ประสบการณ์รูมเมทนรก
เราเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง เราก็หาหอ ทีแรกว่าจะอยู่กับน้า แต่ว่าแถวมหาลัยเรารถมันติดมาก เลยคิดว่าถ้าวันไหนมีเรียนเช้าเดี๋ยวจะเข้าห้องเรียนไม่ทัน เลยมาหาหออยู่ แล้วได้หอที่ใกล้ๆมหาลัย เช่าเดือนละ 2500 บาท น้ำไฟรวมในนั้นเลย แล้วแม่เราก็อยากให้หารูมเมทมาอยู่ด้วย เพราะจะได้ลดรายจ่าย แล้วตอนปฐมนิเทศเราเจอเพื่อนคนหนึ่ง ตั้งชื่อให้ว่าเอ ก็ถามเอว่า อยู่หอไหน เอก็ตอบว่าอยู่แถวๆราดพร้าว เราเลยตอบไปว่า ไกลจังเลย เอเลยบอกว่าเคยมาหาหออยู่แถวนี้ แต่มันแพง เลยไปเช้าหออยู่แถวราดพร้าวเพราะน้องเรียนอยู่แถวๆนั้น ด้วยความคิดที่ว่าแม่ให้หารูมเมท เราเลยชวนเอมาอยู่ด้วย ทีแรก เอก็ไม่ค่อยอยากมา แต่เราก็พาไปดูห้องที่เราอยู่ ้วยความที่หอเออยู่ไกลเราเลยบอกเอว่า ถ้าเกิดว่าวันไหนที่รุ่นพี่นัดมาทำรับน้องแต่เช้าแล้วกลัวมาไม่ทัน กลัวรถติด ก็มานอนกับเราได้นะ แค่คืนหนึ่งสองคืนไม่เป็นไรหรอก แล้วพอถึงวันรับน้อง เอก็มาขอนอนกับเราด้วย เราก็ตอบตกลง แล้วพอมาวันแรก เอยังไม่ได้ทดลองนอนเลย เอก็บอกก็ถามเราว่า เรามาอยู่ด้วยได้มั้ย เราเลยตอบเอไปว่าได้ๆ แต่เราไปรู้นะว่าเจ้าของหอจะคิดค่าห้องเพิ่มมั้ย พอไปถามเจ้าของหอก็บอกว่าเพิ่มจาก 2500 เป็น 3400 เพิ่มมา 900 ก็โอเค มาอยู่วันแรกก็ไม่มีอะไรมา พอวันที่ 4-5 เท่านั้นแหละนางก็เริ่มออกลาย วันนั้นนางสระผม แล้วน้ำผมหยดลงพื้นห้องนางก็ไม่เช็ด แล้วเราก็กลัวไฟช็อก เพราะตรงน้ำที่หยด กับปลั๊กไฟมันใกล้กันมาก เราก็คิดว่าเอคงไม่เห็นมั้ง เราเลยเดินไปเช็ดให้ พอทีนี้เอไม่มีที่นอน
หอเราไม่มีที่นอนให้ ต้องซื้อมาเองเป็นปิ๊กนิก เราก็ให้นอนด้วย แล้วที่นอนเรามันเหมาะการนอนคนเดียว แต่คิดว่าเอไม่มีที่นอน เลยแบ่งให้นอนครึ่งหนึ่ง แล้วพอดึกๆมา เอนอนสะเต็มที่นอนเลย แล้วเราต้องมานอนพื้น (ตอนนั้นเอยังไม่หลับนะ นางยังนอนเล่นโทรสับอยู่) เราก็คิดว่านางคงเห็นแหละมั้งว่าเราเริ่มลงมานอนพื่นแล้ว แต่นางก็ไม่ขยับให้เราขึ้นไปนอน เราก็คิดว่าไม่เป็นไร พอวันต่อมาเราชวนนางไปซื้อที่นอน นางก็ทำท่าเหมือนหูทวนลม แต่นางก็ยอมไปซื้อ แต่วีระกรรมนางยังจบแค่นี้ นางมาค้นในตระกร้าชุดชั้นในเรา เราก็มองว่านางหาอะไรแต่เราก็เลือกที่จะไม่พูด ในตระกร้าเรามีถุงเท้านางอยู่คู่หนึ่งนางเอามาฝากไว้ แล้วเราก็นึกว่านางหาถุงเท้าตัวเอง ซึ่งเราคิดผิด พอนางหยิบออกมาเราก็รู้เลยนางหาอะไร นางหาถุงเท้าเรา แล้วนางก็หยิบมาใส่โดนไม่มีการพูดว่ายืม นางหยิบไปแล้วก็ทำเฉยๆไปเลย เราก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วอยู่มาวันหนึ่งนางก็หยิบเสื้อเรามาใส่แบบไม่ขออีก อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องทำความสะอาดห้อง เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเราไม่ใช่คนสะอาดสักเท่าไร แต่เราก็กวาดห้องถูห้องเกือบจะทุกวัน เพราะว่าเรานอนที่นอนปิ๊กนิก มันต้องนอนพื้น ที่ผมของผู้หญิงมันก็หล่นเป็นปกติธรรมดา วันไหนไม่กวาดผมนี้แทบจะปริวเข้าปาก แล้วเอนางเป็นคนที่ผมหล่นเยอะมากกกกกก เวลานอนนี้หล่นเยอะมาก เรียกได้ว่าหล่นเป็นกำ แล้วตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนางไม่เคยกวาดห้องถูห้องเลย เวลาที่เห็นเราทำ นางก็จะบอกว่ากวาดห้องบ่อยจังเลย เราก็บอกตอบนางไปว่า มันจำเป็นต้องทำมั้ยละ นางก็เงียบ แล้วไม้แขวนผ้า เราซื้อมาไว้ใช้ของเรา3แพ็ก แต่นางซื้อมาแค่แพ็กเดียว แล้วไม้แขวนนางไม่พอ ก็มาหยิบใช้ของเราอีก แล้วล่าสุดได้ยินเสียงนางคุยแว่วๆ เราเลยหันไปถามนางว่า ห๊ะ ว่าอะไรนะ นางเลยบอกว่า เราพูดคนเดียว คือไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเจอคนพูดคนเดียวนะ แต่นางพูดคนเดียวบ่อยมากกกกก แล้วนางบอกว่านางเป็นเหมือนกับคนย้ำคิดย้ำทำ เราก็ไม่รู้หรอกมันคืออะไร เราเลยเล่าให้แม่ฟัง แม่เลยบอกว่า ดูแลตัวเองดีๆนะลูก ถ้าเขาจะออกไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ต้องรั้งเขาไว้นะ แม่เป็นห่วง แล้วเรากับนางคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง บางทีเดินไปด้วยกัน นางจะแวะเข้าเซเว่นนางก็ไม่บอกเรา นางก็เดินดิ่งๆๆๆๆๆเข้าไปเลย แล้วเราน่ะเดินก่อนนาง พอหันมา เอ้า เพื่อนหายไหน ปรากฎว่ามองไปเซเว่นนางแวะเข้าเซเว่น เหมือนนางเป็นคนที่แบบคิดอะไรก็จำทำเดี๋ยวนี้เลย แล้วมีอยู่วันหนึ่งเราเข้าคณะก่อนนะ แล้วนางไปทีหลังเรา แล้วก็จากห้องทุกครั้งเราจะเก็บปลั๊กไฟเก็บพัดลมปิดหน้าต่าง ก่อนออกจากห้อง แล้ววันนั้นเรีาออกไปเราก็ไม่ได้บอกนางว่าให้เก็บปลั๊ก ปิดหน้าต่าง เก็บพักลม เพราะเราคิดว่า โตๆกันแล้ว ไม่ต้องพูดก็น่าจะคิดเองได้ แล้วพอเรากลับมาห้อง เราเลิกเรียนก่อนนาง พอมองไปห้อง หน้าต่างไม่ปิด เราก็เริ่มอารมณืไม่ดีแล้วเพราะถ้าฝนตกคือห้องเปียกแน่ๆ พอเปิดห้องไป ปลั๊กไม่เก็บ พัดลมไม่เก็บ แล้วทิ้งไว้กลางห้องเลย แล้วก็คิดว่าอารมณ์เสียไปก็เท่านั้น เราเลยก็กวาดห้อง พอนางเลิกเรียนนางกลับมานางก็พูดกับเราว่า เก็บของให้เราอีกแล้วหรอ ดีนะเนาะ เราก็นิ่งๆ แล้วเสื้อผ้าที่ใส่แล้วนางก็เามากองๆไว้ที่พื้นข้างๆนางแล้วก็ไม่เก็บ แล้วเป็นเราเองที่รู้สึกขวางหูขวางตา เลยลุกขึ้นไปเก็บให้ นางก็มองแล้วก็เล่นโทรสับต่อ แล้วที่เราทำ ก็เพราะว่าให้นางรู้ว่าตครั้งนี้ไม่เก็บเองไม่เป็นไร แต่ครั้งหน้า อยากให้ถอดแล้วก็เก็บไปใส่ตระกร้าไว้ซักเลย ไม่ใช่เอามากองไว้แบบนี้ แต่รู้สึกเหมือนนางจะไม่ค่อยเข้าใจที่เราทำ คือตอนนี้ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ มันไม่ทำเดี๋ยวเราทำเอง
รูมเมทนรก
เราเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง เราก็หาหอ ทีแรกว่าจะอยู่กับน้า แต่ว่าแถวมหาลัยเรารถมันติดมาก เลยคิดว่าถ้าวันไหนมีเรียนเช้าเดี๋ยวจะเข้าห้องเรียนไม่ทัน เลยมาหาหออยู่ แล้วได้หอที่ใกล้ๆมหาลัย เช่าเดือนละ 2500 บาท น้ำไฟรวมในนั้นเลย แล้วแม่เราก็อยากให้หารูมเมทมาอยู่ด้วย เพราะจะได้ลดรายจ่าย แล้วตอนปฐมนิเทศเราเจอเพื่อนคนหนึ่ง ตั้งชื่อให้ว่าเอ ก็ถามเอว่า อยู่หอไหน เอก็ตอบว่าอยู่แถวๆราดพร้าว เราเลยตอบไปว่า ไกลจังเลย เอเลยบอกว่าเคยมาหาหออยู่แถวนี้ แต่มันแพง เลยไปเช้าหออยู่แถวราดพร้าวเพราะน้องเรียนอยู่แถวๆนั้น ด้วยความคิดที่ว่าแม่ให้หารูมเมท เราเลยชวนเอมาอยู่ด้วย ทีแรก เอก็ไม่ค่อยอยากมา แต่เราก็พาไปดูห้องที่เราอยู่ ้วยความที่หอเออยู่ไกลเราเลยบอกเอว่า ถ้าเกิดว่าวันไหนที่รุ่นพี่นัดมาทำรับน้องแต่เช้าแล้วกลัวมาไม่ทัน กลัวรถติด ก็มานอนกับเราได้นะ แค่คืนหนึ่งสองคืนไม่เป็นไรหรอก แล้วพอถึงวันรับน้อง เอก็มาขอนอนกับเราด้วย เราก็ตอบตกลง แล้วพอมาวันแรก เอยังไม่ได้ทดลองนอนเลย เอก็บอกก็ถามเราว่า เรามาอยู่ด้วยได้มั้ย เราเลยตอบเอไปว่าได้ๆ แต่เราไปรู้นะว่าเจ้าของหอจะคิดค่าห้องเพิ่มมั้ย พอไปถามเจ้าของหอก็บอกว่าเพิ่มจาก 2500 เป็น 3400 เพิ่มมา 900 ก็โอเค มาอยู่วันแรกก็ไม่มีอะไรมา พอวันที่ 4-5 เท่านั้นแหละนางก็เริ่มออกลาย วันนั้นนางสระผม แล้วน้ำผมหยดลงพื้นห้องนางก็ไม่เช็ด แล้วเราก็กลัวไฟช็อก เพราะตรงน้ำที่หยด กับปลั๊กไฟมันใกล้กันมาก เราก็คิดว่าเอคงไม่เห็นมั้ง เราเลยเดินไปเช็ดให้ พอทีนี้เอไม่มีที่นอน
หอเราไม่มีที่นอนให้ ต้องซื้อมาเองเป็นปิ๊กนิก เราก็ให้นอนด้วย แล้วที่นอนเรามันเหมาะการนอนคนเดียว แต่คิดว่าเอไม่มีที่นอน เลยแบ่งให้นอนครึ่งหนึ่ง แล้วพอดึกๆมา เอนอนสะเต็มที่นอนเลย แล้วเราต้องมานอนพื้น (ตอนนั้นเอยังไม่หลับนะ นางยังนอนเล่นโทรสับอยู่) เราก็คิดว่านางคงเห็นแหละมั้งว่าเราเริ่มลงมานอนพื่นแล้ว แต่นางก็ไม่ขยับให้เราขึ้นไปนอน เราก็คิดว่าไม่เป็นไร พอวันต่อมาเราชวนนางไปซื้อที่นอน นางก็ทำท่าเหมือนหูทวนลม แต่นางก็ยอมไปซื้อ แต่วีระกรรมนางยังจบแค่นี้ นางมาค้นในตระกร้าชุดชั้นในเรา เราก็มองว่านางหาอะไรแต่เราก็เลือกที่จะไม่พูด ในตระกร้าเรามีถุงเท้านางอยู่คู่หนึ่งนางเอามาฝากไว้ แล้วเราก็นึกว่านางหาถุงเท้าตัวเอง ซึ่งเราคิดผิด พอนางหยิบออกมาเราก็รู้เลยนางหาอะไร นางหาถุงเท้าเรา แล้วนางก็หยิบมาใส่โดนไม่มีการพูดว่ายืม นางหยิบไปแล้วก็ทำเฉยๆไปเลย เราก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วอยู่มาวันหนึ่งนางก็หยิบเสื้อเรามาใส่แบบไม่ขออีก อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องทำความสะอาดห้อง เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเราไม่ใช่คนสะอาดสักเท่าไร แต่เราก็กวาดห้องถูห้องเกือบจะทุกวัน เพราะว่าเรานอนที่นอนปิ๊กนิก มันต้องนอนพื้น ที่ผมของผู้หญิงมันก็หล่นเป็นปกติธรรมดา วันไหนไม่กวาดผมนี้แทบจะปริวเข้าปาก แล้วเอนางเป็นคนที่ผมหล่นเยอะมากกกกกก เวลานอนนี้หล่นเยอะมาก เรียกได้ว่าหล่นเป็นกำ แล้วตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนางไม่เคยกวาดห้องถูห้องเลย เวลาที่เห็นเราทำ นางก็จะบอกว่ากวาดห้องบ่อยจังเลย เราก็บอกตอบนางไปว่า มันจำเป็นต้องทำมั้ยละ นางก็เงียบ แล้วไม้แขวนผ้า เราซื้อมาไว้ใช้ของเรา3แพ็ก แต่นางซื้อมาแค่แพ็กเดียว แล้วไม้แขวนนางไม่พอ ก็มาหยิบใช้ของเราอีก แล้วล่าสุดได้ยินเสียงนางคุยแว่วๆ เราเลยหันไปถามนางว่า ห๊ะ ว่าอะไรนะ นางเลยบอกว่า เราพูดคนเดียว คือไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเจอคนพูดคนเดียวนะ แต่นางพูดคนเดียวบ่อยมากกกกก แล้วนางบอกว่านางเป็นเหมือนกับคนย้ำคิดย้ำทำ เราก็ไม่รู้หรอกมันคืออะไร เราเลยเล่าให้แม่ฟัง แม่เลยบอกว่า ดูแลตัวเองดีๆนะลูก ถ้าเขาจะออกไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ต้องรั้งเขาไว้นะ แม่เป็นห่วง แล้วเรากับนางคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง บางทีเดินไปด้วยกัน นางจะแวะเข้าเซเว่นนางก็ไม่บอกเรา นางก็เดินดิ่งๆๆๆๆๆเข้าไปเลย แล้วเราน่ะเดินก่อนนาง พอหันมา เอ้า เพื่อนหายไหน ปรากฎว่ามองไปเซเว่นนางแวะเข้าเซเว่น เหมือนนางเป็นคนที่แบบคิดอะไรก็จำทำเดี๋ยวนี้เลย แล้วมีอยู่วันหนึ่งเราเข้าคณะก่อนนะ แล้วนางไปทีหลังเรา แล้วก็จากห้องทุกครั้งเราจะเก็บปลั๊กไฟเก็บพัดลมปิดหน้าต่าง ก่อนออกจากห้อง แล้ววันนั้นเรีาออกไปเราก็ไม่ได้บอกนางว่าให้เก็บปลั๊ก ปิดหน้าต่าง เก็บพักลม เพราะเราคิดว่า โตๆกันแล้ว ไม่ต้องพูดก็น่าจะคิดเองได้ แล้วพอเรากลับมาห้อง เราเลิกเรียนก่อนนาง พอมองไปห้อง หน้าต่างไม่ปิด เราก็เริ่มอารมณืไม่ดีแล้วเพราะถ้าฝนตกคือห้องเปียกแน่ๆ พอเปิดห้องไป ปลั๊กไม่เก็บ พัดลมไม่เก็บ แล้วทิ้งไว้กลางห้องเลย แล้วก็คิดว่าอารมณ์เสียไปก็เท่านั้น เราเลยก็กวาดห้อง พอนางเลิกเรียนนางกลับมานางก็พูดกับเราว่า เก็บของให้เราอีกแล้วหรอ ดีนะเนาะ เราก็นิ่งๆ แล้วเสื้อผ้าที่ใส่แล้วนางก็เามากองๆไว้ที่พื้นข้างๆนางแล้วก็ไม่เก็บ แล้วเป็นเราเองที่รู้สึกขวางหูขวางตา เลยลุกขึ้นไปเก็บให้ นางก็มองแล้วก็เล่นโทรสับต่อ แล้วที่เราทำ ก็เพราะว่าให้นางรู้ว่าตครั้งนี้ไม่เก็บเองไม่เป็นไร แต่ครั้งหน้า อยากให้ถอดแล้วก็เก็บไปใส่ตระกร้าไว้ซักเลย ไม่ใช่เอามากองไว้แบบนี้ แต่รู้สึกเหมือนนางจะไม่ค่อยเข้าใจที่เราทำ คือตอนนี้ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ มันไม่ทำเดี๋ยวเราทำเอง