สวัสดีชาวพันทิปทุกคนนะคะ วันนี้เรามีประสบการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับเราเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วมาแชร์ให้เพื่อนๆฟังค่ะ
เริ่มเรื่องเลยนะคะ ย้อนกลับไปตอนนั้นเราอายุประมาณ 15-16 ปี ครอบครัวเราไปเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ ที่เลือกเช่าหลังนี้เพราะมีคุณลุงที่รู้จักกับครอบครัวเราแนะนำค่ะ เขาบอกว่าเป็นบ้านญาติของเขา ซึ่งตอนนี้เจ้าของบ้านอาศัยอยู่ที่บ้านพักข้าราชการ เนื่องจากสามีเขาเป็นทหารค่ะ บ้านหลังนี้จึงไม่มีใครอยู่ เขาเลยปล่อยเช่ามาตลอด
สภาพบ้านเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ข้างล่างเป็นปูน ข้างบนเป็นไม้ มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สภาพค่อนๆไปทางเก่านิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับทรุดโทรมมาก ภายนอกตัวบ้านดูไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ เป็นเหมือนบ้านปกติทั่วๆไป
แต่พอเข้าไปข้างในตัวบ้าน สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ หิ้งพระ และพระพุทธรูปต่างๆ คือมันมีตั้งอยู่หลายจุดของบ้านจนน่าแปลกใจ ตอนนั้นก็เดาเอาว่าคนที่อยู่ก่อนหน้านี้เค้าคงชอบบูชาพระมั้ง จากนั้นเราก็ขึ้นไปดูชั้นสองกันค่ะ ขึ้นไปจนสุดบันไดชั้นสอง ด้านขวามือจะมีซอกเล็กๆอยู่ พระ!!! เจอพระพุทธรูปอีกแล้วค่ะ ถูกวางไว้ที่พื้นในซอกเล็กๆตรงนั้น มีแก้วน้ำ แก้วธูปด้วย สิ่งแรกที่คิดคือ “วางพระไว้ที่พื้นได้ด้วยหรอวะ” หลังจากนั้นก็กวาดสายตาไปมองห้องต่างๆ ก็เห็นว่าที่ประตูห้องทั้งสามห้องจะมีการ”เจิม”ทั้งหมดค่ะ เราก็คิดว่าส่งสัยเค้าเพิ่งทำบุญบ้าน การสำรวจบ้านก็จบไปค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก็ย้ายของเข้ามาอยู่ตามปกติ และจัดแจงหิ้งพระต่างๆให้เรียบร้อย ซึ่งเราไม่รู้ว่าแม่เอาพระไปไว้ไหน รู้อีกทีพระพุทธรูป หิ้งพระต่างๆก็หายไปแล้ว
ลักษณะห้องนอนของบ้านหลังนี้ จะมี 2 ห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าตัวบ้าน และอีก 1 ห้องนอนอยู่ด้านหลังตัวบ้าน เรานอนห้องด้านหน้าตัวบ้านค่ะ นอนกับยาย ส่วนพ่อกับแม่นอนห้องถัดไป ซึ่งอยู่ด้านหน้าเช่นกัน มีวันหนึ่งเรานอนหลับอยู่ แล้วได้ยินเสียงเหมือนมีคนเอาผ้ามาเช็ดตรงผนังหัวเตียงที่เรานอน มันเป็นเหมือนเสียงผ้าแห้งที่เสียดสีกับไม้แรงๆอ่ะค่ะ เนื่องจากผนังเป็นไม้มันเลยทำให้เราได้ยินชัดมาก เราก็คิดว่าต้องเป็นยายมาทำความสะอาดแน่ๆ เพราะยายเราเป็นคนที่รักสะอาดมาก เช็ดทุกซอกทุกมุม ด้วยความที่ง่วงมากและรำคาญ ก็เลยตะโกนเรียก “ยาย” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราพูดไม่ได้ค่ะ มันไม่มีเสียงออกมา เราตกใจมาก ลืมตาขึ้นมา ตั้งสติแล้วลองตะโกนเรียกใหม่ แต่ก็เหมือนเดิม เราพยายามตะโกน จนน้ำตาคลออ่ะค่ะ ตอนแรกคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายแรงแบบตื่นมาแล้วพูดไม่ได้ จนเราได้ยินเสียงเด็กค่ะ เป็นเสียงเด็กหัวเราะแบบสนุกสนาน คล้ายหัวเราเยอะ หัวเราะคนเดียวนะคะ เสียงใกล้เรามากแต่เรามองไม่เห็นนะ ตอนนั้นก็เดาๆเอาว่าโดนผีอำมั้ง แต่เราไม่กลัวนะคะเราโมโหแทน โมโหเสียงเด็กอ่ะ เรามโนเอาว่าเด็กมันต้องหัวเราะเยาะเราแน่ๆที่เราพูดไม่ได้ เราเลยตั้งสติค่ะ ค่อยๆหายใจเข้า-ออก พุทธ โธ ไปแป๊บนึง แล้วก็ลองรวบรวมสติตะโกนเรียก “ยายยยยยยยยยย” เห้ยเรามีเสียงแล้วค่ะ ยายเราได้ยินก็ขานรับ แล้วก็ขึ้นมาหาเรา เปิดประตูห้องนอน เปิดไฟ แล้วถามว่าเป็นอะไร เราตอบไปว่าโดนผีอำ! ยายตอบกลับมาว่า ไม่มีหรอกผีอ่ะ แล้วก็ปิดไฟ ปิดประตู ทิ้งเรานอนอยู่คนเดียว แต่เราก็นอนต่อนะคะ ไม่ได้กลัวอะไร เพราะเสียงนั้นมันหายไปหมดแล้ว
เหตุการณ์ต่อมา คืนนั้นเรานอนหลับกับยายปกติ แล้วก็ฝันว่าเราปวดฉี่แล้วปลุกยายให้ลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างเป็นเพื่อน (ชั้น2ไม่มีห้องน้ำ) ยายก็ลุกไปเปิดประตูห้องนอน พอเปิดออกมาก็เจอแม่กำลังจะลงไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน เราสามคนพากันลงไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นก่อนขึ้นข้างบนแม่เราก็เดินไปเปิดประตูหลังบ้านมองดูอะไรสักอย่างแล้วก็เดินกลับเข้ามา หลังจากนั้นเราก็ตื่นขึ้นมาจริงๆค่ะ เพราะปวดฉี่ แล้วเราก็ปลุกยาย เปิดประตูออกมาเจอแม่ ลงไปข้างล่างเข้าห้องน้ำ แล้วแม่ก็เดินไปเปิดประตูหลังบ้านมองๆอะไรไม่รู้แล้วก็ปิดประตู เหตุการณ์ต่างๆดำเนินไปตามที่เราฝันเป๊ะเลย เรางงมาก แต่ก็ไม่สนใจอะไร เพราะง่วงนอนมาก รีบขึ้นไปนอนแล้วหลับไป ตื่นมาก็ไม่ได้สนใจอะไร เหตุการณ์นั้นก็ผ่านไปค่ะ
หลังจากนั้นไม่นานเราแยกห้องนอนกับยาย เราไปนอนห้องที่ยังว่างอยู่ เป็นห้องที่อยู่ด้านหลังของตัวบ้าน สภาพในห้องจะมีกระดาษลายๆติดที่ผนังห้องฝั่งขวาทั้งแถบ เหมือนคนที่ทำเขาคงอยากได้อารมณ์เหมือนติดวอลเปเปอร์ ด้วยความที่กำลังโตเป็นสาว เลยอยากได้ห้องนอนสวยๆ ตกแต่งน่ารักๆ เราเลยทำการแกะวอลเปเปอร์นี้ออก และสำรวจไปที่ผนังรอบๆห้องว่ามันมีอะไรไม่สวยงามอีกไหม และมันก็มีสิ่งนั้นจริงๆค่ะ ไม่มีความสวยงามเลย ขวางหูขวางตาเรามาก มันเป็นแผ่นกระดาษเก่าๆ เลอะฝุ่นจนดำ ขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ ถูกติดอยู่ที่มุมๆหนึ่งในห้อง อยู่ด้านบนเกือบถึงเพดาน พอเราเห็นเข้าก็รีบหาเก้าอี้เลยค่ะ ปีนขึ้นไปแล้วเอาไม้บรรทัดเหล็กแงะๆมันออกมา พอแงะเสร็จก็เอามาดูว่ามันคืออะไร ปรากฎว่ามันคือ “แผ่นยันต์” ค่ะ คือมันเก่ามากจนแทบจะไม่เห็นสีแดงเลย ในใจก็คิดว่า “ใครมันบ้าเอายันต์มายัดไว้ตรงนี้วะ”
หลังจากนั้นเหตุการณ์แปลกๆก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เราฝันอีกแล้วค่ะ ฝันว่าเราตื่นนอนแล้ววิ่งลงบันได พอไปถึงช่วงพักบันได เราได้ยินเสียงแม่ตะโกนถามว่า “กินข้าวเหนียวหมูปิ้งไหมมม” เราตอบแม่ว่า “กินนน” จากนั้นเราก็ตื่นขึ้นมาค่ะ เราคิดว่าเราคงหิวเลยฝันแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมันก็ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเลย จากนั้นเราก็ลุกจากที่นอนทันที เพราะมันเช้าแล้วเราก็วิ่งลงไปข้างล่างตามปกติ พอถึงช่วงพักบันได เราได้ยินแม่ตะโกนว่า “กินข้าวเหนียวหมูปิ้งไหมมม” แล้วเราก็ดันตอบแม่ว่า “กินนน” พอมีสติขึ้นมาได้ถึงกับชะงักเลย มันเหมือนในฝันเป๊ะเลย ตอนนั้นก็ขำๆนะคะ เป็นแบบนี้มา 2ครั้งแล้ว รู้สึกตลกตัวเองที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจากการฝันได้
ต่อมาวันหนึ่งเราอยู่บ้านกับแม่สองคน แม่นั่งอยู่ข้างล่าง ส่วนเราอยู่ในห้องนอนกำลังเตรียมทำงานส่งคุณครู ตรงนี้ขออธิบายละเอียดนิดนึงนะคะ เรากางกระดาษร้อยปอนด์ออกวางไว้บนพื้น แล้วเอาขวดน้ำที่มีน้ำวางทับไว้ที่มุมๆหนึ่งของกระดาษ ส่วนมุมที่เหลือใช้อย่างอื่นทับไว้ เพราะกระดาษมันงอจากการถูกม้วนมา เราวางกระดาษทิ้งไว้ รอมันหายงอก่อนค่อยทำงาน จากนั้นเราก็ลงไปนั่งเล่นกับแม่ข้างล่างค่ะ ผ่านไปประมาณ 5 นาที เราได้ยินเสียงขวดน้ำล้ม ตึ้งงง เสียงมาจากห้องนอนเรา เราก็เลยคิดว่าขวดน้ำที่วางทับกระดาษไว้มันล้มแน่ๆ เลยรีบวิ่งขึ้นไปดูเพราะกลัวว่าถ้าฝาน้ำปิดไม่สนิทแล้วจะหกใส่กระดาษ แต่สิ่งที่เห็นคือ ทุกอย่างอยู่เป็นระเบียบดี ไม่มีอะไรล้มหรือหล่น เราก็ไม่สนใจอะไรค่ะ ไหนๆขึ้นไปแล้วก็นั่งทำการบ้านซะเลย
หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน สายๆของวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เรานอนหลับอยู่ในห้องนอนแล้วได้ยินเสียงคล้ายไม้แขวนเสื้อหลายๆอันมันร่วงกราวลงมา เราสะดุ้งตื่น เสียงนั้นน่าจะมาจากห้องพ่อกับแม่ เราก็คิดว่าแม่คงจะเอาไม้แขวนเสื้อไปตากผ้าแล้วทำหล่นแน่ๆ เราเลยลุกจากที่นอนแล้วเดินไปห้องพ่อกับแม่ พอเปิดประตูเข้าไปปรากฎว่าในห้องว่างเปล่า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีไม้แขวนเสื้อที่หล่น เราเดินสำรวจรอบๆห้องก็ไม่มีอะไรหล่นเลย เราเลยเดินลงมาข้างล่างเพราะมั่นใจมากต้องมีคนใดคนหนึ่งอยู่บ้านแน่ๆ พอลงมาถึงชั้นล่างบ้านเงียบมาก ประตูปิดล็อคอย่างดี เราวิ่งไปที่หน้าบ้านก็ไม่เจอรถใครเลย พ่อกับแม่ต้องออกไปทำงานแน่ๆ ( พ่อแม่ทำงานแบบเลือกวันหยุดได้ค่ะ ซึ่งสัปดาห์นั้นเขาไม่ได้หยุดเสาร์ อาทิตย์) ส่วนยายก็ต้องไปเลี้ยงหลานที่บ้านป้า ( ยายไปเลี้ยงหลานที่บ้านป้าเป็นประจำค่ะ ซึ่งบ้านก็อยู่ในซอยเดียวกัน ) สรุปคือเราอยู่บ้านคนเดียว ตอนนั้นตกใจมาก เพราะตอนตื่นเรามั่นใจมากว่าต้องมีคนอยู่บ้าน จากนั้นเรารีบอาบน้ำ ล็อคบ้านและปั่นจักรยานไปบ้านป้าทันทีค่ะ ไม่กล้าอยู่แล้ว
และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เราก็ไม่เจออะไรอีกเลยมาสักระยะหนึ่ง จนคืนหนึ่งหลังจากที่เราดูรายการประกวดร้องเพลง ( เดอะดาว ) จบแล้ว เราก็ปิดทีวีนอน คือเรามีทีวีในห้องนอนนะคะ สักพักเราได้ยินเสียงหายใจของคนค่ะ หายใจอยู่ข้างๆหูข้างขวา เราก็พยายามเงี้ยหูฟังว่าจริงๆมันคือเสียงอะไรกันแน่แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้
มีต่อนะคะ ยังไม่จบค่าา
บ้านเช่าประหลาด
เริ่มเรื่องเลยนะคะ ย้อนกลับไปตอนนั้นเราอายุประมาณ 15-16 ปี ครอบครัวเราไปเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ ที่เลือกเช่าหลังนี้เพราะมีคุณลุงที่รู้จักกับครอบครัวเราแนะนำค่ะ เขาบอกว่าเป็นบ้านญาติของเขา ซึ่งตอนนี้เจ้าของบ้านอาศัยอยู่ที่บ้านพักข้าราชการ เนื่องจากสามีเขาเป็นทหารค่ะ บ้านหลังนี้จึงไม่มีใครอยู่ เขาเลยปล่อยเช่ามาตลอด
สภาพบ้านเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ข้างล่างเป็นปูน ข้างบนเป็นไม้ มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สภาพค่อนๆไปทางเก่านิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับทรุดโทรมมาก ภายนอกตัวบ้านดูไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ เป็นเหมือนบ้านปกติทั่วๆไป
แต่พอเข้าไปข้างในตัวบ้าน สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ หิ้งพระ และพระพุทธรูปต่างๆ คือมันมีตั้งอยู่หลายจุดของบ้านจนน่าแปลกใจ ตอนนั้นก็เดาเอาว่าคนที่อยู่ก่อนหน้านี้เค้าคงชอบบูชาพระมั้ง จากนั้นเราก็ขึ้นไปดูชั้นสองกันค่ะ ขึ้นไปจนสุดบันไดชั้นสอง ด้านขวามือจะมีซอกเล็กๆอยู่ พระ!!! เจอพระพุทธรูปอีกแล้วค่ะ ถูกวางไว้ที่พื้นในซอกเล็กๆตรงนั้น มีแก้วน้ำ แก้วธูปด้วย สิ่งแรกที่คิดคือ “วางพระไว้ที่พื้นได้ด้วยหรอวะ” หลังจากนั้นก็กวาดสายตาไปมองห้องต่างๆ ก็เห็นว่าที่ประตูห้องทั้งสามห้องจะมีการ”เจิม”ทั้งหมดค่ะ เราก็คิดว่าส่งสัยเค้าเพิ่งทำบุญบ้าน การสำรวจบ้านก็จบไปค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก็ย้ายของเข้ามาอยู่ตามปกติ และจัดแจงหิ้งพระต่างๆให้เรียบร้อย ซึ่งเราไม่รู้ว่าแม่เอาพระไปไว้ไหน รู้อีกทีพระพุทธรูป หิ้งพระต่างๆก็หายไปแล้ว
ลักษณะห้องนอนของบ้านหลังนี้ จะมี 2 ห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าตัวบ้าน และอีก 1 ห้องนอนอยู่ด้านหลังตัวบ้าน เรานอนห้องด้านหน้าตัวบ้านค่ะ นอนกับยาย ส่วนพ่อกับแม่นอนห้องถัดไป ซึ่งอยู่ด้านหน้าเช่นกัน มีวันหนึ่งเรานอนหลับอยู่ แล้วได้ยินเสียงเหมือนมีคนเอาผ้ามาเช็ดตรงผนังหัวเตียงที่เรานอน มันเป็นเหมือนเสียงผ้าแห้งที่เสียดสีกับไม้แรงๆอ่ะค่ะ เนื่องจากผนังเป็นไม้มันเลยทำให้เราได้ยินชัดมาก เราก็คิดว่าต้องเป็นยายมาทำความสะอาดแน่ๆ เพราะยายเราเป็นคนที่รักสะอาดมาก เช็ดทุกซอกทุกมุม ด้วยความที่ง่วงมากและรำคาญ ก็เลยตะโกนเรียก “ยาย” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราพูดไม่ได้ค่ะ มันไม่มีเสียงออกมา เราตกใจมาก ลืมตาขึ้นมา ตั้งสติแล้วลองตะโกนเรียกใหม่ แต่ก็เหมือนเดิม เราพยายามตะโกน จนน้ำตาคลออ่ะค่ะ ตอนแรกคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายแรงแบบตื่นมาแล้วพูดไม่ได้ จนเราได้ยินเสียงเด็กค่ะ เป็นเสียงเด็กหัวเราะแบบสนุกสนาน คล้ายหัวเราเยอะ หัวเราะคนเดียวนะคะ เสียงใกล้เรามากแต่เรามองไม่เห็นนะ ตอนนั้นก็เดาๆเอาว่าโดนผีอำมั้ง แต่เราไม่กลัวนะคะเราโมโหแทน โมโหเสียงเด็กอ่ะ เรามโนเอาว่าเด็กมันต้องหัวเราะเยาะเราแน่ๆที่เราพูดไม่ได้ เราเลยตั้งสติค่ะ ค่อยๆหายใจเข้า-ออก พุทธ โธ ไปแป๊บนึง แล้วก็ลองรวบรวมสติตะโกนเรียก “ยายยยยยยยยยย” เห้ยเรามีเสียงแล้วค่ะ ยายเราได้ยินก็ขานรับ แล้วก็ขึ้นมาหาเรา เปิดประตูห้องนอน เปิดไฟ แล้วถามว่าเป็นอะไร เราตอบไปว่าโดนผีอำ! ยายตอบกลับมาว่า ไม่มีหรอกผีอ่ะ แล้วก็ปิดไฟ ปิดประตู ทิ้งเรานอนอยู่คนเดียว แต่เราก็นอนต่อนะคะ ไม่ได้กลัวอะไร เพราะเสียงนั้นมันหายไปหมดแล้ว
เหตุการณ์ต่อมา คืนนั้นเรานอนหลับกับยายปกติ แล้วก็ฝันว่าเราปวดฉี่แล้วปลุกยายให้ลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างเป็นเพื่อน (ชั้น2ไม่มีห้องน้ำ) ยายก็ลุกไปเปิดประตูห้องนอน พอเปิดออกมาก็เจอแม่กำลังจะลงไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน เราสามคนพากันลงไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นก่อนขึ้นข้างบนแม่เราก็เดินไปเปิดประตูหลังบ้านมองดูอะไรสักอย่างแล้วก็เดินกลับเข้ามา หลังจากนั้นเราก็ตื่นขึ้นมาจริงๆค่ะ เพราะปวดฉี่ แล้วเราก็ปลุกยาย เปิดประตูออกมาเจอแม่ ลงไปข้างล่างเข้าห้องน้ำ แล้วแม่ก็เดินไปเปิดประตูหลังบ้านมองๆอะไรไม่รู้แล้วก็ปิดประตู เหตุการณ์ต่างๆดำเนินไปตามที่เราฝันเป๊ะเลย เรางงมาก แต่ก็ไม่สนใจอะไร เพราะง่วงนอนมาก รีบขึ้นไปนอนแล้วหลับไป ตื่นมาก็ไม่ได้สนใจอะไร เหตุการณ์นั้นก็ผ่านไปค่ะ
หลังจากนั้นไม่นานเราแยกห้องนอนกับยาย เราไปนอนห้องที่ยังว่างอยู่ เป็นห้องที่อยู่ด้านหลังของตัวบ้าน สภาพในห้องจะมีกระดาษลายๆติดที่ผนังห้องฝั่งขวาทั้งแถบ เหมือนคนที่ทำเขาคงอยากได้อารมณ์เหมือนติดวอลเปเปอร์ ด้วยความที่กำลังโตเป็นสาว เลยอยากได้ห้องนอนสวยๆ ตกแต่งน่ารักๆ เราเลยทำการแกะวอลเปเปอร์นี้ออก และสำรวจไปที่ผนังรอบๆห้องว่ามันมีอะไรไม่สวยงามอีกไหม และมันก็มีสิ่งนั้นจริงๆค่ะ ไม่มีความสวยงามเลย ขวางหูขวางตาเรามาก มันเป็นแผ่นกระดาษเก่าๆ เลอะฝุ่นจนดำ ขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ ถูกติดอยู่ที่มุมๆหนึ่งในห้อง อยู่ด้านบนเกือบถึงเพดาน พอเราเห็นเข้าก็รีบหาเก้าอี้เลยค่ะ ปีนขึ้นไปแล้วเอาไม้บรรทัดเหล็กแงะๆมันออกมา พอแงะเสร็จก็เอามาดูว่ามันคืออะไร ปรากฎว่ามันคือ “แผ่นยันต์” ค่ะ คือมันเก่ามากจนแทบจะไม่เห็นสีแดงเลย ในใจก็คิดว่า “ใครมันบ้าเอายันต์มายัดไว้ตรงนี้วะ”
หลังจากนั้นเหตุการณ์แปลกๆก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เราฝันอีกแล้วค่ะ ฝันว่าเราตื่นนอนแล้ววิ่งลงบันได พอไปถึงช่วงพักบันได เราได้ยินเสียงแม่ตะโกนถามว่า “กินข้าวเหนียวหมูปิ้งไหมมม” เราตอบแม่ว่า “กินนน” จากนั้นเราก็ตื่นขึ้นมาค่ะ เราคิดว่าเราคงหิวเลยฝันแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมันก็ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเลย จากนั้นเราก็ลุกจากที่นอนทันที เพราะมันเช้าแล้วเราก็วิ่งลงไปข้างล่างตามปกติ พอถึงช่วงพักบันได เราได้ยินแม่ตะโกนว่า “กินข้าวเหนียวหมูปิ้งไหมมม” แล้วเราก็ดันตอบแม่ว่า “กินนน” พอมีสติขึ้นมาได้ถึงกับชะงักเลย มันเหมือนในฝันเป๊ะเลย ตอนนั้นก็ขำๆนะคะ เป็นแบบนี้มา 2ครั้งแล้ว รู้สึกตลกตัวเองที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจากการฝันได้
ต่อมาวันหนึ่งเราอยู่บ้านกับแม่สองคน แม่นั่งอยู่ข้างล่าง ส่วนเราอยู่ในห้องนอนกำลังเตรียมทำงานส่งคุณครู ตรงนี้ขออธิบายละเอียดนิดนึงนะคะ เรากางกระดาษร้อยปอนด์ออกวางไว้บนพื้น แล้วเอาขวดน้ำที่มีน้ำวางทับไว้ที่มุมๆหนึ่งของกระดาษ ส่วนมุมที่เหลือใช้อย่างอื่นทับไว้ เพราะกระดาษมันงอจากการถูกม้วนมา เราวางกระดาษทิ้งไว้ รอมันหายงอก่อนค่อยทำงาน จากนั้นเราก็ลงไปนั่งเล่นกับแม่ข้างล่างค่ะ ผ่านไปประมาณ 5 นาที เราได้ยินเสียงขวดน้ำล้ม ตึ้งงง เสียงมาจากห้องนอนเรา เราก็เลยคิดว่าขวดน้ำที่วางทับกระดาษไว้มันล้มแน่ๆ เลยรีบวิ่งขึ้นไปดูเพราะกลัวว่าถ้าฝาน้ำปิดไม่สนิทแล้วจะหกใส่กระดาษ แต่สิ่งที่เห็นคือ ทุกอย่างอยู่เป็นระเบียบดี ไม่มีอะไรล้มหรือหล่น เราก็ไม่สนใจอะไรค่ะ ไหนๆขึ้นไปแล้วก็นั่งทำการบ้านซะเลย
หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน สายๆของวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เรานอนหลับอยู่ในห้องนอนแล้วได้ยินเสียงคล้ายไม้แขวนเสื้อหลายๆอันมันร่วงกราวลงมา เราสะดุ้งตื่น เสียงนั้นน่าจะมาจากห้องพ่อกับแม่ เราก็คิดว่าแม่คงจะเอาไม้แขวนเสื้อไปตากผ้าแล้วทำหล่นแน่ๆ เราเลยลุกจากที่นอนแล้วเดินไปห้องพ่อกับแม่ พอเปิดประตูเข้าไปปรากฎว่าในห้องว่างเปล่า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีไม้แขวนเสื้อที่หล่น เราเดินสำรวจรอบๆห้องก็ไม่มีอะไรหล่นเลย เราเลยเดินลงมาข้างล่างเพราะมั่นใจมากต้องมีคนใดคนหนึ่งอยู่บ้านแน่ๆ พอลงมาถึงชั้นล่างบ้านเงียบมาก ประตูปิดล็อคอย่างดี เราวิ่งไปที่หน้าบ้านก็ไม่เจอรถใครเลย พ่อกับแม่ต้องออกไปทำงานแน่ๆ ( พ่อแม่ทำงานแบบเลือกวันหยุดได้ค่ะ ซึ่งสัปดาห์นั้นเขาไม่ได้หยุดเสาร์ อาทิตย์) ส่วนยายก็ต้องไปเลี้ยงหลานที่บ้านป้า ( ยายไปเลี้ยงหลานที่บ้านป้าเป็นประจำค่ะ ซึ่งบ้านก็อยู่ในซอยเดียวกัน ) สรุปคือเราอยู่บ้านคนเดียว ตอนนั้นตกใจมาก เพราะตอนตื่นเรามั่นใจมากว่าต้องมีคนอยู่บ้าน จากนั้นเรารีบอาบน้ำ ล็อคบ้านและปั่นจักรยานไปบ้านป้าทันทีค่ะ ไม่กล้าอยู่แล้ว
และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เราก็ไม่เจออะไรอีกเลยมาสักระยะหนึ่ง จนคืนหนึ่งหลังจากที่เราดูรายการประกวดร้องเพลง ( เดอะดาว ) จบแล้ว เราก็ปิดทีวีนอน คือเรามีทีวีในห้องนอนนะคะ สักพักเราได้ยินเสียงหายใจของคนค่ะ หายใจอยู่ข้างๆหูข้างขวา เราก็พยายามเงี้ยหูฟังว่าจริงๆมันคือเสียงอะไรกันแน่แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้