สวัสดีค่าา
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การเดินทาง จากปากีสถาน - อิหร่าน ว่ามันคือที่สุด และที่สุด ของเราเลยก็ว่าได้
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า เรามีความสุขในการขับรถเที่ยวที่ปากีสถานมาโดยตลอด สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
https://ppantip.com/topic/37922565
แต่เรื่องมันเกิดขึ้น 5 วันก่อนที่เราจะเดินทางข้ามไปยังอิหร่าน เราเกิดไม่สบายขึ้นมา เริ่มแรกเลยคือ มีอาการปวดหัว ตัวร้อน ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก กินยาแก้ปวดลดไข้ตามปกติ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ไข้ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจกับแฟนว่า เราจะขับรถข้ามไปอิหร่านเร็วกว่ากำหนด
เพราะเราตั้งใจว่าจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเชคร่างกาย (อาจมีคนสงสัยว่าทำไมไม่เข้าโรงพยาบาลที่ปากีสถาน เหตุผลคือ วีซ่าของแฟนเรากำลังจะหมดและเราคิดว่าถ้าเราไปโรงพยาบาลที่ปากีสถานเราจะต้องแอดมิดแน่ๆ และคิดว่าจะอยู่เกินกำหนด อีกทั้งเรายังต้องทำเอกสารผ่านแดน (NOC - No Objection Certificate) ต่อมา เรากับแฟนจึงตัดสินใจขับรถไปยัง เมือง Quetta เพื่อดำเนินทำเอกสารผ่านแดนทันที ในระหว่างทางเราก็พยายามพักผ่อน กินยา ให้อาการมันดีขึ้น ซึ่งอาการเรามันก็ขึ้นๆ ลงๆ จนกระทั้งเราทำเอกสารเสร็จเรียบร้อย ระหว่างทางการขับรถข้ามแดนก็จะมีตำรวจ และทหารคอยตรวจเป็นระยะๆ เพราะในพื้นที่ข้ามแดนนั้นค่อนข้างอันตรายและถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง แต่ในระหว่างทางนั้น อาการเราก็ทรุดลงเรื่อยๆ ไข้ขึ้นสูง อาเจียนตลอดทาง และปวดหัวแบบเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเราสั่น สั่นจากข้างในแบบรู้สึกตัวแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้
ต่อมา ตลอดทางอาการมันก็แย่ลงเรื่อยๆ แฟนเราก็เริ่มเครียด เพราะตำรวจคอยตรวจทุกระยะ จนบ้างครั้งแฟนเราต้องไฟท์แบบให้ดูสภาพเราว่าไม่ไหวแล้ว ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว
แต่ด้วยความใจดีของคนปากีสถานนั้นแหละ เค้าก็เข้าใจและช่วยเหลือเราจนนาทีสุดท้ายที่อยู่ที่ประเทศปากีสถาน จนสุดท้ายเราก็ข้ามแดนไปยังอิหร่าน และเราก็ยังโชคดีมากๆ ที่คนอิหร่านก็ใจดีไม่แพ้กัน เพราะนาทีที่เราข้ามแดนเราไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว คือมันเบลอไปหมด สติไม่อยู่กับตัวแล้ว เค้าจึงประสานงานกันเรียกรถพยาบาลให้เราพร้อมดำเนินเอกสารที่ ตม ทำเอกสารให้ทุกอย่าง คือน่ารักมากจริงๆ
ต่อมา ที่โรงพยาบาลแรก เราโดนพาตัวไปที่ห้องฉุกเฉินทันที ณ ตอนนั้นเรามีไข้สูงถึง 41 องศา ได้ เราคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ทุกอย่างมันเบลอไปหมด ทางโรงพยาบาลพยายามฉีดยาลดไข้ และยาต่างๆ มากมาย นาทีนั้นไม่รู้อะไรจริงๆ อาการก็เบลอ คนอิหร่านก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ รักษากันแบบเสี่ยงดวงไปเลย แต่เราก็สู้แบบสุดตัว ไฟท์กับร่างตัวเองว่าต้องไหว ต้องไปต่อ ชีวิตจะไม่หยุดแค่นี้ ทริปที่เราตั้งใจจะขับรถไปถึงฝรั่งเศสมันยังไม่ถึงครึ่งทางเลย เราจะไม่ยอม เรารวบรวมกำลังที่มีทั้งหมดพยายามเรียกสติ ผ่อนคลายตัวเองเท่าที่เราจะทำได้
ในคืนเดียวกันเราถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่สอง เนื่องจากว่าเค้าพบว่าเราติดเชื้อแบคทีเรียทีไต และปัสสาวะ เค้าจึงแนะนำว่าให้ไปที่โรงพยาบาลในเมืองดีกว่า เพราะว่าทางโรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์ที่จะรักษา (โรงพยาบาลชายแดน) เราถูกส่งตัวขึ้ยรถฉุกเฉินเช้าไปในเมืองกว่า 100 กิโล และโดนแอดมิดอีก 5 วัน เพื่อตรวจเชคอย่างละเอียดว่าแบคทีเรียที่เราติดเชื้อคืออะไร ทางโรงพยาบาลตรวจสอบอย่างเคร่งครัดมาก ทั้งอุลตร้าซาวน์ เช็คเลือดทุกวันเช้า เย็น เช็คปัสสาวะทุกวัน แสกนทุกอย่างในร่างกายอย่สงละเอียด ผลสรุปคือร่างกายเราขาดน้ำ แบบขาดในระดับ Maximum และเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย(ไตและกระเพาะปัสสาวะ) แต่เป็นตัวที่ไม่อันตรายมาก สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยา
และในที่สุด การเดินทางแบบ Adventure ก็เริ่มต้นอีกครั้ง หลังจากออกจากโรงพยาบาลแค่ 1 คืน เราก็ไม่รอช้า แบกร่างตัวเองไปเที่ยวที่ทะเลทราย
ตอนแรกอาจจะยากหน่อยสำหรับเรา ร่างกายยังปรับไม่ทัน แต่เราคิดในใจตลอดว่ามันต้องสู้อ่ะ เราถอยไม่ได้แล้วตอนนี้ หลายคนอาจมองว่า ทำไมไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลตัวเองให้หายดีก่อน แต่ในมุมของเรา เรามองว่าเราไหว และเราจะไม่ทิ้งโอกาสที่เราพยายามสร้างมันมากับมือ ให้หมดไปโดยที่เราไม่ได้พยายามทำอะไรกับมันเลย และในที่สุดเราก้ผ่านมันมาได้ และทำมันสำเร็จได้ด้วยดี เราเอนจอยกับทริปทะเลทรายของเรา เราได้ประสบการณ์ เราได้การเรียนรู้ในหลายมุมมอง ทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว การเปิดโลก วัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมไปถึงการอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนรัก แฟนเราไม่ใช้คนที่โอ๋เรา แต่เค้าคือคนที่สอนให้เราสู้กับปัญหา และไม่อ่อนแอ
มารีวิวเล็กๆ สำหรับการเที่ยวทะเลทรายดีกว่า
เริ่มจากทะเลทราย Kerman ที่เมือง Kerman - ทะเลทราที่นี่จะเป็นแบบ Rock Desert จะไม่เป็นเหมือนภูเขาทะเลทรายทั่วไป อากาศค่อนข้างร้อน ถึงร้อนมาก ประมาณ 60-70 องศา กันเลยทีเดียว (เค้าว่ากันว่าเป็นทะเลทรายที่ร้อนที่สุดในโลก) แต่ในความร้อนรุ่มก็มีความสวยงามแฝงอยู่เสมอ การดูพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากเลยทีเดียว รวมถึงการแคมปืปิ้งที่ทะเลทรายด้วย
ต่อมา ทะเลทราย Varzaneh อยู่ระหว่างทางไปเมือง Isfahan
ทะเลทราย Varzaneh - เป็นอะไรที่สวยและเหมาะแก่การถ่ายรูปมาก เพราะมี Sand duns ที่สูง และหลากหลาย ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปสวยๆ ชิคๆ แนะนำเลยว่าห้ามพลาด และเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ควรมาที่นี่คือ ช่วงเช้าก่อน 11 โมง เนื่องจากมีอากาศร้อนมากทีเดียว และถ้ามาช่วงเที่ยงเป็นต้นไป อากาศจะร้อนจัดและเป็นอันตรายได้ แต่ถึงยังไงก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเชคอินที่นี่สักครั้ง
และสุดท้ายก็เป็นคลิปวีดีโอที่รวมทริปทะเลทรายทั้งสองที่เข้าไว้ด้วยกันนะ ลองดูกันได้น้า
[CR] ขับรถเที่ยวอิหร่าน ทริปนี้เราต้องรอด!! แบกร่างเที่ยวอิหร่าน!!
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การเดินทาง จากปากีสถาน - อิหร่าน ว่ามันคือที่สุด และที่สุด ของเราเลยก็ว่าได้
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า เรามีความสุขในการขับรถเที่ยวที่ปากีสถานมาโดยตลอด สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://ppantip.com/topic/37922565
แต่เรื่องมันเกิดขึ้น 5 วันก่อนที่เราจะเดินทางข้ามไปยังอิหร่าน เราเกิดไม่สบายขึ้นมา เริ่มแรกเลยคือ มีอาการปวดหัว ตัวร้อน ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก กินยาแก้ปวดลดไข้ตามปกติ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ไข้ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจกับแฟนว่า เราจะขับรถข้ามไปอิหร่านเร็วกว่ากำหนด
เพราะเราตั้งใจว่าจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเชคร่างกาย (อาจมีคนสงสัยว่าทำไมไม่เข้าโรงพยาบาลที่ปากีสถาน เหตุผลคือ วีซ่าของแฟนเรากำลังจะหมดและเราคิดว่าถ้าเราไปโรงพยาบาลที่ปากีสถานเราจะต้องแอดมิดแน่ๆ และคิดว่าจะอยู่เกินกำหนด อีกทั้งเรายังต้องทำเอกสารผ่านแดน (NOC - No Objection Certificate) ต่อมา เรากับแฟนจึงตัดสินใจขับรถไปยัง เมือง Quetta เพื่อดำเนินทำเอกสารผ่านแดนทันที ในระหว่างทางเราก็พยายามพักผ่อน กินยา ให้อาการมันดีขึ้น ซึ่งอาการเรามันก็ขึ้นๆ ลงๆ จนกระทั้งเราทำเอกสารเสร็จเรียบร้อย ระหว่างทางการขับรถข้ามแดนก็จะมีตำรวจ และทหารคอยตรวจเป็นระยะๆ เพราะในพื้นที่ข้ามแดนนั้นค่อนข้างอันตรายและถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง แต่ในระหว่างทางนั้น อาการเราก็ทรุดลงเรื่อยๆ ไข้ขึ้นสูง อาเจียนตลอดทาง และปวดหัวแบบเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเราสั่น สั่นจากข้างในแบบรู้สึกตัวแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้
ต่อมา ตลอดทางอาการมันก็แย่ลงเรื่อยๆ แฟนเราก็เริ่มเครียด เพราะตำรวจคอยตรวจทุกระยะ จนบ้างครั้งแฟนเราต้องไฟท์แบบให้ดูสภาพเราว่าไม่ไหวแล้ว ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว
แต่ด้วยความใจดีของคนปากีสถานนั้นแหละ เค้าก็เข้าใจและช่วยเหลือเราจนนาทีสุดท้ายที่อยู่ที่ประเทศปากีสถาน จนสุดท้ายเราก็ข้ามแดนไปยังอิหร่าน และเราก็ยังโชคดีมากๆ ที่คนอิหร่านก็ใจดีไม่แพ้กัน เพราะนาทีที่เราข้ามแดนเราไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว คือมันเบลอไปหมด สติไม่อยู่กับตัวแล้ว เค้าจึงประสานงานกันเรียกรถพยาบาลให้เราพร้อมดำเนินเอกสารที่ ตม ทำเอกสารให้ทุกอย่าง คือน่ารักมากจริงๆ
ต่อมา ที่โรงพยาบาลแรก เราโดนพาตัวไปที่ห้องฉุกเฉินทันที ณ ตอนนั้นเรามีไข้สูงถึง 41 องศา ได้ เราคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ทุกอย่างมันเบลอไปหมด ทางโรงพยาบาลพยายามฉีดยาลดไข้ และยาต่างๆ มากมาย นาทีนั้นไม่รู้อะไรจริงๆ อาการก็เบลอ คนอิหร่านก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ รักษากันแบบเสี่ยงดวงไปเลย แต่เราก็สู้แบบสุดตัว ไฟท์กับร่างตัวเองว่าต้องไหว ต้องไปต่อ ชีวิตจะไม่หยุดแค่นี้ ทริปที่เราตั้งใจจะขับรถไปถึงฝรั่งเศสมันยังไม่ถึงครึ่งทางเลย เราจะไม่ยอม เรารวบรวมกำลังที่มีทั้งหมดพยายามเรียกสติ ผ่อนคลายตัวเองเท่าที่เราจะทำได้
ในคืนเดียวกันเราถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่สอง เนื่องจากว่าเค้าพบว่าเราติดเชื้อแบคทีเรียทีไต และปัสสาวะ เค้าจึงแนะนำว่าให้ไปที่โรงพยาบาลในเมืองดีกว่า เพราะว่าทางโรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์ที่จะรักษา (โรงพยาบาลชายแดน) เราถูกส่งตัวขึ้ยรถฉุกเฉินเช้าไปในเมืองกว่า 100 กิโล และโดนแอดมิดอีก 5 วัน เพื่อตรวจเชคอย่างละเอียดว่าแบคทีเรียที่เราติดเชื้อคืออะไร ทางโรงพยาบาลตรวจสอบอย่างเคร่งครัดมาก ทั้งอุลตร้าซาวน์ เช็คเลือดทุกวันเช้า เย็น เช็คปัสสาวะทุกวัน แสกนทุกอย่างในร่างกายอย่สงละเอียด ผลสรุปคือร่างกายเราขาดน้ำ แบบขาดในระดับ Maximum และเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย(ไตและกระเพาะปัสสาวะ) แต่เป็นตัวที่ไม่อันตรายมาก สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยา
และในที่สุด การเดินทางแบบ Adventure ก็เริ่มต้นอีกครั้ง หลังจากออกจากโรงพยาบาลแค่ 1 คืน เราก็ไม่รอช้า แบกร่างตัวเองไปเที่ยวที่ทะเลทราย
ตอนแรกอาจจะยากหน่อยสำหรับเรา ร่างกายยังปรับไม่ทัน แต่เราคิดในใจตลอดว่ามันต้องสู้อ่ะ เราถอยไม่ได้แล้วตอนนี้ หลายคนอาจมองว่า ทำไมไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลตัวเองให้หายดีก่อน แต่ในมุมของเรา เรามองว่าเราไหว และเราจะไม่ทิ้งโอกาสที่เราพยายามสร้างมันมากับมือ ให้หมดไปโดยที่เราไม่ได้พยายามทำอะไรกับมันเลย และในที่สุดเราก้ผ่านมันมาได้ และทำมันสำเร็จได้ด้วยดี เราเอนจอยกับทริปทะเลทรายของเรา เราได้ประสบการณ์ เราได้การเรียนรู้ในหลายมุมมอง ทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว การเปิดโลก วัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมไปถึงการอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนรัก แฟนเราไม่ใช้คนที่โอ๋เรา แต่เค้าคือคนที่สอนให้เราสู้กับปัญหา และไม่อ่อนแอ
มารีวิวเล็กๆ สำหรับการเที่ยวทะเลทรายดีกว่า
เริ่มจากทะเลทราย Kerman ที่เมือง Kerman - ทะเลทราที่นี่จะเป็นแบบ Rock Desert จะไม่เป็นเหมือนภูเขาทะเลทรายทั่วไป อากาศค่อนข้างร้อน ถึงร้อนมาก ประมาณ 60-70 องศา กันเลยทีเดียว (เค้าว่ากันว่าเป็นทะเลทรายที่ร้อนที่สุดในโลก) แต่ในความร้อนรุ่มก็มีความสวยงามแฝงอยู่เสมอ การดูพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากเลยทีเดียว รวมถึงการแคมปืปิ้งที่ทะเลทรายด้วย
ต่อมา ทะเลทราย Varzaneh อยู่ระหว่างทางไปเมือง Isfahan
ทะเลทราย Varzaneh - เป็นอะไรที่สวยและเหมาะแก่การถ่ายรูปมาก เพราะมี Sand duns ที่สูง และหลากหลาย ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปสวยๆ ชิคๆ แนะนำเลยว่าห้ามพลาด และเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ควรมาที่นี่คือ ช่วงเช้าก่อน 11 โมง เนื่องจากมีอากาศร้อนมากทีเดียว และถ้ามาช่วงเที่ยงเป็นต้นไป อากาศจะร้อนจัดและเป็นอันตรายได้ แต่ถึงยังไงก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเชคอินที่นี่สักครั้ง
และสุดท้ายก็เป็นคลิปวีดีโอที่รวมทริปทะเลทรายทั้งสองที่เข้าไว้ด้วยกันนะ ลองดูกันได้น้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้