เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายสำหรับวีคแรกของเดือนกันยายน อันเป็นเดือนซึ่งกรรมการวางแผนไว้ว่าจะเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสสุดท้าย ก่อนพักเบรคแล้วนำทุกท่านเข้าสู่ THE GLOVES FINAL 2018...
เป็นเรื่องของชายคนหนึ่ง ซึ่งหลับไหล เป็นเจ้าชายนิทรา ต้องเผชิญกับภาพต่างๆที่ปรากฏ ในมิติแห่งความฝัน หรือไม่ก็เป็นอีกมิติหนึ่งซึ่งซ้อนมิติแห่งความเป็นจริงปัจจุบัน...ใครจะรู้ได้...
ภาพเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง และเขาจะตื่นขึ้นมาหรือไม่ ???
ติดตามอ่านกันเลยครับ อ่านจบมอบเกรดตามระเบียบ แล้วเล็งหาตัวคนเขียนเรื่องนี้ดูครับ
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด มืดเสียจนไม่แน่ใจว่าได้ลืมตาตื่น
ผิวกายสัมผัสไอเย็นยะเยือก จมูกรับเอาความชื้นปริมาณมากเข้ามาทุกลมหายใจ สายตาพยายามเพ่งฝ่าความมืดไปเบื้องหน้า ทว่าไม่อาจจับจ้องเห็นสิ่งอื่นใด
ไม่แน่ใจว่านานเท่าใดที่ทนนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนในที่สุดผมก็ค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น
ที่นี่ที่ไหน...
รอบกายในระยะที่สายตามองเห็น ไม่ว่าทางใดก็ล้วนเห็นแต่สีดำ ดำจนไม่อาจแยกทิศทางได้
สมองอันสับสนพยายามแยกแยะอะไรก็ตามที่อาจจะปรากฏขึ้น แต่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ไม่มีเสียงเดิน ไม่มีเสียงตกกระทบ ไม่มีแม้เสียงหวีดหวิวที่เบาที่สุดให้ได้ยิน
ลุกขึ้นยืนอย่างสับสน ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ผมควรเริ่มทำอะไรก่อน และทำจากตรงไหน เพราะตอนนี้แม้แต่ที่ๆ กำลังยืนอยู่ก็ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าคืออะไร
ผมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...
พยายามรวบรวมสติ ตัดสินใจก้าวออกไปอย่างสะเปะสะปะ มือคลำทางไปทั่วในความมืด ราวความเวิ้งว้างไร้จุดสิ้นสุดที่โอบล้อมอยู่กำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะก้าวไปทางใด นานเพียงใดก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากมันที่โอบล้อมผมอยู่รอบด้าน
ทุกย่างก้าวที่ยกขึ้นจากพื้น ไม่รู้ว่าจะสัมผัสพื้นอีกครั้งเมื่อใด
พยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำไม...อะไรที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ ที่ๆ ผมไม่รู้ว่าคือที่ไหน
ที่ๆ แม้แต่ละอองแสงเพียงน้อยนิดก็ไม่อาจหลุดเข้ามาได้
เกิดอะไรขึ้นกับผม อะไรทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้...
เส้นเลือดขมวดตัวบีบรัดจนเกิดเสียงตุ้บๆ ในหัวสมองเมื่อพยายามคิด ทว่าไม่เป็นผล ผมยังคงนึกอะไรไม่ออก
เท้าทั้งสองยังคงก้าวต่อไปอย่างไร้จุดหมาย และไร้ซึ่งเป้าหมาย
จุดหมาย...
เป้าหมายอย่างนั้นหรือ
จู่ๆ หัวใจก็เต้นรัว รู้สึกปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อนึกถึงคำสองคำนี้ ทำไม...ทำไมถึงรู้สึกห่างไกลเสียเหลือเกิน
ทำไมกันนะ...
นานขนาดไหนแล้วที่ผมเริ่มออกเดิน ไกลขนาดไหนแล้วจากจุดเริ่มต้น ทว่าไม่มีทางออก ไม่มีอะไรอื่นนอกจากความมืด
มันนานพอที่ผมจะรับรู้ได้อย่างนั้น จังหวะก้าวเท้าช้าลงเป็นลำดับ
อะไรเกิดขึ้นกันแน่...ผมต้องนึกให้ออก หากอยากหลุดพ้นจากที่นี่ ผมต้องรู้ความจริงเสียก่อน อะไรบางอย่างในใจบอกกับผมแบบนั้น
ผมหลับตา พยายามเค้นสมองทุกส่วน เพื่อบีบรัดให้ความทรงจำทุกอย่างที่ฝังอยู่ข้างในหลุดออกมา
และฉับพลัน จุดแสงจุดหนึ่งก็เบียดแทรกตัวเองออกมาจากความมืด มันลอยคว้างอ้อยอิ่งอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่จุดแสงจุดอื่นๆ จะหลุดตามออกมาและลอยฟุ้งไปทั่วสีดำ
มากขึ้น และมากขึ้น จนสุดท้ายก็กลายเป็นลำแสงแผ่พุ่งไปทุกทิศทาง ภาพแห่งความทรงจำปลิดปลิวออกมาจากลำแสงนั้น พัดกระจายไปทั่วอากาศตรงหน้า
อา...ใช่แล้ว
ความล้มเหลว ความผิดหวัง ความท้อแท้ การลาจาก ความพลัดพราก ไร้ซึ่งจุดหมาย เป้าหมายอันลางเลือนจนไม่อาจสัมผัสได้
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...นับครั้งไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นในชีวิต ภาพต่างๆ ยังคงหลั่งไหลออกมา และมันทั้งหมดล้วนช่วยตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้น
แรงกดดันมหาศาลก่อเกิดในจิตใจอันอ่อนล้า มันแผ่ขยายและกดทับไหล่ทั้งสองข้างจนรู้สึกหนักอึ้งไปหมด
ผมก้าวเท้าต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว พยุงร่างให้ยืนอยู่อย่างนี้ก็ไม่ไหวเช่นกัน ค่อยๆ ทรุดตัวลง ก้มหน้า น้ำตารินไหลอย่างสุดสะกดกลั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ผมไม่อาจดำรงอยู่ได้อีกต่อไป และมันก็ผลักดันให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่
สถานที่มืดมิด หนาวเหน็บ ไร้ซึ่งแสงสว่าง แท้จริงแล้วที่นี่คือ โลกภายในใจของผมนั่นเอง
โลกเย็นชาที่ปกป้องผมจากความผิดหวังทั้งมวล
โลกไร้แสงที่เกิดจากเปลือกหนาซึ่งปิดกั้นความบอบช้ำจากภายนอกมาตลอด
ผม...ผมเป็นผู้แพ้ในโลกแห่งความเป็นจริง
ละอองแสงฟุ้งมัวค่อยๆ ถูกความมืดกลืนกินอีกครั้ง จากนับไม่ถ้วนก็ค่อยๆ ร่อยหลอลงจนเหลือเพียงไม่กี่อนุภาค
จนในที่สุด อนุภาคแสงสุดท้ายก็ลอยเคว้งคว้าง คล้ายหิ่งห้อยเดียวดายในห้วงจักรวาลอันไพศาล
นั่งชันเข่า อ้อมกอดแน่นเข้า ผมกำลังกลืนตัวเองให้หายไป กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดนี้
ไม่อยากรับรู้อะไรอีก ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว
ทว่าก่อนละอองแสงสุดท้ายจะลาลับไป เสียงๆ หนึ่งดังแว่วมาจากที่ใดสักแห่งในความมืดมิด เบาหวิวจนฟังไม่ได้ศัพท์ ทว่ากลับบาดลึกจนสร้างแรงสั่นสะเทือนให้เกิดขึ้นในใจ
มันปวดร้าว ระทมทุกข์ ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักและความหวัง และมันทำให้หัวใจที่เคยแทบจะหยุดเต้นกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง
ผมตัดสินใจลุกขึ้นยืน ก้าวเข้าไปหาต้นเสียง มันชัดเจนขึ้น ผมก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นวิ่ง
สีดำด้านบนเกิดรอยแตกร้าวเป็นทางยาว สะเก็ดแผ่นสีดำหลุดร่อนปลิวว่อนจนในที่สุดมันก็แตกออก
ที่ตรงนั้น ลำแสงสีขาวพุ่งผ่านลงมายังเบื้องล่าง มันเจิดจ้างดงามกว่าแสงใดๆ ที่เคยเห็น เสียงนั้นชัดเจนขึ้นอีก ผมอึ้ง เจ็บแปลบเหมือนมีอะไรเสียดแทงอยู่ในอก
วิ่งต่อไป วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะโผบินเข้าไปในแสงนั้น
ผมลืมตาตื่น สายตาพร่ามัวจับภาพรางๆ ของรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความปีติของหญิงคนหนึ่ง ผมรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดนี้ รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้เห็นแววตาแห่งความอารี
ความรักทั้งหมดที่เคยสูญหายไปนานแสนนาน
น้ำตาไหลออกมาท่ามกลางความรู้สึกอันอบอวลไปด้วยความรักและความทรงจำแห่งความสุข
ถึงแม้ผมจะเคยผิดหวัง ท้อแท้ และทำผิดพลาดมามากมาย แต่ในวินาทีนี้ ผมรู้ว่าได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
ณ เตียงนอนในโรงพยาบาล คนไข้คนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากการหลับใหลไม่รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกอย่างไม่ทราบสาเหตุมาเป็นเวลานานแสนนาน
รายชื่อให้เลือกตอบ
ฝ่ายชาย
1. จอมยุทธนักสืบ (วีคนี้ไม่มี)
2. ชายขอบคันนายาว
3. ลูนาติก
4. ส.สัตยา
5. สวนดอก
6. B-thirteen
7. Chee River (ลำน้ำ C)
8. Christian Trevelyan Grey
9. GTW
10. KTHc
11. Na(นะ)
12. psycho_factory
13. ruennara
14. Soul Master
15. สมาชิกหมายเลข 4563770
16. WANG JIE (พฤษภเสารี)
ฝ่ายหญิง
1. นลินมณี
2. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
3. รัชต์สารินท์
4. ลายลิขิต
5. สมาชิกหมายเลข 817884 (โจอี้)
6. Lady Star 919
7. สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg) (วีคนี้ไม่มี)
8. Susisiri
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน
วันที่ 7 กันยายน 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 5 ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง แล้วมาเล่นซ่อนหากัน"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ
THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี (ในฐานะมือวาง) ครับผม
✨🌨🌟THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 36 เรื่องสั้น#80 "ห้วงคะนึง" โดย ถุงมือ "โลกส่วนตัวต่ำ"🌟🌨✨
เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายสำหรับวีคแรกของเดือนกันยายน อันเป็นเดือนซึ่งกรรมการวางแผนไว้ว่าจะเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสสุดท้าย ก่อนพักเบรคแล้วนำทุกท่านเข้าสู่ THE GLOVES FINAL 2018...
เป็นเรื่องของชายคนหนึ่ง ซึ่งหลับไหล เป็นเจ้าชายนิทรา ต้องเผชิญกับภาพต่างๆที่ปรากฏ ในมิติแห่งความฝัน หรือไม่ก็เป็นอีกมิติหนึ่งซึ่งซ้อนมิติแห่งความเป็นจริงปัจจุบัน...ใครจะรู้ได้...
ภาพเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง และเขาจะตื่นขึ้นมาหรือไม่ ???
ติดตามอ่านกันเลยครับ อ่านจบมอบเกรดตามระเบียบ แล้วเล็งหาตัวคนเขียนเรื่องนี้ดูครับ
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด มืดเสียจนไม่แน่ใจว่าได้ลืมตาตื่น
ผิวกายสัมผัสไอเย็นยะเยือก จมูกรับเอาความชื้นปริมาณมากเข้ามาทุกลมหายใจ สายตาพยายามเพ่งฝ่าความมืดไปเบื้องหน้า ทว่าไม่อาจจับจ้องเห็นสิ่งอื่นใด
ไม่แน่ใจว่านานเท่าใดที่ทนนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนในที่สุดผมก็ค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น
ที่นี่ที่ไหน...
รอบกายในระยะที่สายตามองเห็น ไม่ว่าทางใดก็ล้วนเห็นแต่สีดำ ดำจนไม่อาจแยกทิศทางได้
สมองอันสับสนพยายามแยกแยะอะไรก็ตามที่อาจจะปรากฏขึ้น แต่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ไม่มีเสียงเดิน ไม่มีเสียงตกกระทบ ไม่มีแม้เสียงหวีดหวิวที่เบาที่สุดให้ได้ยิน
ลุกขึ้นยืนอย่างสับสน ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ผมควรเริ่มทำอะไรก่อน และทำจากตรงไหน เพราะตอนนี้แม้แต่ที่ๆ กำลังยืนอยู่ก็ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าคืออะไร
ผมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...
พยายามรวบรวมสติ ตัดสินใจก้าวออกไปอย่างสะเปะสะปะ มือคลำทางไปทั่วในความมืด ราวความเวิ้งว้างไร้จุดสิ้นสุดที่โอบล้อมอยู่กำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะก้าวไปทางใด นานเพียงใดก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากมันที่โอบล้อมผมอยู่รอบด้าน
ทุกย่างก้าวที่ยกขึ้นจากพื้น ไม่รู้ว่าจะสัมผัสพื้นอีกครั้งเมื่อใด
พยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำไม...อะไรที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ ที่ๆ ผมไม่รู้ว่าคือที่ไหน
ที่ๆ แม้แต่ละอองแสงเพียงน้อยนิดก็ไม่อาจหลุดเข้ามาได้
เกิดอะไรขึ้นกับผม อะไรทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้...
เส้นเลือดขมวดตัวบีบรัดจนเกิดเสียงตุ้บๆ ในหัวสมองเมื่อพยายามคิด ทว่าไม่เป็นผล ผมยังคงนึกอะไรไม่ออก
เท้าทั้งสองยังคงก้าวต่อไปอย่างไร้จุดหมาย และไร้ซึ่งเป้าหมาย
จุดหมาย...
เป้าหมายอย่างนั้นหรือ
จู่ๆ หัวใจก็เต้นรัว รู้สึกปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อนึกถึงคำสองคำนี้ ทำไม...ทำไมถึงรู้สึกห่างไกลเสียเหลือเกิน
ทำไมกันนะ...
นานขนาดไหนแล้วที่ผมเริ่มออกเดิน ไกลขนาดไหนแล้วจากจุดเริ่มต้น ทว่าไม่มีทางออก ไม่มีอะไรอื่นนอกจากความมืด
มันนานพอที่ผมจะรับรู้ได้อย่างนั้น จังหวะก้าวเท้าช้าลงเป็นลำดับ
อะไรเกิดขึ้นกันแน่...ผมต้องนึกให้ออก หากอยากหลุดพ้นจากที่นี่ ผมต้องรู้ความจริงเสียก่อน อะไรบางอย่างในใจบอกกับผมแบบนั้น
ผมหลับตา พยายามเค้นสมองทุกส่วน เพื่อบีบรัดให้ความทรงจำทุกอย่างที่ฝังอยู่ข้างในหลุดออกมา
และฉับพลัน จุดแสงจุดหนึ่งก็เบียดแทรกตัวเองออกมาจากความมืด มันลอยคว้างอ้อยอิ่งอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่จุดแสงจุดอื่นๆ จะหลุดตามออกมาและลอยฟุ้งไปทั่วสีดำ
มากขึ้น และมากขึ้น จนสุดท้ายก็กลายเป็นลำแสงแผ่พุ่งไปทุกทิศทาง ภาพแห่งความทรงจำปลิดปลิวออกมาจากลำแสงนั้น พัดกระจายไปทั่วอากาศตรงหน้า
อา...ใช่แล้ว
ความล้มเหลว ความผิดหวัง ความท้อแท้ การลาจาก ความพลัดพราก ไร้ซึ่งจุดหมาย เป้าหมายอันลางเลือนจนไม่อาจสัมผัสได้
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...นับครั้งไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นในชีวิต ภาพต่างๆ ยังคงหลั่งไหลออกมา และมันทั้งหมดล้วนช่วยตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้น
แรงกดดันมหาศาลก่อเกิดในจิตใจอันอ่อนล้า มันแผ่ขยายและกดทับไหล่ทั้งสองข้างจนรู้สึกหนักอึ้งไปหมด
ผมก้าวเท้าต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว พยุงร่างให้ยืนอยู่อย่างนี้ก็ไม่ไหวเช่นกัน ค่อยๆ ทรุดตัวลง ก้มหน้า น้ำตารินไหลอย่างสุดสะกดกลั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ผมไม่อาจดำรงอยู่ได้อีกต่อไป และมันก็ผลักดันให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่
สถานที่มืดมิด หนาวเหน็บ ไร้ซึ่งแสงสว่าง แท้จริงแล้วที่นี่คือ โลกภายในใจของผมนั่นเอง
โลกเย็นชาที่ปกป้องผมจากความผิดหวังทั้งมวล
โลกไร้แสงที่เกิดจากเปลือกหนาซึ่งปิดกั้นความบอบช้ำจากภายนอกมาตลอด
ผม...ผมเป็นผู้แพ้ในโลกแห่งความเป็นจริง
ละอองแสงฟุ้งมัวค่อยๆ ถูกความมืดกลืนกินอีกครั้ง จากนับไม่ถ้วนก็ค่อยๆ ร่อยหลอลงจนเหลือเพียงไม่กี่อนุภาค
จนในที่สุด อนุภาคแสงสุดท้ายก็ลอยเคว้งคว้าง คล้ายหิ่งห้อยเดียวดายในห้วงจักรวาลอันไพศาล
นั่งชันเข่า อ้อมกอดแน่นเข้า ผมกำลังกลืนตัวเองให้หายไป กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดนี้
ไม่อยากรับรู้อะไรอีก ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว
ทว่าก่อนละอองแสงสุดท้ายจะลาลับไป เสียงๆ หนึ่งดังแว่วมาจากที่ใดสักแห่งในความมืดมิด เบาหวิวจนฟังไม่ได้ศัพท์ ทว่ากลับบาดลึกจนสร้างแรงสั่นสะเทือนให้เกิดขึ้นในใจ
มันปวดร้าว ระทมทุกข์ ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักและความหวัง และมันทำให้หัวใจที่เคยแทบจะหยุดเต้นกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง
ผมตัดสินใจลุกขึ้นยืน ก้าวเข้าไปหาต้นเสียง มันชัดเจนขึ้น ผมก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นวิ่ง
สีดำด้านบนเกิดรอยแตกร้าวเป็นทางยาว สะเก็ดแผ่นสีดำหลุดร่อนปลิวว่อนจนในที่สุดมันก็แตกออก
ที่ตรงนั้น ลำแสงสีขาวพุ่งผ่านลงมายังเบื้องล่าง มันเจิดจ้างดงามกว่าแสงใดๆ ที่เคยเห็น เสียงนั้นชัดเจนขึ้นอีก ผมอึ้ง เจ็บแปลบเหมือนมีอะไรเสียดแทงอยู่ในอก
วิ่งต่อไป วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะโผบินเข้าไปในแสงนั้น
ผมลืมตาตื่น สายตาพร่ามัวจับภาพรางๆ ของรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความปีติของหญิงคนหนึ่ง ผมรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดนี้ รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้เห็นแววตาแห่งความอารี
ความรักทั้งหมดที่เคยสูญหายไปนานแสนนาน
น้ำตาไหลออกมาท่ามกลางความรู้สึกอันอบอวลไปด้วยความรักและความทรงจำแห่งความสุข
ถึงแม้ผมจะเคยผิดหวัง ท้อแท้ และทำผิดพลาดมามากมาย แต่ในวินาทีนี้ ผมรู้ว่าได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
ณ เตียงนอนในโรงพยาบาล คนไข้คนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากการหลับใหลไม่รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกอย่างไม่ทราบสาเหตุมาเป็นเวลานานแสนนาน
ถุงมือ "โลกส่วนตัวต่ำ"
รายชื่อให้เลือกตอบ
ฝ่ายชาย
1. จอมยุทธนักสืบ (วีคนี้ไม่มี)
2. ชายขอบคันนายาว
3. ลูนาติก
4. ส.สัตยา
5. สวนดอก
6. B-thirteen
7. Chee River (ลำน้ำ C)
8. Christian Trevelyan Grey
9. GTW
10. KTHc
11. Na(นะ)
12. psycho_factory
13. ruennara
14. Soul Master
15. สมาชิกหมายเลข 4563770
16. WANG JIE (พฤษภเสารี)
ฝ่ายหญิง
1. นลินมณี
2. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
3. รัชต์สารินท์
4. ลายลิขิต
5. สมาชิกหมายเลข 817884 (โจอี้)
6. Lady Star 919
7. สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg) (วีคนี้ไม่มี)
8. Susisiri
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 7 กันยายน 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 5 ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง แล้วมาเล่นซ่อนหากัน"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี (ในฐานะมือวาง) ครับผม