โรคซึมเศร้า โรคที่หลายคนไม่เข้าใจ

ถ้าพูดถึงเรื่องโรคซึมเศร้า คงเป็นโรคยอดฮิตในสังคมแต่เป็นโรคที่ชาวบ้านธรรมดาไม่เข้าใจและไม่นึกถึง เราเป็นชาวบ้านธรรมดาอยู่ตามชนบทแถวชานเมือง เราประสบปัญหาเกี่ยวกับความคิดและอารมณ์ของตนเองเนื่องจากปีที่แล้วตกงาน เราอยู่ตัวคนเดียวแต่มีพี่ชาย พ่อแม่เสียหมดแล้ว หลังจากที่เราตกงานเราก็เครียดสับสนวุ่นวาย หดหู่ หลังจากที่ตกงานตอนนั้นเราก็คงรับงานฟีแลนซ์ทั่วไป ใคนชวนทำอะไรก็ทำ จนมาถึงจุดนึงที่งานเริ่มไม่มี คิดมาก วกวน เก็บตัว สุดท้ายเหมือนตัวเองหลุดจากโลกภายนอก และปิดกั้นตัวเองจากทุกอย่าง

ทุกสิ่งเปลี่ยนไป กินเยอะขึ้นน้ำหนักขึ้นมา10กว่าโล ภายในไม่ถึงปี เก็บตัวเงียบไม่อยากออกไปไหน สิวเห่อ ความอ่อนไหวทางอารมณ์รวดเร็ว ใครพูดไม่ถูกหูหรือสะกิดใจนิดหน่อยร้องไห้แทบเป็นแทบตาย นอนดึก อยากหลับอยู่ตลอดเวลา ทรมานมาก จนคนในบ้านเริ่มสงสัยว่าเราเป็นอะไร ตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเข้าค่ายของอาการโรคซึมเศร้าจึง ดึงตัวเองออกมาจากจุดนั้น ออกจากห้องนอนแต่งตัวเที่ยวห้าง ใช้เงินสะบั้นซื้อของที่ไม่คิดว่าจะซื้อ สุดท้ายวนมาลูปเดิม คือเก็บตัวเพราะเงินเริ่มไม่มี เครียดกิน เครียดนอน หน้าตาหมองคล้ำ หนังสือซื้อมาอ่านเยอะมากแต่อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว คิดไปเรื่อยเปื่อยจนถึงขั้นเกิดคำนึงขึ้นมาในหัวคือคำว่าไปกระโดดน้ำสิ หลอนถึงขั้นนั้น วนเวียนอยู่อย่างนั้นจนถึงขั้นไม่กินข้าวเลยก็มี

มาถึงคนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัว เราอยู่ตัวคนเดียวเหมือนที่บอกไม่มีแฟน อาศัยอยู่กับพี่ชาย พอถึงจุดนึงที่เป็นแบบนี้เค้าไม่ได้มองเราว่าเราป่วย คำว่าโรคซึมเศร้าชาวบ้านทั่วไปเค้าไม่เข้าใจหรอกว่ามันคือโรคชนิดนึงที่เกิดจากภาวะอารมณ์และความคิด เค้ากลับคิดว่าเราคงจะเกียจคร้าน การงานไม่ทำ เอาแต่นอน เอาแต่เก็บตัว เราจึงไม่ได้คำพูดดีๆจากปากของเค้า เจอแต่คำถามว่าเมื่อไหร่จะไปหางานทำ เราก็กลับเก็บเอามาคิดวกวนว่าเราเป็นคนไม่มีค่า ไม่ดีพอ ทำไมเราเป็นคนแบบนี้ดูแย่ในสายตาตาทุกคน สุดท้ายเหมือนตกหลุมห้วงความคิดลงไปอีกถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายให้หลุดพ้นจากตรงนี้ไป

เรามีปัญหาจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวไม่ค่อยรักกัน ไม่ปรึกษากัน ไม่พูดคุยกัน เราโตและชินมาแบบนี้ ยิ่งไปเจอโลกภายนอกยิ่งรู้สึกเดียวดาย ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่รักษาตัว ไม่ได้หาหมอนะ แต่พยายามดึงตัวเองเข้าหาสิ่งที่ดีเข้าวัด เที่ยวกับเพื่อน ตัดตัวเองออกจากเฟสบุ๊ค ออกกำลังกาย ถามว่าหายมั้ย คิดว่าดีกว่าก่อน เปิดใจกว้าง พยายามดึงสติตัวเองกลับมา ค่อยไฟทีละนิด เพราะว่ากว่าเราจะกลับมาจุดเดิมไม่ใช่เรื่องง่าย. โรคนี้ไม่ได้ต้องการความเห็นใจหรือสงสาร แต่ต้องการแค่ความเข้าใจ ถ้าใครคิดฆ่าตัวตายอย่างมองว่าเค้าโง่หรือสิ้นคิด ในจุดนึงที่เค้ายืนอยู่มันอาจจะทรมานมากก็ได้ คนที่ไม่เคยเป็นก็ควรทำความเข้าใจ เพราะโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน
   ตอนนี้ จขกท กำลังจะเริ่มสมัครงานใหม่ดึงตัวเองออกจากสิ่งเหล่านั้น เพื่อความเข้มแข็งต่อไป ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอเอาใจช่วยคนที่เป็นเหมือน จบกมทุกๆคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่