หลังจาก CITI M ได้ปิดตัวลงไป ผมเชื่อว่าหลายๆคนใจหาย และเสียดาย สำหรับผมแล้ว CITI M Select คือบัตรใบสุดท้ายที่ผมเลือกจะปิด
เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้ The Mall รวมถึง Promotion สิทธิต่างๆ ที่ทำให้เรารู้สึกพิเศษอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผมหลงรักบัตร Select ใบนี้มาก และมี loyalty กับ Citiank มายาวนาน
ถือว่าคนวางกลยุทธ์ของ CITI Select มาถูกจุด ตรงใจ และชาญฉลาด จนสามารถยืนหยัดต่อสู้กับธนาคารใหญ่ๆในประเทศได้สบายๆ
แต่แล้วก็อย่างที่หลายๆคนทราบ กาลเวลาเปลี่ยนไป การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงขึ้น สุดท้าย SCB M เข้ามาแทนที่ และเจ้า CITI M ที่ต้องปิดตัวไปโดยปริยาย
และแน่นอน Citibank ต้องเปิดไพ่ขึ้นมาสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และได้ส่งพระเอกคนใหม่ออกมา นั่นก็คือ CITI Premier นั่นเอง
ผมได้รับบัตรใบใหม่นี้ตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคม ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ผมทราบว่า CITI M ที่ผมถือมายาวนานนั้น กำลังจะใช้ไม่ได้ในอีกไม่ช้า
ผมเปิดเอกสารแนบที่มาพร้อมบัตร CITI Premier อย่างละเอียด ก็พบว่า ข้อเสนอที่ได้รับนั้น "ไม่เลวเลย"
ในมุมของผู้ใช้บัตรที่มี life style แบบผมที่เน้นการพาครอบครัวไป Shopping รับประทานอาหารในห้าง มากกว่าการแลกไมล์ไปเที่ยว คือว่าบัตร CITI Premier ตอบโจทย์ได้ดีเลยมีเดียว
จะเรียกว่าเหนือกว่า CITI Select ก็ว่าได้ ติดแค่ Super Market ต้องซื้อขั้นต่ำ 800 บาทถึงได้ส่วนลดข้อเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่าแย่ลง
นาทีนั้นผมตัดสินใจโทรหา Call Center เพื่อปิด CITI Select และเปิดใช้งาน CITI Premier ทันที
ด้วยหน้าบัตรที่สวยงาม และสิทธิพิเศษที่ให้มา ผมเชื่อมั่นเลยว่า CITI Premier นี่หล่ะ พระเอกตัวจริงคนถัดไป ไม่แพ้พระเอกรุ่นพี่อย่าง CITI Select แน่นอน
ผมเข้าไปดู Feedback ต่างๆจากผู้ร่วมชะตาชีวิตที่เคยถือ CITI Select มาก่อน ส่วนมากก็ไปในทิศทางบวก ทุกคนดู Happy
ส่วนคนที่ยังไม่มี ก็รอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีว่ามีเงื่อนไขการสมัครอย่างไร เพื่อให้ได้ถือครอง CITI Premier ตัวนี้บ้าง
และแล้ว...... CITI Premier ก็มีการเปิดตัวสู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการ !!!
...................................................................
หากถามถึงธนาคารที่เปิดบัตรได้ยากธนาคารนึง ผมเชื่อว่าหลายๆคนคิดถึง Citibank เพราะเค้าค่อนข้างยึดมั่นในกฏเกณฑ์อย่างมาก ต่างจากธนาคารอื่นๆที่เน้นการหาลูกค้าให้มากไว้ก่อน โดยแบกรับความเสี่ยงทีหลัง
ในมุมคนที่งานธนาคารจะทราบดีครับ ฝ่ายขายก็มีหน้าที่ขาย ต้องขายให้เยอะที่สุด มีเป้า มียอดที่ต้องทำ
ดังนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าที่ต้องการ ความประณีประณอมจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เช่น เงินเดือนขั้นต่ำไม่ถึง ขาดอีกนิดหน่อย แต่ลูกค้าตื้อหรือโทรไปโวยหน่อยก็ได้แล้ว อันนี้จะพบเห็นได้จากธนาคารใหญ่ๆทั่วไปครับ (แต่ต้องขาดนิดหน่อยนะ ไม่ใช่ไม่ใกล้เคียงเกณฑ์ขั้นต่ำเลย)
CITI Select นับเป็นบัตรใบนึงที่เคร่งครัดกับเกณฑ์มาก โดยระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้ถือบัตรต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น
ผมเคยพยายามช่วยเพื่อนสนิทสมัครบัตร CITI Select โดยตอนนั้นเพื่อนผมมีรายได้ต่อเดือนสุทธิประมาณ 90,000 บาท โทรไปทั้งตื้อ ทั้งโวย ช่วยกันโทร สุดท้ายก็ยังไม่ผ่าน ...ยอมรับนับถือเลยว่า ยึดถือเกณฑ์ได้สุดยอด
กลับมาที่บัตร CITI Premier ที่ถือเป็นบัตรระดับ Signature เฉกเช่นเดียวกับ CITI Select
โดยทางธนาคารประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า เงินเดือนขั้นต่ำที่สมัครได้คือ 30,000 บาท !!! ครับ ฟังไม่ผิด 30,000 บาทก็สามาถถือบัตรใบนี้ได้แล้ว
ถ้าดูจากปิระมิดฐานเงินเดือนคนไทย คนที่เงินเดือนเกินแสนนี่ถือว่ามี % อยู่ไม่มากนัก แต่พอขยับลดลงมา 30,000 บาท ผมว่าเป็นฐานเงินเดือนที่มี % ส่วนมากของมนุษย์เงินเดือนเลยทีเดียว
ถือว่าเป็นการฉีกทุกกฏของบัตร signature ที่มีมาในประเทศไทย ที่สามารถสมัครด้วยเงินรายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาท
ผมทราบข่าวนี้เอาเข้าจริงก็ตกใจครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แถมก็ถือว่าดีซะอีก มีคนได้สิทธิประโยชน์ดีๆแบบนี้ ผมยังโทรไปชวนเพื่อนให้มาสมัครเลย (แม้ว่าจะมีค่าธรรมเนียม 4,000 บาทต่อปีถ้าใช้ไม่ถึง 200,000 บาท แต่สำหรับผมก็ถือว่ายังคุ้ม)
แต่มีอยู่สิ่งเดียวที่ผมแอบกังวลครับ .......
..........................................................................
และแล้ว เรื่องที่ผมกังวลก็เป็นจริง
ผมทำการซื้อของ online ที่ website นึง แล้วจังหวะคงไม่ดี ระบบของ website นั้นล่ม ทำให้ trasacntion ของผมไปค้างกลางอากาศ ซึ่งหมายความว่า ทาง Citibank ตัดบัตรผมไปแล้ว แต่เงินไปไม่ถึงปลายทาง
ผมโทรไปแจ้งทาง website ดังกล่าว ซึ่งก็ให้ผมติดต่อกลับธนาคาร Citibank เพื่อขอยกเลิก transaction นั้นเอง
ผมก็พลิกหลังบัตร ซึ่งปกติบัตร signature จะมีเบอร์พิเศษให้โทรตรงได้ ไม่ต้องผ่าน Call center ปกติ
จากประสบการณ์การรอสาย จนพบพนักงานตอนถือบัตร CITI Select นี่ ผมถือว่ายอดเยี่ยมมากครับ ส่วนใหญ่ 1-2 นาทีได้คุยแล้ว เต็มที่ 3 นาที
แต่ครั้งนี้กับ CITI Premier ผมใช้เวลาในการรอสาย 11 นาทีครับ !!!
ตอนนั้นยอมรับว่าหงุดหงิดมาก แต่ก็ไม่ได้ลงอารมณ์กับพนักงาน Call center เพราะคิดว่าเค้าก็คงทำงานเต็มที่แล้ว สายคงโทรเข้ามาเยอะจริงๆ
ผมถามน้องเค้าถึงช่องทาง feedback น้องก็บอกสามารถแจ้งน้องมาได้เลย และบอกผมว่าทาง Citibank กำลังปรับปรุงส่วนงานนี้อยู่ เพราะเพิ่งเปลี่ยนมาเป็น CITI Premier ไม่นาน
ผมก็ยังคงเชื่อน้องคนนั้นและเชื่อใจ Citibank อยู่ครับ
จนแล้วจนรอด อีก 1 เดือนให้หลัง ผมมีเหตุให้ต้องโทรหา call center อีกครั้ง ในใจตอนนั้นยังคิดเข้าข้าง Citibank อยู่เลย
คิดว่าครั้งก่อนอาจจะเพราะผมดวงไม่ดี โทรไปตอนคนเยอะพอดี ตอนนี้คงไม่เป็นแบบนั้น และทางธนาคารคงปรับปรุงแล้ว
ครั้งนี้ ผมใช้เวลาในการรอสาย 9 นาทีครับ แทบไม่ได้ดีขึ้นเลย .....
แถมครั้งนี้น้อง call center แก้ปัญหาให้ผมไม่ได้ด้วย เพราะต้องติดต่ออีกฝ่าย ซึ่งอีกฝ่ายก็ติดต่อไม่ได้ เพราะคู่สายไม่ว่างเช่นกัน T T
นาทีนั้นผมวางสายไปด้วยความผิดหวัง และคิดว่า CITI Premier คงไม่ใช่คำตอบของผมอีกต่อไป
ผมกลับไปอ่าน feedback ของบัตรใบนี้อีกครั้ง ทิศทางแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
ครับ... และนี่คือสิ่งที่ผมกังวล
................................................................
มันไม่ผิดหรอกครับ กับการที่ทางธนาคารกล้าที่จะเปิดไพ่ใบใหม่ใบนี้มาสู้กับยักษ์ใหญ่ทางการตลาด ผมถือว่า กล้าหาญมากครับ
แต่ความกล้าหาญนั้นต้องมาพร้อมกับมาพร้อมของทีมงาน และกลยุทธที่ชาญฉลาด
การที่คนคิด คิดแบบบุกอยู่คนเดียว โดยที่ไม่ได้หันกลับมามองเลยว่า ทีมงานตัวเองพร้อมแค่ไหน มันเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่พอยังพาทีมและองค์กรไปตายด้วย
เมื่อฐานผู้ใช้เดิมมีกฏเกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำ 100,000 บาท เทียบกับฐานใหม่ที่เงินเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาท นี่หนังคนม้วนเลยนะครับ
ตอนทีมผู้บริหารคิดเงื่อนไขเหล่านี้ออกมา ได้มีการเช็คความพร้อมของทีมบริการหรือเปล่า ว่าพวกเค้ามีปริมาณเพียงพอไหม พวกเค้าพร้อมไปกับกลยุทธนี้ขององค์กรหรือเปล่า
ด่านแรกที่เป็นผู้ถือบัตรเก่าของ CITI M เดิม บวกกับผู้สมัครใหม่ยังไม่ผ่าน ด่านต่อไปก็กำลังตามมาติดๆ กับลูกค้าจาก Tisco ที่จะโยกมาบัตรนี้อีกเช่นกัน ........ ไม่อยากจะคิดสภาพครับ
และนี่คือโจทย์ใหม่ของ CITI Premier และ Citibank เพื่อพิสูนจ์ตัวเองกันต่อไปครับ
เพราะไม่ว่าคนถือบัตรจะเงินเดือน 3 ล้าน หรือ 3 หมื่น เค้าเหล่านั้นคือ ลูกค้า ของคุณ ผู้ซึ่งต้องได้รับการบริการอย่างดีและเท่าเทียมกัน ให้สมกับ Signature ของธนาคาร
อย่าทำให้ชื่อเสียงของธนาคารที่แข็งเกร่งจาก CITI Select มาดับลงเพราะ CITI Premier ที่ดันตกม้าตายตั้งแต่แรก
การนำเอางบประมาณมาทำโปรโมทโดยจ้างดาราแบบชมพู่ที่มีค่าตัวแพงๆ กับการนำงบประมาณนั้นมาเสริมทัพการบริการให้ประทับใจ อันไหนควรทำก่อนกัน ผมว่าทางธนาคารน่าจะคิดได้
ไม่ใช่นั้น ลูกค้าที่มี Loyalty สูงๆจะทยอยจากคุณไปทีละคน ลูกค้าใหม่ก็จะใช้แค่ปีเดียวแล้วปิดบัตร (เพราะปีแรกใช้ฟรี)
และ CITI Premier จะกลายเป็นพระเอกจอมปลอมที่ไม่มีวันเทียบกับ CITI Select ได้เลย
ฝากถึงผู้บริหาร Citibank ด้วยความเคารพครับ
CITI Premier กับโจทย์ใหม่เพื่อพิสูจน์ว่าคุณคือพระเอกตัวจริงหรือจอมปลอม !!
เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้ The Mall รวมถึง Promotion สิทธิต่างๆ ที่ทำให้เรารู้สึกพิเศษอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผมหลงรักบัตร Select ใบนี้มาก และมี loyalty กับ Citiank มายาวนาน
ถือว่าคนวางกลยุทธ์ของ CITI Select มาถูกจุด ตรงใจ และชาญฉลาด จนสามารถยืนหยัดต่อสู้กับธนาคารใหญ่ๆในประเทศได้สบายๆ
แต่แล้วก็อย่างที่หลายๆคนทราบ กาลเวลาเปลี่ยนไป การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงขึ้น สุดท้าย SCB M เข้ามาแทนที่ และเจ้า CITI M ที่ต้องปิดตัวไปโดยปริยาย
และแน่นอน Citibank ต้องเปิดไพ่ขึ้นมาสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และได้ส่งพระเอกคนใหม่ออกมา นั่นก็คือ CITI Premier นั่นเอง
ผมได้รับบัตรใบใหม่นี้ตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคม ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ผมทราบว่า CITI M ที่ผมถือมายาวนานนั้น กำลังจะใช้ไม่ได้ในอีกไม่ช้า
ผมเปิดเอกสารแนบที่มาพร้อมบัตร CITI Premier อย่างละเอียด ก็พบว่า ข้อเสนอที่ได้รับนั้น "ไม่เลวเลย"
ในมุมของผู้ใช้บัตรที่มี life style แบบผมที่เน้นการพาครอบครัวไป Shopping รับประทานอาหารในห้าง มากกว่าการแลกไมล์ไปเที่ยว คือว่าบัตร CITI Premier ตอบโจทย์ได้ดีเลยมีเดียว
จะเรียกว่าเหนือกว่า CITI Select ก็ว่าได้ ติดแค่ Super Market ต้องซื้อขั้นต่ำ 800 บาทถึงได้ส่วนลดข้อเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่าแย่ลง
นาทีนั้นผมตัดสินใจโทรหา Call Center เพื่อปิด CITI Select และเปิดใช้งาน CITI Premier ทันที
ด้วยหน้าบัตรที่สวยงาม และสิทธิพิเศษที่ให้มา ผมเชื่อมั่นเลยว่า CITI Premier นี่หล่ะ พระเอกตัวจริงคนถัดไป ไม่แพ้พระเอกรุ่นพี่อย่าง CITI Select แน่นอน
ผมเข้าไปดู Feedback ต่างๆจากผู้ร่วมชะตาชีวิตที่เคยถือ CITI Select มาก่อน ส่วนมากก็ไปในทิศทางบวก ทุกคนดู Happy
ส่วนคนที่ยังไม่มี ก็รอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีว่ามีเงื่อนไขการสมัครอย่างไร เพื่อให้ได้ถือครอง CITI Premier ตัวนี้บ้าง
และแล้ว...... CITI Premier ก็มีการเปิดตัวสู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการ !!!
...................................................................
หากถามถึงธนาคารที่เปิดบัตรได้ยากธนาคารนึง ผมเชื่อว่าหลายๆคนคิดถึง Citibank เพราะเค้าค่อนข้างยึดมั่นในกฏเกณฑ์อย่างมาก ต่างจากธนาคารอื่นๆที่เน้นการหาลูกค้าให้มากไว้ก่อน โดยแบกรับความเสี่ยงทีหลัง
ในมุมคนที่งานธนาคารจะทราบดีครับ ฝ่ายขายก็มีหน้าที่ขาย ต้องขายให้เยอะที่สุด มีเป้า มียอดที่ต้องทำ
ดังนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าที่ต้องการ ความประณีประณอมจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เช่น เงินเดือนขั้นต่ำไม่ถึง ขาดอีกนิดหน่อย แต่ลูกค้าตื้อหรือโทรไปโวยหน่อยก็ได้แล้ว อันนี้จะพบเห็นได้จากธนาคารใหญ่ๆทั่วไปครับ (แต่ต้องขาดนิดหน่อยนะ ไม่ใช่ไม่ใกล้เคียงเกณฑ์ขั้นต่ำเลย)
CITI Select นับเป็นบัตรใบนึงที่เคร่งครัดกับเกณฑ์มาก โดยระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้ถือบัตรต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น
ผมเคยพยายามช่วยเพื่อนสนิทสมัครบัตร CITI Select โดยตอนนั้นเพื่อนผมมีรายได้ต่อเดือนสุทธิประมาณ 90,000 บาท โทรไปทั้งตื้อ ทั้งโวย ช่วยกันโทร สุดท้ายก็ยังไม่ผ่าน ...ยอมรับนับถือเลยว่า ยึดถือเกณฑ์ได้สุดยอด
กลับมาที่บัตร CITI Premier ที่ถือเป็นบัตรระดับ Signature เฉกเช่นเดียวกับ CITI Select
โดยทางธนาคารประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า เงินเดือนขั้นต่ำที่สมัครได้คือ 30,000 บาท !!! ครับ ฟังไม่ผิด 30,000 บาทก็สามาถถือบัตรใบนี้ได้แล้ว
ถ้าดูจากปิระมิดฐานเงินเดือนคนไทย คนที่เงินเดือนเกินแสนนี่ถือว่ามี % อยู่ไม่มากนัก แต่พอขยับลดลงมา 30,000 บาท ผมว่าเป็นฐานเงินเดือนที่มี % ส่วนมากของมนุษย์เงินเดือนเลยทีเดียว
ถือว่าเป็นการฉีกทุกกฏของบัตร signature ที่มีมาในประเทศไทย ที่สามารถสมัครด้วยเงินรายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาท
ผมทราบข่าวนี้เอาเข้าจริงก็ตกใจครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แถมก็ถือว่าดีซะอีก มีคนได้สิทธิประโยชน์ดีๆแบบนี้ ผมยังโทรไปชวนเพื่อนให้มาสมัครเลย (แม้ว่าจะมีค่าธรรมเนียม 4,000 บาทต่อปีถ้าใช้ไม่ถึง 200,000 บาท แต่สำหรับผมก็ถือว่ายังคุ้ม)
แต่มีอยู่สิ่งเดียวที่ผมแอบกังวลครับ .......
..........................................................................
และแล้ว เรื่องที่ผมกังวลก็เป็นจริง
ผมทำการซื้อของ online ที่ website นึง แล้วจังหวะคงไม่ดี ระบบของ website นั้นล่ม ทำให้ trasacntion ของผมไปค้างกลางอากาศ ซึ่งหมายความว่า ทาง Citibank ตัดบัตรผมไปแล้ว แต่เงินไปไม่ถึงปลายทาง
ผมโทรไปแจ้งทาง website ดังกล่าว ซึ่งก็ให้ผมติดต่อกลับธนาคาร Citibank เพื่อขอยกเลิก transaction นั้นเอง
ผมก็พลิกหลังบัตร ซึ่งปกติบัตร signature จะมีเบอร์พิเศษให้โทรตรงได้ ไม่ต้องผ่าน Call center ปกติ
จากประสบการณ์การรอสาย จนพบพนักงานตอนถือบัตร CITI Select นี่ ผมถือว่ายอดเยี่ยมมากครับ ส่วนใหญ่ 1-2 นาทีได้คุยแล้ว เต็มที่ 3 นาที
แต่ครั้งนี้กับ CITI Premier ผมใช้เวลาในการรอสาย 11 นาทีครับ !!!
ตอนนั้นยอมรับว่าหงุดหงิดมาก แต่ก็ไม่ได้ลงอารมณ์กับพนักงาน Call center เพราะคิดว่าเค้าก็คงทำงานเต็มที่แล้ว สายคงโทรเข้ามาเยอะจริงๆ
ผมถามน้องเค้าถึงช่องทาง feedback น้องก็บอกสามารถแจ้งน้องมาได้เลย และบอกผมว่าทาง Citibank กำลังปรับปรุงส่วนงานนี้อยู่ เพราะเพิ่งเปลี่ยนมาเป็น CITI Premier ไม่นาน
ผมก็ยังคงเชื่อน้องคนนั้นและเชื่อใจ Citibank อยู่ครับ
จนแล้วจนรอด อีก 1 เดือนให้หลัง ผมมีเหตุให้ต้องโทรหา call center อีกครั้ง ในใจตอนนั้นยังคิดเข้าข้าง Citibank อยู่เลย
คิดว่าครั้งก่อนอาจจะเพราะผมดวงไม่ดี โทรไปตอนคนเยอะพอดี ตอนนี้คงไม่เป็นแบบนั้น และทางธนาคารคงปรับปรุงแล้ว
ครั้งนี้ ผมใช้เวลาในการรอสาย 9 นาทีครับ แทบไม่ได้ดีขึ้นเลย .....
แถมครั้งนี้น้อง call center แก้ปัญหาให้ผมไม่ได้ด้วย เพราะต้องติดต่ออีกฝ่าย ซึ่งอีกฝ่ายก็ติดต่อไม่ได้ เพราะคู่สายไม่ว่างเช่นกัน T T
นาทีนั้นผมวางสายไปด้วยความผิดหวัง และคิดว่า CITI Premier คงไม่ใช่คำตอบของผมอีกต่อไป
ผมกลับไปอ่าน feedback ของบัตรใบนี้อีกครั้ง ทิศทางแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
ครับ... และนี่คือสิ่งที่ผมกังวล
................................................................
มันไม่ผิดหรอกครับ กับการที่ทางธนาคารกล้าที่จะเปิดไพ่ใบใหม่ใบนี้มาสู้กับยักษ์ใหญ่ทางการตลาด ผมถือว่า กล้าหาญมากครับ
แต่ความกล้าหาญนั้นต้องมาพร้อมกับมาพร้อมของทีมงาน และกลยุทธที่ชาญฉลาด
การที่คนคิด คิดแบบบุกอยู่คนเดียว โดยที่ไม่ได้หันกลับมามองเลยว่า ทีมงานตัวเองพร้อมแค่ไหน มันเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่พอยังพาทีมและองค์กรไปตายด้วย
เมื่อฐานผู้ใช้เดิมมีกฏเกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำ 100,000 บาท เทียบกับฐานใหม่ที่เงินเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาท นี่หนังคนม้วนเลยนะครับ
ตอนทีมผู้บริหารคิดเงื่อนไขเหล่านี้ออกมา ได้มีการเช็คความพร้อมของทีมบริการหรือเปล่า ว่าพวกเค้ามีปริมาณเพียงพอไหม พวกเค้าพร้อมไปกับกลยุทธนี้ขององค์กรหรือเปล่า
ด่านแรกที่เป็นผู้ถือบัตรเก่าของ CITI M เดิม บวกกับผู้สมัครใหม่ยังไม่ผ่าน ด่านต่อไปก็กำลังตามมาติดๆ กับลูกค้าจาก Tisco ที่จะโยกมาบัตรนี้อีกเช่นกัน ........ ไม่อยากจะคิดสภาพครับ
และนี่คือโจทย์ใหม่ของ CITI Premier และ Citibank เพื่อพิสูนจ์ตัวเองกันต่อไปครับ
เพราะไม่ว่าคนถือบัตรจะเงินเดือน 3 ล้าน หรือ 3 หมื่น เค้าเหล่านั้นคือ ลูกค้า ของคุณ ผู้ซึ่งต้องได้รับการบริการอย่างดีและเท่าเทียมกัน ให้สมกับ Signature ของธนาคาร
อย่าทำให้ชื่อเสียงของธนาคารที่แข็งเกร่งจาก CITI Select มาดับลงเพราะ CITI Premier ที่ดันตกม้าตายตั้งแต่แรก
การนำเอางบประมาณมาทำโปรโมทโดยจ้างดาราแบบชมพู่ที่มีค่าตัวแพงๆ กับการนำงบประมาณนั้นมาเสริมทัพการบริการให้ประทับใจ อันไหนควรทำก่อนกัน ผมว่าทางธนาคารน่าจะคิดได้
ไม่ใช่นั้น ลูกค้าที่มี Loyalty สูงๆจะทยอยจากคุณไปทีละคน ลูกค้าใหม่ก็จะใช้แค่ปีเดียวแล้วปิดบัตร (เพราะปีแรกใช้ฟรี)
และ CITI Premier จะกลายเป็นพระเอกจอมปลอมที่ไม่มีวันเทียบกับ CITI Select ได้เลย
ฝากถึงผู้บริหาร Citibank ด้วยความเคารพครับ