สวัสดีทุกคนที่กำลังอ่านรีวิวนี้นะคะ แพทจะมารีวิวร้านอาหารญี่ปุ่น Kensaku ค่ะ ร้านนี้มีดียังไง เนื่องจากว่าได้ไปเปิดดูคลิปของรายการ Bearhug และพบว่านี่เป็นอีกร้านอาหารร้านนึงที่เราควรต้องมากินให้ได้! เพราะอะไรนั้นเราไปดูกันดีกว่า
แปะยั่ว
นี่คือนากาโอจิ ซี่โครงทูน่าที่เราจะขูดกินกันสดๆวันนี้ ฮึ่ยยย
ร้าน Kensaku ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 4 เข้ามาในซอยแล้วเลี้ยวซ้ายตามทาง จากนั้นจะเจอร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ ร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบเก่า มีที่จอดรถประมาณ 6-8 คัน
ถ้าหากเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ก็นั่งบีทีเอสมาลงที่สถานีอารีย์ และนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อมา (อยู่ฝั่งเดียวกับวิลล่าอารีย์ค่ะ)
ทางร้านจะเปิดเป็นรอบ
รอบกลางวัน 11:00-14:00 น. (last order 13:30 น.)
รอบเย็น 17:00-22:00 น. (last order 21:30)
สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 096-426-9878
หรือแฟนเพจทางร้าน Kensaku ค่ะ
* ต้องบอกก่อนว่าทางร้านจะสั่งวัตถุดิบมาทุกวันอังคารและวันศุกร์ ถ้าอยากได้วัตถุดิบที่สดจริงๆแนะนำเป็น2 วันนี้ค่ะ *
แพทจองโต๊ะไว้จากวันศุกร์เวลา 13:30 น. (ตอนแรกจอง 13:00 น. แต่ทางแอดมินเพจรับจองให้เวลา 13:30 น. ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับ last order อาจจะวุ่นวายและรีบเล็กน้อยแต่ว่าทางพนักงานให้บริการดีมากค่ะ เพราะว่าเรากินกันเสร็จก็เกือบๆ 15:00 น. เลยทีเดียว)
เมนูแนะนำของทางร้าน
1. Unagi Kabayaki Kanto Style
ร้านนี้มีข้าวหน้าปลาไหลชนิดที่ว่า เชฟแล่ให้สดๆและย่างกันสดๆ (ปัจจุบันมี 2 ร้านในไทยที่ทำแล่และย่างสด นอกนั้นจะเป็นแกะออกจากห่อแล้วนำมาเบิร์น ราดซอสสำเร็จรูป)
ปลาไหลที่ทางร้านใช้จะมี
- ปลาไหลฟาร์มที่เลี้ยงแบบออร์แกนิค (รสชาติจะมัน อวบอ้วน เต็มปาก ฟูๆ เพราะไขมันเยอะ)
- ปลาไหลธรรมชาติจากบริเวณแม่น้ำชิมันโตะ จังหวัดโคจิ (ใครมันจะน้อยมาก แต่เนื้อหวานมากกกกก ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวาน มีความเด้งดี กระชับกว่า และเลี่ยนน้อยกว่า)
และน้ำซอสที่นี่ยังใช้ซอสจากกระดูกปลาไหลย่างนับร้อยๆตัว นำมาต้มเป็นเบสน้ำซอสคาบายากิ จากนั้นก็จุ๋มย่างซ้ำมาเรื่อยมานานกว่า 5 ปี รสชาติเด็ดมากค่ะ!!
แพทสั่งมาทั้งสองแบบเลยค่ะ จะได้กินเปรียบเทียบได้ (ปลาไหลแบบธรรมชาติจะราคาแพงกว่าค่ะ)
- ปลาไหลธรรมชาติ เต็มตัว 2,500 บาท
- ปลาไหลธรรมชาติ ครึ่งตัว 1,400 บาท
- ปลาไหลฟาร์ม เต็มตัว 1,600 บาท
- ปลาไหลฟาร์ม ครึ่งตัว 900 บาท
ข้าวหน้าปลาไหลธรรมชาติค่ะ
สั่งแบบธรรมชาติมาครึ่งตัวค่ะ ตัวจะเล็กกว่าแบบฟาร์มนิดหน่อย
กล่องนี้เป็นข้าวหน้าปลาไหลจากฟาร์มค่ะ ในเซ็ตเสิร์ฟมาพร้อมซุปและเครื่องเคียง
ปลาไหลธรรมชาติ vs ปลาไหลฟาร์ม
หลังจากที่ได้กินทั้งสองแบบแล้ว ในโต๊ะตัดสินให้ปลาไหลธรรมชาติชนะค่ะ 55 เนื่องจากปลาไหลธรรมชาติมีความสด เด้ง ฟู ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งหวาน ได้รสชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่ย่างแล้วเกรียมหน่อยก็กรอบอร่อยมาก เคี้ยวสนุก ก้างอาจจะเยอะกว่า ใหญ่กว่า แบบฟาร์มแต่ว่าไม่เป็นปัญหาต่อการกินค่ะ เมื่อกินปลาไหลธรรมชาติไปแล้ว พอมากินปลาไหลฟาร์มต่อ ทำให้ได้รสชาติคาวนิดๆจากปลาไหลฟาร์มเลย แต่รู้สึกน้อยมาก คือถ้าไม่สังเกตจริงๆ ก็ไม่รู้ แต่ก็อร่อยมากๆค่ะ
(เทียบจากที่เคยกินที่ Horaiken Matsumabushi ที่นี่สูสีค่ะ แต่ยังก็ชอบของ Horaiken กว่านิดหน่อย ^^ เพราะวิธีการกินหลายแบบทำให้ไม่เลี่ยน)
2. Nakaochi (นากาโอจิ) ซี่โครงปลาทูน่า
คือเนื้อติดซี่โครงที่ละเอียดที่สุดในตัวปลา รสชาติหวาน คือต้องบอกก่อนว่าส่วนที่อร่อยที่สุดของเนื้อสัตว์และปลาก็คือเนื้อที่ติดกับบริเวณกระดูก และตัวซี่โครงปลาทูน่ามันก็คือซาชิมิที่มีรสชาติเข้มข้นดีๆนั่นเอง!
ถ้าอยากจะสั่งเมนูนี้ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นเนื่องจากวัตถุดิบมาน้อย ปกติก็จะมีอยู่ 2-3โครงเท่านั้น
ครั้งนี้ เราได้โครงใหญ่ ราคาสนนอยู่ที่ 1,500 บาท/โครง สามารถกินได้สองด้าน เราไปกัน 3 คน กินเพลินและรู้สึกว่าพอดีมาก
เวลาทานให้นำช้อนขูดเนื้อปลาวางลงบนสาหร่ายและโรยด้วยต้นหอมกับวาซาบิดอง ถ้าอยากได้รสชาติเข้มข้นเพิ่มเติมก็สามารถใส่โชยุได้ จากนั้นก็ห่อแล้วกินเข้าไปเลย คือดีย์มาก พอหมดด้านแรกก็พลิกยกด้านล่างขูดกินกันต่อ และหลังจากกินซี่โครงเสร็จแล้ว ทางครัวจะนำซี่โครงไปสับ แล้วเราจะได้ลิ้มรสชาติของกระดูกไขสันหลัง (หรือคอลลาเจน จากไขสันหลังปลา) วิธีการปรุงคือทางครัวจ้ะวางต้นหอม หัวไชเท้าเผ็ดและเจลลี่ปอนซุ เมนูนี้อาจจะน่ากลัวนิดๆ แต่อร่อยค่ะ 555 ต้องกินครบให้หมดนะคะ รสชาติของคอลลาเจ้นปลาจะมีความเค็มๆแบบเหมือนกินเจลลี่จากน้ำทะเล ต้องกินกับซอสปอนซุถึงจะอร่อยมากกกก (อยากกินอีกเลยอะ)
ส่วนเมนูอื่นๆก็มีทั้งเมนูในเล่มและเมนูของแต่ละวันไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่ามีวัตถุดิบอะไรค่ะ
เมนูในเล่ม
- ซาชิมิแซลม่อน ราคา 150.-
แซลม่อนหั่นมาเนื้อหนามาก ให้มา5 ชิ้น รสชาติอร่อย ราคาดีงาม
- ทาโกะวาซาบิ ราคา 150.-
วาซาบิดองที่นี่เข้มข้นมากกก ฉุนและรสชาติดีสุดๆ กินเพลินมากๆค่ะ
- คัมเปียวมากิ ราคา 90.-
เฮ้ยยยย มันอร่อยมากกกกกก ข้าวที่นี่อุ่นๆ อัดแบบไม่หลวม ไม่แน่น คัมเปียวก็อร่อย เคี้ยวกรุบๆ ส่วนตัวยกให้อันนี้ประทับใจสุด
- Aburi Set 320.-
ชุดซูชิแบบเบิร์นผิว มีแซลม่อน ปลาหมึก ท้องปลาแซลม่อน เอ็นงาวะ ซาบะดอง จานนี้ไม่แย่ ได้กินแค่เอ็นงาวะ ที่เหลือคุณแฟนกิน ก็โอเคค่ะ ไม่แย่มาก
ส่วนเมนูประจำวันที่สั่งมามี
- มากุโระฮารุมง 50.-
เป็นเนื้อทูน่า ผสมๆกันมาแล้วนำมาย่าง มีทั้งไว้ หนัง พังพืด บลาๆ แล้วแต่ว่าเหลืออะไรก็เอามาย่าง อันนี้พี่ไปกินด้วยชอบมาก แต่เราเฉยๆ หรือเรากินสวนที่มันไม่ค่อยอร่อยไปมั้ง เลยไม่ได้ปลื้มเท่าไร TT
- อิคุระหน้าล้น 160.-
ช่วงโปรวันแม่ จากราคาเดิม 150.- เพิ่มเงินอีกแค่ 10 บาท จะได้ปริมาณอิคุระที่มากกว่าเดิมเกือบเท่านึง
กินของคาวเสร็จ มาปิดด้วยของหวาน
ของหวานที่นี่อร่อยมาก ดาเมจแรงเว่อร์!!!!
แบบ กินแล้วน้ำตาจะไหล เป็นการปิดการกินมื้อวันนี้ที่ดีมากๆ
- เยลลี่ซาบายอง 85.- *แนะนำ*
เป็นเยลลี่ที่ผสมกันระหว่างผลไม้สองชนิด คือองุ่นและสตอเบอรี่ ตัวซอสที่เป็นแยมผสมด้วยเหล้าผลไม้ โหยยยยย... รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีเนื้อผลไม้เคี้ยวเพลินๆ รสชาติสดชื่นมาก อยากจะสั่งอีกอันเลย
- ไดฟุกุถั่วแดง สตอเบอร์รี่ 120.-
ไดฟุกุที่นี่ทำสด เนื้อแป้งนุ่ม ยืดและเหนียว ไส้ในเป็นถ่วแดงกับสตอเบอรี่ รสหวานเปรี้ยวอร่อยและสดชื่นเหมือนกัน แต่ส่วนตัวเทใจให้เยลลี่ ต้องสั่งอะ!
อิ่มแล้วสำหรับมื้อนี้ โดนกันไปทั้งหมด 6,246 บาทแบบอิ่มมากๆ และได้รับประสบการณ์การกินแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนหลายอย่าง ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ
แปะเมนูของร้านให้ดูจ้า เผื่ออยากรู้ว่า ที่ร้านมีอะไรน่ากินอีกบ้าง จริงๆจะมีเมนูไข่หอยเม่นที่เค้าแนะนำกันแต่ว่าเป็นคนไม่ได้กินหอยเม่นก็เลยไม่ได้สั่ง
ขอบคุณทางร้านและพี่ๆพนักงานมาก ที่บริการเราจนล่วงเลยเวลาร้านปิด แต่ก็ยังยินดีเต็มที่กับการบริการอยู่ แนะนำเลยร้านนี้ ดีงามมาก
[CR] รีวิวร้าน Kensaku ข้าวหน้าปลาไหล แล่สดๆ ย่างสดๆ! และ ซี่โครงปลาทูน่า นากาโอจิ | แพทซิล่ารีวิว
แปะยั่ว
นี่คือนากาโอจิ ซี่โครงทูน่าที่เราจะขูดกินกันสดๆวันนี้ ฮึ่ยยย
ร้าน Kensaku ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 4 เข้ามาในซอยแล้วเลี้ยวซ้ายตามทาง จากนั้นจะเจอร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ ร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบเก่า มีที่จอดรถประมาณ 6-8 คัน
ถ้าหากเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ก็นั่งบีทีเอสมาลงที่สถานีอารีย์ และนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อมา (อยู่ฝั่งเดียวกับวิลล่าอารีย์ค่ะ)
ทางร้านจะเปิดเป็นรอบ
รอบกลางวัน 11:00-14:00 น. (last order 13:30 น.)
รอบเย็น 17:00-22:00 น. (last order 21:30)
สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 096-426-9878
หรือแฟนเพจทางร้าน Kensaku ค่ะ
* ต้องบอกก่อนว่าทางร้านจะสั่งวัตถุดิบมาทุกวันอังคารและวันศุกร์ ถ้าอยากได้วัตถุดิบที่สดจริงๆแนะนำเป็น2 วันนี้ค่ะ *
แพทจองโต๊ะไว้จากวันศุกร์เวลา 13:30 น. (ตอนแรกจอง 13:00 น. แต่ทางแอดมินเพจรับจองให้เวลา 13:30 น. ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับ last order อาจจะวุ่นวายและรีบเล็กน้อยแต่ว่าทางพนักงานให้บริการดีมากค่ะ เพราะว่าเรากินกันเสร็จก็เกือบๆ 15:00 น. เลยทีเดียว)
เมนูแนะนำของทางร้าน
1. Unagi Kabayaki Kanto Style
ร้านนี้มีข้าวหน้าปลาไหลชนิดที่ว่า เชฟแล่ให้สดๆและย่างกันสดๆ (ปัจจุบันมี 2 ร้านในไทยที่ทำแล่และย่างสด นอกนั้นจะเป็นแกะออกจากห่อแล้วนำมาเบิร์น ราดซอสสำเร็จรูป)
ปลาไหลที่ทางร้านใช้จะมี
- ปลาไหลฟาร์มที่เลี้ยงแบบออร์แกนิค (รสชาติจะมัน อวบอ้วน เต็มปาก ฟูๆ เพราะไขมันเยอะ)
- ปลาไหลธรรมชาติจากบริเวณแม่น้ำชิมันโตะ จังหวัดโคจิ (ใครมันจะน้อยมาก แต่เนื้อหวานมากกกกก ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวาน มีความเด้งดี กระชับกว่า และเลี่ยนน้อยกว่า)
และน้ำซอสที่นี่ยังใช้ซอสจากกระดูกปลาไหลย่างนับร้อยๆตัว นำมาต้มเป็นเบสน้ำซอสคาบายากิ จากนั้นก็จุ๋มย่างซ้ำมาเรื่อยมานานกว่า 5 ปี รสชาติเด็ดมากค่ะ!!
แพทสั่งมาทั้งสองแบบเลยค่ะ จะได้กินเปรียบเทียบได้ (ปลาไหลแบบธรรมชาติจะราคาแพงกว่าค่ะ)
- ปลาไหลธรรมชาติ เต็มตัว 2,500 บาท
- ปลาไหลธรรมชาติ ครึ่งตัว 1,400 บาท
- ปลาไหลฟาร์ม เต็มตัว 1,600 บาท
- ปลาไหลฟาร์ม ครึ่งตัว 900 บาท
ข้าวหน้าปลาไหลธรรมชาติค่ะ
สั่งแบบธรรมชาติมาครึ่งตัวค่ะ ตัวจะเล็กกว่าแบบฟาร์มนิดหน่อย
กล่องนี้เป็นข้าวหน้าปลาไหลจากฟาร์มค่ะ ในเซ็ตเสิร์ฟมาพร้อมซุปและเครื่องเคียง
ปลาไหลธรรมชาติ vs ปลาไหลฟาร์ม
หลังจากที่ได้กินทั้งสองแบบแล้ว ในโต๊ะตัดสินให้ปลาไหลธรรมชาติชนะค่ะ 55 เนื่องจากปลาไหลธรรมชาติมีความสด เด้ง ฟู ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งหวาน ได้รสชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่ย่างแล้วเกรียมหน่อยก็กรอบอร่อยมาก เคี้ยวสนุก ก้างอาจจะเยอะกว่า ใหญ่กว่า แบบฟาร์มแต่ว่าไม่เป็นปัญหาต่อการกินค่ะ เมื่อกินปลาไหลธรรมชาติไปแล้ว พอมากินปลาไหลฟาร์มต่อ ทำให้ได้รสชาติคาวนิดๆจากปลาไหลฟาร์มเลย แต่รู้สึกน้อยมาก คือถ้าไม่สังเกตจริงๆ ก็ไม่รู้ แต่ก็อร่อยมากๆค่ะ
(เทียบจากที่เคยกินที่ Horaiken Matsumabushi ที่นี่สูสีค่ะ แต่ยังก็ชอบของ Horaiken กว่านิดหน่อย ^^ เพราะวิธีการกินหลายแบบทำให้ไม่เลี่ยน)
2. Nakaochi (นากาโอจิ) ซี่โครงปลาทูน่า
คือเนื้อติดซี่โครงที่ละเอียดที่สุดในตัวปลา รสชาติหวาน คือต้องบอกก่อนว่าส่วนที่อร่อยที่สุดของเนื้อสัตว์และปลาก็คือเนื้อที่ติดกับบริเวณกระดูก และตัวซี่โครงปลาทูน่ามันก็คือซาชิมิที่มีรสชาติเข้มข้นดีๆนั่นเอง!
ถ้าอยากจะสั่งเมนูนี้ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นเนื่องจากวัตถุดิบมาน้อย ปกติก็จะมีอยู่ 2-3โครงเท่านั้น
ครั้งนี้ เราได้โครงใหญ่ ราคาสนนอยู่ที่ 1,500 บาท/โครง สามารถกินได้สองด้าน เราไปกัน 3 คน กินเพลินและรู้สึกว่าพอดีมาก
เวลาทานให้นำช้อนขูดเนื้อปลาวางลงบนสาหร่ายและโรยด้วยต้นหอมกับวาซาบิดอง ถ้าอยากได้รสชาติเข้มข้นเพิ่มเติมก็สามารถใส่โชยุได้ จากนั้นก็ห่อแล้วกินเข้าไปเลย คือดีย์มาก พอหมดด้านแรกก็พลิกยกด้านล่างขูดกินกันต่อ และหลังจากกินซี่โครงเสร็จแล้ว ทางครัวจะนำซี่โครงไปสับ แล้วเราจะได้ลิ้มรสชาติของกระดูกไขสันหลัง (หรือคอลลาเจน จากไขสันหลังปลา) วิธีการปรุงคือทางครัวจ้ะวางต้นหอม หัวไชเท้าเผ็ดและเจลลี่ปอนซุ เมนูนี้อาจจะน่ากลัวนิดๆ แต่อร่อยค่ะ 555 ต้องกินครบให้หมดนะคะ รสชาติของคอลลาเจ้นปลาจะมีความเค็มๆแบบเหมือนกินเจลลี่จากน้ำทะเล ต้องกินกับซอสปอนซุถึงจะอร่อยมากกกก (อยากกินอีกเลยอะ)
ส่วนเมนูอื่นๆก็มีทั้งเมนูในเล่มและเมนูของแต่ละวันไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่ามีวัตถุดิบอะไรค่ะ
เมนูในเล่ม
- ซาชิมิแซลม่อน ราคา 150.-
แซลม่อนหั่นมาเนื้อหนามาก ให้มา5 ชิ้น รสชาติอร่อย ราคาดีงาม
- ทาโกะวาซาบิ ราคา 150.-
วาซาบิดองที่นี่เข้มข้นมากกก ฉุนและรสชาติดีสุดๆ กินเพลินมากๆค่ะ
- คัมเปียวมากิ ราคา 90.-
เฮ้ยยยย มันอร่อยมากกกกกก ข้าวที่นี่อุ่นๆ อัดแบบไม่หลวม ไม่แน่น คัมเปียวก็อร่อย เคี้ยวกรุบๆ ส่วนตัวยกให้อันนี้ประทับใจสุด
- Aburi Set 320.-
ชุดซูชิแบบเบิร์นผิว มีแซลม่อน ปลาหมึก ท้องปลาแซลม่อน เอ็นงาวะ ซาบะดอง จานนี้ไม่แย่ ได้กินแค่เอ็นงาวะ ที่เหลือคุณแฟนกิน ก็โอเคค่ะ ไม่แย่มาก
ส่วนเมนูประจำวันที่สั่งมามี
- มากุโระฮารุมง 50.-
เป็นเนื้อทูน่า ผสมๆกันมาแล้วนำมาย่าง มีทั้งไว้ หนัง พังพืด บลาๆ แล้วแต่ว่าเหลืออะไรก็เอามาย่าง อันนี้พี่ไปกินด้วยชอบมาก แต่เราเฉยๆ หรือเรากินสวนที่มันไม่ค่อยอร่อยไปมั้ง เลยไม่ได้ปลื้มเท่าไร TT
- อิคุระหน้าล้น 160.-
ช่วงโปรวันแม่ จากราคาเดิม 150.- เพิ่มเงินอีกแค่ 10 บาท จะได้ปริมาณอิคุระที่มากกว่าเดิมเกือบเท่านึง
กินของคาวเสร็จ มาปิดด้วยของหวาน
ของหวานที่นี่อร่อยมาก ดาเมจแรงเว่อร์!!!!
แบบ กินแล้วน้ำตาจะไหล เป็นการปิดการกินมื้อวันนี้ที่ดีมากๆ
- เยลลี่ซาบายอง 85.- *แนะนำ*
เป็นเยลลี่ที่ผสมกันระหว่างผลไม้สองชนิด คือองุ่นและสตอเบอรี่ ตัวซอสที่เป็นแยมผสมด้วยเหล้าผลไม้ โหยยยยย... รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีเนื้อผลไม้เคี้ยวเพลินๆ รสชาติสดชื่นมาก อยากจะสั่งอีกอันเลย
- ไดฟุกุถั่วแดง สตอเบอร์รี่ 120.-
ไดฟุกุที่นี่ทำสด เนื้อแป้งนุ่ม ยืดและเหนียว ไส้ในเป็นถ่วแดงกับสตอเบอรี่ รสหวานเปรี้ยวอร่อยและสดชื่นเหมือนกัน แต่ส่วนตัวเทใจให้เยลลี่ ต้องสั่งอะ!
อิ่มแล้วสำหรับมื้อนี้ โดนกันไปทั้งหมด 6,246 บาทแบบอิ่มมากๆ และได้รับประสบการณ์การกินแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนหลายอย่าง ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ
แปะเมนูของร้านให้ดูจ้า เผื่ออยากรู้ว่า ที่ร้านมีอะไรน่ากินอีกบ้าง จริงๆจะมีเมนูไข่หอยเม่นที่เค้าแนะนำกันแต่ว่าเป็นคนไม่ได้กินหอยเม่นก็เลยไม่ได้สั่ง
ขอบคุณทางร้านและพี่ๆพนักงานมาก ที่บริการเราจนล่วงเลยเวลาร้านปิด แต่ก็ยังยินดีเต็มที่กับการบริการอยู่ แนะนำเลยร้านนี้ ดีงามมาก