สวัสดีครับพี่ๆทุกท่านที่สนใจในการลงทุน
ทุกวันนี้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้นั้น ถือว่าน้อยเกินไปสำหรับเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
หลายท่านจึงเคยได้ยินการลงทุนในตลาดหุ้นมาบ้าง ว่าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า (แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่า)
บางคนก็สร้างฐานะรวยมาจากตลาดหุ้น ตัวเราก็อยากจะลองเริ่มต้นลงทุนดูบ้าง เผื่อสำเร็จเหมือนเขา แต่ก็อาจจะไม่ทราบว่าควรเริ่มต้นอย่างไร
ผมขออนุญาตเล่ารายละเอียด ข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงข้อคิดเห็นส่วนตัว สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนในตลาดหุ้น อย่างสั้นๆ
หากผิดพลาดประการใด ชี้แนะด้วยครับ
ตลาดหลักทรัพย์(เรียกกันสั้นๆว่าตลาดหุ้น) เป็นแหล่งรวบรวมบริษัทที่ผ่านการระดมทุนเข้ามา โดยการขายหุ้นของบริษัทแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อนำเงินไปต่อยอดเป้าหมายของบริษัท ให้เติบโตยิ่งขึ้น
*ประชาชนที่สนใจซื้อหุ้นบริษัทนั้นๆ แม้เพียง 1 หุ้น ก็ถือว่าเป็นเจ้าของบริษัทนั้นเช่นกัน ดูเท่ไปเลยนะครับ*
ปัจจุบันมีบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย ทั้งหมด 692 บริษัท ไม่รวมสินค้าอื่นๆ นะครับ
ต่อไปจะเล่าถึงขั้นตอนการเข้าสู่การเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น ดังนี้
- เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น
ช่องทางการเปิดบัญชีในปัจจุบัน เรียกได้ว่าสะดวก และรวดเร็วเป็นอย่างมาก การเปิดบัญชีหุ้นนั้น เราจะต้องเปิดกับโบรกเกอร์ ซึ่งจะมีมาร์เก็ตติ้ง คอยประสานงานให้ แต่บาง Broker ก็ไม่มีมาร์เก็ตติ้งนะครับ
โดยหลักๆ มีสามวิธี ในการเปิดบัญชี
1.ติดต่อผ่านธนาคาร (วิธีนี้ค่อนข้างช้า เพราะต้องรอทางธนาคารส่งข้อมูลไปให้ Broker อีกที)
2.ติดต่อกรอกข้อมูลทางออนไลน์ ผ่านทางWebsite โบรกเกอร์นั้นๆ (วิธีนี้สะดวก ประหยัดและรวดเร็วมากครับ)
3.Walk in ไปที่โบรกเกอร์เลยครับ (คนที่จะใช้วิธีนี้ต้องเงินหนาๆหน่อยนะ ไม่งั้นมีเขินกันบ้าง555)
ต่อไปจะเป็นข้อมูล Broker ทั้งหมดในไทย อัตราค่าคอมมิชชั่น การเปิดบัญชีจำนวนเงินขั้นต่ำ สามารถดูได้จากลิ้งค์นี้นะครับ
http://www.investorz.com/broker
คำถามที่หลายท่านอาจจะสงสัย การเปิดบัญชีหุ้นนั้น ต้องใส่เงินเข้าไปในบัญชีเลยหรือไม่
-คำตอบ คือ ไม่จำเป็นครับ ถ้าอยากเทรดเมื่อไหร่ ก็ค่อยใส่เงินเข้าไปทีหลังได้ครับ แต่ละBroker ก็จะมีจำนวนเงินขั้นต่ำแตกต่างกันไป
คำถามต่อมา ค่าคอมมิชชั่นมีหลายเรท แตกต่างกันอย่างไร
-ปัจจุบันการซื้อขายหุ้น เราสามารถซื้อขายทาง Online ซึ่งอัตราค่าคอมมิชชั่นจะถูกกว่า อีกหนึ่งวิธีก็คือ ท่านสามารถโทรสั่งมาร์เก็ตติ้งของเราให้ทำการซื้อขายตาม order ที่เราต้องการได้ วิธีนี้ค่าคอมมิชชั่นจะสูงกว่าวิธีแรกครับ
เกร็ดข้อมูล >>>Broker Sbito มีค่าคอมมิชชั่นที่ถูกที่สุดในปัจจุบัน แต่ไม่มี Marketing ส่วนตัวให้นะครับ
เมื่อหลายๆท่าน เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงสงสัยว่า ควรเริ่มต้นใส่เงินเข้าไปเท่าไหร่ก่อนดี?
- คำแนะนำสำหรับผมนะครับ สำหรับท่านที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมาบ้างแล้ว ลองทำการซื้อขายผ่าน click2win เพื่อให้รู้ถึงขั้นตอนการใช้ Streaming (เป็นแอพสำหรับใช้ในการซื้อขายหุ้น) เมื่อท่านทราบวิธีการใช้งานแล้ว ผมแนะนำว่าควรวางเงินจริงใส่ไปในบัญชี แต่ต้องเป็นจำนวนน้อยๆ เพื่อให้ท่านได้รับความรู้จากตลาดหุ้นอย่างเต็มที่ (โดยที่เงินจำนวนนี้ หากเสียไป ท่านต้องไม่เสียดายนะครับ)
*จำนวนเงินเริ่มต้นที่แนะนำ 30000-50000 บาท
การเข้าตลาดหุ้นช่วงแรก แทบละ 99% จะเสียค่าวิชาให้ตลาดหุ้นทั้งนั้น ท่านที่กลัวว่าจะเสียเงิน ก็จงคิดไว้ว่า คนอื่นก็เป็นเหมือนเรา แต่หากท่านไม่หยุดพัฒนาหาความรู้ ฝึกการควบคุมจิตใจ สุดท้ายท่านก็จะประสบความสำเร็จจากตลาดได้ครับ
คุณสมบัติที่นักลงทุนควรมี
1.Mindset ที่ถูกต้อง
2.การหมั่นหาความรู้อยู่ตลอดเวลา
3.ช่างสังเกต
4.ควบคุมความโลภและอารมณ์ต่างๆได้
5.รู้จักอดทน
*การหาเงินจากตลาดหุ้นนั้นไม่ง่าย หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคนที่อยู่ในวงการนี้มานานกล่าวถึง แต่หากท่านไม่หยุดพัฒนา ไม่ท้อถอย ท่านจะทราบว่า
การหาเงินที่ง่ายที่สุดก็มาจากตลาดหุ้นนี่แหละครับ
อยากลงทุนในหุ้น ควรทำอย่างไร (สำหรับมือใหม่)
ทุกวันนี้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้นั้น ถือว่าน้อยเกินไปสำหรับเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
หลายท่านจึงเคยได้ยินการลงทุนในตลาดหุ้นมาบ้าง ว่าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า (แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่า)
บางคนก็สร้างฐานะรวยมาจากตลาดหุ้น ตัวเราก็อยากจะลองเริ่มต้นลงทุนดูบ้าง เผื่อสำเร็จเหมือนเขา แต่ก็อาจจะไม่ทราบว่าควรเริ่มต้นอย่างไร
ผมขออนุญาตเล่ารายละเอียด ข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงข้อคิดเห็นส่วนตัว สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนในตลาดหุ้น อย่างสั้นๆ
หากผิดพลาดประการใด ชี้แนะด้วยครับ
ตลาดหลักทรัพย์(เรียกกันสั้นๆว่าตลาดหุ้น) เป็นแหล่งรวบรวมบริษัทที่ผ่านการระดมทุนเข้ามา โดยการขายหุ้นของบริษัทแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อนำเงินไปต่อยอดเป้าหมายของบริษัท ให้เติบโตยิ่งขึ้น
*ประชาชนที่สนใจซื้อหุ้นบริษัทนั้นๆ แม้เพียง 1 หุ้น ก็ถือว่าเป็นเจ้าของบริษัทนั้นเช่นกัน ดูเท่ไปเลยนะครับ*
ปัจจุบันมีบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย ทั้งหมด 692 บริษัท ไม่รวมสินค้าอื่นๆ นะครับ
ต่อไปจะเล่าถึงขั้นตอนการเข้าสู่การเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น ดังนี้
- เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น
ช่องทางการเปิดบัญชีในปัจจุบัน เรียกได้ว่าสะดวก และรวดเร็วเป็นอย่างมาก การเปิดบัญชีหุ้นนั้น เราจะต้องเปิดกับโบรกเกอร์ ซึ่งจะมีมาร์เก็ตติ้ง คอยประสานงานให้ แต่บาง Broker ก็ไม่มีมาร์เก็ตติ้งนะครับ
โดยหลักๆ มีสามวิธี ในการเปิดบัญชี
1.ติดต่อผ่านธนาคาร (วิธีนี้ค่อนข้างช้า เพราะต้องรอทางธนาคารส่งข้อมูลไปให้ Broker อีกที)
2.ติดต่อกรอกข้อมูลทางออนไลน์ ผ่านทางWebsite โบรกเกอร์นั้นๆ (วิธีนี้สะดวก ประหยัดและรวดเร็วมากครับ)
3.Walk in ไปที่โบรกเกอร์เลยครับ (คนที่จะใช้วิธีนี้ต้องเงินหนาๆหน่อยนะ ไม่งั้นมีเขินกันบ้าง555)
ต่อไปจะเป็นข้อมูล Broker ทั้งหมดในไทย อัตราค่าคอมมิชชั่น การเปิดบัญชีจำนวนเงินขั้นต่ำ สามารถดูได้จากลิ้งค์นี้นะครับ
http://www.investorz.com/broker
คำถามที่หลายท่านอาจจะสงสัย การเปิดบัญชีหุ้นนั้น ต้องใส่เงินเข้าไปในบัญชีเลยหรือไม่
-คำตอบ คือ ไม่จำเป็นครับ ถ้าอยากเทรดเมื่อไหร่ ก็ค่อยใส่เงินเข้าไปทีหลังได้ครับ แต่ละBroker ก็จะมีจำนวนเงินขั้นต่ำแตกต่างกันไป
คำถามต่อมา ค่าคอมมิชชั่นมีหลายเรท แตกต่างกันอย่างไร
-ปัจจุบันการซื้อขายหุ้น เราสามารถซื้อขายทาง Online ซึ่งอัตราค่าคอมมิชชั่นจะถูกกว่า อีกหนึ่งวิธีก็คือ ท่านสามารถโทรสั่งมาร์เก็ตติ้งของเราให้ทำการซื้อขายตาม order ที่เราต้องการได้ วิธีนี้ค่าคอมมิชชั่นจะสูงกว่าวิธีแรกครับ
เกร็ดข้อมูล >>>Broker Sbito มีค่าคอมมิชชั่นที่ถูกที่สุดในปัจจุบัน แต่ไม่มี Marketing ส่วนตัวให้นะครับ
เมื่อหลายๆท่าน เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงสงสัยว่า ควรเริ่มต้นใส่เงินเข้าไปเท่าไหร่ก่อนดี?
- คำแนะนำสำหรับผมนะครับ สำหรับท่านที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมาบ้างแล้ว ลองทำการซื้อขายผ่าน click2win เพื่อให้รู้ถึงขั้นตอนการใช้ Streaming (เป็นแอพสำหรับใช้ในการซื้อขายหุ้น) เมื่อท่านทราบวิธีการใช้งานแล้ว ผมแนะนำว่าควรวางเงินจริงใส่ไปในบัญชี แต่ต้องเป็นจำนวนน้อยๆ เพื่อให้ท่านได้รับความรู้จากตลาดหุ้นอย่างเต็มที่ (โดยที่เงินจำนวนนี้ หากเสียไป ท่านต้องไม่เสียดายนะครับ)
*จำนวนเงินเริ่มต้นที่แนะนำ 30000-50000 บาท
การเข้าตลาดหุ้นช่วงแรก แทบละ 99% จะเสียค่าวิชาให้ตลาดหุ้นทั้งนั้น ท่านที่กลัวว่าจะเสียเงิน ก็จงคิดไว้ว่า คนอื่นก็เป็นเหมือนเรา แต่หากท่านไม่หยุดพัฒนาหาความรู้ ฝึกการควบคุมจิตใจ สุดท้ายท่านก็จะประสบความสำเร็จจากตลาดได้ครับ
คุณสมบัติที่นักลงทุนควรมี
1.Mindset ที่ถูกต้อง
2.การหมั่นหาความรู้อยู่ตลอดเวลา
3.ช่างสังเกต
4.ควบคุมความโลภและอารมณ์ต่างๆได้
5.รู้จักอดทน
*การหาเงินจากตลาดหุ้นนั้นไม่ง่าย หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคนที่อยู่ในวงการนี้มานานกล่าวถึง แต่หากท่านไม่หยุดพัฒนา ไม่ท้อถอย ท่านจะทราบว่า
การหาเงินที่ง่ายที่สุดก็มาจากตลาดหุ้นนี่แหละครับ