4th Day :
Sunshine Prince Hotel > ศาลเจ้าเมจิ > สถานีฮาราจูกุ > Takeshita Street > Cat Street > Shibuya > ร้านซูชิ Shunkashutou > Kawasaki Warehouse > Shinjuku > ร้านซูชิ ZENMAI
ใครอยากดูเป็นคลิปจิ้มทางนี้โลด!
หลังจากไปเก็บบรรยากาศนอกเมืองมา3 วัน วันนี้เป็นวันเเรกที่กลับมายังใจกลางเมืองหลวง เเละเป็นวัน FREE DAY
เป้าหมายหลักของเราคือ เกมส์เซ็นเตอร์ที่ Kawasaki Warehouse
หลังจาก 3 วันแรกที่กินอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นติดๆกัน ก็อยากจะขอเปลี่ยนเเนวมาเป็นแบบฝรั่งบ้าง
มีเบเกอรี่มีกาแฟแล้วก็มีอาหารญี่ปุ่นให้เลือกทานด้วยนะครับที่โรงเเรม ซันชายซิตี้ ปริ๊นซ์โฮเทล
เอาล่ะ 9 โมงแล้วพร้อมออกเดินทางจุดหมายแรกของเราวันนี้ก็คือ ศาลเจ้าเมจิอยุ่ใกล้ๆสถานีฮาราจูกุนี่เอง
เดินเข้ามาจะพบกับถังสาเกวางเรียงรายเป็นชั้นๆอย่างสวยงาม อีกฟากเป็นถังไวน์ใหญ่อลังการไม่แพ้กัน
ทั้งสาเกเเละไวน์นี้ มีคนบริจาคให้ศาลเจ้าไว้ใช้สำหรับดื่มเพื่อเป็นสิริมงคลในโอกาสต่างๆ
ซุ้มนี้คือจุดสำหรับเขียนขอพรลง เเผ่นไม้ใครต้องการขอพรก็สามารถซื้อมาเขียนได้ในราคา 500 เยน
พอเดินออกมาก็จะพบกับสถานีฮาราจูกุ เยื้องๆไปอีกคือตรอกทาเคชิตะสตรีท
ซึ้งเป็นเเหล่งช้อปปิ้งมุ้งมิ้งเหมาะกับสาวๆซะมากกว่า
จากนั้นเดินเรื่อยๆมาจนมาถึงที่เเคทสตรีท เป็นถนนที่ขายของวัยรุ่นแนวๆ
เเต่เหมือนว่าเรามาเช้าไปหน่อยมันดูร้างๆยังไงไม่รุ้
เดินๆอยุ่ก็หันไปเจอร้านนี้ เด็ดเลย ลุกส์ล็อบสเตอร์ เเฟรนไซนร้านดังจากอเมริกา ใครอยากลองก็จัดได้เลย
เดินขึ้นไปเรื่อยเรื่อยก็จะถึง ย่านที่ดังระดับโลก 5 แยกชิบูย่านั่นเอง
และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือรูปปั้นน้องหมาฮาจิโกะ ผู้รอคอยเจ้านายนี่เอง
เดินมาจนเที่ยงกว่าแล้วเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าก็มาได้ร้านซูชิ ชุนคะชูโต นี่เเหละ
อยู่ไม่ไกลจาก5 แยกชิบูย่า ก็จะเป็นเซตซูชิที่ราคาไม่แพงเลยประมาณพันแปดพันเก้าเยนนี้แหละ ก็มีลูกค้าแน่นร้านเลย
เป็นร้านเล็กๆค่อนข้างจะคับแคบนิดนึงรสชาติโดยรวมก็โอเคเลยนะครับ
เว้นเสียแต่เจ้าไข่หอยเม่นที่ผมกินเป็นครั้งแรกในชีวิต ก็แบบว่าเฟลมากมาก เหม็นคาวชิบเป๋ง
มีแรงแล้วออกเดินทางกันต่อเลย ตอนนี้เราจะเดินทางโดยใช้รถไฟกันบ้างแล้ว
โดยจะซื้อบัตรพลาสโม่ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินครับในราคา 2,000 เยน
และจุดหมายต่อไปของเรานั่นก็คือตึกเกมอะนัตตาโนะ Kawasaki Warehouse นี่เอง
เป็นตึกเกมส?เซนเตอร์ทั้งตึกที่ดีไซน์เลียนเเบบสลัมในย่านฮ่องกงครับหลอนเเปลกดี
ชมคลิปพาทัวร์ตึกหลอนได้ที่นี่
พอขึ้นมาตั้งเเต่ชั่นสองขึ้นไปก็จะคนละฟิลลิ่งเลย
เที่ยวตึกเกมจนเพลินออกมาอีกทีฟ้ามืดตึ้บ จุดหมายต่อไปเราจะนั่งรถไฟไปลงที่สถานีชินจูกุ
ก็มาชมสีสันยามค่ำคืนของที่นี่กัน และแน่นอนไฮไลท์ของที่นี่เป็นเจ้าก๊อตจิตัวใหญ่บนโรงหนังนี่เอง
ตรอกนี้ก็มีผู้คนเดินกันมากมาย
ด้านหน้าก็จะมีร้านดองกี้โฮเต้ ร้านที่คนไทยต่างแห่กันมาช้อปปิ้งเพราะมีของใช้แทบทุกอย่างอยู่ในนั้นเเล้ว
นี่หลักหลักเรามาเเค่ถ่ายก็อตซิลล่าเองนะเนี่ย
จากนั้นเรามาปิดท้ายกันที่ ฮิกาชิอิเคบุคุโระอยู่แถวแถวๆโรงแรมของเรานี่แหละ
ก็จะมีร้านค้าต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ารองเท้าเสื้อผ้าหรือแม้แต่ตู้กาชาปองและเครนเกม
มื้อสุดท้ายในวันนี้ของเราก็มาจบที่ร้านซูชิเซนไมนี่เอง ซูชิอีกแล้วหรอ
ก็มีคุณน้าอ้วนๆมายืนต้อนรับที่หน้าร้าน
ร้านนี้ขึ้นชื่อเลยเพราะเจ้าของร้านชอบประมูลปลาทูน่าชั้นดีและแพงอันดับ 1 ทำให้มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและความสด
นี่เนื้อสามระดับชูโทโร่โอโทโร่และอากามิ มันฟินมาก
จะขอแก้มือกับใครหอยเม่นร้านนี้ดู
ปรากฏว่ามันแตกต่างจากเมื่อกลางวันมากๆมันนุ่มหวานมันเหมือนกินคัสตาร์ดเลยสุดยอดมากๆ
day1
https://ppantip.com/topic/37402848
day2
https://ppantip.com/topic/37415424
day3
https://ppantip.com/topic/37956362
day4
https://ppantip.com/topic/37959630
day5
https://ppantip.com/topic/37983632
day6
https://ppantip.com/topic/37983708
day7
https://ppantip.com/topic/37985812
ติดตามชมวันที่ 5 ได้โพสหน้าคร้าบ
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่เพจhttps://www.facebook.com/snapplusphoto ครับผม
[CR] TOKYO Trip 2017 : DAY4 ศาลเจ้าเมจิ > สถานีฮาราจูกุ > Cat Street > Shibuya > Kawasaki Warehouse > Shinjuku
Sunshine Prince Hotel > ศาลเจ้าเมจิ > สถานีฮาราจูกุ > Takeshita Street > Cat Street > Shibuya > ร้านซูชิ Shunkashutou > Kawasaki Warehouse > Shinjuku > ร้านซูชิ ZENMAI
ใครอยากดูเป็นคลิปจิ้มทางนี้โลด!
หลังจากไปเก็บบรรยากาศนอกเมืองมา3 วัน วันนี้เป็นวันเเรกที่กลับมายังใจกลางเมืองหลวง เเละเป็นวัน FREE DAY
เป้าหมายหลักของเราคือ เกมส์เซ็นเตอร์ที่ Kawasaki Warehouse
หลังจาก 3 วันแรกที่กินอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นติดๆกัน ก็อยากจะขอเปลี่ยนเเนวมาเป็นแบบฝรั่งบ้าง
มีเบเกอรี่มีกาแฟแล้วก็มีอาหารญี่ปุ่นให้เลือกทานด้วยนะครับที่โรงเเรม ซันชายซิตี้ ปริ๊นซ์โฮเทล
เอาล่ะ 9 โมงแล้วพร้อมออกเดินทางจุดหมายแรกของเราวันนี้ก็คือ ศาลเจ้าเมจิอยุ่ใกล้ๆสถานีฮาราจูกุนี่เอง
เดินเข้ามาจะพบกับถังสาเกวางเรียงรายเป็นชั้นๆอย่างสวยงาม อีกฟากเป็นถังไวน์ใหญ่อลังการไม่แพ้กัน
ทั้งสาเกเเละไวน์นี้ มีคนบริจาคให้ศาลเจ้าไว้ใช้สำหรับดื่มเพื่อเป็นสิริมงคลในโอกาสต่างๆ
ซุ้มนี้คือจุดสำหรับเขียนขอพรลง เเผ่นไม้ใครต้องการขอพรก็สามารถซื้อมาเขียนได้ในราคา 500 เยน
พอเดินออกมาก็จะพบกับสถานีฮาราจูกุ เยื้องๆไปอีกคือตรอกทาเคชิตะสตรีท
ซึ้งเป็นเเหล่งช้อปปิ้งมุ้งมิ้งเหมาะกับสาวๆซะมากกว่า
จากนั้นเดินเรื่อยๆมาจนมาถึงที่เเคทสตรีท เป็นถนนที่ขายของวัยรุ่นแนวๆ
เเต่เหมือนว่าเรามาเช้าไปหน่อยมันดูร้างๆยังไงไม่รุ้
เดินๆอยุ่ก็หันไปเจอร้านนี้ เด็ดเลย ลุกส์ล็อบสเตอร์ เเฟรนไซนร้านดังจากอเมริกา ใครอยากลองก็จัดได้เลย
เดินขึ้นไปเรื่อยเรื่อยก็จะถึง ย่านที่ดังระดับโลก 5 แยกชิบูย่านั่นเอง
และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือรูปปั้นน้องหมาฮาจิโกะ ผู้รอคอยเจ้านายนี่เอง
เดินมาจนเที่ยงกว่าแล้วเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าก็มาได้ร้านซูชิ ชุนคะชูโต นี่เเหละ
อยู่ไม่ไกลจาก5 แยกชิบูย่า ก็จะเป็นเซตซูชิที่ราคาไม่แพงเลยประมาณพันแปดพันเก้าเยนนี้แหละ ก็มีลูกค้าแน่นร้านเลย
เป็นร้านเล็กๆค่อนข้างจะคับแคบนิดนึงรสชาติโดยรวมก็โอเคเลยนะครับ
เว้นเสียแต่เจ้าไข่หอยเม่นที่ผมกินเป็นครั้งแรกในชีวิต ก็แบบว่าเฟลมากมาก เหม็นคาวชิบเป๋ง
มีแรงแล้วออกเดินทางกันต่อเลย ตอนนี้เราจะเดินทางโดยใช้รถไฟกันบ้างแล้ว
โดยจะซื้อบัตรพลาสโม่ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินครับในราคา 2,000 เยน
และจุดหมายต่อไปของเรานั่นก็คือตึกเกมอะนัตตาโนะ Kawasaki Warehouse นี่เอง
เป็นตึกเกมส?เซนเตอร์ทั้งตึกที่ดีไซน์เลียนเเบบสลัมในย่านฮ่องกงครับหลอนเเปลกดี
ชมคลิปพาทัวร์ตึกหลอนได้ที่นี่
พอขึ้นมาตั้งเเต่ชั่นสองขึ้นไปก็จะคนละฟิลลิ่งเลย
เที่ยวตึกเกมจนเพลินออกมาอีกทีฟ้ามืดตึ้บ จุดหมายต่อไปเราจะนั่งรถไฟไปลงที่สถานีชินจูกุ
ก็มาชมสีสันยามค่ำคืนของที่นี่กัน และแน่นอนไฮไลท์ของที่นี่เป็นเจ้าก๊อตจิตัวใหญ่บนโรงหนังนี่เอง
ตรอกนี้ก็มีผู้คนเดินกันมากมาย
ด้านหน้าก็จะมีร้านดองกี้โฮเต้ ร้านที่คนไทยต่างแห่กันมาช้อปปิ้งเพราะมีของใช้แทบทุกอย่างอยู่ในนั้นเเล้ว
นี่หลักหลักเรามาเเค่ถ่ายก็อตซิลล่าเองนะเนี่ย
จากนั้นเรามาปิดท้ายกันที่ ฮิกาชิอิเคบุคุโระอยู่แถวแถวๆโรงแรมของเรานี่แหละ
ก็จะมีร้านค้าต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ารองเท้าเสื้อผ้าหรือแม้แต่ตู้กาชาปองและเครนเกม
มื้อสุดท้ายในวันนี้ของเราก็มาจบที่ร้านซูชิเซนไมนี่เอง ซูชิอีกแล้วหรอ
ก็มีคุณน้าอ้วนๆมายืนต้อนรับที่หน้าร้าน
ร้านนี้ขึ้นชื่อเลยเพราะเจ้าของร้านชอบประมูลปลาทูน่าชั้นดีและแพงอันดับ 1 ทำให้มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและความสด
นี่เนื้อสามระดับชูโทโร่โอโทโร่และอากามิ มันฟินมาก
จะขอแก้มือกับใครหอยเม่นร้านนี้ดู
ปรากฏว่ามันแตกต่างจากเมื่อกลางวันมากๆมันนุ่มหวานมันเหมือนกินคัสตาร์ดเลยสุดยอดมากๆ
day1 https://ppantip.com/topic/37402848
day2 https://ppantip.com/topic/37415424
day3 https://ppantip.com/topic/37956362
day4 https://ppantip.com/topic/37959630
day5 https://ppantip.com/topic/37983632
day6 https://ppantip.com/topic/37983708
day7 https://ppantip.com/topic/37985812
ติดตามชมวันที่ 5 ได้โพสหน้าคร้าบ
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่เพจhttps://www.facebook.com/snapplusphoto ครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้