( อถ มหาสตฺโต ) ปางนั้นสมเด็จพระเวสสันดรอดุลดวงกษัตริย์ ตรัสทอดพระเนตรเห็นพระอัคเรศถึงวิสัญญีภาพสลบลงวันนั้น พระทัยท้าวเธอสำคัญว่าพระนางเธอวางวายสะดุ้งพระทัยหายว่าโอ้อนิจจามัทรีเจ้าพี่เอ๋ย บุญพี่นี้น้อยแล้วนะเจ้าเพื่อนยาก เจ้ามาตายจากพี่ไปในวงวัด เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า จะเอาพระบรรณศาลานี่หรือเป็นบริเวณพระเมรุทอง จะเอาแต่เสียงสาลิกาอันร่ำร้องนั้นหรือมาเป็นกลองประโคมใน จะเอาแต่เสียงจักจั่นและเรไรอันร่ำร้องนั่นหรือมาต่างแตรสังข์และพิณพาทย์ จะเอาแต่เมฆหมอกในอากาศนั่นหรือมากั่นเป็นเพดาน จะเอาแต่ยูงยางในป่าพระหิมพานต์มาต่างฉัตรเงินและฉัตรทอง จะเอาแต่แสงพระจันทร์อันผุดผ่องมาต่างประทีปแก้วโอภาส อนิจจามัทรีเอ่ยมาตายอเนจอนาถไร้ญาติที่กลางดง ครั้นท้าวเธอค่อยคลายลงที่โศกศัลย์ จึ่งผันพระพักตร์มาพิจารณาก็รู้ว่ายังไม่อาสัญ จึ่งเข้าไปยังพระคันธกุฎีจับเอาคนทีอันเต็มไปด้วยน้ำมาทันใด ตั้งแต่พระองค์ทรงพระผนวชไพรมาได้ถึงเจ็ดเดือนปลาย จะได้ต้องพระกายนางมัทรีก็หามิได้ เมื่อความทุกข์พ้นวิสัยที่จะกำหนดว่าอาตมะนี้เป็นดาบสฤๅษี ยกเศียรพระมัทรีขึ้นใส่ตักวักเอาพระวารีมาโสรจสรงลงที่อุระพระมัทรี หวังว่าจะให้ชุ่มชื่นฟื้นสมปฤๅดีคืนมาแห่งนางพระยา นั้นแล
ช่วยถอดคำประพันธ์ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีให้หน่อยครับ