ตั้งแต่เห็นตัวอย่างที่ปล่อยออกมา ก็แอบอดคิดไม่ได้ว่า Christopher Robin เวอร์ชั่นของDisney คงไม่ได้ออกมาสดใสสักเท่าไหร่ เพราะโทนสีของหนัง และตัวอย่างมันต้องสื่ออะไร มากกว่า พูห์ถูกเล่นมานานจนเก่า และการเล่าเรื่องย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่1 ที่ A.A. พ่อของChristopher ได้แต่งเรื่องWinnie-the-Poohขึ้นแน่ๆ ยิ่งได้ผู้กำกับหนังซอมบี้ World war Z คาดว่า หนังคงต้องเศร้าแน่เลย
แต่พอหลังจากที่ได้ดู หนังมันก็ไม่ได้เศร้า ซึ้ง น้ำตาไหล แฮะ แต่อารมณ์หนัง มันก็จะออกหม่นๆหน่อย ไม่ได้โลกสวย สดใส ตามสไตล์Disney และPooh ขนาดนั้น เข้าใจว่าLive-Action เวอร์ชั่นนี้ โฟกัสไปที่Christopher Robin ตามชื่อเรื่อง ถ้าไม่ได้ความน่ารักของพูห์ ความรู้สึกส่วนตัว นี่คือแอบคิดว่าเป็นหนังดราม่า ทิลเลอร์ เล็กๆ เลยนะ คือดูแล้วมันอิ่มเอม สุข อบอุ่นใจ ตลกนิดๆ และสนุกนะ แต่บางอารมณ์ในหนัง รู้สึกว่ามันจะดู หม่นหมอง เศร้าๆ ไปหน่อย ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเรามั้ย
หนังเล่าเรื่องเป็นแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีการเกริ่นนำ เป็นบทเป็นตอน สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือมากก่อน ดำเนินเรื่อง แบบไม่หวือหวา ดูเพลินๆ เรียบง่าย แต่ก็ไม่น่าเบื่อ
งานภาพ CGทำออกมาได้ดีมากกกกกก เนียนเวอร์ อย่างกะตุ๊กตาหมีพูห์ และผองเพื่อน มีชีวิตจริงๆ สวยงามสุดๆ อยากได้มาไว้ที่บ้านทุกตัวเลย
สถานที่ถ่ายทำ ถ้าคนเคยดูการ์ตูนPooh แล้วไปดูหนัง คือสวย เหมือนป่าร้อยเอเคอร์ในการ์ตูนมาก
ดนตรีประกอบ เราชอบนะ ทำออกมาได้ดีมาก บิ้วท์อารมณ์ให้เข้ากับหนังดี ฟังแล้วอินไปกับหนัง
ทีมพากย์ เราชอบเสียงพูห์มาก น่าจะเป็นคนเดียวกับที่พากย์พูห์แรกๆเลย ชอบพูดว่า.. “หรอ?” สำเนียงจะออก เหมือนพูห์ เป็นหมีสุพรรณบุรี หน่อยๆ มีความเหน่อๆ แบบน่ารัก จนดูหนังจบ เราติดพูดแบบนี้ไปหลายวันเลย
หนังให้ข้อคิด และแง่คิดดีๆ ในการใช้ชีวิต เยอะมาก ชอบสุดคือ.. “บางครั้ง.. การไม่ทำอะไร คือการกระทำที่ดีที่สุด” (พูห์กล่าว)
อบอุ่นหัวใจ ไปกับความน่ารัก ใส ซื่อ ไร้เดียงสา ของพูห์ ที่เป็นตัวแทนของความสุข ความเรียบง่าย สบายๆ แม้กระทั่งลูกโป่ง ยังทำให้พูห์ มีความสุขได้ รวมไปถึง ความวิตก ของพิกเลท ความปลง ของอียอร์ ความซน ของทิกเกอร์ และความน่ารักของผองเพื่อน ทำให้รู้สึก อารมณ์เหมือนย้อนวันวาน สมัยเด็กๆ ที่ตื่นเช้า เสาร์ อาทิตย์ มาดูPooh - Disney Club พี่นัทพี่แนน
ดูแล้วก็มีความสุข และอมยิ้มตาม ไปกับความน่ารัก ของตัวละคร
ถ้าคุณเป็นสาวกหมีพูห์ เรื่องนี้ ถือว่าเป็นอีกเรื่อง ที่ไม่ควรพลาด คือหนังดีจริงๆ ถึงแม้หนังจะไม่ได้สดใส โลกสวย อะไรขนาดนั้น แต่ก็สนุก และให้แง่คิดดีๆมากมายเลยทีเดียว
สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 8/10 คะแนน
ปล. แอบคิดนะ 🤔 ถ้าWalt Disney ทำLive-Action ของWinnie-the-Pooh เหมือนในการ์ตูนตอนเช้า สีสัน สดใส น่ารัก โลกสวย หรือทำเป็นAnimation แบบFrozen ก็น่าจะโกยรายได้ไปมากกว่านี้ เพราะPooh เป็นการ์ตูน ที่แทบทุกคนต้องรู้จัก และฐานแฟนคลับ ที่มีอยู่แล้ว ค่อนข้างเยอะ คงจะปังมากกว่านี้ เท่าที่ดูChristopher Robin หนังดีก็จริง แต่กระแสเงียบมาก ไม่รู้เพราะอะไร ส่วนตัวคิดว่า โทนอารมณ์ของหนังที่สนุก แบบหม่นๆ หน่วงๆ ยังไม่มีอิมแพคมากพอ ที่จะดึงดูดคน ให้เข้าไปดู หนังแนวนี้มันต้องสนุก เฮฮา สดใส ถึงจะแมส
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%88-609405332525643/
หมีพูห์ และผองเพื่อน ป่าร้อยเอเคอร์ น่ารัก อบอุ่นใจ ในอารมณ์หม่นๆ #Christopher Robin (Spoil)
ตั้งแต่เห็นตัวอย่างที่ปล่อยออกมา ก็แอบอดคิดไม่ได้ว่า Christopher Robin เวอร์ชั่นของDisney คงไม่ได้ออกมาสดใสสักเท่าไหร่ เพราะโทนสีของหนัง และตัวอย่างมันต้องสื่ออะไร มากกว่า พูห์ถูกเล่นมานานจนเก่า และการเล่าเรื่องย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่1 ที่ A.A. พ่อของChristopher ได้แต่งเรื่องWinnie-the-Poohขึ้นแน่ๆ ยิ่งได้ผู้กำกับหนังซอมบี้ World war Z คาดว่า หนังคงต้องเศร้าแน่เลย
แต่พอหลังจากที่ได้ดู หนังมันก็ไม่ได้เศร้า ซึ้ง น้ำตาไหล แฮะ แต่อารมณ์หนัง มันก็จะออกหม่นๆหน่อย ไม่ได้โลกสวย สดใส ตามสไตล์Disney และPooh ขนาดนั้น เข้าใจว่าLive-Action เวอร์ชั่นนี้ โฟกัสไปที่Christopher Robin ตามชื่อเรื่อง ถ้าไม่ได้ความน่ารักของพูห์ ความรู้สึกส่วนตัว นี่คือแอบคิดว่าเป็นหนังดราม่า ทิลเลอร์ เล็กๆ เลยนะ คือดูแล้วมันอิ่มเอม สุข อบอุ่นใจ ตลกนิดๆ และสนุกนะ แต่บางอารมณ์ในหนัง รู้สึกว่ามันจะดู หม่นหมอง เศร้าๆ ไปหน่อย ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเรามั้ย
หนังเล่าเรื่องเป็นแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีการเกริ่นนำ เป็นบทเป็นตอน สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือมากก่อน ดำเนินเรื่อง แบบไม่หวือหวา ดูเพลินๆ เรียบง่าย แต่ก็ไม่น่าเบื่อ
งานภาพ CGทำออกมาได้ดีมากกกกกก เนียนเวอร์ อย่างกะตุ๊กตาหมีพูห์ และผองเพื่อน มีชีวิตจริงๆ สวยงามสุดๆ อยากได้มาไว้ที่บ้านทุกตัวเลย
สถานที่ถ่ายทำ ถ้าคนเคยดูการ์ตูนPooh แล้วไปดูหนัง คือสวย เหมือนป่าร้อยเอเคอร์ในการ์ตูนมาก
ดนตรีประกอบ เราชอบนะ ทำออกมาได้ดีมาก บิ้วท์อารมณ์ให้เข้ากับหนังดี ฟังแล้วอินไปกับหนัง
ทีมพากย์ เราชอบเสียงพูห์มาก น่าจะเป็นคนเดียวกับที่พากย์พูห์แรกๆเลย ชอบพูดว่า.. “หรอ?” สำเนียงจะออก เหมือนพูห์ เป็นหมีสุพรรณบุรี หน่อยๆ มีความเหน่อๆ แบบน่ารัก จนดูหนังจบ เราติดพูดแบบนี้ไปหลายวันเลย
หนังให้ข้อคิด และแง่คิดดีๆ ในการใช้ชีวิต เยอะมาก ชอบสุดคือ.. “บางครั้ง.. การไม่ทำอะไร คือการกระทำที่ดีที่สุด” (พูห์กล่าว)
อบอุ่นหัวใจ ไปกับความน่ารัก ใส ซื่อ ไร้เดียงสา ของพูห์ ที่เป็นตัวแทนของความสุข ความเรียบง่าย สบายๆ แม้กระทั่งลูกโป่ง ยังทำให้พูห์ มีความสุขได้ รวมไปถึง ความวิตก ของพิกเลท ความปลง ของอียอร์ ความซน ของทิกเกอร์ และความน่ารักของผองเพื่อน ทำให้รู้สึก อารมณ์เหมือนย้อนวันวาน สมัยเด็กๆ ที่ตื่นเช้า เสาร์ อาทิตย์ มาดูPooh - Disney Club พี่นัทพี่แนน
ดูแล้วก็มีความสุข และอมยิ้มตาม ไปกับความน่ารัก ของตัวละคร
ถ้าคุณเป็นสาวกหมีพูห์ เรื่องนี้ ถือว่าเป็นอีกเรื่อง ที่ไม่ควรพลาด คือหนังดีจริงๆ ถึงแม้หนังจะไม่ได้สดใส โลกสวย อะไรขนาดนั้น แต่ก็สนุก และให้แง่คิดดีๆมากมายเลยทีเดียว
สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 8/10 คะแนน
ปล. แอบคิดนะ 🤔 ถ้าWalt Disney ทำLive-Action ของWinnie-the-Pooh เหมือนในการ์ตูนตอนเช้า สีสัน สดใส น่ารัก โลกสวย หรือทำเป็นAnimation แบบFrozen ก็น่าจะโกยรายได้ไปมากกว่านี้ เพราะPooh เป็นการ์ตูน ที่แทบทุกคนต้องรู้จัก และฐานแฟนคลับ ที่มีอยู่แล้ว ค่อนข้างเยอะ คงจะปังมากกว่านี้ เท่าที่ดูChristopher Robin หนังดีก็จริง แต่กระแสเงียบมาก ไม่รู้เพราะอะไร ส่วนตัวคิดว่า โทนอารมณ์ของหนังที่สนุก แบบหม่นๆ หน่วงๆ ยังไม่มีอิมแพคมากพอ ที่จะดึงดูดคน ให้เข้าไปดู หนังแนวนี้มันต้องสนุก เฮฮา สดใส ถึงจะแมส
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้