คต. ชี้แจงประเด็นการส่งออกข้าวในตลาดต่างประเทศ
“พาณิชย์” งัดตัวเลขส่งออกข้าวตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ส.ค.โชว์ มีปริมาณ 6.99 ล้านตัน เพิ่ม 2% มูลค่า 3,523 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.15% หลังถูกกล่าวหาไร้ความสามารถในการส่งออก พร้อมแจงเป็นรายประเทศ มียอดส่งออกเติบโตทุกตลาด ทั้งในอาเซียน อเมริกา แอฟริกา และยุโรป เผยยังมีข้าวจีทูจีรอส่งมอบให้ฟิลิปปินส์อีก 1.2 แสนตัน และจีทูพีอีก 2.125 แสนตัน ย้ำยังมีแผนสร้างและขยายโอกาสข้าวให้เกษตรกรไทยต่อเนื่อง ทั้งข้าวสี ข้าวคุณภาพดี
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการกล่าวหารัฐบาลไร้ความสามารถในการส่งออกข้าวที่ชาวนาผลิตได้ในประเทศและการขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ ว่า กรมฯ ขอยืนยันว่าไทย มีการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกตลาด โดยมีสถิติส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ส.ค. 2561 เป็นตัวเลขยืนยัน โดยสามารถส่งออกข้าวปริมาณรวม 6.99 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2% มูลค่า 3,523 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.15% หรือประมาณ 111,987 ล้านบาท
โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว (ร้อยละ 51) รองลงมาได้แก่ ข้าวนึ่ง (ร้อยละ 25) และข้าวหอมมะลิไทย (ร้อยละ 16)
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูตามสถิติกรมศุลกากรในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.2561 ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในตลาดหลักเพิ่มขึ้น โดยตลาดอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย ส่งออก 546,330 ตัน มูลค่า 7,780 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 696 ฟิลิปปินส์ ส่งออก 345,366 ตัน มูลค่า 4,681 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.37 มาเลเซีย ส่งออก 234,556 ตัน มูลค่า 3,049 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.07
ส่วนตลาดอเมริกาเหนือ ได้แก่ สหรัฐฯ ส่งออก 261,319 ตัน มูลค่า 8,814 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.84 แคนาดา ส่งออก 37,540 ตัน มูลค่า 1,242 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.87 และเม็กซิโก ส่งออก 2,559 ตัน มูลค่า 336 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 973 ตลาดแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ ส่งออก 345,366 ตัน มูลค่า 4,682 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.01 เคนยา ส่งออก 113,366 ตัน มูลค่า 1,518 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.04 โตโก ส่งออก 105,357 ตัน มูลค่า 1,279 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 154.72 และตลาดยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร ส่งออก 41,628 ตัน มูลค่า 880 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.52 และฝรั่งเศส ส่งออก 20,846 ตัน มูลค่า 628 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.01
นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบข้าวปริมาณ 120,000 ตัน ให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ตามสัญญา G to G ซึ่งคาดว่าจะส่งแล้วเสร็จในเดือนส.ค.นี้ ซึ่งไม่รวมการส่งมอบข้าวให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ของเอกชนไทยที่ชนะการประมูลปริมาณ 212,500 ตัน และมีกำหนดส่งมอบในช่วงเดือนส.ค.เช่นเดียวกัน
นายอดุลย์ กล่าวว่า ในปัจจุบันรัฐบาลยังมุ่งเน้นผลักดันให้เกษตรกรชาวนาทำการผลิตและส่งออกข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น อาทิ กลุ่มข้าวสีและข้าวเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด และข้าว กข 43 เป็นต้น เพื่อยกระดับรายได้และสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมกับภาคเอกชนในการเร่งจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และขยายตลาดข้าวเชิงรุก โดยมุ่งเน้นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งผู้บริโภคในตลาดดังกล่าวหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและมีแนวโน้มหันมารับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเจาะตลาดและจำหน่ายข้าวไทยที่มีมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น
******************************
รักลุงตู่ที่สุด
ตอกหน้าฝ่ายดิสเครดิตรัฐบาล! กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันข้อมูลไทยส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกตลาด
“พาณิชย์” งัดตัวเลขส่งออกข้าวตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ส.ค.โชว์ มีปริมาณ 6.99 ล้านตัน เพิ่ม 2% มูลค่า 3,523 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.15% หลังถูกกล่าวหาไร้ความสามารถในการส่งออก พร้อมแจงเป็นรายประเทศ มียอดส่งออกเติบโตทุกตลาด ทั้งในอาเซียน อเมริกา แอฟริกา และยุโรป เผยยังมีข้าวจีทูจีรอส่งมอบให้ฟิลิปปินส์อีก 1.2 แสนตัน และจีทูพีอีก 2.125 แสนตัน ย้ำยังมีแผนสร้างและขยายโอกาสข้าวให้เกษตรกรไทยต่อเนื่อง ทั้งข้าวสี ข้าวคุณภาพดี
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการกล่าวหารัฐบาลไร้ความสามารถในการส่งออกข้าวที่ชาวนาผลิตได้ในประเทศและการขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ ว่า กรมฯ ขอยืนยันว่าไทย มีการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกตลาด โดยมีสถิติส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ส.ค. 2561 เป็นตัวเลขยืนยัน โดยสามารถส่งออกข้าวปริมาณรวม 6.99 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2% มูลค่า 3,523 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.15% หรือประมาณ 111,987 ล้านบาท
โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว (ร้อยละ 51) รองลงมาได้แก่ ข้าวนึ่ง (ร้อยละ 25) และข้าวหอมมะลิไทย (ร้อยละ 16)
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูตามสถิติกรมศุลกากรในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.2561 ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในตลาดหลักเพิ่มขึ้น โดยตลาดอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย ส่งออก 546,330 ตัน มูลค่า 7,780 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 696 ฟิลิปปินส์ ส่งออก 345,366 ตัน มูลค่า 4,681 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.37 มาเลเซีย ส่งออก 234,556 ตัน มูลค่า 3,049 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.07
ส่วนตลาดอเมริกาเหนือ ได้แก่ สหรัฐฯ ส่งออก 261,319 ตัน มูลค่า 8,814 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.84 แคนาดา ส่งออก 37,540 ตัน มูลค่า 1,242 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.87 และเม็กซิโก ส่งออก 2,559 ตัน มูลค่า 336 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 973 ตลาดแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ ส่งออก 345,366 ตัน มูลค่า 4,682 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.01 เคนยา ส่งออก 113,366 ตัน มูลค่า 1,518 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.04 โตโก ส่งออก 105,357 ตัน มูลค่า 1,279 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 154.72 และตลาดยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร ส่งออก 41,628 ตัน มูลค่า 880 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.52 และฝรั่งเศส ส่งออก 20,846 ตัน มูลค่า 628 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.01
นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบข้าวปริมาณ 120,000 ตัน ให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ตามสัญญา G to G ซึ่งคาดว่าจะส่งแล้วเสร็จในเดือนส.ค.นี้ ซึ่งไม่รวมการส่งมอบข้าวให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ของเอกชนไทยที่ชนะการประมูลปริมาณ 212,500 ตัน และมีกำหนดส่งมอบในช่วงเดือนส.ค.เช่นเดียวกัน
นายอดุลย์ กล่าวว่า ในปัจจุบันรัฐบาลยังมุ่งเน้นผลักดันให้เกษตรกรชาวนาทำการผลิตและส่งออกข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น อาทิ กลุ่มข้าวสีและข้าวเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด และข้าว กข 43 เป็นต้น เพื่อยกระดับรายได้และสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมกับภาคเอกชนในการเร่งจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และขยายตลาดข้าวเชิงรุก โดยมุ่งเน้นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งผู้บริโภคในตลาดดังกล่าวหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและมีแนวโน้มหันมารับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเจาะตลาดและจำหน่ายข้าวไทยที่มีมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น
******************************
รักลุงตู่ที่สุด