คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
พอเพียง ไม่ใช่แบบเดียวกับการประหยัด หรือมินิมอล หรือสโลวไลฟ์ แต่มีจุดร่วมกันอยู่บ้างทางการปฏิบัติ แต่คนละจุดประสงค์
จุดประสงค์ของพอเพียงนั้น ลดความสุดโต่ง เพื่อลดการเบียนเบียนผู้อื่นหรือการถูกเบียดเบียน ในด้านทรัพยากรที่มีจำกัด
ขณะที่ประหยัด หรือมินิมอลยังมีความสุดโต่ง คือ เก็บไว้ซื้อของชิ้นใหญ่ที่ดีที่สุด หรือลดจำนวนชิ้นให้มากที่สุด
ในทุนนิยมนั้นใครๆมุ่งสู่ความเป็นผู้ชนะคือสำเร็จทางธุรกิจ ส่งลูกเรียนสูงที่สุด ลงทุนมากที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อผลตอบแทนทุนที่สูงที่สุด
ใช้สำเร็จอย่างหนึ่งเพื่อมุ่งไปอีกอย่างหนึ่ง เช่น อยากมีเมียสวย ก็ต้องมีบ้านที่ใหญ่ ต้องมีรถคันใหญ่ ก่อนมีบ้านรถก็ต้องมีรายได้สูงๆ
นี่คือความเป็นสุดโต่ง แต่อีกด้านนั้นย่อมมีผู้แพ้ และถึงกับไปไม่เป็นเลยเพราะไม่มีใครเคยสอนว่าไม่ชนะแล้วทำยังไงต่อ
ปัญหาของผู้แพ้แก้ได้ หากคุณพอประมาณ พอใจกับเมียที่ปานกลาง ของคุณภาพปานกลาง ไม่ต้องมือถือรุ่นใหม่ที่แพงสุด คุณก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันหารายได้สูงๆ แบบพวกความฝันของหมากกัน
ถามว่าเบียดเบียนคืออะไร
-เช่นถ้าคุณมีรถและใช้น้ำมัน 10ลิตร คุณหาเงินได้วันละ 1พันบาท แต่ถ้าคุณใช้น้ำมัน 100ลิตรคุณอาจหาเงินได้วันละ 7พันบาท
ความพอประมาณในการใช้น้ำมันของคุณอาจอยู่ในช่วง 10ลิตร-30ลิตร เพียงพอกับการใช้ชีวิต
แต่หากคุณเป็นนักสุดโต่งย่อมใช้เต็มที่ อาจเกิน 100ลิตร ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำมันไม่พอใช้จนราคาสูงขึ้น
ซึ่งเป็นการเบียดเบียนคนอื่นแล้ว ที่ไม่ค่อยมีเงินซื้อน้ำมัน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีกยาว เอาแค่ความพอประมาณเท่านั้นก่อน
พอเพียงจะทำให้ชาติพัฒนาช้าลงไหม
-ใช่ครับ จริงๆเพื่อชะลอการเจริญ แต่ความเจริญนำมาซึ่งผลเสียที่ต้องอธิบายอีกยาว
พอเพียงคือตรงข้ามกับทุนนิยมใช่ไหม จะทำให้ธุรกิจและประเทศรอดในการแข่งขันของโลกหรือ
-หลายคนเข้าใจผิดว่าพอเพียงคือศัตรูกับทุนนิยม ความจริงคือพอเพียงคือเพื่อนของทุนนิยม
การใช้ความพอเพียงนั้นแนะนำว่าใช้ที่สัดส่วน 1:3ส่วน พอเพียงต่อทุนนิยม
ซึ่งปกติแล้วหากทุนนิยมอย่างเดียวจะนำไปสู่การล่มสลาย ไปเป็นสังคมนิยม จากการไม่พอใจของชนชั้นล่าง หรืออย่างน้อยก็ภาษีที่สูงขึ้น
แต่เมื่อใช้พอเพียงแล้วเมือนกับว่าความไม่พอใจไม่มีเลย
ประเทศเราจะสามารถมีบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกซึ่งพร้อมแข่งในระบบทุนนิยม พร้อมประชาชนที่พอเพียงซึ่งช่วยลดต้นทุนได้มหาศาล
จุดประสงค์ของพอเพียงนั้น ลดความสุดโต่ง เพื่อลดการเบียนเบียนผู้อื่นหรือการถูกเบียดเบียน ในด้านทรัพยากรที่มีจำกัด
ขณะที่ประหยัด หรือมินิมอลยังมีความสุดโต่ง คือ เก็บไว้ซื้อของชิ้นใหญ่ที่ดีที่สุด หรือลดจำนวนชิ้นให้มากที่สุด
ในทุนนิยมนั้นใครๆมุ่งสู่ความเป็นผู้ชนะคือสำเร็จทางธุรกิจ ส่งลูกเรียนสูงที่สุด ลงทุนมากที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อผลตอบแทนทุนที่สูงที่สุด
ใช้สำเร็จอย่างหนึ่งเพื่อมุ่งไปอีกอย่างหนึ่ง เช่น อยากมีเมียสวย ก็ต้องมีบ้านที่ใหญ่ ต้องมีรถคันใหญ่ ก่อนมีบ้านรถก็ต้องมีรายได้สูงๆ
นี่คือความเป็นสุดโต่ง แต่อีกด้านนั้นย่อมมีผู้แพ้ และถึงกับไปไม่เป็นเลยเพราะไม่มีใครเคยสอนว่าไม่ชนะแล้วทำยังไงต่อ
ปัญหาของผู้แพ้แก้ได้ หากคุณพอประมาณ พอใจกับเมียที่ปานกลาง ของคุณภาพปานกลาง ไม่ต้องมือถือรุ่นใหม่ที่แพงสุด คุณก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันหารายได้สูงๆ แบบพวกความฝันของหมากกัน
ถามว่าเบียดเบียนคืออะไร
-เช่นถ้าคุณมีรถและใช้น้ำมัน 10ลิตร คุณหาเงินได้วันละ 1พันบาท แต่ถ้าคุณใช้น้ำมัน 100ลิตรคุณอาจหาเงินได้วันละ 7พันบาท
ความพอประมาณในการใช้น้ำมันของคุณอาจอยู่ในช่วง 10ลิตร-30ลิตร เพียงพอกับการใช้ชีวิต
แต่หากคุณเป็นนักสุดโต่งย่อมใช้เต็มที่ อาจเกิน 100ลิตร ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำมันไม่พอใช้จนราคาสูงขึ้น
ซึ่งเป็นการเบียดเบียนคนอื่นแล้ว ที่ไม่ค่อยมีเงินซื้อน้ำมัน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีกยาว เอาแค่ความพอประมาณเท่านั้นก่อน
พอเพียงจะทำให้ชาติพัฒนาช้าลงไหม
-ใช่ครับ จริงๆเพื่อชะลอการเจริญ แต่ความเจริญนำมาซึ่งผลเสียที่ต้องอธิบายอีกยาว
พอเพียงคือตรงข้ามกับทุนนิยมใช่ไหม จะทำให้ธุรกิจและประเทศรอดในการแข่งขันของโลกหรือ
-หลายคนเข้าใจผิดว่าพอเพียงคือศัตรูกับทุนนิยม ความจริงคือพอเพียงคือเพื่อนของทุนนิยม
การใช้ความพอเพียงนั้นแนะนำว่าใช้ที่สัดส่วน 1:3ส่วน พอเพียงต่อทุนนิยม
ซึ่งปกติแล้วหากทุนนิยมอย่างเดียวจะนำไปสู่การล่มสลาย ไปเป็นสังคมนิยม จากการไม่พอใจของชนชั้นล่าง หรืออย่างน้อยก็ภาษีที่สูงขึ้น
แต่เมื่อใช้พอเพียงแล้วเมือนกับว่าความไม่พอใจไม่มีเลย
ประเทศเราจะสามารถมีบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกซึ่งพร้อมแข่งในระบบทุนนิยม พร้อมประชาชนที่พอเพียงซึ่งช่วยลดต้นทุนได้มหาศาล
แสดงความคิดเห็น
ข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
คือผมเคยได้ยีนมานานละคำว่าทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง แต่ไม่เคยศึกษาด้วยตัวเอง เลยอยากถามท่านที่เคยศึกษามาแล้วว่าทฤษฎีนี้ มีข้อดี และ ข้อเสีย อย่างไรบ้าง แล้วถ้าทุกคนหันมาสนใจปฏิบัติตามทฤษฎีนี้กันหมดจะสงผลอะไรต่อระดับประเทศบ้าง ช่วยพัฒนาประเทศด้านใดบ้างครับแล้วอะไรคือแรงขับ
อยากให้ผู้ที่มีความรู้ และผู้ที่เคยศึกษาหรือปฏิบัติตามอยู่ มาช่วยกันแชร์ความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ ผมเชื่อว่ามีเด็กยุคใหม่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีนี้ และอยากทราบว่าอะไรคือแก่นของทฤษฎีนี้ แล้วเราจะพัฒนาเศรษฐกิจประเทศจากทฤษฎีนี้ได้จริงๆหรือไม่