ตามหัวข้อกระทู้เลยจ้า หลังจากดู "ดวงใจในไฟหนาว" มา 8 ตอน ทำให้รู้สึกถึงความตลกร้ายที่ละครเรื่องนี้สื่อออกมา การเสียดสีสังคมผ่านการกระทำ ผ่านคำพูดของตัวละคร ในเรื่อง "สุขภาพทางการเงิน" ของคนในยุค 4g ครองเมือง
ละครไม่ได้เน้นเฉพาะ โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ แต่บทละครเรื่องได้แทรกเอาความจริงของสังคมเข้าไปในเนื้อหาอย่างแยบยลและกลมกล่อม
คนเราทุกวันนี้มักจะตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่า "ทำไมรายรับของเรามันไม่เคยบาลานซ์กับรายจ่าย" ใช่หรือไม่
กับคำว่า "ของมันต้องมี" เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อเราได้เห็นสิ่งของที่ต้องใจและยิ่งกระพือความต้องการ เมื่อเห็นคนรอบข้างมีสิ่งเหล่านั้น ใช่หรือไม่ ? สังคมมนุษย์ F
นี่คือสิ่งที่ละครเรื่องนี้แทรกเนื้อหา แทรกความเป็นจริงของสังคมเอาไว้ ดูละครเรื่องนี้ คุณได้อะไรบ้าง นอกเหนือจากความบันเทิง ?
สำหรับเรา เราได้ความรู้ ได้สาระ ได้แนวคิดดีๆ และได้หันกลับมามองตัวเอง ว่าตัวเราเองมีสุขภาพทางการเงินที่อยู่ในระดับไหน ละครเรื่องนี้เหมือนได้จี้จุดบอดของสังคมแบบถูกจุด และได้แทรกคำสอนเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรม
แต่ละครก็ไม่ได้ให้ตัวละครทุกตัวไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ หลังจากได้รับคำแยะนำจากพ่อมดทางการเงิน เมื่อมีคนชนะก็ย่อมมีคนที่ยอมแพ้กับกิเลสและความอยากของตน
ขอชื่นชมและปรมมือให้ละครเรื่องนี้ ที่สะท้อนความเป็นจริงของสังคมออกมาอย่างชัดเจน อาจจะมีคนที่รับได้และไม่ยอมรับ เป็นเรื่องธรรมดา
จรืงมั้ย ????
ดวงใจในไฟหนาว ละครแนวตลกร้าย
ตามหัวข้อกระทู้เลยจ้า หลังจากดู "ดวงใจในไฟหนาว" มา 8 ตอน ทำให้รู้สึกถึงความตลกร้ายที่ละครเรื่องนี้สื่อออกมา การเสียดสีสังคมผ่านการกระทำ ผ่านคำพูดของตัวละคร ในเรื่อง "สุขภาพทางการเงิน" ของคนในยุค 4g ครองเมือง
ละครไม่ได้เน้นเฉพาะ โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ แต่บทละครเรื่องได้แทรกเอาความจริงของสังคมเข้าไปในเนื้อหาอย่างแยบยลและกลมกล่อม
คนเราทุกวันนี้มักจะตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่า "ทำไมรายรับของเรามันไม่เคยบาลานซ์กับรายจ่าย" ใช่หรือไม่
กับคำว่า "ของมันต้องมี" เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อเราได้เห็นสิ่งของที่ต้องใจและยิ่งกระพือความต้องการ เมื่อเห็นคนรอบข้างมีสิ่งเหล่านั้น ใช่หรือไม่ ? สังคมมนุษย์ F
นี่คือสิ่งที่ละครเรื่องนี้แทรกเนื้อหา แทรกความเป็นจริงของสังคมเอาไว้ ดูละครเรื่องนี้ คุณได้อะไรบ้าง นอกเหนือจากความบันเทิง ?
สำหรับเรา เราได้ความรู้ ได้สาระ ได้แนวคิดดีๆ และได้หันกลับมามองตัวเอง ว่าตัวเราเองมีสุขภาพทางการเงินที่อยู่ในระดับไหน ละครเรื่องนี้เหมือนได้จี้จุดบอดของสังคมแบบถูกจุด และได้แทรกคำสอนเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรม
แต่ละครก็ไม่ได้ให้ตัวละครทุกตัวไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ หลังจากได้รับคำแยะนำจากพ่อมดทางการเงิน เมื่อมีคนชนะก็ย่อมมีคนที่ยอมแพ้กับกิเลสและความอยากของตน
ขอชื่นชมและปรมมือให้ละครเรื่องนี้ ที่สะท้อนความเป็นจริงของสังคมออกมาอย่างชัดเจน อาจจะมีคนที่รับได้และไม่ยอมรับ เป็นเรื่องธรรมดา
จรืงมั้ย ????