เลห์ - ลาดักห์  ไปเถอะ ., จะได้ตายตาหลับ !!!
อินเดีย  ที่ไม่เหมือน ., อินเดีย
ก่อนอื่นเลย  ., เราต้องเกริ่นก่อน (อยากอ่านมั้ย ., ไม่รู้  แต่กรุอยากเล่า 555)
คือ ทริปนี้เราดูรีวิวคนอื่นมาเยอะมาก
มากจน บอกกับตัวเองว่า ., ฉันต้องไปแก
ไม่รีรอจ้ะ ., รีบบอกเพื่อนที่ชอบเที่ยวบ้าๆบอๆเหมือนกัน
ทั้งหมดที่เรามี  2 คน 555
คนนึงติดไปญี่ปุ่น  ส่วนอีกคน ., ตกลงไป เหมือนเสียงสวรรค์เลยแก
กดจองตั๋วเครื่องบินเลยจ้า เดี๋ยวเปลี่ยนใจ 😂😂



หลังจากนั้นก็ทำงานเก็บเงินค่ะ
พอดี๊ พอดี  ., มีพี่ที่รู้จักเพิ่งกลับมาจาก เลห์ - ลาดักห์  ก็เลยเข้าไปเม้าท์มอย
จริงๆ หลอกถาม !!!! 555 บ้าๆๆ อยากได้ข้อมูล
เจ้ ก็ใจดีมากกก ก.ไก่ล้านตัว ให้ไลน์ไกด์มา
(ชื่อไกด์นะคะ Jigmat Gyalpo)
ไอ่เราก็ตื่นเต้นมั้ก ., ไลน์หาไกด์เลย
คือ จะไปเที่ยวตอนช่วงสงกรานต์ ปี 61 แต่ไลน์หาไกด์ ตอนสิ้นเดือนสิงหา 60
คือ เจ้เค้าว่า ., ไกด์ดี  ดีเว่อร์วังอลังการ
ฉันก็กลัวไกด์จะไม่ว่างอะแก ปรากฏ ., ไกด์ว่าง สบายละกรุ
แต่ปัญหาของการคุยกับไกด์คือ ถามวันนี้ อีก 3 วัน 7 วัน มาตอบ
คือแบบ ., อยู่ดี ดี ก็หายยย ., ไลน์ไม่ตอบ
ชัดเลยยย ฉันทำผิดไรว่ะแก 555
จริงๆมารู้ทีหลังคือ ., สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี ., มีแต่ใช้ไม่ค่อยได้
แล้วแบบไกด์ ., ก็แพลนทริป แพลนค่าเสียหายมาให้เลยจ้า


อีกอย่างที่ต้องทำก็คือ วีซ่า ทำในอินเตอร์เน็ตเนี่ยเลย ทำแบบ e-Tourist Visa
อะนี้เว็บไซต์จ้ะ  https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html
3 วันก็ได้ละ ไวมาก ส่วนตัวอย่างการทำ e -Tourist visa และเอกสารต่างๆที่ต้องเตรียม
ตามลิงค์นี้เลย  https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/  
คือทำไว้ดีมากอัพเดตตลอด
Credit website :  https://goanywhere.co/
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ., เก็บกระเป๋าเตรียมนับวันรอไปเที่ยวเลยจ้ะ


ทริปนี้เราพกอาหารสำเร็จรูปไปด้วยแบบเป็นซองๆ มาม่า ปลากระป๋อง ข้าวสวย
เครื่องปรุง น้ำตาล น้ำปลา น้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาร้า และก็ขนมกรุบกรุบ
พกมาจ้ะ เผื่อเลี่ยน เผื่ออยู่ไม่ได้ลงแดง 555

อีกอย่างที่ห้ามลืม ครีมกันแดด เอามาด้วยนะแก ที่นี่หนาวมาก แต่แดดก็แรงมากเช่นกัน

ส่วนปลั๊กไฟที่อินเดีย เป็นแบบขากลม 3 ขา พก universal ไปสะดวกดี
อันเดียวจบไปได้ทุกโลกจ้ะ

ส่วนค่าเงินที่อินเดียคิดง่ายๆ 100 รูปี เท่ากับ 50 บาทค่ะ เห็นราคาอะไรให้ หาร 2 รอได้เลย  

อ่ออีกอย่าง เวลาที่อินเดียช้ากว่าไทย 1 ชม. 30 นาที นะจ้ะ


หลังจากนั้น ., เราก็แบบตั้งใจจะซื้อ Drone เอาไปบินเที่ยวที่ เลห์ - ลาดักห์
คือ คิดมโนว่า ภาพมันต้องสวยมากแน่ๆแกเอ๊ยยยย
ซื้อค่ะ ., สายอุปกรณ์ ที่แท้ทรู  555
ก็แบบตั้งใจมาก ฝึกบงฝึกบิน โหมดนั้นโหมดนี้  ., บินเก่ง
แล้วก็แบบมีความเอะใจ  ., เอ๊ะ !! กฎหมายการบินอินเดียมีอะไรบ้างน้า
ก็เปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ., ไม่ค่อยมีข้อมูลเลยแก
ฉันก็เลย ., โทรไปถามที่สถานทูตอินเดียเลยจ้า
คำตอบคือ ., ห้ามนำเข้าประเทศ !!!! อ่าวววว เอดอก กรุ ทำไงละ แสสสส 555
ยิ้มแห้งๆ แล้วรอวันเดินทาง --"


Day 1 Bangkok - New Delhi

ถึงวันเดินทาง ., ตื่นตั้งแต่ไก่โห่ พร้อมมากจ้ะ
เราบินสายการบินไทยนะคะ ., อาหารมื้อนี้ขอเสนอ "มังสวิรัติ" จ้า
ก็อ่านรีวิวคนอื่นมาบ้าง ., ว่าไปเลห์เนี่ย ส่วนใหญ่คนที่นั่นเค้ากินมังสวิรัตินะ
ก็เตรียมใจมาระดับนึ่งละ ., แต่ก็คิดว่าจะได้กินอาหารไทยบนเครื่องอยู่นะแก๊ อดจ้ะ

ตอนนี้ยังไม่มีสายการบินไหนที่บินตรงจากไทยไป เลห์ - ลาดักห์ นะคะ
ต้องต่อเครื่องที่ New Delhi  ., ก่อนมาก็จอง โรงแรม เอาแบบใกล้สนามบินมาละ กลัวตอนเช้าจะตกเครื่องค่ะ


พอถึง New Delhi ผ่านตม. และรับกระเป๋าเรียบร้อย
ก็เดินออกมาด้านนอก ., ลมปะทะหน้า ., แดดปะทะผิว  
เอดอก !!! ร้อนกว่าบ้านกรุอีกกก  ., กรุมาทำไรเนี่ย 555


เราให้ โรงแรม ที่เราพัก เอารถมารับค่ะ ., อันนี้ โดนเรียกเก็บตังไป 500 รูปี สบาย สวยละรวยมาก
ออกจากสนามบินปุ๊ปถึงโรงแรมเลย เอดอกกก
อ่านรีวิวคนอื่นคือ อินเดีย ., น่ากลัวมาก แกในความรู้สึกฉัน
คุยกับเพื่อนละ ., ว่าเราจะไม่ออกไปไหน  "นอนค่ะ"  แล้วก็สั่งอาหารที่โรงแรมกิน รสชาติ โอเคแก๊



หลับไปหนึ่งตื่น ., ตกเย็น  เพื่อน ., นางก็มีความคิดแบบ
"เมิงไหนๆ เราก็มาถึง New Delhi ละ ลองออกไปดูข้างนอกหน่อยมะ ., อาจจะดีก็ได้นะเว่ย"
นี่ก็ใจง่ายไง ., ไปดิ ออกจาก โรงแรม เรียก Uber เลยจ้า ชมเมืองชิคๆ


ความรู้สึกตอนนั่งแท๊กซี่แบบคิดตลอด., กรุจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่มั้ยว่ะ  
เมิงจะขับเบียดกันไรขนาดนี้ ., ห่าเอ๊ยย ถนนมี 4 เลน เมิงขับ 8 เลน
นี้ถ้ากรุกินหมูปิ้งอยู่ ., กรุสามารถเปิดกระจกแล้วป้อนรถคันข้างๆ กรุได้ด้วย แสสสส
แล้วคือเมิงจะบีบแตรอะไรเยอะแยะ ., บีบเล่นหรือไงหรือใครบีบก่อนคนนั้นชนะ  
อิดอก !!!


สรุปกลับมาซื้อของกินที่เซเว่นแก๊ ., นี่ไงเซเว่นน 5555



Day 2  New Delhi - Leh Ladakh

ตื่นเช้า ออกจาก  7:15 ไปถึงสนามบิน 7:30 ทำเวลาเก่งงงง
เราขึ้นเครื่องสายการบิน Go Air เวลา 9:25 กะว่าไปถึงสนามบินนั่งรอ สวย สวย ค่ะ
คือใน e-mail บอกเราว่า terminal 1D
ก็ด้วยความมั่นหน้า มั่นนม ., บอกแท๊กซี่ละเดินลงรถมา


ปรากฎมีเจ้าหน้าที่เดินมาถามว่าไปสายการบินอะไร  ., เราก็บอกนางไป Go Air
นางบอกว่า ., ไม่ช่าย terminal นี้ ต้องไป terminal 2
อ่าววววว เอดอกก ละไงหละ
นางกวักมือเรียกแท๊กซี่แถวๆนั้นให้เรา ., แท๊กซี่บอก 600 รูปี  ผีหลอก !! บ้าไปแล้ว
คือในใจก็คิดไปแล้วว่า ., คนนี้ใช่เจ้าหน้าที่สนามบินป่าวเนี่ย
ด้วยความไม่เชื่อใจใคร อ่านรีวิวมาเยอะ 555


แต่แล้วเดชะบุญ ., เราก็หันไปเห็นป้าย Bus transfers
เลยบอกเพื่อนว่า ., "ไปเมิง ไป Bus เวลาเราเหลือเฟือ"
ยิ้มอ่อน คิดในใจ หึหึ ., ไม่ได้แอ้มฉันหรอกกกกก


ลากกระเป๋าไปรอรถบัสค่ะคุณ ลงลิฟท์ไปชั้น 1 ค่ะ
รอประมาณ 5 นาที รถบัสคันสีเขียวๆ ก็วิ่งมา  ., คนขึ้นเยอะมาก
จ่ายตังค่ารถบัสไปคนละ 30 รูปี  ., เอดอก !!!! 15 บาท
แต่คือ จาก terminal 1D ไป terminal 2 คือไกลมากกกกกกแก๊
เหมือนนั่งสาย 8  ., จากแฮปปี้แลนด์ไปสะพานพุทธ 555
คือไปถึง terminal 2 เวลาเริ่มเหลือไม่เยอะละ ., ทีนี้ละใจเต้นรัวเลยค่า
แต่เราก็ผ่านพิธีกรรมต่างๆมาได้แบบเฉียดฉิวมาก
ขึ้นเครื่องได้แล้ว ., ก็ไลน์บอกไกด์สะหน่อย
ว่าฉันขึ้นเครื่องละนะ  ., อย่าลืมมารับฉันนะเธอ


คืออ่านรีวิวคนอื่นมาเค้าบอก ., ขาไป Leh ให้เลือกที่นั่งฝั่งซ้ายติดหน้าต่างแถวหน้าๆ
ก็ท่องมาอย่างดี ., ที่นั่งฝั่งซ้าย ที่นั่งฝั่งซ้าย ., นี้ก็เพิ่งนึกได้ตอนอยู่บนเครื่องละ 555
สรุปได้ที่นั่งฝั่งขวาติดหน้าต่าง ., แล้วเราก็เผลอหลับไป


ตื่นอีกทีได้ยินเสียง วู้ ว้าวว ., ลืมตามา โอ้โห !!! แม่เจ้าโว้ยยย ฝั่งขวาก็สวยค่าาาา
น้ำตาจะไหล คือ ดีงามมาก ไม่ใช่อะไรนะ
คือมันเหมือน ., บิงซูช็อกโกแลตอันใหญ่ๆโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง
โอ้ยยย ., เอาช้อนมาตักกินได้มั้ย 555



ถึง Leh ละจ้า สนามบินก็เล็กๆน่ารัก พอลงเครื่องมารอรับกระเป๋า
เค้าก็จะมีประกาศเตือนให้ระวัง altitude sickness ซึ่งเรากะเพื่อน กิน Diamox มาแล้น
รับกระเป๋าเรียบร้อย เขียนใบตม.เสร็จ ทีนี้เราก็มาลุ้นกัน ., ว่าไกด์เราจะมารับมั้ย
นางมาจ้า ., ดีใจยิ่งกว่า หัวหน้า Approve วันลาให้อีกแก 555



ไกด์เราชื่อ Jigmat Gyalpo  อ่านว่า จิกแมท แกวละโป
เอดอกกก ยากกะกรุจัง ขอชื่อเล่นได้มะ นางชื่อเล่น กิ่ง ค่ะ  
โถบอกกรุแต่แรกก็จบละ  😂😂
นางพาไปส่งที่โรงแรมแล้วก็อธิบายทริปทั้งหมดให้เรากับเพื่อนฟัง
ไกด์เราภาษาอังกฤษเริ่ด สุภาพ แต่งตัวดี และอีกอย่างหน้าตาไม่เหมือนคนอินเดียเลยค่ะ

เราพักที่ Padma guesthouse & hotel คือ โรงแรมนี้ไกด์เป็นคนจองให้
แทบจะทุกกรุ๊ปส่วนใหญ่เป็นคนไทยค่ะ


ที่นี้มี wifi นะคะ ., แต่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง  แล้วแต่บุญวาสนาค่ะ 555
และที่สำคัญ ., กิ่งก็ย้ำกับเราว่าให้นอนพัก นอนเยอะๆ นอนยาวๆไปเลย
ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็ห้ามอาบน้ำด้วย .,นี่จริงๆตั้งใจจะอาบน้ำสะหน่อย
ไม่อาบก็ได้เดี๋ยวไกด์จะหาว่าเตือนละไม่ฟัง 555
วันแรกยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนค่ะ ., ก็ลองต่อ wifi ละไลน์บอกญาตโยมที่รอฟังข่าวอยู่ทางบ้าน แล้วก็หลับยาวเลยค่ะ



Day 3 Shey Palace - Thiksay Monastery - Hemis Monastery

ตื่นแต่เช้าด้วยความสดชื่น ., ก็นอนมาเยอะ เกิน 15 ชม.แน่นอนค่ะ
โรงแรมมีอาหารเช้าบริการนะคะ ., เดินขึ้นบันไดมาชั้น 3 ได้เลยค่ะ
เอดอกก บอกเลยแค่เดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้น กรุเหนื่อยละ โถชีวิต นี้กรุจะรอดมั้ย
วิวทานอาหารเช้า ., ดี๊ดีค่ะ  อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ



ที่แรกที่เราไป คือ Shey palace ค่ะ เป็นพระราชวังโบราณ
ขับรถออกจากเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร พอถึงต้องจอดรถด้านล่างและเดินขึ้นไปค่ะ
มองด้วยตาเปล่าเดินขึ้นได้สบายๆค่ะ แต่พอเดินจริงๆสูงขึ้นเรื่อยๆ



รู้สึกเหนื่อยมาก ., แบบขึ้นบันได 3 ขั้น เหนื่อยเหมือนวิ่ง 4x100 มาเลย บ้าจริง 555
ขอนั่งพักแพพ ., แนะนำให้พกน้ำเปล่ามาด้วยสักขวดนะแก
คือฉันไม่ได้พกไง บังเอิญเจอพี่สาวคนไทยใจดีคนนึ่งเดินลงมา นางคงเห็นความหอบลิ้นห้อยของฉัน
นางยื่นน้ำเปล่ามาให้ ละบอกว่า ดื่มสิ แต่พี่ไม่ให้นะ 555 หวงไปอีก


และด้วยความมานะ ฉันก็ขึ้นไปถึงจุดบนสุดค่ะ และฉันก็เจอกิ่ง นางวิดพื้นอยู่
เอดอกก เอาดอกไม้ธูปเทียนมาปาใส่กรุเถอะ ถ้าเมิงจะวิดพื้นขนาดเนี่ย แล้ววิดเสร็จนางยิ้มเบาๆ หึหึ