1 มค61 เราถูกรถชนตอนข้ามถนน ช่วงดิดไฟแดง ตำรวจจราจรเชิญคู่กรณีไปโรงพักตอนนั้นเลย เราถูกส่งตัวไป รพ. อาการขาหักร้าว หัวเข่าแตกยุบ ตู่กรณีกับแม่ยายเจ้าของรถไปเยี่ยม มันปกติทุกอย่าง รักษาใช้พรบเราไม่ต้องจ่าย เข้าเฝือกและนอน 5 วันก็กลับบ้าน คู่กรณีโทรมาถามอาการบ้าง
หลัง 27 กพ. ก็เงียบไป
พอเริ่มเดือนที่ 3 รพ.แจ้งให้เราจ่ายค่ารักษาเอง เพราะ พรบ คู่กรณีมีปัญหา เรายังต้องหยุดงานอีกเดือนเพราะกระดูกเข่ายังไม่เชื่อมและขาบวมมาก เจ็บแดงทั้งขา หมอให้ยาแก้ปวดบวมกินจนเดือนที่4
หลังผ่าเฝือกแข็งแล้ว เราก็ไปโรงพักเพื่อตามคดี เจอตำรวจจราจรตามข้างต้น เอาเอกสารอะไรนี่แหละมาให้ดู เราก็เลยโทรนัดสารวัตรเจ้าของคดี
วันนัดพี่สาวพาไปโรงพัก ตำรวจไม่รับแจ้งความค่ะ ให้รอตั้งแต่ 10 โมงเช้า ทำนั่นนี่ รอจน 4 โมงเย็น ถึงเรียกเราไปคุย ตำรวจนางนั้นพูดว่า "เธอก็ใกล้หายแล้ว จะเอาอะไรอีก" พี่สาวว่า "หมอให้รักษาต่อเนื่องอยู่ ตอนนี้กลายเป็นเราออกค่ารักษาเอง คุณตำรวจตามคดีด้วยค่ะ" เรายื่นใบรับรองแพทย์ให้
ระหว่างตำรวจอ่านอยู่ เราและพี่สาวเห็น แฟ้มหนาๆ พิมพ์ชื่อ นามสกุลเรา เลยเลื่อนมาอ่าน พี่สาวก็ร้อง "อ้าว นี่ไม่ใช่หน้าน้องสาวนี่ " คือเอกสารนั้นถูกพิมพ์ มีบัตรประชาชน เลขบัตรและที่อยู่ เรา แต่หน้าไม่ใช่เรา มีข้อความยาวเลย แผนที่เกิดเหตุ ท้ายสุดมีลายเซ็นด้วย ไม่ใช่ลายเซ็นต์เรา ตำรวจรีบดึงกลับ พูดว่า " ก็เธอมาช้าเอง ฉํนเลยเอาบัตรผิดใส่ไป " เสียดาย มือถึอเราใช้อัดเสียงอยู่เลยไม่ได้ถ่ายไว้ เราแห้ววันนั้น สารวัตรหญิงแทบไล่กลับพูดว่า " ไม่ต้องแจ้งหรอก ให้นัดคู่กรณีมาดีกว่า กลับไปก่อน "
1 - 2 อาทิตย์ต่อมา คู่่กรณีมาโรงพัก เราเอาบิลค่ารักษาไปเพื่อเคลมกับคู่กรณี ผลคือ ไม่มีเงินจ่าย ไม่มีเงินผ่อนค่ารักษา รถก็ไม่มีประกันและพรบหมดไป 6 วัน คนชนจบวิศวะ ทำงานสุขุมวิท เงินเดือน 2 หมื่นกว่า แม่ยายเจ้าของรถ ทำงานมหาลัยปิดมีชื่อ ระหว่างเจรจา ตำรวจเรียกชื่อเล่นเค้า บอกให้ไปรอในรถก่อน ท่าทีเหมือนสนิทกันค่ะ ขอเรียกตำรวจ " มัน " มันหันกลับมาพูดกับเราว่า แม่ยายเค้าตอนนี้เป็นมะเร็งต้องรักษา และ " เด็กไม่ได้ตั้งใจชนเธอ นี่อุบัติเหตุน่ะ ถ้ายืนยันจะแจ้งความ ก็เท่ากับเอาเด็กติดคุกคดีอาญา " " ถ้าเธอจะเรียกร้องเงินก็ไปฟ้องแพ่งเองแล้วกัน "
เราโทรไป 1111 ร้องเรียนค่ะ ปลายเดือน 5 ตำรวจมันโทรมาด้วยเสียงฉุนเฉียว ว่า จะมาสอบปากคำถีงที่ทำงานเรา กลัวค่ะเลยไม่ให้มา เราบอกกลับไปว่า
พี่สาวคนโตช่วยหาทนายแล้ว มันเลยขอเบอร์ทนาย เราว่า มีทนายแน่ ขอสรุปค่าผ่าตัดก่อน ( คือขาเราบวมมาก เดินก้าวขึ้นบันไดไม่ได้ เจ็บแปลบตอนก้าวขา หมอมีหนังสือให้ทำ MRI แล้วนัดอีกที )
หลัง มัน วางสายไป คู่กรณีก็โทรมาค่ะ บอกได้โบนัส 9 พัน จะมาให้เรา ขอไม่มีทนาย ไม่มีแจ้งความให้เสียชื่อเค้า ตอนค่ำโทรเพิ่มเป็น 3 หมื่น หรือให้เราเสนอดู เราก็ว่า ตอนนี้มันเลยจุดนั้นไปแล้ว ขอเซฟตัวเอง เดี๋ยวจะได้ไม่ต้องไปโดดตึกตาย ตอนศาลยกฟ้อง
คู่กรณีโทรมาอีก ว่า แม่ยายเค้าว่ามีประกันรถน่ะ เค้าผิดเองไม่ได้ถามกัน
คำถาม : 1. แม่ยายผิดไหมค่ะ ถ้าเรามีข้อพิสูจน์ ว่า โกหก เราอยากฟ้องมันด้วย มันสมรู้ร่วมคิดกันไหม? การศึกษาดีหมดทุกคน ทำไมทำแบบนี้
2. เรายังเคลมประกันมันได้หรือ นาน 6 เดือนแล้ว (คือ ผล MRI เราเส้นเอ็นตรงเข่าขาด กล้ามเนื้อฉีกช้ำหมอว่าเราต้องผ่าตัดใช้ เงิน 2 แลน 5 หมื่น ผ่าเพื่อไม่เจ็บและอับเสบ แต่เราก็ยังเป็นคนขาเป๋ค่ะ )
3. ตำรวจ ถ้าเราเอาเรื่อง เคยมีเคสนี้ไหม เราคิดว่า เค้าต้องช่วยกัน
ใครรู้ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ด่วนได้ยิ่งดีค่ะ
ถูกรถชน คู่กรณีเอารถเก๋งแม่ยายมาขับ อ้างไม่มีทั้ง พรบและประกัน รู้ภายหลังว่าเค้ามีทั้งประกัน พรบ แม่ยายผิดไหม
หลัง 27 กพ. ก็เงียบไป
พอเริ่มเดือนที่ 3 รพ.แจ้งให้เราจ่ายค่ารักษาเอง เพราะ พรบ คู่กรณีมีปัญหา เรายังต้องหยุดงานอีกเดือนเพราะกระดูกเข่ายังไม่เชื่อมและขาบวมมาก เจ็บแดงทั้งขา หมอให้ยาแก้ปวดบวมกินจนเดือนที่4
หลังผ่าเฝือกแข็งแล้ว เราก็ไปโรงพักเพื่อตามคดี เจอตำรวจจราจรตามข้างต้น เอาเอกสารอะไรนี่แหละมาให้ดู เราก็เลยโทรนัดสารวัตรเจ้าของคดี
วันนัดพี่สาวพาไปโรงพัก ตำรวจไม่รับแจ้งความค่ะ ให้รอตั้งแต่ 10 โมงเช้า ทำนั่นนี่ รอจน 4 โมงเย็น ถึงเรียกเราไปคุย ตำรวจนางนั้นพูดว่า "เธอก็ใกล้หายแล้ว จะเอาอะไรอีก" พี่สาวว่า "หมอให้รักษาต่อเนื่องอยู่ ตอนนี้กลายเป็นเราออกค่ารักษาเอง คุณตำรวจตามคดีด้วยค่ะ" เรายื่นใบรับรองแพทย์ให้
ระหว่างตำรวจอ่านอยู่ เราและพี่สาวเห็น แฟ้มหนาๆ พิมพ์ชื่อ นามสกุลเรา เลยเลื่อนมาอ่าน พี่สาวก็ร้อง "อ้าว นี่ไม่ใช่หน้าน้องสาวนี่ " คือเอกสารนั้นถูกพิมพ์ มีบัตรประชาชน เลขบัตรและที่อยู่ เรา แต่หน้าไม่ใช่เรา มีข้อความยาวเลย แผนที่เกิดเหตุ ท้ายสุดมีลายเซ็นด้วย ไม่ใช่ลายเซ็นต์เรา ตำรวจรีบดึงกลับ พูดว่า " ก็เธอมาช้าเอง ฉํนเลยเอาบัตรผิดใส่ไป " เสียดาย มือถึอเราใช้อัดเสียงอยู่เลยไม่ได้ถ่ายไว้ เราแห้ววันนั้น สารวัตรหญิงแทบไล่กลับพูดว่า " ไม่ต้องแจ้งหรอก ให้นัดคู่กรณีมาดีกว่า กลับไปก่อน "
1 - 2 อาทิตย์ต่อมา คู่่กรณีมาโรงพัก เราเอาบิลค่ารักษาไปเพื่อเคลมกับคู่กรณี ผลคือ ไม่มีเงินจ่าย ไม่มีเงินผ่อนค่ารักษา รถก็ไม่มีประกันและพรบหมดไป 6 วัน คนชนจบวิศวะ ทำงานสุขุมวิท เงินเดือน 2 หมื่นกว่า แม่ยายเจ้าของรถ ทำงานมหาลัยปิดมีชื่อ ระหว่างเจรจา ตำรวจเรียกชื่อเล่นเค้า บอกให้ไปรอในรถก่อน ท่าทีเหมือนสนิทกันค่ะ ขอเรียกตำรวจ " มัน " มันหันกลับมาพูดกับเราว่า แม่ยายเค้าตอนนี้เป็นมะเร็งต้องรักษา และ " เด็กไม่ได้ตั้งใจชนเธอ นี่อุบัติเหตุน่ะ ถ้ายืนยันจะแจ้งความ ก็เท่ากับเอาเด็กติดคุกคดีอาญา " " ถ้าเธอจะเรียกร้องเงินก็ไปฟ้องแพ่งเองแล้วกัน "
เราโทรไป 1111 ร้องเรียนค่ะ ปลายเดือน 5 ตำรวจมันโทรมาด้วยเสียงฉุนเฉียว ว่า จะมาสอบปากคำถีงที่ทำงานเรา กลัวค่ะเลยไม่ให้มา เราบอกกลับไปว่า
พี่สาวคนโตช่วยหาทนายแล้ว มันเลยขอเบอร์ทนาย เราว่า มีทนายแน่ ขอสรุปค่าผ่าตัดก่อน ( คือขาเราบวมมาก เดินก้าวขึ้นบันไดไม่ได้ เจ็บแปลบตอนก้าวขา หมอมีหนังสือให้ทำ MRI แล้วนัดอีกที )
หลัง มัน วางสายไป คู่กรณีก็โทรมาค่ะ บอกได้โบนัส 9 พัน จะมาให้เรา ขอไม่มีทนาย ไม่มีแจ้งความให้เสียชื่อเค้า ตอนค่ำโทรเพิ่มเป็น 3 หมื่น หรือให้เราเสนอดู เราก็ว่า ตอนนี้มันเลยจุดนั้นไปแล้ว ขอเซฟตัวเอง เดี๋ยวจะได้ไม่ต้องไปโดดตึกตาย ตอนศาลยกฟ้อง
คู่กรณีโทรมาอีก ว่า แม่ยายเค้าว่ามีประกันรถน่ะ เค้าผิดเองไม่ได้ถามกัน
คำถาม : 1. แม่ยายผิดไหมค่ะ ถ้าเรามีข้อพิสูจน์ ว่า โกหก เราอยากฟ้องมันด้วย มันสมรู้ร่วมคิดกันไหม? การศึกษาดีหมดทุกคน ทำไมทำแบบนี้
2. เรายังเคลมประกันมันได้หรือ นาน 6 เดือนแล้ว (คือ ผล MRI เราเส้นเอ็นตรงเข่าขาด กล้ามเนื้อฉีกช้ำหมอว่าเราต้องผ่าตัดใช้ เงิน 2 แลน 5 หมื่น ผ่าเพื่อไม่เจ็บและอับเสบ แต่เราก็ยังเป็นคนขาเป๋ค่ะ )
3. ตำรวจ ถ้าเราเอาเรื่อง เคยมีเคสนี้ไหม เราคิดว่า เค้าต้องช่วยกัน
ใครรู้ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ด่วนได้ยิ่งดีค่ะ