟองสบู่แตก ประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก ธุระกิจ กิจการต่างๆ ปิดตัวกันเป็นจำนวนมาก ในเมื่อเศรษฐกิจมีการติดขัด หยุดฉะงัก ประชาชนก็เริ่มรัดเข็มขัด ซึ่งธุระกิจยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย
ด้วยสาเหตุและปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลทำให้เจ้า ยามาฮ่าทัช ได้กลายเป็นรถที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลทำให้ในปัจจุบันยามาฮ่าทัชได้กลายเป็นรถที่ไม่สามารถจะพบเจอบ่อยเหมือนดัง 2 จังหวะรุ่นอื่นๆ
----------
นอกจากนี้ ในมุมมองของผู้เขียนวิเคราะห์ อาจกล่าวได้ว่ายามาฮ่าทัชอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำตลาดแบบยามาฮ่า โดยการให้จำนวน CC สูงกว่าคู่แข่ง ยกตัวอย่างเช่น
- Yamaha Touch 126 / Honda Ls 125
- Yamaha Nmax 155 / Honda Pcx 150
- Yamaha Aerox 155 / Honda Cick 150
- Yamaha R15 155 / Honda CBR 150
----------------------
ที่มาของรูปภาพและข้อมูล
https://www.facebook.com/groups/2tspec
-------------------------------------------
ขอฝากเพจหน่อยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้