คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 36
เป็นตางึด? "ลุงตู่" นำโด่ง บัตรคนจน..เริ่มทำงาน
ต้องให้เครดิตประชานิยมฉบับ "ประชารัฐ" อย่าง "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือไม่ เมื่อดุสิตโพลล่าสุด ลุงตู่นำโด่งกว่า เจ้าของนโยบายเพื่อคนจนเจ้าเก่าไปแล้ว!!
คำว่า “เป็นตางึด” ในภาษาอีสาน หมายถึงน่าอัศจรรย์ใจ เป็นคำอุทานที่มักใช้เวลาที่ได้รับฟังเรื่องราวที่เหนือความคาดหมาย
กรณีสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,132 คน ระหว่างวันที่ 5-8กันยายน 2561 ในหัวข้อสำรวจ “ประชาชนคิดอย่างไร ? กับการเลือก ส.ส.ในปี 2562” ซึ่งคำถามที่ 3 ประชาชนอยากได้ใคร ? เป็นนายกรัฐมนตรี
ปรากฏว่า อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 24.72 และอันดับ 5 ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 13.50
คนอีสานบางกลุ่มเห็นข้อมูลข้างต้น อาจจะออกอุทาน “เป็นตางึดหลาย” เพราะไม่เชื่อว่า คะแนนนิยมของ “ลุงตู่” จะเอาชนะทักษิณได้
จริงอยู่ มนต์รักประชานิยมของพรรคไทยรักไทย ยังฝังใจคนชนบท โดยเฉพาะกลุ่มหัวคะแนน แต่เวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลประยุทธ์ได้งบพัฒนาชนบทจำนวนมาก แต่ฝ่ายทักษิณก็มักจะดูถูกดูแคลน “ประชานิยมลายพราง”
ดังที่ทราบ รัฐบาลประยุทธ์ได้แจก “บัตรคนจน” หรือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่ให้วงเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทุกๆ เดือน เพื่อรูดซื้อสินค้าต่างๆ ที่จำเป็น และค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ
ผู้ถือบัตรคนจนนั้น ไม่สามารถกดหรือถอนออกมาเป็นเงินสดได้ เพราะเป็นวงเงินที่สำรองไว้ใช้ผ่านเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือร้านค้าที่กำหนดเท่านั้น
ล่าสุด สำหรับผู้ที่เข้าโครงการฝึกอาชีพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้เงินเพิ่มจำนวน 100-200 บาท/เดือน และเงินจำนวนนี้ กดออกมาใช้เป็นเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มได้แล้ว หากใช้ไม่หมดยังสามารถสะสมในเดือนถัดไปได้อีกด้วย
อยากกดเงินสด ก็ต้องเข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพ และหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า บัตรคนจนนั้น สามารถเติมเงิน-ฝากเงินได้เหมือนกันกับบัตรเอทีเอ็มทั่วไปแล้ว
ข่าวดีอีกอย่างสำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์จ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ ผ่านบัตรคนจน เดือนละ 50-100 บาท ก็จะสามารถใช้บัตรคนจนถอนเงินสดออกมาใช้ได้เช่นกัน
พิจารณาจากตัวเลขอาจดูว่าหลักร้อย น้อยไปหรือเปล่า ? แต่อย่าลืมว่า กลยุทธ์ “เติมเงิน” จะไม่หมดเพียงแค่นี้
ตราบใดที่ประชาชนยังมี “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” อยู่ในมือ รัฐบาลก็จะแสดงอภินิหาร “เสกเงินใส่บัตร” เป็นระยะๆ เพื่อให้เงินมันหมุนไปเรื่อยๆ
ด้านหนึ่ง คนไทยเริ่มซึมซับถ้อยคำ “ลุงตู่อยู่ต่อ” หรือถ้าฝ่ายตรงข้ามก็จะบอกว่า “สืบทอดอำนาจ” ไม่ว่าจะพูดแบบไหน ก็มีความหมายตรงกันคือ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย หลังการเลือกตั้ง
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินสายไปพบพี่น้องประชาชนในรูปแบบ ครม.สัญจร ก็เหมือนการออกไปย้ำแบรนด์ “ผู้นำยามวิกฤติ” ซึ่งชาวบ้านร้านตลาดจะชอบหรือชัง ก็ยังต้องใช้บริการอดีตนายทหารรายนี้ต่อไป
คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยลำพองใจว่า ตุนคะแนนเสียงไว้เพียบ เพราะประชาชนไม่พอใจผลงานการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาวบ้านของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยประเมินรัฐบาลลุงตู่ต่ำมาก และไม่เชื่อว่า ชาวบ้านจะพอใจบัตรคนจน
ทักษิณ ชินวัตร จึงหลุดปากว่า เลือกตั้งวันไหน พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลายแน่นอน พร้อมกับปลุกเร้าลูกพรรคให้ยืนหยัดต่อสู้ อย่าหวั่นไหวต่อเกมใต้ดินของฝ่ายตรงข้าม
จริงอยู่ พรรคเพื่อไทยชนะ แต่ชาวบ้านก็รับรู้เป็นเอกภาพเช่นกันว่า ชนะแน่..แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล
http://www.komchadluek.net/news/scoop/342936
ต้องให้เครดิตประชานิยมฉบับ "ประชารัฐ" อย่าง "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือไม่ เมื่อดุสิตโพลล่าสุด ลุงตู่นำโด่งกว่า เจ้าของนโยบายเพื่อคนจนเจ้าเก่าไปแล้ว!!
คำว่า “เป็นตางึด” ในภาษาอีสาน หมายถึงน่าอัศจรรย์ใจ เป็นคำอุทานที่มักใช้เวลาที่ได้รับฟังเรื่องราวที่เหนือความคาดหมาย
กรณีสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,132 คน ระหว่างวันที่ 5-8กันยายน 2561 ในหัวข้อสำรวจ “ประชาชนคิดอย่างไร ? กับการเลือก ส.ส.ในปี 2562” ซึ่งคำถามที่ 3 ประชาชนอยากได้ใคร ? เป็นนายกรัฐมนตรี
ปรากฏว่า อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 24.72 และอันดับ 5 ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 13.50
คนอีสานบางกลุ่มเห็นข้อมูลข้างต้น อาจจะออกอุทาน “เป็นตางึดหลาย” เพราะไม่เชื่อว่า คะแนนนิยมของ “ลุงตู่” จะเอาชนะทักษิณได้
จริงอยู่ มนต์รักประชานิยมของพรรคไทยรักไทย ยังฝังใจคนชนบท โดยเฉพาะกลุ่มหัวคะแนน แต่เวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลประยุทธ์ได้งบพัฒนาชนบทจำนวนมาก แต่ฝ่ายทักษิณก็มักจะดูถูกดูแคลน “ประชานิยมลายพราง”
ดังที่ทราบ รัฐบาลประยุทธ์ได้แจก “บัตรคนจน” หรือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่ให้วงเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทุกๆ เดือน เพื่อรูดซื้อสินค้าต่างๆ ที่จำเป็น และค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ
ผู้ถือบัตรคนจนนั้น ไม่สามารถกดหรือถอนออกมาเป็นเงินสดได้ เพราะเป็นวงเงินที่สำรองไว้ใช้ผ่านเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือร้านค้าที่กำหนดเท่านั้น
ล่าสุด สำหรับผู้ที่เข้าโครงการฝึกอาชีพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้เงินเพิ่มจำนวน 100-200 บาท/เดือน และเงินจำนวนนี้ กดออกมาใช้เป็นเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มได้แล้ว หากใช้ไม่หมดยังสามารถสะสมในเดือนถัดไปได้อีกด้วย
อยากกดเงินสด ก็ต้องเข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพ และหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า บัตรคนจนนั้น สามารถเติมเงิน-ฝากเงินได้เหมือนกันกับบัตรเอทีเอ็มทั่วไปแล้ว
ข่าวดีอีกอย่างสำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์จ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ ผ่านบัตรคนจน เดือนละ 50-100 บาท ก็จะสามารถใช้บัตรคนจนถอนเงินสดออกมาใช้ได้เช่นกัน
พิจารณาจากตัวเลขอาจดูว่าหลักร้อย น้อยไปหรือเปล่า ? แต่อย่าลืมว่า กลยุทธ์ “เติมเงิน” จะไม่หมดเพียงแค่นี้
ตราบใดที่ประชาชนยังมี “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” อยู่ในมือ รัฐบาลก็จะแสดงอภินิหาร “เสกเงินใส่บัตร” เป็นระยะๆ เพื่อให้เงินมันหมุนไปเรื่อยๆ
ด้านหนึ่ง คนไทยเริ่มซึมซับถ้อยคำ “ลุงตู่อยู่ต่อ” หรือถ้าฝ่ายตรงข้ามก็จะบอกว่า “สืบทอดอำนาจ” ไม่ว่าจะพูดแบบไหน ก็มีความหมายตรงกันคือ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย หลังการเลือกตั้ง
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินสายไปพบพี่น้องประชาชนในรูปแบบ ครม.สัญจร ก็เหมือนการออกไปย้ำแบรนด์ “ผู้นำยามวิกฤติ” ซึ่งชาวบ้านร้านตลาดจะชอบหรือชัง ก็ยังต้องใช้บริการอดีตนายทหารรายนี้ต่อไป
คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยลำพองใจว่า ตุนคะแนนเสียงไว้เพียบ เพราะประชาชนไม่พอใจผลงานการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาวบ้านของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยประเมินรัฐบาลลุงตู่ต่ำมาก และไม่เชื่อว่า ชาวบ้านจะพอใจบัตรคนจน
ทักษิณ ชินวัตร จึงหลุดปากว่า เลือกตั้งวันไหน พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลายแน่นอน พร้อมกับปลุกเร้าลูกพรรคให้ยืนหยัดต่อสู้ อย่าหวั่นไหวต่อเกมใต้ดินของฝ่ายตรงข้าม
จริงอยู่ พรรคเพื่อไทยชนะ แต่ชาวบ้านก็รับรู้เป็นเอกภาพเช่นกันว่า ชนะแน่..แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล
http://www.komchadluek.net/news/scoop/342936
แสดงความคิดเห็น
🍽~มาลาริน~อารมณ์ดี้ดีค่ะ การเมืองยามเช้า ฟันธงฉับๆ....“เพื่อไทย”มาแรง แต่ยังไปไม่ถึงทำเนียบ!!
“เพื่อไทย”มาแรง แต่ยังไปไม่ถึงทำเนียบ!!
พอเริ่มต้นเข้าสู่เดือนกันยายนก็จะเป็นช่วงเริ่มนับถอยหลังรอการคลายล๊อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมในการหาสมาชิกพรรค ประชุมพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหาร หรือหัวหน้าพรรคกันได้ ซึ่งต้องไม่ลืมว่ายังไม่ใช่การปลดล๊อคที่จะปล่อยให้เริ่มหาเสียงสาดโคลนกันได้ ที่น่าจับตาก็คือพรรคเพื่อไทยที่จะถึงเวลาหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งมีข่าวแว่วมาช่วงหนึ่งแล้วว่า ไม่น่าจะเป็นใครไปได้ นอกจากคนที่ต้องได้รับความไว้ใจจากตระกูลชินวัตรที่จะเป็นผู้เคาะ ซึ่งก็คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือ “ชายจืด”ผู้เป็นน้องเขยของนายทักษิณ สามีของ"เจ๊แดง"นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นั่นเอง และเมื่อเห็นภาพที่ นางเยาวภา ปรากฏในภาพพร้อมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ฮ่องกง ก็ยิ่งเห็นภาพชัดเจนว่าพวกเธอมาหารือและหาข้อสรุปว่าใครควรจะมานำพรรคเพื่อไทยคนต่อไป ซึ่งนาทีนี้ "น้องเขย"ก็น่าจะมาแรงที่สุด
จากการหยั่งเสียงกันมาหลายรอบ พรรคเพื่อไทยก็น่าจะยังได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุด และน่าเชื่อว่าจะชนะการเลือกตั้งได้ แต่คงจะไม่ชนะแบบถล่มทลายหรือแบบ"หิมะถล่ม"ตามที่นายทักษิณ ออกมาปลุกปลอบขวัญลูกพรรคให้ฮึดสู้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลเหมือนในอดีต เนื่องจากกลไกรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบมาให้คะแนนเสียงของแต่ละพรรคกระจายกันออกไป เปิดทางให้เกิดรัฐบาลผสมหลายพรรค แล้วยังต้องนึกถึงเสียงของวุฒิสมาชิกที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าคสช.อีก 250 คน ความหมายก็คือพรรคเสียงข้างมากอีกพรรคหนึ่งในรัฐสภา ด้วยเงื่อนไขเพียงเท่านี้ก็แทบปิดประตูตายสำหรับพรรคเพื่อไทยที่จะได้เข้ามาบริหารประเทศแล้ว
ส่วนที่กลัวกันว่า หลังเลือกตั้งอาจมีการสร้างกระแส"ความชอบธรรม"จนเกิดความปั่นป่วนนั้น ก็คิดได้ แต่ความเป็นจริงมันเกิดยาก และการชุมนุมบนท้องถนนในอนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเวลานี้กฎหมายเรื่องการขออนุญาตชุมนุมมีผลบังคับใช้ อีกทั้งพวกแกนนำและแกนตามทั้งหลายก็มีคดีติดตัวเป็นหางว่าว คงไม่สามารถมาออกฤทธิ์ออกเดชกันไปอีกนาน
เมื่อประเมินสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ก็พอจะมองออกว่า งานนี้ยังไงทักษิณก็ต้องฮึดสู้ เพราะถ้าไม่สู้ก็ต้องตายสถานเดียว แต่ถ้าจะให้ชนะแล้วกลับมาเหมือนเดิม จะขออภัยโทษแบบมั่ว ๆ อย่างในอดีตมันเป็นไปไม่ได้ เพราะหลากหลายคดีก็อยู่ในศาลหมดแล้ว มีทางเดียวที่ทักษิณเป็นได้ก็คือ เป็นนักโทษหนีคดีไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตายนั่นแหละ
https://mgronline.com/news1/detail/9610000088394
ใครๆก็ฟันธงอย่างนี้แหละค่ะ....
อย่าหัวร้อนกันเลยนะคะ...
ถ้าทักษิณดีจริง นักการเมืองพรรคอื่นๆคงอยากเข้ามาสามิภักดิ์
แต่ถ้าเขารู้เช่นเห็นชาติ อ้าปากเห็นลิ้นไก่ ว่าเคยทำอะไรให้บ้านเมืองไว้บ้าง
เขาก็เทหนีสิคะ
ประเทศไทยไม่สิ้นคนดี มีบุญบารมีปกป้องคุ้มครอง
ส่งคนดีๆเข้ามายามวิกฤตเสมอ
ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยจากสิ่งร้ายๆทั้งปวงแน่นอนค่ะ
ฟันธง !!!!