ตอกฝาโลงยิ่งลักษณ์! ผู้ว่าฯสตง.กางข้อมูลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว

กระทู้สนทนา

ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนกรณีรายงานการเงินแผ่นดิน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 และ 2557 ซึ่งตรวจสอบรับรองโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้ว ไม่ปรากฏผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 จำนวน 536,908.30 ล้านบาท ทั้งที่ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีแดงที่ อม.211/2560 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 หรือคดีโครงการรับจำนำข้าว ได้ระบุถึงผลขาดทุนจำนวน 536,908.30 ล้านบาท ไว้ด้วย จึงมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า หากผลขาดทุนดังกล่าวมีจริงก็ควรปรากฏอยู่ในรายงานการเงินแผ่นดิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 ด้วยเช่นกันนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.61 นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงว่า เนื่องจากกรณีนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องทางเทคนิค การที่ปรากฏข่าวในลักษณะดังกล่าวอาจทำให้บุคคลทั่วไปมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้น สตง.ในฐานะที่เป็นองค์กรตรวจสอบจึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องใน 2 ประเด็นหลักๆ ดังนี้

ประเด็นแรกเป็นเรื่องของหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดทำรายงานการเงินแผ่นดิน รายงานการเงินของแผ่นดินประจำปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2548 จนถึงปัจจุบัน จัดทำตามหลักเกณฑ์คงค้างแบบผสม (Modified Accrual Basis) ที่กระทรวงการคลังกำหนดขึ้น ซึ่งได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบการปรับเปลี่ยนการจัดทำรายงานการเงินแผ่นดินประจำปีดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 โดยปรากฏรายละเอียดดังนี้


"จากแผนภาพข้างต้นจะเห็นได้ว่า รายงานการเงินแผ่นดินเป็นข้อมูลทางการเงินที่แสดงเฉพาะภาพรวมของรายการที่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐนำส่งและขอเบิกเงินจากคลังตามระบบงบประมาณ ปรับปรุงด้วยข้อมูลที่มีสาระสำคัญเฉพาะสินทรัพย์และหนี้สินของรัฐบาลจากส่วนราชการที่ทำหน้าที่บริหารจัดการแทนรัฐบาล ได้แก่ ข้อมูลที่ดินราชพัสดุจากกรมธนารักษ์ ข้อมูลเงินลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และข้อมูลหนี้สาธารณะจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โดยมิได้บันทึกบัญชีและแยกแสดงรายการและเปิดเผยข้อมูลในรายงานการเงินแผ่นดินเป็นรายโครงการ"

ประเด็นที่สองเป็นเรื่องข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในรายงานการเงินแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เพื่อดำเนินการปิดบัญชีโครงการดังกล่าว หลังจากครบกำหนดไถ่ถอนและ/หรือสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ และให้มีการปิดบัญชีเป็นปีๆ ไป โดยให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี

ต่อมา ในวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกได้ใช้เงินทุนหมุนเวียนจาก 2 แหล่ง ได้แก่ เงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และเงินกู้จากสถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังจัดหาและค้ำประกัน โดยให้มีการนำเงินที่ได้จากการระบายผลผลิตทางการเกษตรชำระคืนเงินทุน ธกส.ให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน

กรณีมีความจำเป็นให้ ธกส. สำรองจ่ายไปก่อนระหว่างรอเงินจากการระบายผลผลิตหรือเงินจากแหล่งอื่นๆ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ตกลงกับ ธกส.เป็นคราวๆ ไป โดย ธกส.จะได้รับอัตราชดเชยต้นทุนเงินและค่าบริหารโครงการ

ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับภาระชำระคืนต้นเงิน ดอกเบี้ย จากการกู้ยืมเงิน ค่าใช้จ่ายต่างๆ และผลขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ทั้งในส่วนที่กระทรวงการคลังจัดหาให้และส่วนที่ใช้เงินทุนของ ธกส.และให้ ธกส.แยกการดำเนินงานโครงการออกจากการดำเนินงานปกติเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ และบันทึกเป็นภาระผูกพันนอกงบประมาณ เพื่อทราบผลกระทบจากการดำเนินโครงการและขอชดเชยความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

"โครงการรับจำนำข้าวเปลือก เป็นโครงการที่ใช้เงินทุนของ ธกส.และเงินกู้จากสถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังจัดหาและค้ำประกัน โดยกระทรวงการคลังรับภาระในการนำเงินงบประมาณชดใช้คืนต้นเงิน ดอกเบี้ย จากการกู้ยืมเงิน ค่าใช้จ่ายต่างๆ และผลขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เป็นรายปี โดย ธกส.จัดทำเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ และบันทึกเป็นภาระผูกพันนอกงบประมาณ สำหรับข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกถือเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ในการดำเนินการปิดบัญชีโครงการดังกล่าว หลังจากครบกำหนดไถ่ถอนและ/หรือสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ และให้มีการปิดบัญชีเป็นปีๆ ไป"

ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า สำหรับในกรณีของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น รายงานการเงินแผ่นดินได้บันทึกรับรู้รายการเฉพาะการจ่ายเงินงบประมาณชดใช้คืนเงินทุนและเงินกู้ให้ ธกส.และชดใช้ค่าบริหารจัดการอื่นๆ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายจากงบประมาณในปีที่ ธกส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับการจัดสรรงบประมาณและเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว

สำหรับเงินกู้จากสถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังจัดหาและค้ำประกัน กระทรวงการคลังได้เปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบรายงานการเงินแผ่นดิน หัวข้อ หนี้สาธารณะ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)
http://www.naewna.com/politic/360413

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่