กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (27 Aug 18)

กระทู้สนทนา



สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put, Call Option ทุกๆท่าน

เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา หรือ ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี SET index เคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบๆ (1688 – 1710 จุด) อันเนื่องจากไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ
เข้ามาหนุนนำ แม้ว่าช่วงกลางสัปดาห์จะมีรายงานการประชุม FOMC ในครั้งล่าสุด ก็ไม่มีอะไร Surprise แต่ประการใด ซึ่งนักลงทุนยังคงเฝ้ารอ
ถ้อยแถลง Mr. .Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ แถลง ณ ที่ประชุมเมือง Jackson Hole จะมีความเห็นเกี่ยวกับนโยบาย
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างใดบ้าง ดังนั้นจึงทำให้ ดัชนี SET index ปิดตัวไปที่ระดับ 1703 จุด -0.98 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนี
จะเคลื่อนไหวหวือหวา หรือไม่

Fundamental

เอเชียเช้าเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดในแดนบวกวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์
ขณะที่การอ่อนค่าของเงินเยนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดบวก 91.92 จุด หรือ +0.41% แตะที่ 22,693.69 จุด ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวช่วงเช้านี้ได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์

โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 133.37 จุด หรือ +0.52% ปิดที่ 25,790.35 จุด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมยืนยันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวแข็งแกร่ง
และเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้า

ฝั่งสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (24 ส.ค.) ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมส่งสัญญาณว่าเฟดจะ
ไม่รีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,790.35 จุด เพิ่มขึ้น 133.37 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,874.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.71 จุด หรือ +0.62%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,945.98 จุด เพิ่มขึ้น 67.52 จุด หรือ +0.86%

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.5% ดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 0.9% และ Nasdaq พุ่ง 1.7%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนหลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
พร้อมยืนยันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้า
นายพาวเวลระบุในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันศุกร์ว่า
เขาคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เฟดมองหาจุดสมดุลในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงจนเกินไป

"ตามที่รายงานการประชุมของเฟดระบุไว้ ถ้าหากว่ารายได้และการจ้างงานยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง การปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย
ของเฟดอย่างค่อยเป็นค่อยไปถือว่ามีความเหมาะสม" ประธานเฟดกล่าว

นายพาวเวลยังได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และคาดว่าเฟดจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อ โดยเขาระบุว่า เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง
และเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด ขณะที่การจ้างงานอยู่ในระดับสูง

นายพาวเวลคาดการณ์ว่า การใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของภาคครัวเรือน ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ การสร้างงานในระดับสูง รายได้ที่เพิ่มขึ้น
และการที่รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่สดใสต่อไป

เนื้อหาในสุนทรพจน์ของนายพาวเวลส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงการดำเนินการของเฟดในช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นในทศวรรษ 1970 ซึ่งเฟดได้เรียนรู้ว่า
จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อและอัตราว่างงานจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดี ในการกล่าวสุนทรพจน์วานนี้ นายพาวเวลไม่ได้ระบุถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบายปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่ปลื้มต่อการที่นายพาวเวลปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเขาจะวิพากษ์วิจารณ์เฟดต่อไป
หากเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว เทียบกับที่เฟดปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา นอกจากนี้ เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ รวมทั้งมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐ และทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ปธน.ทรัมป์ให้ความสนใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเปิดฉากทำสงครามการค้ากับประเทศคู่ค้าในระยะนี้

โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า ใจความสำคัญที่ได้จากถ้อยแถลงของนายพาวเวลคือ ประเด็นที่ว่าเฟดจะยังคงท่าทีระมัดระวังในการเดินหน้าปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ย และจะยังคงให้ความสำคัญกับการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต

ฝั่งยุโรป ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่า
เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัว โดยที่เงินเฟ้อไม่ปรับตัวขึ้นสูงเกินเป้าหมาย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.18 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 383.56 จุด และปรับตัวขึ้น 0.7%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,432.50 เพิ่มขึ้น 13.17 จุด หรือ +0.24%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,394.52 จุด บวก 28.94 จุด หรือ +0.23%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,577.49 จุด เพิ่มขึ้น 14.27 จุด หรือ +0.19%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในการกล่าวสุนทรพจน์
ที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง วานนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อย
เป็นค่อยไปและอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เฟดมองหาจุดสมดุลในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงจนเกินไป

"ตามที่รายงานการประชุมของเฟดระบุไว้ ถ้าหากว่ารายได้และการจ้างงานยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง การปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย
ของเฟดอย่างค่อยเป็นค่อยไปถือว่ามีความเหมาะสม" นายพาวเวลกล่าว

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และคาดว่าเฟดจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อ โดยเขาระบุว่า เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด ขณะที่การจ้างงานอยู่ในระดับสูง

นายพาวเวลคาดการณ์ว่า การใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของภาคครัวเรือน ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ การสร้างงานในระดับสูง รายได้ที่เพิ่มขึ้น และการที่
รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่สดใสต่อไป

ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันก่อน เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. ซึ่งระบุว่า
กรรมการเฟดหลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน
กรรมการเฟดมีความเห็นว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับมา สนับสนุนมุมมองของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสม
ที่เฟดจะก้าวไปสู่อีกขั้นตอนหนึ่งของการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเยอรมนี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ในไตรมาสสองของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก

เมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว GDP เยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% ในไตรมาสแรก
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจเยอรมนีได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการนำเข้าที่ขยายตัว 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า
ซึ่งสูงกว่าการส่งออกที่ขยายตัวเพียง 0.7% นอกจากนี้ การบริโภคภาคครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่การบริโภคภาครัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6%
ในไตรมาสสองเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า สถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าในตลาดโลกประกอบกับปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง อาจทำให้เศรษฐกิจ
เยอรมนีอ่อนแรงลงในภายหลัง ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นอิตาลีปรับตัวขึ้น หลังมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ของสหรัฐ เสนอที่จะช่วยซื้อพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีบางส่วนในระหว่างที่ประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี เมื่อสามสัปดาห์ก่อน

ข่าวดังกล่าวหนุนให้หุ้นแบงก์อิตาลีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต บวก 1.1% หุ้นอูนิโอเน ดิ บังเค อิตาเลียเน บวก 1% และส่งให้ดัชนี FTSE MIB ปิดปรับตัวขึ้น 133.45 จุด หรือ +0.65% แตะที่ 20,741.96 จุด

ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ตามการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน โดยหุ้นบีพี บริษัทน้ำมันรายใหญ่ เพิ่มขึ้น 1.11%

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์


Technical Analysis

SET Index Day : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบๆ (1688 – 1710 จุด) แม้จะมีความพยายามขึ้นไปเพื่อเคลียร์
เส้นแนวต้าน (Downtrend line) แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ซึ่งต้องมาดูกันว่า เร็ววันนี้จะสามารถเคลียร์ขึ้นไปได้หรือไม่ /หากผ่านขึ้นไปได้
ก็จะทำให้ภาพขาลง ค่อยๆจางหายไป พร้อมกับยืนยันรูปแบบกลับตัว “Cup with Handle” พร้อมทะยานสู่ดวงดาวอันไกลโพ้น /แต่ถ้าหากไม่สามารถ
ผ่านขึ้นไปได้ อาจจะเกิดการ “พักฐาน” อีกครั้งก็เป็นได้

S50U18 Day : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบๆ (1109 – 1128 จุด) แม้จะมีความพยายามขึ้นไปเพื่อเคลียร์
เส้นแนวต้าน เส้น EMA200 วัน แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ซึ่งต้องมาดูกันว่า เร็ววันนี้จะสามารถเคลียร์ขึ้นไปได้หรือไม่
/หากผ่านเส้น EMA200 วัน และ Downtrend line ขึ้นไปได้ ก็จะทำให้ภาพขาลง ค่อยๆจางหายไป พร้อมกับยืนยันรูปแบบกลับตัว
“Cup with Handle” พร้อมทะยานสู่ดวงดาวอันไกลโพ้น /แต่ถ้าหากไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ อาจจะเกิดการ “พักฐาน” อีกครั้งก็เป็นได้

S50U18 TF60 Min : ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ดัชนียังคงเคลื่อนไหว Sideways เลื้อยเลียคลอเคลียเส้น EMA25 75 วัน ออกข้างไปเรื่อย
ซึ่งต้องมาดูว่า เร็ววันนี้ ดัชนีจะสามารถเคลียร์ 1130 จุด ขึ้นไปได้หรือไม่ หากเคลียร์ได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ High 1143 จุด อีกครั้ง
แต่ถ้าหากเคลียร์ไม่ผ่าน วูบร่วงหลุดเส้น Support line และ เส้น EMA200 วัน ลงมา ก็จะทำให้เกิดเป็นรูปแบบ Head & Shoulder พร้อมที่จะเกิดการ
พักฐาน อีกครั้งก็เป็นได้

Resisitance : 1127 1130  1135 1140 / 1707 1711 1717 1725
Support : 1120 1115 1110 1105 / 1695 1690 1686 1680

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่