สวัสดีครับทุกๆคนผม เจสัน วันนี้ผมจะมารีวิวหนังดังของลุง ทอม ครูซ กับผู้กำกับ/มือเขียนบท คู่บุญอย่าง คริสโตเฟอร์ แม็คไควร์อารี่ หนังที่ดัดแปลงเค้าโครงจากหนังสือขายดีของนิวยอร์คไทล์ม Jack Reacher ตอน One Shot ของนักเขียนชาวอังกฤษ ลี ไชล์ด (ถ้าสังเกตดีๆแกออกมาแสดงบทเล็กๆด้วยนะ แกแสดงเป็นตำรวจหน้าเคาท์เตอร์)

หนังชุดแจ็ค รีชเชอร์ปัจจุบันมีทั้งหมดสองภาคเป็นหนังของทางค่ายพาราเม้าท พิกเจอร์และค่ายหนัง สกายแดนซ์ โปรดักชั่น ค่ายหนังชุดเดียวกับ หนัง Mission Impossible ของลุงทอมแกนั่นแหละ หนังภาคแรกตอนออกฉายคำวิจารณ์ถือว่าดีพอสมควร ถึงรายได้อาจจะไม่ดีนัก ไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่เท่าหนัง MI ของทอม แต่การดำเนินเรื่อง การเล่าเรื่องออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผมในฐานะแฟนหนังลุงทอม ครูซ
ภาคแรกหนังออกแนว สืบสวนสอบสวนปนทริลเลอร์ หนังมีความยาว 130 นาทีเต็มอิ่มกับการเอาใจช่วยพระเอกกับนางเอกไขคดีปริศนา ที่เพิ่มเติม คือ ชื่อของทอม ครูซ เจ้านี้ต้องได้มีบู๊บ้างอะไรบ้าง ภาคแรกฉากแอ็คชั่นมีไม่มาก แต่โดนใจและมีที่พูดถึง จนหลายๆคนตั้งฉายาให้ แจ็ค รีชเชอร์ ว่า
"จอมหักกระดูก" (แหม...ฉายาเดียวกับป๋าสตีเว่น ซีกัลเลย 555)

  หนังภาคสองมาในชื่อ ตอนว่า Never Go Back ออกฉายช่วงเดือนตุลาคมปี 2016 ได้นางเอกสาวสวยชาวแคนาดาอย่าง Cobie Smulder จาก The Avengers มาแสดงนำร่วมกับทอม ครูซ ได้ผู้กำกับอย่าง Edward Zwick ที่เคยร่วมงานกับ ทอม ครูซ เรื่อง The Last Samurai (2003) มากำกับ และแกคนนี้ก็ยังกำกับหนังดีๆอีกมากมาย เช่น Blood Diamond (2006) ที่นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, Difiance (2008) ที่นำแสดงโดย พี่เหี่ยวโหด จาก เจมส์ บอนด์ 007 แดเนี่ยล เคร็ก
หนังภาคสองของแจ็ค รีชเชอร์เน้นฉากแอ็ค
ชั่นที่ยัดเข้ามาเยอะมากทั้งเรื่อง ประเด็นการสืบสวนสอบสวนบทเข้มๆหนักๆแบบภาคแรกลดลงไปมาก เน้นบู๊เตะต่อย ยิงกัน วิ่งไล่ล่า และมีโมเม้นน่ารักนิดๆระหว่าง รีชเชอร์กับ
ซาแมนธา ลูกสาวผมทองของแกนั่นแหละ

มาต่อกันที่เนื้อหาหนังในภาคแรก ด้านล่างผมจะมารีวิวต่อ....