สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก่อนดู Jack Reacher คือ Jack ไม่ใช่สายลับ แต่เขาคือ อดีตสารวัตรทหาร หน้าที่ของเขาไม่ใช่การเข้าต่อกรกับผู้ร้าย แต่คือสืบคดี ดังนั้นถ้าคุณหวังจะเห็น Jack Reacher บู๊ระห่ำสนั่นโลกแบบ Mission Impossible, James Bond หรือ Jason Bourne คุณอาจต้องผิดหวัง เพราะหนังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสืบสวนสอบสวน มีฉากแอคชั่นส์อยู่ไม่กี่ฉาก ซึ่งก็ดันไม่ถึงใจอีก แต่ถ้าคุณเป็นคอหนังสืบสวนสอบสวนแล้ว คุณก็จะรู้สึกสนุกไปกับมันใช่หรือเปล่า ...อืม ก็ไม่แน่นะ
ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผมไม่รู้สึกสนุกกับ Jack Reacher เสียเท่าไหร่ ก็คือการที่หนังเลือกที่จะเปิดเผยตัวผู้ร้ายตั้งแต่ต้นเรื่อง มันเลยขาดความตื่นเต้นไปกับการสืบสวนของ Jack แม้หนังจะทดแทนด้วยการสร้างความสงสัยในวิธีการที่ผู้ร้ายใช้และโยนความผิด แต่เมื่อเปิดปริศนาขึ้นมาก็ไม่ถึงกับตะลึงอะไรมากนัก ออกจะเป็นไปตามสูตรสำเร็จเสียมากกว่า มีให้ wow นิดนึงก็ในส่วนของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น ที่น่าผิดหวังสุดคือฝั่งตัวร้าย ที่ตอนแรกสร้างภาพมาเสียน่ากลัว แต่บทจะจบก็โดนจัดการได้ง่ายๆ เสียนั้น
พี่ทอม ดูจะเท่ห์และไปกันได้ดีกับบท Jack Reแต่ก็เฉพาะตอนอยู่ในโรงเท่านั้น พอหนังจบก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวละครอย่าง Jack Reacher จะน่าจดจำอะไรนัก แม้หนังพยายามสร้างจุดเด่นให้ Jack ด้วยการเคยเป็นสารวัตรทหาร รวมไปถึงสไตล์การทำงานแบบ ข้ามาคนเดียว ไม่มีกระเป๋า ไม่มีรถ แต่ลักษณะแบบนี้ก็ปรากฏให้เห็นซ้ำๆ ในบรรดาสายลับ/สายสืบทั้งจากโลกวรรณกรรมและโลกภาพยนตร์ ขณะที่ฝั่งนางเอกก็ดันไม่น่าเอาใจช่วยเสียอีก แม้ตัวเธอจะพยายามบอกอยู่ตลอดเวลาว่า ฉันเก่ง แต่เรากลับไม่รู้สึกไปอย่างนั้นด้วย ไม่รู้สึกว่าหากเราตกเป็นแพะรับปากจะสามารถไปขอให้เธอช่วยเป็นทนายได้ เมื่อแรงจูงใจในการทำคดีของเธอมีเพียงแค่การ เอาชนะพ่อ ของตัวเองที่เป็นอัยการเขตเท่านั้น น่าเสียดายที่ปมความขัดแย้งระหว่างเธอกับพ่อดูน่าจะสนใจทีเดียว แต่ก็ถูกบดบังด้วยนิสัยของเธอเอง
เมื่อบทสืบสวนสอบสวนที่ไม่สุด แอคชั่นส์ที่ไม่มันส์ ผสานกับตัวละครที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ บทสรุปออกมาจึงเป็นที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจนัก อย่างไรก็ตาม หากไม่ตั้งเป้าไว้สูงเกินไปนัก Jack Reacher ก็ยังพอจะให้ความบันเทิงกับเราได้บ้าง ไม่ได้แย่ไปเสียหมด หนังยังมีลูกเล่นชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่ไม่ทำให้น่าเบื่อจนเกินไป แม้สุดท้ายจะรู้สึกว่าควรจะไปได้ไกลกว่านี้อีก จุดที่ชอบที่สุดในเรื่องกลับเป็นเรื่องเล่าในสงครามอิรัก ที่อธิบายเรื่องแรงจูงใจ สภาพชีวิตของทหารในสมรภูมิสงครามจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามได้อย่างหมดจด และเป็นตอนเดียวที่ทำให้รู้สึกว่า Jack Reacher คือสารวัตรทหารตัวจริง
ใครที่กำลังมองหาหนังสักเรื่องดูยามว่างในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เช่นนี้ Jack Reacher อาจไม่ใช่หนังที่ถึงกับยอดเยี่ยมหรือสนุกไม่รู้ลืม แต่ก็พอจะแก้ขัดได้ช่วงเทศกาลแบบนี้ แต่ถ้าไม่ซีเรียสกับการดูหนังในโรงมากนัก รอแผ่นออกมาหรือฉายตามเคเบิ้ลค่อยดูก็ไม่เสียหายเท่าไหร่
่
[b]ความชอบส่วนตัว 6/10[/B]
Link: zeawleng.wordpress.com
[Review] Jack Reacher สารวัตรทหารยอดนักสืบ (?) [Spoil]
ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผมไม่รู้สึกสนุกกับ Jack Reacher เสียเท่าไหร่ ก็คือการที่หนังเลือกที่จะเปิดเผยตัวผู้ร้ายตั้งแต่ต้นเรื่อง มันเลยขาดความตื่นเต้นไปกับการสืบสวนของ Jack แม้หนังจะทดแทนด้วยการสร้างความสงสัยในวิธีการที่ผู้ร้ายใช้และโยนความผิด แต่เมื่อเปิดปริศนาขึ้นมาก็ไม่ถึงกับตะลึงอะไรมากนัก ออกจะเป็นไปตามสูตรสำเร็จเสียมากกว่า มีให้ wow นิดนึงก็ในส่วนของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น ที่น่าผิดหวังสุดคือฝั่งตัวร้าย ที่ตอนแรกสร้างภาพมาเสียน่ากลัว แต่บทจะจบก็โดนจัดการได้ง่ายๆ เสียนั้น
พี่ทอม ดูจะเท่ห์และไปกันได้ดีกับบท Jack Reแต่ก็เฉพาะตอนอยู่ในโรงเท่านั้น พอหนังจบก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวละครอย่าง Jack Reacher จะน่าจดจำอะไรนัก แม้หนังพยายามสร้างจุดเด่นให้ Jack ด้วยการเคยเป็นสารวัตรทหาร รวมไปถึงสไตล์การทำงานแบบ ข้ามาคนเดียว ไม่มีกระเป๋า ไม่มีรถ แต่ลักษณะแบบนี้ก็ปรากฏให้เห็นซ้ำๆ ในบรรดาสายลับ/สายสืบทั้งจากโลกวรรณกรรมและโลกภาพยนตร์ ขณะที่ฝั่งนางเอกก็ดันไม่น่าเอาใจช่วยเสียอีก แม้ตัวเธอจะพยายามบอกอยู่ตลอดเวลาว่า ฉันเก่ง แต่เรากลับไม่รู้สึกไปอย่างนั้นด้วย ไม่รู้สึกว่าหากเราตกเป็นแพะรับปากจะสามารถไปขอให้เธอช่วยเป็นทนายได้ เมื่อแรงจูงใจในการทำคดีของเธอมีเพียงแค่การ เอาชนะพ่อ ของตัวเองที่เป็นอัยการเขตเท่านั้น น่าเสียดายที่ปมความขัดแย้งระหว่างเธอกับพ่อดูน่าจะสนใจทีเดียว แต่ก็ถูกบดบังด้วยนิสัยของเธอเอง
เมื่อบทสืบสวนสอบสวนที่ไม่สุด แอคชั่นส์ที่ไม่มันส์ ผสานกับตัวละครที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ บทสรุปออกมาจึงเป็นที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจนัก อย่างไรก็ตาม หากไม่ตั้งเป้าไว้สูงเกินไปนัก Jack Reacher ก็ยังพอจะให้ความบันเทิงกับเราได้บ้าง ไม่ได้แย่ไปเสียหมด หนังยังมีลูกเล่นชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่ไม่ทำให้น่าเบื่อจนเกินไป แม้สุดท้ายจะรู้สึกว่าควรจะไปได้ไกลกว่านี้อีก จุดที่ชอบที่สุดในเรื่องกลับเป็นเรื่องเล่าในสงครามอิรัก ที่อธิบายเรื่องแรงจูงใจ สภาพชีวิตของทหารในสมรภูมิสงครามจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามได้อย่างหมดจด และเป็นตอนเดียวที่ทำให้รู้สึกว่า Jack Reacher คือสารวัตรทหารตัวจริง
ใครที่กำลังมองหาหนังสักเรื่องดูยามว่างในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เช่นนี้ Jack Reacher อาจไม่ใช่หนังที่ถึงกับยอดเยี่ยมหรือสนุกไม่รู้ลืม แต่ก็พอจะแก้ขัดได้ช่วงเทศกาลแบบนี้ แต่ถ้าไม่ซีเรียสกับการดูหนังในโรงมากนัก รอแผ่นออกมาหรือฉายตามเคเบิ้ลค่อยดูก็ไม่เสียหายเท่าไหร่
่
[b]ความชอบส่วนตัว 6/10[/B]
Link: zeawleng.wordpress.com