สวัสดีครับ พี่น้องชาวพันทิป
ครั้งนี้เป็นรีวิวแรกของผม ยังไงขอฝากตัวด้วยนะครับ ถ้าอะไรยังไม่ถูกใจ ติชมได้นะครับ
ส่วนใหญ่ชาวห้องพันทิปคิดถึงเทือกเขาแอลป์ (Alps) แวบแรกทุกคนคงคิดถึงคือ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และภูเขาสวยๆมากมาย เช่น Juncfroujoch , Matternhorn ,Titlis และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ได้พูดถึง
แต่สวิสฯ ก็ขึ้นชื่อเหมือนกันในเรื่องของ “ราคา” ที่แรงไม่แพ้ความงามของธรรมชาติ วันนี้ผมเลยพาทุกคน มาทำความรู้จักเทือกเขาแอลป์อีกด้านนึงที่หลายๆคนลืมไป (เอ้ะ หรือทุกคนรู้จักอยู่แล้ว) อยู่ติดๆกันกับสวิสฯเลย ราคาก็ไม่แรงเท่า สวยแบบเรียกได้ว่าสูสีเลยทีเดียว อาหารก็อร่อยขึ้นชื่อ ผมขอแนะนำ
โดยผมจะรีวิวเป็นสองส่วน คือส่วนแรกเป็น เมือง Verona และ Lago di Grada และอีกกระทู้เป็น Dolomites นะครับ
เริ่มรีวิวเลยละกันนะครับ
ผมเริ่มทริปจากเมืองเวอโรนา (Verona) โดยการมาเมืองนี้นั้น ถ้ามาจากเมืองไทย ก็สามารถบินมาเมือง มิลาน (Milan) หรือ เวนิส (Venice) ได้ด้วยรถไฟความเร็วสูงไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยเพื่อนๆสามารถเช็ครอบรถ และราคาได้ผ่านเว็บไซด์
http://www.trenitalia.com (การรถไฟอิตาลี)
https://www.italotreno.it/en (รถไฟความเร็วสูงเอกชน)
สำหรับจากประเทศในยุโรป เมืองนี้ก็มีสนามบินด้วย สามารถมาลงแล้วต่อรถเมลล์ประมาณ 15 นาทีก็จะถึงสถานนีรถไฟกลาง Verona porta nuova
ถ้าพูดถึงเมือง Verona ทุกคนคงรู้จัก William Shakespeare ก็จะรู้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งของเรื่อง Romeo & Juliet อันแสนจะโด่งดัง และมีระเบียงในเรื่องตั้งอยู่ในเมืองนี้นั่นเอง มีโคลอสเซียม (เล็กกว่าโรม) วิวต่างๆในเมืองก็จะประมาณนี้
โดยวิวจากบนเนินเขาของเมืองนี้ดูได้จากสองที่ ผมเลือกที่ Castel San Pietro เพราะสามารถเดินจากในตัวเมืองเก่าไปได้ แต่ถ้าอยากได้วิวสวยที่สุดของเมือง ต้องไปดูที่ Santuario della Madonna di Lourdes แต่ต้องนั่งรถเมลล์ไป เพราะมันไกลกว่ามากทีเดียว
อันนี้คือวิวต่างๆในเมืองนะครับ แต่ยังมีโบสถ์และอะไรอีกมากมายให้ค้นหา แต่เอาจริงๆแค่เดินเฉยๆก็สวยพอให้ถ่ายรูปตลอดเวลาเลย คนก็ไม่เยอะเกินไปด้วย และที่สำคัญรู้สึกไม่กลัวเรื่องขโมยเหมือนเมืองใหญ่ๆในอิตาลีด้วย
อีกสถานที่หนึ่งที่อยากจะแนะนำคือ ทะเลสาบกราด้า (Lago di Grada) ทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่สุดในอิตาลีได้อีกด้วย (มิลานก็มาได้นะ)
การเดินทาง อย่างที่บอกไปในตอนต้น ว่าเราไม่ขับรถในทริปนี้ เลยไปกับรถเมลล์ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหน่อยๆ (เร็วกว่ารถไฟ เพราะต้องนั่งสองต่อ) โดยรถจะออกจากท่าหน้าสถานีรถไฟ Verona porta nuova สถานีกลางประจำเมือง โดยเช็ครอบรถได้จากเว็บไซด์
https://www.arriva.it/documents/10180/16014/Gardalake+dpf/53678042-a166-4dee-ae35-7c74d9b560df
หรือสามารถหาได้จาก google map ได้ด้วยเช่นกัน เราตัดสินใจไปเมืองที่ชื่อ Sirmione เป็นเมืองที่อยู่ตรงแหลมที่ยื่นไปในทะเลสาบ โดยใช้รถเมลล์สาย LN026 ด้วยราคา 3.6 ยูโร (ที่ซื้อตั๋วอยู่ตรงท่ารถเมลล์) ต่อคนต่อขา พอถึงแล้ว เราต้องลงรถก่อน และซื้อตั๋วราคา 1.5 ยูโร (2 ถ้าซื้อกับคนขับ) เพื่อเข้าไปในเมือง (รถคันเดิม) หรือถ้าจะเดินเข้าเมืองเอง ก็ได้เช่นกัน
ตารางรถเมลล์ตามภาพนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนทางเข้าเมืองจะมีปราสาทตรงทางเข้า
เมื่อเข้าไปในเมือง ผมก็ชมเมืองไปเรื่อยๆ เมืองนี้จะโดนล้อมด้วยทะเลสาบเพราะเมืองอยู่บนแหลม ฉนั้นเดินไปทางไหนก็จะเจอน้ำตลอดๆ และมีวิวภูเขาตัดด้านหลัง สวยมากๆ
จนถึงปลายแหลมที่มี Villa ตั้งแต่สมัยโรมันโบราณอยู่ ตรงนี้เป็นหนึ่งในที่ถ่ายทำ Call me by your name ด้วย ค่าเข้าคนละ 8 ยูโร จากตัว Villa เราก็จะสามารถเห็นวิวของทะเลสาบนี้ได้โดยรอบ สวยมากๆ
มันจะมีหินแผ่นๆยื่นลงไปในทะเลสาบ โดยไม่เสียเงิน ให้ความรู้สึกของชายหาดแบบสวยๆแปลกๆดี โดยแนะนำว่าถ้าอยากมาเล่นน้ำที่นี่ ควรค้างที่เมืองนี้ซักคืน เพราะรถมันจะติดมากตอนเดินทาง ถ้ามา Day trip แบบผม อาจจะไม่สะใจ แต่ถ้าจะมาดูวิว เอาขาจุ่มน้ำนิดเดียว ก็สามารถทำได้ ไม่ลำบากนัก
ขอจบกระทู้ในส่วนของ Verona และ Lago di Grada ไว้แค่นี้ก่อน ส่วนกระทู้หน้า เราจะพาไปดู เทือกเขา Dolomites พระเอกของเรา
พาร์ทสองมาแล้วครับ
https://ppantip.com/topic/38034053
ขอบคุณสำหรับการอ่าน และสวัสดีครับ
[CR] Italian Alps ไม่ขับรถ !! (Verona,Dolomites) PART I
ครั้งนี้เป็นรีวิวแรกของผม ยังไงขอฝากตัวด้วยนะครับ ถ้าอะไรยังไม่ถูกใจ ติชมได้นะครับ
ส่วนใหญ่ชาวห้องพันทิปคิดถึงเทือกเขาแอลป์ (Alps) แวบแรกทุกคนคงคิดถึงคือ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และภูเขาสวยๆมากมาย เช่น Juncfroujoch , Matternhorn ,Titlis และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ได้พูดถึง
แต่สวิสฯ ก็ขึ้นชื่อเหมือนกันในเรื่องของ “ราคา” ที่แรงไม่แพ้ความงามของธรรมชาติ วันนี้ผมเลยพาทุกคน มาทำความรู้จักเทือกเขาแอลป์อีกด้านนึงที่หลายๆคนลืมไป (เอ้ะ หรือทุกคนรู้จักอยู่แล้ว) อยู่ติดๆกันกับสวิสฯเลย ราคาก็ไม่แรงเท่า สวยแบบเรียกได้ว่าสูสีเลยทีเดียว อาหารก็อร่อยขึ้นชื่อ ผมขอแนะนำ
โดยผมจะรีวิวเป็นสองส่วน คือส่วนแรกเป็น เมือง Verona และ Lago di Grada และอีกกระทู้เป็น Dolomites นะครับ
เริ่มรีวิวเลยละกันนะครับ
ผมเริ่มทริปจากเมืองเวอโรนา (Verona) โดยการมาเมืองนี้นั้น ถ้ามาจากเมืองไทย ก็สามารถบินมาเมือง มิลาน (Milan) หรือ เวนิส (Venice) ได้ด้วยรถไฟความเร็วสูงไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยเพื่อนๆสามารถเช็ครอบรถ และราคาได้ผ่านเว็บไซด์
http://www.trenitalia.com (การรถไฟอิตาลี)
https://www.italotreno.it/en (รถไฟความเร็วสูงเอกชน)
สำหรับจากประเทศในยุโรป เมืองนี้ก็มีสนามบินด้วย สามารถมาลงแล้วต่อรถเมลล์ประมาณ 15 นาทีก็จะถึงสถานนีรถไฟกลาง Verona porta nuova
ถ้าพูดถึงเมือง Verona ทุกคนคงรู้จัก William Shakespeare ก็จะรู้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งของเรื่อง Romeo & Juliet อันแสนจะโด่งดัง และมีระเบียงในเรื่องตั้งอยู่ในเมืองนี้นั่นเอง มีโคลอสเซียม (เล็กกว่าโรม) วิวต่างๆในเมืองก็จะประมาณนี้
โดยวิวจากบนเนินเขาของเมืองนี้ดูได้จากสองที่ ผมเลือกที่ Castel San Pietro เพราะสามารถเดินจากในตัวเมืองเก่าไปได้ แต่ถ้าอยากได้วิวสวยที่สุดของเมือง ต้องไปดูที่ Santuario della Madonna di Lourdes แต่ต้องนั่งรถเมลล์ไป เพราะมันไกลกว่ามากทีเดียว
อันนี้คือวิวต่างๆในเมืองนะครับ แต่ยังมีโบสถ์และอะไรอีกมากมายให้ค้นหา แต่เอาจริงๆแค่เดินเฉยๆก็สวยพอให้ถ่ายรูปตลอดเวลาเลย คนก็ไม่เยอะเกินไปด้วย และที่สำคัญรู้สึกไม่กลัวเรื่องขโมยเหมือนเมืองใหญ่ๆในอิตาลีด้วย
อีกสถานที่หนึ่งที่อยากจะแนะนำคือ ทะเลสาบกราด้า (Lago di Grada) ทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่สุดในอิตาลีได้อีกด้วย (มิลานก็มาได้นะ)
การเดินทาง อย่างที่บอกไปในตอนต้น ว่าเราไม่ขับรถในทริปนี้ เลยไปกับรถเมลล์ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหน่อยๆ (เร็วกว่ารถไฟ เพราะต้องนั่งสองต่อ) โดยรถจะออกจากท่าหน้าสถานีรถไฟ Verona porta nuova สถานีกลางประจำเมือง โดยเช็ครอบรถได้จากเว็บไซด์
https://www.arriva.it/documents/10180/16014/Gardalake+dpf/53678042-a166-4dee-ae35-7c74d9b560df
หรือสามารถหาได้จาก google map ได้ด้วยเช่นกัน เราตัดสินใจไปเมืองที่ชื่อ Sirmione เป็นเมืองที่อยู่ตรงแหลมที่ยื่นไปในทะเลสาบ โดยใช้รถเมลล์สาย LN026 ด้วยราคา 3.6 ยูโร (ที่ซื้อตั๋วอยู่ตรงท่ารถเมลล์) ต่อคนต่อขา พอถึงแล้ว เราต้องลงรถก่อน และซื้อตั๋วราคา 1.5 ยูโร (2 ถ้าซื้อกับคนขับ) เพื่อเข้าไปในเมือง (รถคันเดิม) หรือถ้าจะเดินเข้าเมืองเอง ก็ได้เช่นกัน
ตารางรถเมลล์ตามภาพนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนทางเข้าเมืองจะมีปราสาทตรงทางเข้า
เมื่อเข้าไปในเมือง ผมก็ชมเมืองไปเรื่อยๆ เมืองนี้จะโดนล้อมด้วยทะเลสาบเพราะเมืองอยู่บนแหลม ฉนั้นเดินไปทางไหนก็จะเจอน้ำตลอดๆ และมีวิวภูเขาตัดด้านหลัง สวยมากๆ
จนถึงปลายแหลมที่มี Villa ตั้งแต่สมัยโรมันโบราณอยู่ ตรงนี้เป็นหนึ่งในที่ถ่ายทำ Call me by your name ด้วย ค่าเข้าคนละ 8 ยูโร จากตัว Villa เราก็จะสามารถเห็นวิวของทะเลสาบนี้ได้โดยรอบ สวยมากๆ
มันจะมีหินแผ่นๆยื่นลงไปในทะเลสาบ โดยไม่เสียเงิน ให้ความรู้สึกของชายหาดแบบสวยๆแปลกๆดี โดยแนะนำว่าถ้าอยากมาเล่นน้ำที่นี่ ควรค้างที่เมืองนี้ซักคืน เพราะรถมันจะติดมากตอนเดินทาง ถ้ามา Day trip แบบผม อาจจะไม่สะใจ แต่ถ้าจะมาดูวิว เอาขาจุ่มน้ำนิดเดียว ก็สามารถทำได้ ไม่ลำบากนัก
ขอจบกระทู้ในส่วนของ Verona และ Lago di Grada ไว้แค่นี้ก่อน ส่วนกระทู้หน้า เราจะพาไปดู เทือกเขา Dolomites พระเอกของเรา
พาร์ทสองมาแล้วครับ https://ppantip.com/topic/38034053
ขอบคุณสำหรับการอ่าน และสวัสดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้