ที่เมืองหลวง
Port-au-Prince ประเทศ
Haiti
ไม่จำเป็นต้องเป็นเภสัชกรก็ขายยาทุกชนิดได้
ขอเพียงแค่มีตระกร้าและแผงยาเดินเร่ขายตามท้องถนน
ในยามแสงแดดแผดเผาช่วงกลางวันเพื่อมองหาคนไข้ได้เลย
สำหรับชาวเฮติจำนวนมากแล้ว
ยา คือ สินค้าสามัญทั่วไปเหมือนกับลูกอมหรือร้านขายของชำ
การซื้อยาจากพ่อค้าแม่ค้าที่เดินเร่ขายยาเป็นเรื่องปกติ
และเรื่องจริงก็คือ ร้านขายยาเกิดขึ้นได้ยากมากในประทศเฮติ
พ่อค้าแม่ค้าเดินเร่ขายยาตามท้องถนน คือ
สายธารหลักในการขายยาของชาว Haitians จำนวนมาก
1.
Claudine Jourdain วัย 33 ปีจากทางตอนใต้ของ Haiti
เร่ขายยาบนถนนย่านธุรกิจที่ Port-au-Prince
Photo credit: Paolo Woods and Gabriele Galimberti
ในฐานะพ่อค้าแม่ค้าผู้เร่ขายยาตามท้องถนน
จะต้องทำให้แน่ใจว่าแผงขายยาเต็มไปด้วยสีสันที่น่าสนใจ
มิฉะนั้น จะไม่มีผู้คนสนใจที่จะซื้อยาจากการทูนกระจาดเดินเร่ขายตามท้องถนน
เช่น อาจจะใส่ยา
Ampicillin ไว้ข้างยา
Tylenol
เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ของยาเม็ดสีชมพูสร้างความแตกต่างกับบรรจุภัณฑ์ยาเม็ดสีฟ้า
พร้อมกับการจัดเรียงเม็ดยาหลากสีสันไว้จำนวนหลายร้อยเม็ด
ให้เป็นกองพูนเหมือนหอคอยขึ้นมาบนถังขนาดเล็ก
โดยต้องคำนึงถึง สีสันดูดีและเข้าด้วยกันได้ด้วย
กรรไกรคู่หนึ่งวางไว้ด้านบนเพื่อใช้ตัดยาที่ลูกค้าต้องการ
บรรดายาเม็ดต่าง ๆ จะจัดเรียงขึ้นรูปทรงด้วยการรัดด้วยแถบยาง
" ร้านขายยาแบบทูนกระจาด
มีการจัดเรียงและวางผลิตภัณฑ์ยาเหมือนศิลปะร่วมสมัย
หรือการแสดงสินค้าแบบร้านขายขนมหวาน "
Paolo Woods และ Gabriele Galimberti
ช่างภาพผู้ทำงานในโครงการเกี่ยวกับการเข้าถึงทางการแพทย์ในกว่าสิบสองประเทศ
ทั้งคู่ต่างให้ความสนใจกับพ่อค้าแม่ค้าคนขายยาทูนกระจาดในใจกลางเมืองหลวง
การเร่ขายยาแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
แต่กฎหมายแทบใช้บังคับไม่ได้เลย
เพราะความอ่อนแอของกระทรวงสาธารณสุขและประชากร
ยิ่งการขาดการกำกับดูแลของรัฐบาลอย่างจริงจัง
ยิ่งทำให้ชีวิตของชาวเฮติยิ่งมีความเสี่ยงในเรื่องยารักษาโรค
ชีวิตสุขภาพและการใช้ยาของชาวบ้านจึงอยู่ในกำมือของผู้ขายยา
พ่อค้าแม่ค้าเร่ขายยาที่ไม่ได้ผ่านการร่ำเรียน
เรื่องคุณและโทษของยาอย่างจริงจัง อย่างเป็นวิชาชีพ
ทั้งยังขายยาได้ทุกประเภทตั้งแต่ ยาทำแท้ง
ไปจนถึงยาเพิ่มสมรรถนะทางเพศ
Viagra
ดังนั้น ยาส่วนใหญ่จึงเป็นยาทั่วไปจากประเทศจีน
ยาอื่น ๆ ยาที่หมดอายุแล้วและยาปลอมที่นำเข้ามาจาก
Dominican Republic
ชีวิตคนใช้ยาที่นั่นจึงเหมือนกับการเล่นเกมที่อันตรายสูงของรัสเซีย
Russian roulette
Russian Roulette เกมมรณะ ที่เดิมพันด้วยชีวิต สาระแทบไม่มี
ผู้ขายยังให้คำแนะนำทางการแพทย์บางอย่างด้วย
เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาสิว
" คนซื้อมักจะไม่มีความลับเวลาพูดคุยกับเรา
พวกเขามักจะบอกเราเกี่ยวกับการติดเชื้อ
การย่อยอาหารและเรื่องทางเพศของพวกเขา
สำหรับแต่ละปัญหา แต่ละครั้ง เรามียาเม็ดรักษาให้ทุกอาการ "
Rénold Germain ผู้ขายยา
Paolo Woods และ Gabriele Galimberti ระบุว่า
" พวกเขาต้องการทำให้ผู้คนตระหนักดีว่า
การเข้าถึงยาที่ได้รับบริจาคจากประเทศที่พัฒนาแล้ว
เป็นเรื่องที่ท้าทายในหลายแห่งมาก "
(เพราะมีการลักลอบนำไปขาย
หรือใช้ประโยชน์แบบไร้เดียงสา)
" ทุกครั้งที่ ผมเห็นคนขายบนถนน ผมรู้สึกเหมือนผมถูกตบหน้า
พวกมันเหมือนกับระเบิดเวลา และเราเกือบไม่มีทางหยุดยั้งพวกมันได้ "
Flaurine Joseph ผู้อำนวยการด้านยาของกระทรวงสาธารณสุขและประชากร
สาเหตุ ที่มันเหมือนระเบิดเเวลา
คือ มีความเป็นไปได้ที่เชื้อโรคจะดื้อยา
ยิ่งทำให้การรักษาพยาบาลยากยิ่งขึ้นในอนาคต
และประเทศเฮติอาจจะกลายเป็นแหล่งต้นกำเนิดเชื้อโรคดื้อยา
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2ouR2O5
https://on.natgeo.com/2C9a6uU
2.
“ ลูกค้าไม่มีความลับกับเรา พวกเขาบอกเราเกี่ยวกับการติดเชื้อ การย่อยอาหาร
เรื่องสมรรถนะทางเพศ ทุกปัญหาเรามียาแก้ปัญหา " Rénold Germain วัย 26 ปี (ซ้าย)
ขวา: Pélège Aristil วัย 35 ปี อาจจะเลิกขายในปลายปีนี้
เพราะสำเร็จการศึกษาด้านเทววิทยา อาจจะเปลี่ยนอาชีพ
ไปทำหน้าที่เป็นศิษยาภิบาลของพระเยซูที่ได้รับการรับรองในการสอนศาสนา
3.
ซ้าย: Ady Dumé วัย 38 ปีขายยาตามท้องถนน
ผู้ขายบางรายจะมีที่ยืนหรือเป็นซุ้มยาในตลาดท้องถิ่น
หรือเสนอขายยาที่บรรจุไว้ในกระเป๋าเดินทาง
หรือนั่งเสนอขายบนรถโดยสารสาธารณะของ Port-au-Prince เพื่อเพิ่มยอดขาย
ขวา: Aristil Bonord วัย 36 ปี ขายยาบนถนน Port-au-Prince
4.
ซ้าย : Julène Clerger วัย 37 ปี มีลูก 5 คนที่กำลังกินกำลังเรียนที่บ้าน
เธอกำลังคิดว่าจะเลิกขายแล้วไปขายกล้วยและไข่ต้มแทน
Pélège Aristil (ภาพที่ 2 ด้านขวามือ) เป็นสามีของเธอ
ขวา : Berthony Mélord วัย 24 ปี เร่ขายยาด้วยการทูนกระจาดที่ Port-au-Prince
Photo credit: Paolo Woods and Gabriele Galimberti
5.
ชาวเฮติหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท ซึ่งร้านขายยามักจะหายากมาก
คนไข้ต้องรักษาโรคด้วยพืชสมุนไพร ในเมืองคนไข้อาจจะใช้ยาผสมผสานได้
" ที่นี่มีการเปลี่ยนแปลง พวกวัยรุ่นไม่ไว้ใจสมุนไพรใบพืชอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาชอบขี้ผึ้งและยาเม็ดของเรา " RébertFévrier วัย 39 ปี พ่อค้าเร่ขายยาในเมือง
Photo credit: Paolo Woods and Gabriele Galimberti
หมายเหตุ
เรื่อง พรบ.ยาฉบับใหม่นั้น
ถ้าทุกฝ่ายทั้งผู้ที่มีหน้าที่พิจารณาออกกฎหมายและผู้ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย
เข้าใจพื้นฐานเส้นทางเดินของยาก็น่าจะมีปัญหาน้อยลง
แพทย์มีหน้าที่วินิจฉัยอาการแล้วสั่งยาให้คนไข้ตามอาการ
เภสัชกรมีหน้าที่จ่ายยาหรือปรุงยาตามใบสั่งยา
แล้วพิจารณาการสั่งให้ใช้ยานั้นว่า
มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งของการใช้ยาหรือไม่
กำหนดเวลาของการใช้ยา ปริมาณการใช้ยา และวิธีการใช้ยา
และยังมีข้อปฎิบัติอีกหลายขั้นตอนมากมายจนยานั้นถูกจ่ายออกมา
พยาบาลมีหน้าที่ดูแลการให้ยากับคนไข้
ดูแลการใช้ยาตามเวลาที่กำหนด และรายงานสิ่งผิดปกติของคนไข้
ในการใช้ยานั้นถ้ามีกลับย้อนทางขึ้นไปยังแพทย์หรือเภสัชกร
จะเห็นว่าระบบการเดินทางของยานั้น
จะมีการฟีดแบ็กและตรวจสอบย้อนกลับขึ้นไปทุกขั้นตอน
เภสัชกรสามารถทักท้วงไปยังแพทย์ได้
ถ้ามีปัญหาของการสั่งให้ใช้ยานั้น
พยาบาลก็มีสิทธิที่จะรายงานสิ่งผิดปกติของคนไข้ในการใช้ยา
ขึ้นกลับไปยังแพทย์และเภสัชการได้ถ้ามีปัญหา
จะเห็นว่าทุกคนต่างก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบ
เส้นทางเดินของการใช้ยาได้ตลอดเวลา
ถ้าเราเข้าใจพื้นฐานและขอบเขตของคำว่า Dispensary
และเข้าใจขอบเขตหน้าที่ของ สั่งยา จ่ายยา ดูแลการใช้ยา
ของคนทั้งสามอาชีพที่ต้องทำงานประสานงานกันแล้ว
ทั้งคนร่าง พรบ.ยาฉบับใหม่ และคนที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ก็จะมีปัญหาน้อยลง
แต่ที่มันมีปัญหาในเวลานี้ก็
เพราะทั้งคนร่างกฎหมายและคนที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย
ไม่เข้าใจเส้นที่ขีดจำกัดหน้าที่เอาไว้ของทั้งสามอาชีพแล้ว
ทำให้กฎหมายเปิดช่องให้อาชีพใดอาชีพหนึ่ง
ก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตความรับผิดชอบพื้นฐาน
ในการบริหารเส้นทางเดินของการใช้ยาของตัวเอง
Credit :
Pat Hemasuk
เร่ขายยาตามท้องถนน
ไม่จำเป็นต้องเป็นเภสัชกรก็ขายยาทุกชนิดได้
ขอเพียงแค่มีตระกร้าและแผงยาเดินเร่ขายตามท้องถนน
ในยามแสงแดดแผดเผาช่วงกลางวันเพื่อมองหาคนไข้ได้เลย
สำหรับชาวเฮติจำนวนมากแล้ว
ยา คือ สินค้าสามัญทั่วไปเหมือนกับลูกอมหรือร้านขายของชำ
การซื้อยาจากพ่อค้าแม่ค้าที่เดินเร่ขายยาเป็นเรื่องปกติ
และเรื่องจริงก็คือ ร้านขายยาเกิดขึ้นได้ยากมากในประทศเฮติ
พ่อค้าแม่ค้าเดินเร่ขายยาตามท้องถนน คือ
สายธารหลักในการขายยาของชาว Haitians จำนวนมาก
Claudine Jourdain วัย 33 ปีจากทางตอนใต้ของ Haiti
เร่ขายยาบนถนนย่านธุรกิจที่ Port-au-Prince
Photo credit: Paolo Woods and Gabriele Galimberti
ในฐานะพ่อค้าแม่ค้าผู้เร่ขายยาตามท้องถนน
จะต้องทำให้แน่ใจว่าแผงขายยาเต็มไปด้วยสีสันที่น่าสนใจ
มิฉะนั้น จะไม่มีผู้คนสนใจที่จะซื้อยาจากการทูนกระจาดเดินเร่ขายตามท้องถนน
เช่น อาจจะใส่ยา Ampicillin ไว้ข้างยา Tylenol
เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ของยาเม็ดสีชมพูสร้างความแตกต่างกับบรรจุภัณฑ์ยาเม็ดสีฟ้า
พร้อมกับการจัดเรียงเม็ดยาหลากสีสันไว้จำนวนหลายร้อยเม็ด
ให้เป็นกองพูนเหมือนหอคอยขึ้นมาบนถังขนาดเล็ก
โดยต้องคำนึงถึง สีสันดูดีและเข้าด้วยกันได้ด้วย
กรรไกรคู่หนึ่งวางไว้ด้านบนเพื่อใช้ตัดยาที่ลูกค้าต้องการ
บรรดายาเม็ดต่าง ๆ จะจัดเรียงขึ้นรูปทรงด้วยการรัดด้วยแถบยาง
" ร้านขายยาแบบทูนกระจาด
มีการจัดเรียงและวางผลิตภัณฑ์ยาเหมือนศิลปะร่วมสมัย
หรือการแสดงสินค้าแบบร้านขายขนมหวาน "
Paolo Woods และ Gabriele Galimberti
ช่างภาพผู้ทำงานในโครงการเกี่ยวกับการเข้าถึงทางการแพทย์ในกว่าสิบสองประเทศ
ทั้งคู่ต่างให้ความสนใจกับพ่อค้าแม่ค้าคนขายยาทูนกระจาดในใจกลางเมืองหลวง
การเร่ขายยาแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
แต่กฎหมายแทบใช้บังคับไม่ได้เลย
เพราะความอ่อนแอของกระทรวงสาธารณสุขและประชากร
ยิ่งการขาดการกำกับดูแลของรัฐบาลอย่างจริงจัง
ยิ่งทำให้ชีวิตของชาวเฮติยิ่งมีความเสี่ยงในเรื่องยารักษาโรค
ชีวิตสุขภาพและการใช้ยาของชาวบ้านจึงอยู่ในกำมือของผู้ขายยา
พ่อค้าแม่ค้าเร่ขายยาที่ไม่ได้ผ่านการร่ำเรียน
เรื่องคุณและโทษของยาอย่างจริงจัง อย่างเป็นวิชาชีพ
ทั้งยังขายยาได้ทุกประเภทตั้งแต่ ยาทำแท้ง
ไปจนถึงยาเพิ่มสมรรถนะทางเพศ Viagra
ดังนั้น ยาส่วนใหญ่จึงเป็นยาทั่วไปจากประเทศจีน
ยาอื่น ๆ ยาที่หมดอายุแล้วและยาปลอมที่นำเข้ามาจาก Dominican Republic
ชีวิตคนใช้ยาที่นั่นจึงเหมือนกับการเล่นเกมที่อันตรายสูงของรัสเซีย Russian roulette
Russian Roulette เกมมรณะ ที่เดิมพันด้วยชีวิต สาระแทบไม่มี
ผู้ขายยังให้คำแนะนำทางการแพทย์บางอย่างด้วย
เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาสิว
" คนซื้อมักจะไม่มีความลับเวลาพูดคุยกับเรา
พวกเขามักจะบอกเราเกี่ยวกับการติดเชื้อ
การย่อยอาหารและเรื่องทางเพศของพวกเขา
สำหรับแต่ละปัญหา แต่ละครั้ง เรามียาเม็ดรักษาให้ทุกอาการ "
Rénold Germain ผู้ขายยา
Paolo Woods และ Gabriele Galimberti ระบุว่า
" พวกเขาต้องการทำให้ผู้คนตระหนักดีว่า
การเข้าถึงยาที่ได้รับบริจาคจากประเทศที่พัฒนาแล้ว
เป็นเรื่องที่ท้าทายในหลายแห่งมาก "
(เพราะมีการลักลอบนำไปขาย
หรือใช้ประโยชน์แบบไร้เดียงสา)
" ทุกครั้งที่ ผมเห็นคนขายบนถนน ผมรู้สึกเหมือนผมถูกตบหน้า
พวกมันเหมือนกับระเบิดเวลา และเราเกือบไม่มีทางหยุดยั้งพวกมันได้ "
Flaurine Joseph ผู้อำนวยการด้านยาของกระทรวงสาธารณสุขและประชากร
สาเหตุ ที่มันเหมือนระเบิดเเวลา
คือ มีความเป็นไปได้ที่เชื้อโรคจะดื้อยา
ยิ่งทำให้การรักษาพยาบาลยากยิ่งขึ้นในอนาคต
และประเทศเฮติอาจจะกลายเป็นแหล่งต้นกำเนิดเชื้อโรคดื้อยา
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2ouR2O5
https://on.natgeo.com/2C9a6uU
“ ลูกค้าไม่มีความลับกับเรา พวกเขาบอกเราเกี่ยวกับการติดเชื้อ การย่อยอาหาร
เรื่องสมรรถนะทางเพศ ทุกปัญหาเรามียาแก้ปัญหา " Rénold Germain วัย 26 ปี (ซ้าย)
ขวา: Pélège Aristil วัย 35 ปี อาจจะเลิกขายในปลายปีนี้
เพราะสำเร็จการศึกษาด้านเทววิทยา อาจจะเปลี่ยนอาชีพ
ไปทำหน้าที่เป็นศิษยาภิบาลของพระเยซูที่ได้รับการรับรองในการสอนศาสนา
3.
ซ้าย: Ady Dumé วัย 38 ปีขายยาตามท้องถนน
ผู้ขายบางรายจะมีที่ยืนหรือเป็นซุ้มยาในตลาดท้องถิ่น
หรือเสนอขายยาที่บรรจุไว้ในกระเป๋าเดินทาง
หรือนั่งเสนอขายบนรถโดยสารสาธารณะของ Port-au-Prince เพื่อเพิ่มยอดขาย
ขวา: Aristil Bonord วัย 36 ปี ขายยาบนถนน Port-au-Prince
4.
ซ้าย : Julène Clerger วัย 37 ปี มีลูก 5 คนที่กำลังกินกำลังเรียนที่บ้าน
เธอกำลังคิดว่าจะเลิกขายแล้วไปขายกล้วยและไข่ต้มแทน
Pélège Aristil (ภาพที่ 2 ด้านขวามือ) เป็นสามีของเธอ
ขวา : Berthony Mélord วัย 24 ปี เร่ขายยาด้วยการทูนกระจาดที่ Port-au-Prince
Photo credit: Paolo Woods and Gabriele Galimberti
5.
ชาวเฮติหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท ซึ่งร้านขายยามักจะหายากมาก
คนไข้ต้องรักษาโรคด้วยพืชสมุนไพร ในเมืองคนไข้อาจจะใช้ยาผสมผสานได้
" ที่นี่มีการเปลี่ยนแปลง พวกวัยรุ่นไม่ไว้ใจสมุนไพรใบพืชอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาชอบขี้ผึ้งและยาเม็ดของเรา " RébertFévrier วัย 39 ปี พ่อค้าเร่ขายยาในเมือง
Photo credit: Paolo Woods and Gabriele Galimberti
หมายเหตุ
เรื่อง พรบ.ยาฉบับใหม่นั้น
ถ้าทุกฝ่ายทั้งผู้ที่มีหน้าที่พิจารณาออกกฎหมายและผู้ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย
เข้าใจพื้นฐานเส้นทางเดินของยาก็น่าจะมีปัญหาน้อยลง
แพทย์มีหน้าที่วินิจฉัยอาการแล้วสั่งยาให้คนไข้ตามอาการ
เภสัชกรมีหน้าที่จ่ายยาหรือปรุงยาตามใบสั่งยา
แล้วพิจารณาการสั่งให้ใช้ยานั้นว่า
มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งของการใช้ยาหรือไม่
กำหนดเวลาของการใช้ยา ปริมาณการใช้ยา และวิธีการใช้ยา
และยังมีข้อปฎิบัติอีกหลายขั้นตอนมากมายจนยานั้นถูกจ่ายออกมา
พยาบาลมีหน้าที่ดูแลการให้ยากับคนไข้
ดูแลการใช้ยาตามเวลาที่กำหนด และรายงานสิ่งผิดปกติของคนไข้
ในการใช้ยานั้นถ้ามีกลับย้อนทางขึ้นไปยังแพทย์หรือเภสัชกร
จะเห็นว่าระบบการเดินทางของยานั้น
จะมีการฟีดแบ็กและตรวจสอบย้อนกลับขึ้นไปทุกขั้นตอน
เภสัชกรสามารถทักท้วงไปยังแพทย์ได้
ถ้ามีปัญหาของการสั่งให้ใช้ยานั้น
พยาบาลก็มีสิทธิที่จะรายงานสิ่งผิดปกติของคนไข้ในการใช้ยา
ขึ้นกลับไปยังแพทย์และเภสัชการได้ถ้ามีปัญหา
จะเห็นว่าทุกคนต่างก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบ
เส้นทางเดินของการใช้ยาได้ตลอดเวลา
ถ้าเราเข้าใจพื้นฐานและขอบเขตของคำว่า Dispensary
และเข้าใจขอบเขตหน้าที่ของ สั่งยา จ่ายยา ดูแลการใช้ยา
ของคนทั้งสามอาชีพที่ต้องทำงานประสานงานกันแล้ว
ทั้งคนร่าง พรบ.ยาฉบับใหม่ และคนที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ก็จะมีปัญหาน้อยลง
แต่ที่มันมีปัญหาในเวลานี้ก็
เพราะทั้งคนร่างกฎหมายและคนที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย
ไม่เข้าใจเส้นที่ขีดจำกัดหน้าที่เอาไว้ของทั้งสามอาชีพแล้ว
ทำให้กฎหมายเปิดช่องให้อาชีพใดอาชีพหนึ่ง
ก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตความรับผิดชอบพื้นฐาน
ในการบริหารเส้นทางเดินของการใช้ยาของตัวเอง
Credit : Pat Hemasuk