บุญกุศลไม่สูญหาย รอสัปปายะถึงให้ผล
ถ้าหากเราทำบุญกับพระอรหันต์ แล้วพระอรหันต์เข้าสู่นิพพานแล้ว บุญกุศลที่เราทำไว้กับเราจะตอบแทนเราได้หรือไม่?
บุญกุศลในธรรมไม่มีการสูญหาย ธรรมย่อมยุติธรรมเสมอ ฉะนั้น เราทำดีต่อไปเราไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ดี เพราะในธรรมให้เราเสมอ เพียงแต่เวลาไหนเท่านั้นเอง กุศลความดีของเราที่ทำไม่มีวันสูญหาย
บางคนบอกว่าทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี ก็เพราะว่ายังไม่ถึงเวลา บางคนถึงขนาดว่าไปทำชั่วเลย พอเราขี้เกียจรอกุศลส่ง เราจะฉีกคูปองทิ้งก็เรื่องของเขา
พอเราฉีกคูปองทิ้ง เราก็ไม่มีสิทธิ์รับ แต่ของของเราแต่เรารับไม่ได้ เพราะเราไม่มีสิทธิ์ไปอ้าง
ตัวอะไรที่ทำให้เราฉีกคูปองทิ้ง ก็เพราะว่ารอนาน ไม่อยากได้แล้ว เราก็ฉีกทิ้ง แล้วก็ประกาศว่าจะไม่เอา พอเราไม่ไปรับธรรมก็จะแจกจ่ายกุศลนี้ให้คนอื่น เพราะว่าเราสละสิทธิ์เอง เราฉีกทิ้ง ก็แปลว่าเราสละสิทธิ์เอง ก็ช่วยไม่ได้ พอเราสละสิทธิ์ในธรรมก็เอาไปให้คนอื่น
พอเราสละสิทธิ์ในกุศลนี้ก็จะคืนสู่ธรรม ในธรรมก็จะจัดสรรให้คนอื่นต่อไป
สมมติว่าคนอื่นมาตีเรา เราเป็นเจ้ากรรมของเขา เราก็สามารถอโหสิกรรมได้
แต่ถ้าเราไปตีหัวเขา แล้วเราบอกว่า เราอโหสิกรรมให้ตัวเอง แล้วใครจะยอม
สมมติว่า เขาตีหัวผม แล้วผมไม่เอาเรื่องเขา เราก็อโหสิกรรมให้แก่เขา แล้วผมก็เสียเปรียบนะสิ อันนี้เป็นความคิดที่มิจฉา แล้วจะได้อะไรขึ้นมา ก็ได้ความแค้น อาฆาต พยาบาทที่อยู่ในใจของเรา กูเสียเปรียบโว๊ย ทำไมกูต้องทำอย่างนี้ กูทำไมโง่อย่างนี้ พอมีคนมายั่วยุหน่อย เราต้องไปเรียกร้องกูจะเอาคืน
ถ้าความแค้น อาฆาต จองเวร มันดีตรงไหน ดีตรงที่ว่าทำให้เราไม่เจริญ ก็เพราะว่าความแค้น อาฆาตดึงเราไว้แล้วเราจะเจริญได้ยังไง ก็ดีตรงที่เราไม่เจริญไง
ถ้าเราทำดีแล้วไม่เอา นั่นหมายความว่าเราฉีกคูปองทิ้ง เราสละสิทธิ์ แต่ถ้าความชั่ว เราไปทำเค้ายังไงเราก็ต้องได้รับ แน่นอน เราก็ต้องได้รับ เพราะสิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่เรา อยู่ที่เค้า อยู่ที่เจ้ากรรม เพราะว่าเราไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ความดีนั่นเราเป็นเจ้าของ เราก็ประกาศได้ แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของกรรมนั้น เราก็ประกาศอโหสิกรรมได้
ฉะนั้น เราต้องประกาศอโหสิกรรม นั่นแหละ เราจะได้เจริญ ไม่ต้องแบกความทุกข์
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
บุญกุศลไม่สูญหาย รอสัปปายะถึงให้ผล
ถ้าหากเราทำบุญกับพระอรหันต์ แล้วพระอรหันต์เข้าสู่นิพพานแล้ว บุญกุศลที่เราทำไว้กับเราจะตอบแทนเราได้หรือไม่?
บุญกุศลในธรรมไม่มีการสูญหาย ธรรมย่อมยุติธรรมเสมอ ฉะนั้น เราทำดีต่อไปเราไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ดี เพราะในธรรมให้เราเสมอ เพียงแต่เวลาไหนเท่านั้นเอง กุศลความดีของเราที่ทำไม่มีวันสูญหาย
บางคนบอกว่าทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี ก็เพราะว่ายังไม่ถึงเวลา บางคนถึงขนาดว่าไปทำชั่วเลย พอเราขี้เกียจรอกุศลส่ง เราจะฉีกคูปองทิ้งก็เรื่องของเขา
พอเราฉีกคูปองทิ้ง เราก็ไม่มีสิทธิ์รับ แต่ของของเราแต่เรารับไม่ได้ เพราะเราไม่มีสิทธิ์ไปอ้าง
ตัวอะไรที่ทำให้เราฉีกคูปองทิ้ง ก็เพราะว่ารอนาน ไม่อยากได้แล้ว เราก็ฉีกทิ้ง แล้วก็ประกาศว่าจะไม่เอา พอเราไม่ไปรับธรรมก็จะแจกจ่ายกุศลนี้ให้คนอื่น เพราะว่าเราสละสิทธิ์เอง เราฉีกทิ้ง ก็แปลว่าเราสละสิทธิ์เอง ก็ช่วยไม่ได้ พอเราสละสิทธิ์ในธรรมก็เอาไปให้คนอื่น
พอเราสละสิทธิ์ในกุศลนี้ก็จะคืนสู่ธรรม ในธรรมก็จะจัดสรรให้คนอื่นต่อไป
สมมติว่าคนอื่นมาตีเรา เราเป็นเจ้ากรรมของเขา เราก็สามารถอโหสิกรรมได้
แต่ถ้าเราไปตีหัวเขา แล้วเราบอกว่า เราอโหสิกรรมให้ตัวเอง แล้วใครจะยอม
สมมติว่า เขาตีหัวผม แล้วผมไม่เอาเรื่องเขา เราก็อโหสิกรรมให้แก่เขา แล้วผมก็เสียเปรียบนะสิ อันนี้เป็นความคิดที่มิจฉา แล้วจะได้อะไรขึ้นมา ก็ได้ความแค้น อาฆาต พยาบาทที่อยู่ในใจของเรา กูเสียเปรียบโว๊ย ทำไมกูต้องทำอย่างนี้ กูทำไมโง่อย่างนี้ พอมีคนมายั่วยุหน่อย เราต้องไปเรียกร้องกูจะเอาคืน
ถ้าความแค้น อาฆาต จองเวร มันดีตรงไหน ดีตรงที่ว่าทำให้เราไม่เจริญ ก็เพราะว่าความแค้น อาฆาตดึงเราไว้แล้วเราจะเจริญได้ยังไง ก็ดีตรงที่เราไม่เจริญไง
ถ้าเราทำดีแล้วไม่เอา นั่นหมายความว่าเราฉีกคูปองทิ้ง เราสละสิทธิ์ แต่ถ้าความชั่ว เราไปทำเค้ายังไงเราก็ต้องได้รับ แน่นอน เราก็ต้องได้รับ เพราะสิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่เรา อยู่ที่เค้า อยู่ที่เจ้ากรรม เพราะว่าเราไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ความดีนั่นเราเป็นเจ้าของ เราก็ประกาศได้ แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของกรรมนั้น เราก็ประกาศอโหสิกรรมได้
ฉะนั้น เราต้องประกาศอโหสิกรรม นั่นแหละ เราจะได้เจริญ ไม่ต้องแบกความทุกข์
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์