ยิ่งทักษิณสั่งสู้...ยิ่งเกิดคำถามว่า...ใครสู้....และสู้เพื่อใคร เพราะ "ทักษิณ" นั้นทิ้งมวลชนไป....โอ่อวดชีวิตหรูหรา-ฟู้ฟ่าต่างแดนตั้งนานแล้ว แถมช่วงหลังยังหนีบ "หนูปู-ยิ่งลักษณ์" นายกฯ หญิงนอมินีผู้น้องสาวไปโชว์หรู (แต่อาจไม่สุขใจ) ยังดินแดนต่าง ๆ หลายประเทศด้วยกัน ขณะปล่อยให้ลิ่วล้อที่เป็นมือไม้ทำงานให้อย่าง "นายบุญทรง เติริยาภรมย์" และ "นายภูมิ สาระผล" นอนคุกคนละ 40 - 50 ปี...นั่นยิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่...คนจะออกสู้แทน....ต้องคิดให้หนัก
....ไม่นับ..."คนเสื้อแดง" ปลาย ๆ แถวที่ถูก "กรอกหูว่า ทักษิณคือประชาธิปไตย" และฮือเข้าเผาศาลากลางจังหวัดหลายแห่งที่อีสาน รวมทั้งจับอาวุธเข้าทำร้าย...ผู้เห็นต่างทางการเมืองกับทักษิณ...เมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้หลายคนยังนอนคุกอยู่เลย...อย่าว่าแต่มีอีกบางคนที่ตายคาห้องขัง...ทิ้งครอบครัวที่ค่อนข้างลำบาก และไม่เคยมี...แกนนำแดงคนไหนไปเหลียวแลไว้เบื้องหลัง
แม้แต่ "รศ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์" อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาจารย์สายแดง และเห็นดีเห็นงามกับฝ่ายทักษิณมาโดยตลอด ยังเคยออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึง กรณีเสื้อแดงซึ่งต่อสู้เพื่อทักษิณอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่สุดท้ายก็อยู่ในภาวะจนตรอกใกล้ล่มสลาย เพราะแท้จริง "คนเสื้อแดง" เป็นแค่ "เบี้ยของทักษิณ" มาแต่ไหนแต่ไร และเขาพร้อมจะเอาไปต่อรองเกี๊ยเซียะเพื่อผลประโยชน์ตัวเขาเอง และเมื่อหมดประโยชน์แล้วก็พร้อมจะโยนทิ้ง โดย "พิชิต" ถึงกับระบุว่า ช่วงหลัง ๆ นั้น ทักษิณเข้าขั้น “ห่วยแตกและทรยศต่อประชาชน” ทีเดียว...คราวนี้คำถามจึงวนกลับไปยังจุดตั้งต้นว่า...ที่ทักษิณสั่งสู้นั้น...ใครสู้....และสู้เพื่อใคร??
โดยข้อเขียนของ "รศ.พิชิต" ต่อกรณีนี้ เขียนขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน 2560 หรือเมื่อกว่า 1 ปีก่อน โดยรายละเอียดทั้งหมดที่อาจารย์จากธรรมศาสตร์ ระบุเอาไว้ คือ
หลายคนเชื่อว่า ความล่มสลายของขบวนเสื้อแดงเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามมีกำลังเข้มแข็งกว่าอย่างเทียบไม่ได้ ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ไม่ทั้งหมด สาเหตุสำคัญอีกข้อที่ทำให้ขบวนเสื้อแดงพ่ายแพ้คือ การไม่ยอมสรุปบทเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทเรียนเกี่ยวกับทักษิณ
ทักษิณมีฝีมือบริหารอย่างมาก สร้างปย.แก่ปชช.ไว้หลายเรื่อง แต่หลังรปห.49 ถึงปัจจุบัน ทักษิณเข้าขั้น "ห่วยแตกและทรยศต่อปชช." คือ ใช้ปย.จากมวลชนที่สู้จนติดคุกบาดเจ็บล้มตายหลายพันคนเมื่อปี 53 เอาพลังมวลชนไปกดดันให้อีกฝ่ายจำยอมเกี้ยเซี้ย โดยนึกไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะใช้กำลังฆ่าปชช.ตายเป็นเบือ (ก็เพราะนึกไม่ถึง แกจึงได้กล้าพูดว่า "ถ้าเมื่อไหร่เสียงปืนแตก ทหารยิงปชช. ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯทันที!")
แต่พอแพ้ปี 53 ทักษิณก็กลับลำ จากเอามวลชนไปกดดัน ก็เปลี่ยนเป็นเอามวลชนไปขาย แลกกับการเกี้ยเซี้ยจากอีกฝ่าย ประกาศสลายขบวนคนเสื้อแดงกลางราชประสงค์เมื่อ พ.ค.55 ("พี่น้องไม่ต้องแบกเรือมาขึ้นบกตามผม") ไปแลกกับการประนีประนอมจากฝ่ายนั้นในรูป พรบ.ปรองดอง ครั้งที่หนึ่ง ซึ่งล้มเหลว
แต่ก็พยายามอีกครั้งด้วยพรบ.ปรองดองฉบับลักหลับปี 56 ก่อให้เกิดความแตกแยกรุนแรงภายในขบวนคนเสื้อแดง ก็เพื่อแลกกับการเกี้ยเซี้ยจากฝ่ายนั้นอีกครั้ง พอเกิดกปปส. ก็ระดมคนเสื้อแดงซึ่งกำลังแตกแยกออกมาปกป้องรบ.ยี่งลักษณ์อีก แต่ไม่คิดจะปกป้องคนเสื้อแดงเหล่านั้น จนมีคนบาดเจ็บและตายเพิ่มอีกที่สนามกีฬาราชมังคลา สำหรับทักษิณ มวลชนเสื้อแดงก็เป็นเพียง "เบี้ยในมือ" เอาไว้บลัฟ เอาไว้ต่อรองกับอีกฝ่าย และถ้าได้ "ดีล" เหมาะ ๆ มีสิ่งแลกที่คุ้มค่า ก็พร้อมที่จะ "โยนไปแลก" เหมือนกับวิธีต่อรองทางธุรกิจนั่นแหละ
แทงกิ้วทีทามศิษย์หัวซานTnews
มีใครอยากตายแทนอีกมั้ย! อยากสู้ตามทักษิณสั่งอาจต้องสำเหนียก เหตุพิชิต-แดงมหาลัย เคยขอดเกล็ดนายใหญ่เห็นมวลชนเป็นแค่เบี้ย
ยิ่งทักษิณสั่งสู้...ยิ่งเกิดคำถามว่า...ใครสู้....และสู้เพื่อใคร เพราะ "ทักษิณ" นั้นทิ้งมวลชนไป....โอ่อวดชีวิตหรูหรา-ฟู้ฟ่าต่างแดนตั้งนานแล้ว แถมช่วงหลังยังหนีบ "หนูปู-ยิ่งลักษณ์" นายกฯ หญิงนอมินีผู้น้องสาวไปโชว์หรู (แต่อาจไม่สุขใจ) ยังดินแดนต่าง ๆ หลายประเทศด้วยกัน ขณะปล่อยให้ลิ่วล้อที่เป็นมือไม้ทำงานให้อย่าง "นายบุญทรง เติริยาภรมย์" และ "นายภูมิ สาระผล" นอนคุกคนละ 40 - 50 ปี...นั่นยิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่...คนจะออกสู้แทน....ต้องคิดให้หนัก
....ไม่นับ..."คนเสื้อแดง" ปลาย ๆ แถวที่ถูก "กรอกหูว่า ทักษิณคือประชาธิปไตย" และฮือเข้าเผาศาลากลางจังหวัดหลายแห่งที่อีสาน รวมทั้งจับอาวุธเข้าทำร้าย...ผู้เห็นต่างทางการเมืองกับทักษิณ...เมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้หลายคนยังนอนคุกอยู่เลย...อย่าว่าแต่มีอีกบางคนที่ตายคาห้องขัง...ทิ้งครอบครัวที่ค่อนข้างลำบาก และไม่เคยมี...แกนนำแดงคนไหนไปเหลียวแลไว้เบื้องหลัง
แม้แต่ "รศ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์" อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาจารย์สายแดง และเห็นดีเห็นงามกับฝ่ายทักษิณมาโดยตลอด ยังเคยออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึง กรณีเสื้อแดงซึ่งต่อสู้เพื่อทักษิณอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่สุดท้ายก็อยู่ในภาวะจนตรอกใกล้ล่มสลาย เพราะแท้จริง "คนเสื้อแดง" เป็นแค่ "เบี้ยของทักษิณ" มาแต่ไหนแต่ไร และเขาพร้อมจะเอาไปต่อรองเกี๊ยเซียะเพื่อผลประโยชน์ตัวเขาเอง และเมื่อหมดประโยชน์แล้วก็พร้อมจะโยนทิ้ง โดย "พิชิต" ถึงกับระบุว่า ช่วงหลัง ๆ นั้น ทักษิณเข้าขั้น “ห่วยแตกและทรยศต่อประชาชน” ทีเดียว...คราวนี้คำถามจึงวนกลับไปยังจุดตั้งต้นว่า...ที่ทักษิณสั่งสู้นั้น...ใครสู้....และสู้เพื่อใคร??
โดยข้อเขียนของ "รศ.พิชิต" ต่อกรณีนี้ เขียนขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน 2560 หรือเมื่อกว่า 1 ปีก่อน โดยรายละเอียดทั้งหมดที่อาจารย์จากธรรมศาสตร์ ระบุเอาไว้ คือ
หลายคนเชื่อว่า ความล่มสลายของขบวนเสื้อแดงเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามมีกำลังเข้มแข็งกว่าอย่างเทียบไม่ได้ ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ไม่ทั้งหมด สาเหตุสำคัญอีกข้อที่ทำให้ขบวนเสื้อแดงพ่ายแพ้คือ การไม่ยอมสรุปบทเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทเรียนเกี่ยวกับทักษิณ
ทักษิณมีฝีมือบริหารอย่างมาก สร้างปย.แก่ปชช.ไว้หลายเรื่อง แต่หลังรปห.49 ถึงปัจจุบัน ทักษิณเข้าขั้น "ห่วยแตกและทรยศต่อปชช." คือ ใช้ปย.จากมวลชนที่สู้จนติดคุกบาดเจ็บล้มตายหลายพันคนเมื่อปี 53 เอาพลังมวลชนไปกดดันให้อีกฝ่ายจำยอมเกี้ยเซี้ย โดยนึกไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะใช้กำลังฆ่าปชช.ตายเป็นเบือ (ก็เพราะนึกไม่ถึง แกจึงได้กล้าพูดว่า "ถ้าเมื่อไหร่เสียงปืนแตก ทหารยิงปชช. ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯทันที!")
แต่พอแพ้ปี 53 ทักษิณก็กลับลำ จากเอามวลชนไปกดดัน ก็เปลี่ยนเป็นเอามวลชนไปขาย แลกกับการเกี้ยเซี้ยจากอีกฝ่าย ประกาศสลายขบวนคนเสื้อแดงกลางราชประสงค์เมื่อ พ.ค.55 ("พี่น้องไม่ต้องแบกเรือมาขึ้นบกตามผม") ไปแลกกับการประนีประนอมจากฝ่ายนั้นในรูป พรบ.ปรองดอง ครั้งที่หนึ่ง ซึ่งล้มเหลว
แต่ก็พยายามอีกครั้งด้วยพรบ.ปรองดองฉบับลักหลับปี 56 ก่อให้เกิดความแตกแยกรุนแรงภายในขบวนคนเสื้อแดง ก็เพื่อแลกกับการเกี้ยเซี้ยจากฝ่ายนั้นอีกครั้ง พอเกิดกปปส. ก็ระดมคนเสื้อแดงซึ่งกำลังแตกแยกออกมาปกป้องรบ.ยี่งลักษณ์อีก แต่ไม่คิดจะปกป้องคนเสื้อแดงเหล่านั้น จนมีคนบาดเจ็บและตายเพิ่มอีกที่สนามกีฬาราชมังคลา สำหรับทักษิณ มวลชนเสื้อแดงก็เป็นเพียง "เบี้ยในมือ" เอาไว้บลัฟ เอาไว้ต่อรองกับอีกฝ่าย และถ้าได้ "ดีล" เหมาะ ๆ มีสิ่งแลกที่คุ้มค่า ก็พร้อมที่จะ "โยนไปแลก" เหมือนกับวิธีต่อรองทางธุรกิจนั่นแหละ
แทงกิ้วทีทามศิษย์หัวซานTnews