การดูภาพงานศิลปะ แม้มันเป็นปัจเจค ขึ้นกับแต่ล่ะบุคคลที่จะจินตนาการ
แต่หากได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับภาพวาด ธรรมชาติย่อมมีหนึ่งเดียว

การดูงานศิลป์ โดยเฉพาะภาพเขียนจีน เราสามารถดูได้ด้วยสายตาภายนอกและสัมผัสมันได้ด้วยใจภายใน…

ดูได้ด้วยสายตาภายนอก คือเราสามารถดูและชื่นชมลายเส้น ฝีแปรง สีสัน เนื้อหา บรรยากาศ ฤดูกาล
ทิวทัศน์ตามธรรมชาติ ที่ศิลปินบรรจงวาดรายละเอียดและใส่องค์ประกอบลงในภาพวาด

สิ่งเหล่านั้นจะเชื่อมโยงให้ผู้พิจ เกิดจินตนาการ นี่เป็นการดูระดับตื้น ระดับแรก

การดูระดับที่สองคือการสัมผัสมันด้วยใจ เป็นระดับลึกซึ้งดื่มด่ำ เป็นการดูให้เห็นแก่น
ผู้ดูจะถูกหลอมรวมกับภาพเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีผู้ดู ไม่มีภาพเขียน ทั้งสองรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
โดยมีภาพเป็นประตูพาเราสู่มิติที่ ไร้รูป ไร้ขอบเขต

เราจะสัมผัสได้ถึงมิติ และความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในภาพ ที่ศิลปินได้ถ่ายทอดออกมาจากจินตนาการ
:


:

เอาภาพเขียนที่ซื้อมาจากจีนมาให้เพ่งพิจกันครับ…

เป็นงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติจีน  นาม Junshenghuayuan ที่ได้ซื้อกลับมาติดผนังห้องทำงานที่บ้านกรุงเทพฯ
ภาพนี้ขนาดประมาณ 3x4ฟุต ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่นหิน ดิน ทราย และสีจากวัสดุจริงในธรรมชาติ
เอามาบดผสมเป็นส่วนผสมแทนสี และใช้เกียงกวาด ปาดป้ายตามจินตนาการของศิลปิน

ภาพมีความงดงามดูเป็นธรรมชาติ ลายเส้นชั้นหิน ลายนูนสูงต่ำ ดูมีมิติ
การปาดป้ายฝีเกียง ก่อกำเนิดธรรมชาติของภูเขา ต้นไม้ เส้นสายลายน้ำตกและลำธาร
การสลัดฝีเกียง ที่ทำให้เราเห็นถึง spot ของเม็ดสีส้มเล็กๆ ที่ศิลปินปล่อยใจสะบัดและสลัด
ก่อเกิดภาพสลัดดอกใบ ได้อย่างงดงามและลงตัวเป็นธรรมชาติ

ภาพนี้เราจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสงบเยือกเย็น หนาวเหน็บและเดียวดาย ดุจยอดภูแหลมที่พุ่งชี้ฟ้าอย่างท้าทาย หยิ่งทะนง

เราจะสัมผัสได้ถึงไอหมอกเย็นสีขาว  ได้ยินถึงเสียงลมพริ้วไหวที่คุยกัน
และสัมผัสได้ถึงสายลมที่ทักโชยแตะผิว แม้บางเบา แต่ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือก ยามเราต้องไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดนั้น

ก่อให้เกิดความรู้สึก…ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งโดดเดี่ยว และเดียวดาย…

เสียงน้ำตกที่หล่นมาเป็นสาย จินตนาการให้เห็นถึงมวลน้ำที่ตีฟองต่างพากันร้องระงม ยามหล่นกระแทกโขดหินเบื้องล่าง
ละอองน้ำบางเบาล่องลอยปลิวฟุ้งมากระทบผิวหน้า

…เสียงน้ำตกที่ไหลลงมาตลอดเวลา เคยชินจนมิได้ยิน…

แม้เบื้องหลังจะดูวุ่นวาย แต่เบื้องหน้า ลำธารที่ปรากฏกลับสงบ ราบเรียบ
ลำธารที่สงบ ราบเรียบ พลอยทำให้จิตใจพลอยราบเรียบและสงบตาม ยามที่ได้สัมผัส

หมอกบางๆ ทำให้จิตใจล่องลอย สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นสบายในต้นฤดูใบไม้ร่วง

ใบไม้สีเหลือง บ่งบอกได้ว่า เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อันแสดงความหมายเชิงธรรมชาติว่า ได้มาถึงที่สุดแล้ว

จุดเริ่มต้นของชีวิตเรา ความฝัน ความหวัง แรกก่อเกิด เป็นดั่งฤดูใบไม้ผลิ
เราได้ผ่านร้อน สั่งสมประสบการณ์ ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ
เราได้ผ่านหนาว พัฒนาจิตใจให้เติบแกร่ง เข้มแข็ง อดทน
จนเรามาหยุดเพราะทุกจุดเต็มอิ่ม ผมเผ้าเริ่มเปลี่ยนสี มิต่างกับใบไม้เปลี่ยนสี
บ่งบอกว่าเรามาถึงที่สุดแล้ว พร้อมที่จะผลัดใบ ดั่งฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูใบไม้ร่วงป่าจะมีความสวยงามที่สุด เหมือนดั่งว่า เราถึงพร้อมแล้วซึ่งทุกสิ่ง
ธรรมชาติที่ไร้การตกแต่งต่อเติม ภายในมันจะถึงพร้อมโดยธรรมชาติเมื่อเวลามาถึง
จงเตรียมตัวด้วยความสงบ หยุดนิ่ง และพร้อมกลับคืนสู่ธรรมชาติ

…ธรรมชาติทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงสัมพันธ์ เกี่ยวโยงกันด้วยกฏเกณฑ์ภายใต้จักรวาลเดียวกัน…
:
:
:
ฟ้าอยู่ยั้งยืนยง
ดินอยู่คงยาวนาน
เราแค่เพียงแวะผ่าน
มินานก็ลาลับไป

ยิ่งเดินเหมือนยิ่งห่าง
เดินหลงทางเตลิดไกล
จุดหมายกลับอยู่ใกล้
อยู่ในใจเรานั่นเอง
:
:
:

---ผลึกหิน---

แก้ไขชื่อกระทู้